Tags:
Node Thumbnail

ในหนังสือชีวประวัติของสตีฟ จ็อบส์ เขาเคยพูดกับผู้เขียน Walter Isaacson ถึงแผนการที่เกี่ยวข้องกับ "ทีวี" (แต่ไม่บอกรายละเอียด) ทำให้แอปเปิลยุคหลังถูกคาดหมายว่าจะต้องบุกเข้ามายังตลาดทีวีเสมอมา

แต่ข้อมูลจากหนังสือ Haunted Empire: Apple After Steve Jobs ของ Yukari Iwatani Kane (วางจำหน่าย 18 มีนาคมนี้) อ้างแหล่งข่าวภายในบริษัทว่าสตีฟ จ็อบส์ กลับพูดอีกอย่างว่าไม่ให้แอปเปิลเข้าไปในธุรกิจเครื่องรับทีวี

ตามธรรมเนียมของแอปเปิลจะมีการประชุมประจำปีที่เรียกว่า Top 100 โดยจะคัดเลือกผู้บริหารหรือพนักงานระดับท็อปจำนวน 100 คน ไปประชุมแบบลับๆ นอกสถานที่ เป้าหมายของการประชุมนี้คือบอกเล่าทิศทางของแอปเปิลในปีนั้นๆ รวมถึงนำผลิตภัณฑ์ใหม่ (ที่พัฒนาแบบลับๆ) มาให้ผู้บริหารระดับสูงได้เห็นและรับทราบก่อนด้วย

สตีฟ จ็อบส์ เข้าร่วมประชุม Top 100 ครั้งสุดท้ายในปี 2010 (ก่อนเขาหยุดมาทำงานที่แอปเปิลไม่นาน) ปีนั้นเขานำ iPad 2 มาโชว์ และในงานวันสุดท้าย เขาเรียกทุกคนมาประชุมและบอกให้ "ถามอะไรก็ได้" ไม่ว่าคำถามนั้นจะดูโง่ๆ แค่ไหน เพราะต้องการให้พนักงานทุกคนสะดวกใจที่จะรับรู้หรือไขข้อข้องใจเกี่ยวกับบริษัท

พนักงานคนหนึ่งถามว่าแอปเปิลจะทำทีวีหรือไม่ ซึ่งจ็อบส์ตอบทันทีว่า "ไม่" และอธิบายว่าธุรกิจทีวีเป็นธุรกิจที่แย่ คนเปลี่ยนทีวีกันช้า และกำไรต่ำ

แต่เขาก็บอกว่าแอปเปิลต้องการบุกตลาดความบันเทิงในห้องนั่งเล่น โดยใช้ Apple TV ซึ่งยังมีสถานะเป็น "งานอดิเรก" (hobby) ไปจนกว่าแอปเปิลจะมีคอนเทนต์เยอะพอตามที่ต้องการ

พนักงานของแอปเปิลบางส่วนเชื่อคำตอบนี้ของจ็อบส์ ในขณะที่บางคนมองว่าจ็อบส์ไม่ได้หมายความแบบนั้นจริงๆ (ซึ่งจ็อบส์ก็ขึ้นชื่อเรื่องพูดอย่างแล้วทำอีกอย่างอยู่แล้ว)

ย้ำอีกรอบว่าข้อมูลนี้เป็นการอ้างอิงของผู้สื่อข่าวเอง ไม่ใช่ข้อมูลอย่างเป็นทางการของแอปเปิลครับ

ที่มา - Business Insider

Get latest news from Blognone

Comments

By: Roger professy
In Love
on 17 March 2014 - 10:41 #688132
Roger professy's picture

หนังสือชื่อ Letters to Steve ก็กล่าวไวเช่นกัน บางครั้งการตอบของ Steve Jobs ณ ตอนนี้ อาจจะเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต บางอย่างบอก ไม่ แต่จู่ๆ ก็ทำ

By: menu_dot on 17 March 2014 - 22:36 #688267 Reply to:688132

ตามนิสัยเขาแล้ว การโกหกเป็นเรื่องปกติธรรมดานะครับผมว่า

By: manaeeee on 17 March 2014 - 10:55 #688134

แล้ววันที 18 นี้ มีเวอร์ชั่น ภาษาไทยมั้ยครับ

By: akira on 17 March 2014 - 11:29 #688141

โดยส่วนตัวคิดว่าจริงนะ ตามที่ Job กล่าว Apple คงไม่ทำ TV แน่นอน แต่คงทำ Box สำหรับเชื่อมต่อ TV ยี่ห้อต่างๆ ได้เพราะธุรกิจ TV มันชี้ขาดกันที่ Content ไม่ได้ชี้ขาดที่อุปกรณ์ ตัว Apple TV มันเหมือน Version Beta สำหรับทดสอบอุปกรณ์ แต่ที่ Job คิดไว้คงไม่ใช่แค่นี้ อย่าลืมว่าในอเมริการ Content ที่ใช้ TV เป็นตัวแสดงผลมีหลายอย่าง ตัวเขาเองคงอยากทำตัวเป็น Content Provider เป็นพ่อค้าคนกลางที่ทำหน้าที่ส่งผ่านข้อมูลเข้า TV มากกว่าจะขาย HW อย่างเดียว รวมถึงผสานส่วนที่เป็น Content ที่เป็น Application ที่มีอยู่บน iOS แล้วเข้าไปด้วย (และก็เอาพวกนี้แหล่ะเป็นข้อต่อรองกับเจ้าของ Cable เพื่อให้ได้ข้อเสนอที่ดีที่สุด)

อีกอย่างนึ่งที่เชื่ออย่างนั้นเพราะ TV มันเป็นของที่เปลี่ยนกันไม่ค่อยบ่อย ถ้าบังคับให้เปลี่ยนมันจะรู้สึกว่าเสียดาย เพราะมันมีขนาดใหญ่ และที่สำคัญคงไม่ได้มีแค่ Apple แค่เจ้าเดียว ผู้ใช้ไม่พอใจก็เปลี่ยนไปใช้ยี่ห้ออื่น แต่ถ้าเป็น Box ราคาซัก 3,000 - 4,000 บาท เปลี่ยนบ่อยเท่าไหร่ก็ยังรู้สึกว่าคุ้ม มันก็จะมีรายได้ในส่วน HW เพิ่มเข้ามา

By: chettaphong
iPhoneWindows PhoneAndroidRed Hat
on 17 March 2014 - 11:45 #688147 Reply to:688141

+1 เห็นด้วยครับ ว่า AppleTV คงมาเป็น set top box
เหมือนที่เป็นอยู่อย่างนี้แหละแต่อาจมี function เพิ่มเข้ามา

By: zerc
iPhoneWindows PhoneAndroid
on 17 March 2014 - 13:05 #688166 Reply to:688141

Great !!

By: zigheart
iPhoneAndroid
on 17 March 2014 - 12:13 #688158
zigheart's picture

พี่แกเป็นนักสร้างมากกว่านักธุรกิจ ใช้อารมณ์ศิลป์ โลเลตามใจ

ดังนั้นจะตัดสินใจ ทำหรือไม่ทำอะไร มีโอกาสเปลี่ยนได้ตลอด

ถ้าใครบอกว่าถ้าเค้ายังอยุ่จะไม่สร้างโน่น สร้างนั่น มาถ.. ได้เลย 555

(โดนเฉพาะ ipad mini หรือแม้กระทั่ง iphone จอใหญ่ )

By: leeyiankun
Windows PhoneAndroidWindows
on 17 March 2014 - 13:02 #688164 Reply to:688158

ถ้าบอกว่าเป็นนักสร้าง มากกว่านักธุรกิจ คงไม่มีคำว่า"ตลาดไม่ดี กำไรต่ำ คนเซื้อปลี่ยนน้อย" ออกมาจากปากหรอกครับ

By: menu_dot on 17 March 2014 - 22:38 #688268 Reply to:688164

ผมว่าเขาเก่งทุกทาง เป็นทั้งศิลปิน และนักธุรกิจ ไม่เคยคิดขายของถูกเลย

By: nottoscale
Windows Phone
on 17 March 2014 - 21:29 #688251

ถ้าเดาทางกันง่ายขนาดนั้น ก็ไม่ต้องมี one more thing แล้วสิ