บริษัทด้านความปลอดภัย MWR InfoSecurity ได้ปล่อยรายละเอียดช่องโหว่บนแอพพลิเคชั่น PayPal บนแอนดรอยด์ ซึ่งทำให้ผู้โจมตีสามารถสั่งรันคำสั่งอันตรายได้จากระยะไกลผ่านทางช่องโหว่ man-in-the-middle ช่องโหว่นี้ยังคงมีอยู่ในแอพพลิเคชั่นที่มีเวอร์ชันน้อยกว่า 5.3 และบนแอนดรอยด์เวอร์ชันน้อยกว่า 4.2
ในรายละเอียดที่ถูกปล่อยมานั้นกล่าวว่า ปัญหาของช่องโหว่นี้เกิดจาก PayPal มีการใช้ WebView เพื่อตรวจสอบใบอนุญาต SSL แต่ยังมีการทำงานต่อแม้ว่าจะตรวจเจอข้อผิดพลาดของใบอนุญาต SSL แทนที่จะทำการแสดงข้อความผิดพลาดหรือปิดการเชื่อมต่อนั้นทิ้งไป (CVE-2013-7201) อีกทั้งยังมีการอิมพลีเมนต์จาวาสคริปต์อินเตอร์เฟสใน WebView ซึ่งจะทำให้สั่งรันคำสั่งต่างๆ ได้ด้วย (CVE-2013-7202)
ทาง PayPal ปฏิเสธที่จะจ่ายเงินตามโปรแกรม Bug Bounty ให้เนื่องจากปัญหา SSL ไม่ได้อยู่ในขอบเขตของโปรแกรมนี้ แม้ว่าทาง MWR จะมีการส่งรายละเอียดของช่องโหว่หรือแม้กระทั่งวีดิโอที่มีการทำ PoC ไปแล้ว แต่ทาง PayPal อ้างว่าไม่มีผลกระทบต่อแบรนด์ของ PayPal
สำหรับการป้องกันการโจมตีผ่านทางช่องโหว่นี้นั้น แนะนำให้ผู้ใช้งานทำการอัพเดตแอพเป็นเวอร์ชันล่าสุด (5.4) โดยด่วนครับ
ที่มา - MWR Labs
Comments
เอ่อ ... อ่านแล้วอยากสบถเป็นคำหยาบมากๆ
ให้หยาบประมาณไหนดีครับ หยาบน้อย หยาบมาก หยาบปานกลาง //เอ๊ะเดี๋ยวนะ!!!
เพื่อนผมก็ชวนจังเลยให้ใช้ Paypal แต่ที่ผ่านๆมาก็เจอปัญหามากมายสารพัดเลยไม่กล้าเสี่ยงดีกว่า แล้วดันบอกว่าวิธีดังกล่าวไม่เสี่ยงต่อแบรนด์เลย (ตามข่าวนี้) เลยสงสัยว่า ไอ้ตอนที่ประธานของ Paypal โดนแฮ็กเงินนี่ยังไม่เข็ดสินะ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
ข่าวนั้นเป็นเรื่องว่า "ประธานของ Paypal โดนแฮ็ก" จากช่องทางบัตรเครดิต แม้ว่าจะใช้เทคโนโลยีชิป EMV ไม่ใช่หรือครับ ไม่ใช่ประธาน Paypal โดนแฮ็กบัญชี Paypal และในข่าวยังโฆษณาอีกว่าถ้าใช้ Paypal จะไม่มีเหตุการณ์นี้(skimming Credit Card).
ถ้าเช่นนั้นผมก็ขออภัยในความผิดพลาดที่แสดงความเห็นเช่นนั้นไปครับ ผมคงจะกรองข้อความไม่ดีก่อนที่จะแสดงความเห็นครับ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
ข่าวไม่ได้ลงละเอียดครับว่า โดนแฮ็ก แบบไหน
ถึงแม้จะมี Chip ก็ใช่ว่าจะปลอดภัย 100% จากการนำข้อมูลบัตรไปใช้ในรูปแบบอื่น
เช่น ถ้ามีใครสักคนแอบจดหมายเลขบัตร 16 หลัก, วันหมดอายุ และ เลข CVV 3 ตัวหลัง
ก็สามารถนำไปซื้อของ Online ได้ทันที
ซึ่งกรณีที่ผมว่านี้ ต้องไม่เคยสมัคร Verified by VISA ด้วยนะครับ
ซึ่งผมเชื่อว่าที่ America ยังไม่ comply 3D secure แน่ๆ
บัตรผมมี chip ครับ สมัคร Verified by VISA ไว้เรียบร้อย ไปรูดจ่ายเงินตู้ทรู รูดปรื๊ด รูดปรื๊ด chip ไม่ได้ใช้ Verified by VISA ไม่เกี่ยวกันเลยทีเดียว
จริงๆ แล้วตั้งแต่ใช้มาผมเจอปัญหาที่เกี่ยวข้องกับระบบน้อยมากนะครับ
แต่มันขึ้นตอนเห็นคำตอบนี่แหละ คือ ... เฮียอย่าเพิ่งห่วงภาพลักษณ์ครับ เฮียห่วง user ก่อนเลย
ผมว่าสั่งของออนไลน์ใช้ PayPal น่าจะเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยที่สุดอยู่นะ จากประสบการณ์สั่งสินค้ามากกว่าเดือนละร้อยรายการมาหลายปี PayPal ยังไม่เคยมีปัญหาแต่บัตรเครดิตนี้ต้องโทรระงับแจ้งเปลี่ยนบัตรเฉลี่ยตกปีละ 1-2 ครั้ง
Paypal อาจทำถูกแล้ว เพราะเป็นช่องโหว่ของ OS เอง ( Webview SSL นั้นคือความสามารถของ OS ใช่มะ )
ที่สำคัญกว่านั้น ถ้าหากว่า ยอมจ่ายเงิน อาจเป็นการยอมรับว่ามีช่องโหว่ และเสียความเชื่อถือไป เพราะ Paypal มันเกี่ยวข้องกับเงินทอง
ภาพลักษณ์อาจสำคัญ
ตามความคิดของผมนะครับ ปัญหาอยู่ตรงที่นักพัฒนาออกแบบแอพพลิเคชั่นผิดพลาดทำให้เกิดช่องโหว่สามารภโจมตีได้ ดังนั้นปัญหาไม่ได้อยู่ที่คลาสของ WebView แต่อยู่ที่การนำมาใช้โดยนักพัฒนามากกว่า
สำหรับในเรื่องของการจ่ายเงินนั้นก็ค่อนข้างไม่เข้าใจอยู่ คือถึงตอนนี้ถ้า PayPal จะปฏิเสธว่าไม่มีช่องโหว่ก็ไม่ช่วยอะไรแล้วเพราะมีรายละเอียดมาขนาดนี้ ความเชื่อถือจะเสียก็ตรงที่การไม่สนับสนุนด้านความปลอดภัย และภาพลักษณ์ก็จะหายไปถ้ายังคงมีการเพิกเฉย
บริษัทที่มีโปรแกรม "มาหาช่องโหว่สิ แล้วจะจ่ายตังค์ให้" ไม่ควรจะกลัวการยอมรับว่ามีช่องโหว่นะครับ
เปลี่ยนเป็นเลิกใช้ PayPal หรือ Android ดีกว่ามั้งครับ ^^
ไม่ให้ตังค์ค่าเจอบั๊คอีกต่างหาก แหม...
สุดยอดครับ ตอบได้น่าเลิกใช้มาก แปะๆๆ //ลุกขึ้นปรบมือ
คราวก่อนก็ Paypal เจอปัญหา XSS, ผู้พบอายุไม่ถึงเกณ์รับรางวัล
นะ..... จะหาคำมาด่ายังไงถึงสาสมดี?
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.