By: nuntawat 
on 17 April 2014 - 12:31
Tags:
Topics:
นักวิจัยจาก Gartner และเว็บไซต์ Computerworld รายงานว่า เมื่อเดือนที่แล้วไมโครซอฟท์ลดราคาขอรับการสนับสนุนแพตช์ให้ Windows XP ที่เพิ่งหมดอายุขัยไปเมื่อวันที่ 8 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยลดราคาลงอย่างมาก (substantially)
แหล่งข่าวของ Computerworld ให้ข้อมูลว่าข้อตกลง Custom Support Agreement (CSA) ใหม่ที่บริษัทขนาดใหญ่ทำกับไมโครซอฟท์นั้นชาร์จสูงสุดที่ 250,000 ดอลลาร์ และอีก 250 ดอลลาร์ต่อเครื่อง ส่วนเว็บไซต์ ZDNet อ้างแหล่งข่าวของตนว่า ลูกค้ารายหนึ่งได้รับส่วนลด CSA จากทั้งหมด 85 ล้านดอลลาร์เหลือเพียง 3 ล้านดอลลาร์เท่านั้น
ZDNet ได้สอบถามไมโครซอฟท์ และได้รับการยืนยันว่าบริษัทลดราคาจริงเพื่อให้องค์กรขนาดใหญ่ยังได้รับการสนับสนุนขณะย้ายไปยังระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ที่ปลอดภัยมากกว่านี้ แต่ไม่ยอมเปิดเผยว่าลดไปเท่าใด
ที่มา: Computerworld ผ่าน ZDNet
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
บางครั้งเพราะฮาร์ดแวร์ที่ใช้เหมาะกับ Windows XP มากกว่า
ดังนั้นการจะย้ายจากโอเสหนึ่งไปอีกโอเอสหนึ่ง อาจจะทำให้การปรับเปลี่ยนฮาร์ดแวร์บางอย่างเกิดขึ้นซึ่งก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายตามมา อาทิ
กรณีที่ บริษัท ก มีพีซีเป็นจำนวน 100 เครื่อง สเปค เช่น
มี CPU 2.4 Ghz
มีแรม 512 MB (หรือมากกว่าแต่ไม่เกิน 1 GB)Display On. เป็นต้น
มีฮาร์ดดิสก์ สมมติว่าไม่ได้ใช้เซิฟร์เวอร์รวม 80 GB. เป็นต้น
ในกรณีนี้ถ้า บริษัท A ต้องการอับเกรดวินโดวส์อย่างเดียวไปเป็น OSW7 สิ่งที่บริษัท A ต้องเปลี่ยนด้วยคือ RAM และสิ่งที่อาจจะก่อให้เกิดความเสี่ยงอีกเช่น ฮาร์ดดิสก์ ซึ่งมีอายุการใช้งานมายาวนานทีดีดัก ก็อาจจะต้องเปลี่ยน
กับการยอมจ่ายอีกนิด เพื่อรักษา Windows XP เจ้าของสถิติครองราชมาอย่างยาวนานตััง 14 ปี OS นี้ น่าจะช่วยลดต้นทุนได้ค่อนข้างมาก ทำให้ธุระกิจมีการวางแผน และจัดสรรงบประมาณสำหรับ การเปลี่ยนแปลงต่อ ๆ ไปเมื่อระบบพร้อมใช้งานเต็มที่แล้ว ได้ในระยะหนึ่ง ถึงระดับกลาง ๆ เลยทีเดียว
ตัวอย่างเช่น
-ตู้เอทีเอ็มของประเทศไทยเป็นต้น
-Disktop เก่า ๆ ที่อยู่ตามบ้านอายุประมาณ 10-15 ปีเป็นต้นแม้จะมีแรมแค่ 128 หรือ 256 ก็ยังสามารถติดตั้งวินโดวส์ XP ได้ เป็นต้น
-แรม 128 หรือ 256 ติดตัั้งวินโดวส์ 7 ได้หรือไม่ ตอบได้ แต่บูตไม่ขึ้น อาจจะเข้า Safe Mode ได้ (หมายถึงว่าผมสามารถติดตั้งได้)
Disktop > Desktop
บางแห่งเจอเครื่อง pos หรือตู้ atm ที่ใช้ com port นี่จบเลย ต่อให้มี port แต่ driver ใช้งานไม่ได้
- -")
ฮารดดิสกเสื่อมนี่น่าจะยิ่งเสริมให้มีการเปลี่ยนหรืออัพเกรดเครื่องรึป่าว ?
ส่วนปัจจัยสเปคตัวอื่นๆ นี่ คงต้องรอ win 8.x ฉบับบางเบาคลอดออกมา.. ทว่าอาจไม่แก้ปัญหาไร อาจติดว่าใช้แอพเก่าไม่ได้แทน (ส่วน win 8.x ฉบับบางเบานี่ ถึงไม่คลอดลง sku สาย desktop ไงได้คลอดลงสาย embedded แน่ๆ)
แล้ว พานุรัส 2000 ไม่ช่วยเขาแก้คำผิดหน่อยหรือครับ เห็นมีตั้งสองจุด แน่ะ โดล(โดย),การ(กร)
บอทสแกนเว็บอื่นอยู่ครับ :p
องค์การ
ในทางเศรษฐศาสตร์ องค์การ หรือ องค์กร (อังกฤษ: organization) หมายถึง บุคคลกลุ่มหนึ่งที่มารวมตัวกัน โดยมีวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างร่วมกัน และดำเนินกิจกรรมบางอย่างร่วมกันอย่างมีขั้นตอนเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์นั้น โดยมีทั้ง องค์การที่แสวงหาผลกำไร คือองค์การที่ดำเนินกิจกรรมเพื่อการแข่งขันทางเศรษฐกิจ เช่น บริษัท ห้างหุ้นส่วน ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าต่างๆ และ องค์การที่ไม่แสวงหาผลกำไร คือองค์การที่ดำเนินกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์เป็นหลัก เช่น สมาคม สถาบัน มูลนิธิ เป็นต้น
โดยเริ่มแรกนั้น คำว่า "องค์การ" เดิมเป็นศัพท์บัญญัติมาจากคำภาษาอังกฤษ organization ในขณะที่ คำว่า "องค์กร" เป็นศัพท์บัญญัติมาจากคำว่า organ โดยที่องค์กรหมายถึงหน่วยย่อยขององค์การ แต่ในปัจจุบันใช้ในความหมายเดียวกัน ดังที่กล่าวไว้แล้วข้างต้น
กลับไปใช้ "องค์กร" ก็ได้
ป.ล. บทความบนวิกิพีเดียอ้างอิงแค่นี้
โดลลดราคาลงอย่างมาก (substantially)เป็น โดยลดราคาลงอย่างมาก (substantially)
Cloud Web 2.0 คือคำตอบนะผมว่า. ถ้าย้าย workload ไป server แล้ว. client เป็นเว็บ. ต่อไปก็สบายแล้ว คอยอุด server อย่างเดียว; windows app ก็ไม่ต้องมีแล้ว
สำหรับรูปแบบการใช้ที่เหมาะสมเท่านั้น คงยังไม่เหมากับ ATM ครับ
น่าจะเริ่มเข้าช่วงพลิกกลับแล้ว.. อาจจะยังเรียก webapp ได้ แต่ workload จะมาอยู่ที่ client (ส่วน server จะมีหน้าที่หลักคือคอยกระจายและประสาน workload แต่ละตัวเข้าด้วยกัน)
การอุดยังอาจทำผ่าน server ได้ แต่ช่องโหว่จะไม่ได้มีแค่บน server .. ฟาก client พอยิ่งอ้วนย่อมยิ่งเสี่ยง