Tags:
Node Thumbnail

หนังสือพิมพ์ The New York Times ได้สัมภาษณ์ Laszlo Bock รองประธานอาวุโสฝ่ายจัดการบุคคลของกูเกิล ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการรับสมัครงาน เกี่ยวกับหลักเกณฑ์ที่ใช้ในการคัดเลือกคนเข้าทำงาน ซึ่งในภาพรวม กูเกิลไม่ได้คัดเลือกคนจากเกรด ผลคะแนนหรือมหาวิทยาลัยที่จบ แต่เป็นคุณลักษณะเฉพาะของผู้สมัครที่จะต้องสอดคล้องกับสิ่งที่กูเกิลต้องการ

Bock กล่าวว่าเกรดหรือผลคะแนนต่างๆ นั้นไร้ประโยชน์ที่จะนำมาเป็นเกณฑ์วัดในการรับคนเข้าทำงาน เพราะเกรดแทบไม่สามารถวัดอะไรได้เท่าที่ควร จึงเป็นสาเหตุให้กูเกิลรับคนที่ไม่ได้จบมหาวิทยาลัยมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ดี ไม่ใช่ว่า Bock ปฏิเสธเกรดหรือการศึกษาเสียทีเดียว เขากล่าวว่าเกรดก็อาจเป็นตัวสะท้อนความสามารถได้อยู่ เช่นด้านคณิตศาสตร์ การคำนวณและการเข้ารหัส แต่กูเกิลก็ยังคงให้ความสำคัญกับสิ่งอื่นๆ มากกว่า โดยเฉพาะทักษะหรือคุณลักษณะที่เป็นเสมือนคุณลักษณะเฉพาะขององค์กรที่ทุกคนจะต้องมี

คุณลักษณะแรกคือความสามารถในการเรียนรู้ กล่าวคือสามารถทำอะไรที่ไม่ได้วางแผนไว้ก่อนหรือเกิดการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน ซึ่งทางกูเกิลจะประเมินจากการสัมภาษณ์เชิงพฤติกรรมที่เตรียมคำถามไว้ล่วงหน้า

อย่างที่สองคือความเป็นผู้นำ ไม่ใช่ความเป็นผู้นำทั่วๆ ไป อย่างประธานชมรมต่างๆ แต่สามารถเป็นผู้นำในช่วงที่ทีมกำลังประสบปัญหา สามารถลุกขึ้นมานำและแก้ปัญหา ขณะเดียวกันก็รู้จักยอมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำเช่นกัน Bock กล่าวว่าเพราะสิ่งที่สำคัญในการเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพในกูเกิล คือการยอมทิ้งอำนาจของตัวเอง ซึ่งสอดคล้องกับข้อสามและสี่คือ ความอ่อนน้อมและความรับผิดชอบ เมื่อคุณกล้าที่จะแสดงความคิดของตนในการแก้ปัญหา ก็ต้องกล้าที่จะถอยออกมา เพื่อรับฟังความคิดที่ดีกว่าของผู้อื่น

ความอ่อนน้อมข้างต้นไม่ใช่แค่แสดงออกว่าเปิดกว้างให้กับความคิดผู้อื่น แต่รวมไปถึงความอ่อนน้อมและยอมรับในข้อผิดพลาด และพร้อมที่จะเรียนรู้ต่อไป Bock กล่าวว่าคนที่จบการศึกษาสูงๆ มักจะไม่ค่อยมีข้อนี้ เพราะว่าไม่เคยล้มเหลวหรือผิดพลาด จึงไม่เคยเรียนรู้จากความผิดพลาด คิดว่าตัวเองฉลาด ไม่เคยทำอะไรผิด หากเกิดข้อผิดพลาดขึ้นก็มักจะโทษผู้อื่นหรือสถานการณ์รอบตัว

คุณลักษณะประการสุดท้ายซึ่ง Bock ให้ความสำคัญน้อยที่สุดคือ ทักษะความรู้ความเชี่ยวชาญ หากจ้างคนสองคน คนหนึ่งเชี่ยวชาญด้านนั้นๆ แต่อีกคนมีเพียงความสามารถที่กล่าวไปข้างต้น เวลามีปัญหาต้องแก้ คนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญจะสามารถบอกได้ทันทีว่าควรทำอะไรคนที่ไม่เชี่ยวชาญก็สามารถบอกได้ไม่ต่างกัน ซึ่งในหลายๆ ครั้งสามารถให้คำตอบหรือวิธีการที่แปลกใหม่ได้มากกว่าคนที่มีความรู้ ซึ่ง Bock ให้ความสำคัญและคุณค่ากับอย่างหลังมากกว่า

ถึงแม้ว่ากูเกิลจะให้ความสำคัญกับความสามารถอื่นๆ ที่ไม่ใช่เรื่องการศึกษามากกว่า แต่ Bock ก็ยังคงเน้นย้ำถึงความสำคัญของการศึกษาอยู่ ในฐานะเป็นเสมือนการฝึกฝนความสามารถด้านต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้ในหลายๆอาชีพ เพียงแต่การศึกษาไม่ใช่สิ่งที่จะบอกว่าคุณมีความสามารถจริงๆ เพราะสังคมทุกวันนี้ให้ความสำคัญกับ "คุณสามารถทำอะไรได้จากสิ่งที่คุณรู้" มากกว่า รวมไปถึงให้ความสำคัญกับ soft skills คือความเป็นผู้นำ ความอ่อนน้อมถ่อมตน ความสามารถในการประสานงาน การปรับตัวและการชอบที่จะเรียนรู้อยู่เสมอๆ มากกว่า

ที่มา - The New York Times

Get latest news from Blognone

Comments

By: sompu
ContributoriPhoneWindows PhoneAndroid
on 22 April 2014 - 14:03 #697207
sompu's picture

มันทะแม่งๆตรง "คุณลักษณะประการสุดท้ายซึ่ง Bock ให้ความสำคัญน้อยที่สุดคือ ทักษะความรู้ความเชี่ยวชาญ หากจ้างคนสองคน คนหนึ่งเชี่ยวชาญด้านนั้นๆ แต่อีกคนมีเพียงความสามารถที่กล่าวไปข้างต้น เวลามีปัญหาต้องแก้ คนที่มีเป็นผู้เชี่ยวชาญจะสามารถบอกได้ทันทีว่าควรทำอะไรคนที่ไม่เชี่ยวชาญก็สามารถบอกได้ไม่ต่างกัน ซึ่งในหลายๆ ครั้งสามารถให้คำตอบหรือวิธีการที่แปลกใหม่ได้มากกว่าคนที่มีความรู้ ซึ่ง Bock ให้ความสำคัญและคุณค่ากับอย่างหลังมากกว่า"
(=__=)

By: hydrojen
iPhoneRed HatWindows
on 22 April 2014 - 14:17 #697210 Reply to:697207
hydrojen's picture

ความเชี่ยวชาญมันฝึกกันได้ แต่คนที่เชี่ยวชาญมาแล้วจะหัวแข็งมั้งครับ

แต่มาตรฐานคนหลังคงเกินมาตรฐานคนทั่วไปอยู่พอสมควร

By: nismod
TraineeWriteriPhoneAndroid
on 22 April 2014 - 14:25 #697214 Reply to:697207
nismod's picture

อย่างที่กล่าวไปตอนต้นครับว่า เรื่องการศึกษาและความรู้มีส่วนในการพิจารณา แต่เป็นสัดส่วนที่ค่อนข้างน้อย
ตัวอย่างที่ Bock ยกมา ชี้ให้เห็นว่าเจ้าตัวเขาให้ความสำคัญกับวิธีคิดและการหาทางออกที่ไม่ typical และอาจจะเรียกได้ว่านอกกรอบ ของคนที่ไม่จบมหาวิทยาลัยน่ะครับ

By: nightmareBN
iPhoneWindowsIn Love
on 22 April 2014 - 15:53 #697230 Reply to:697207
nightmareBN's picture

น่าจะแบบว่า คนที่เค้าเก่งด้านในด้านหนึ่งแล้ว เค้าจะรู้กรอบ หรือรู้ ข้อดีข้อด้อยของเรื่องนั้นๆ มากเกินไป
จนสร้างกรอบให้กับตัวเอง ทำสิ่งที่แตกต่างไม่ได้ไงครับ แต่คนที่ไม่รู้ถึงกรอบหรือขอบเขต ก็มีโอกาสที่เค้าจะคิดนอกกรอบได้ไงฮ่ะ

By: neonicus
Android
on 22 April 2014 - 17:59 #697284 Reply to:697207

คนที่เดินสะเปะสะปะมาเยอะ อาจชี้ทางตรงกับคนที่เดินตรงๆไปเรื่อยๆ

แต่พอเจอเส้นทางแปลกๆ คนที่เดินมั่วซั่วมาอาจมองถูกว่ามันน่าจะมีทางลัดอะไร จากประสบการณ์มั่วๆของตัวเอง

อาจไม่ถึงกับชี้นำคนอื่น แต่ก็เป็นข้อเสนอแนะให้เพิ่มเติมในการประเมินแผนการแก้วิกฤตบางอย่าง

By: narasak
iPhoneAndroidUbuntu
on 23 April 2014 - 02:16 #697452 Reply to:697284

+1

By: ch.krich
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 22 April 2014 - 18:41 #697294 Reply to:697207
ch.krich's picture

มันคือความคิดสร้างสรรค์ครับ

คนที่ไม่ได้เชี่ยวชาญ จะหาทางออกที่ไม่ตายตัว ซึ่งอาจจะทำให้เกิดวิธีการหรือเทคนิคใหม่ๆ ขึ้นมาได้

แต่คนที่เชียวชาญไม่ใช่ว่าไม่เก่ง แต่เนื่องจากรู้คำตอบอยู่แล้ว ว่าทางนี้แก้ได้แน่ๆ ก็มักจะไม่คิดหาวิธีใหม่ๆ ในการแก้ปัญหาครับ

By: Architec
ContributorWindows PhoneAndroidWindows
on 23 April 2014 - 00:02 #697408 Reply to:697294

+1 เห็นด้วยครับ

By: caznova
AndroidRed HatUbuntuWindows
on 22 April 2014 - 14:43 #697217
caznova's picture

ไหนๆๆ ใบสมัคร

By: UltimaWeapon
Windows PhoneRed HatWindowsIn Love
on 22 April 2014 - 15:36 #697228 Reply to:697217
UltimaWeapon's picture

Google อยากให้พนักงานใช้ Mac นะ !!

By: Ford AntiTrust
ContributorAndroidBlackberryUbuntu
on 22 April 2014 - 16:51 #697251 Reply to:697228
Ford AntiTrust's picture

ใน Google เหมือนจะมีให้เลือกระหว่าง Macbook หรือ ThinkPad นะครับ

By: house
WriterWindows PhoneWindows
on 22 April 2014 - 15:03 #697221

ท่อนเจ้าปัญหาที่บอกว่าไม่ต่างกันคือ

‘I’ve seen this 100 times before; here’s what you do.’ ” Most of the time the nonexpert will come up with the same answer, added Bock, “because most of the time it’s not that hard.”

โดยทั่วไป Non Expert ตอบได้เหมือนกับ Expert เพราะโจทย์มันไม่ได้ยาก ดังนั้น คุณสมบัติอื่นๆก็เลยสำคัญกว่า

By: panurat2000
ContributorSymbianUbuntuIn Love
on 22 April 2014 - 15:03 #697222
panurat2000's picture

เกี่ยวกับหลักเกณฑที่ใช้ในการคัดเลือกคนเข้าทำงาน

เกณฑ => เกณฑ์

เช่นด้านคณิตศาสตร์ การคำนวนและการเข้ารหัส

การคำนวน => การคำนวณ

สามารถทำอะไรที่ไม่ได้วางแผนไว้ก่อนหรือเกิดการเปลี่ยนแปลงกระทันหัน

กระทันหัน => กะทันหัน

ซึ่งทางกูเกิลจะประเมิณจากการสัมภาษณ์เชิงพฤติกรรม

ประเมิณ => ประเมิน

ไม่ใช่ความเป็นผู้นำทั่วๆ ไป อย่างประชมธานชมรมต่างๆ

ประชมธานชมรม ?

คนที่มีเป็นผู้เชี่ยวชาญจะสามารถบอกได้ทันทีว่าควรทำอะไร

คนที่มีเป็นผู้เชี่ยวชาญ ?

By: nismod
TraineeWriteriPhoneAndroid
on 22 April 2014 - 15:57 #697231 Reply to:697222
nismod's picture

ขอบคุณครับ

By: sunVSmoon
Windows
on 22 April 2014 - 15:22 #697224

อ่านแล้วเจ็บปวด...แต่ก็เป็นความจริง

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ครับ

By: Jaddngow
AndroidUbuntuWindows
on 22 April 2014 - 15:48 #697229
Jaddngow's picture

ได้แนวทางที่จะไปปรับปรุงตัวต่อไป
ผมไม่มีเลย ไอ้ความเป็นผู้นำอะไรเนี่ย

By: genocide on 22 April 2014 - 16:21 #697236
genocide's picture

ผมชอบ คำถามเวลาสัมภาษณ์ ของกูเกิลครับ

By: Tlecoco
iPhoneAndroid
on 22 April 2014 - 21:42 #697354
Tlecoco's picture

"ปริญญาตรี" ไอ้เรื่องความรู้ มันแล้วแต่คนจะเก็บเกี่ยว แต่ความหมาย ของมันที่ผมมองคือ หน้าที่,ความรับผิดชอบ รวมถึงการทำให้อะไรบางอย่างพ่อแม่ภูมิใจด้วย ผมว่ามันมีส่วนในการตัดสินของมันอยู่นะครับ / (คห.อีกมุมเท่านั้น)

By: kingrpg
AndroidWindows
on 22 April 2014 - 23:18 #697386

ต้องเป็นผู้นำแบบนำยิ่งกว่านำเลยสินะเนีย Googleชอบสร้างกฏออกมาให้กำกวมเข้าใจยาก กว้างเข้าไว้ เพื่อไม่ให้ตนเองเสียเปรียบ และก็โยนภาระให้ผู้บริโภคไปถกเถียงกันเอง เป็นการใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อหาทางออกให้กับพวกตนเองได้ดีจริงๆ

By: gftdon
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 26 May 2014 - 15:33 #707076

เนื่องจากเป็นบริษัทที่เป็น Innovation company ดังนั้นจึงมุ่งเน้นการคัดเลือกคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ (คิดนอกกรอบ) มากกว่าวัดกันที่ความสามารถที่เป็นความเชี่ยวชาญเฉพาะแต่เป็นความเชี่ยวชาญในสิ่งที่รู้ๆกันอยู่แล้ว