FCC หรือหน่วยงานกำกับดูแลการสื่อสารของสหรัฐฯ ได้ออกมาเสนอว่าต่อไปนี้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) สามารถจะเข้าเจรจาต่อรองกับผู้ให้บริการเนื้อหา (Content provider) โดยการเรียกเก็บเงินเพื่อที่จะทำให้การเข้าถึงเนื้อหาของลูกค้าของ ISP สามารถทำได้ “ดีขึ้น” ซึ่งการเจรจานี้สามารถเรียกง่าย ๆ ว่า pay-for-priority
สำหรับผู้ที่ไม่ได้ติดตามข่าวเกี่ยวกับเรื่อง “ความเป็นกลางของอินเทอร์เน็ต” หรือ Net Neutrality ทุกวันนี้ ISP ในหลายประเทศ ถูกบังคับให้ให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตทุกชนิดได้อย่างเท่าเทียม โดยที่ข้อมูลทุกชนิด ไม่ว่าจะมาจากใคร (สำนักข่าว หรือค่ายหนัง) หรือเป็นข้อมูลประเภทไหน (ภาพ เสียง หรือวีดีโอ) การเข้าถึงเนื้อหาเหล่านี้จะไม่ต่างกัน ไม่มีการให้ความเร็วเนื้อหาประเภทใดมากกว่าหรือน้อยกว่า
การประกาศข้อเสนอของ FCC ในครั้งนี้ ถึงแม้ยังไม่ได้มีการตัดสินว่า FCC จะออกข้อบังคับออกมาเป็นอย่างไร แต่หลาย ๆ คนได้ออกมาบอกว่านี่คือจุดจบของความเป็นกลางของอินเทอร์เน็ต ที่ต่อไปนี้นอกจากผู้ใช้บริการที่ต้องจ่ายค่าเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแล้ว ผู้ให้บริการเนื้อหาเองยังจะต้องจ่ายเงินให้กับ ISP เพื่อที่จะทำให้เนื้อหาของตนกลายเป็นเนื้อหาที่ “มีความสำคัญสูงกว่า” และ “เข้าถึงได้รวดเร็วกว่า”
ก่อนหน้านี้ Comcast ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ของสหรัฐฯ ได้เข้าเจรจากับ Netflix ผู้ให้บริการสตรีมมิ่งหนังที่ใหญ่ที่สุด โดยหลังจากที่การเจรจาจบลง ผู้ใช้บริการหลายรายได้ออกมารายงานว่าสามารถสตรีมภาพยนตร์จาก Netflix ได้เร็วกว่าเดิมมาก
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในฝั่งยุโรปขณะนี้ ดูเหมือนว่าจะตรงข้ามกับในสหรัฐฯ อย่างมาก
ที่มา - PC World
Comments
มันแฟร์นะสำหรับคนมีกำลังจ่าย
พอมี "สำหรับคนที่มีกำลังจ่าย"
ก็กลายเป็นว่าไม่แฟร์แล้วหรือเปล่าครับ
อย่างว่า ทุกวันนี้ จ่ายค่าเน็ตแต่กลับได้เน็ตที่ไม่ตรงกับที่ โฆษณาไว้ ผมคงรู้สึกไม่ดีกับการจ่ายค่าบริการ คอนเท้น ที่อาจจะเพิ่มขึ้นจากการ จ่ายค่า pay-to-priority อีก คงต้องเลิกใช้บ้างแล้วหละ
วรจรอุบาตชัดๆ 555
บิทจะโหลดช้าลงป่าว
pay-for-priority เหมือนการตั้งค่า QOS ใน router ครับ
ส่วนสำคัญก็คือ เวปที่ไช้ banwidth สูงๆ เช่น youtube หรือต้องการ ping ต่ำๆ เช่นเกมส์ต่างๆ psn / xbox live จะต้องหาเงินมาจ่ายตรงนี้ ซึ่งอาจทำให้มี ad เยอะขึ้น / ค่าบริการเพิ่มขึ้น
ส่วน bit หรือบริการอื่นยๆ ที่ไม่มีการจ่ายเงิน อาจถึงขั้นหลุด 100% เพราะปรกติความเร็วก็ไม่ค่อยเต็มอยู่แล้ว และอยู่ท้ายตาราง QOS อีก
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ผมอยากรู้จริงๆ ว่าโมเดลการคิดค่าใช้จ่ายในแง่ผู้ให้บริการเป็นอย่างไร เค้าไม่ได้จ่าย lease line ที่คิดค่าใช้จ่ายตามระดับ bandwidth ไม่ใช่รึไง?
เป็นความคิดที่เห็นแก่ตัวสุดๆ
ไม่เป็นมิตรต่อผู้ใช้เลย อะไรๆ ก็เก็บตังเข้ากระเป๋าตัวเองหมด นี่เหรอประเทศแห่งเสรีภาพ
Get ready to work from now on.
มันจะได้ผลตรงกันข้ามน่ะสิ
สมมุติ youtube ไม่ยอมจ่าย และไม่ส่ง content ให้กับ isp นั้นๆ จะเกิดอะไรขึ้น
isp ต้องง้อ content ดีๆ เพื่อให้คนยอมซื้อบริการ isp สิ เพราะผมไม่สน isp หรอก
ตราบเท่าที่ทุก ISP ในพื้นที่นั้นๆ ไม่รวมหัวกันไม่จ่ายหมดล่ะนะครับ :p
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.