Surface เป็นอุปกรณ์ที่สะท้อนวิสัยทัศน์ของไมโครซอฟท์ว่า "พีซี" ยุคหน้าควรเป็นอย่างไร (จอสัมผัสพร้อมอินเทอร์เฟซที่เหมาะกับนิ้ว, เป็นอุปกรณ์แบบ hybrid ใช้ได้ทั้งโน้ตบุ๊กและแท็บเล็ต, บริษัทเดียวทำทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์)
แต่ Surface รุ่นแรกกลับยังไม่ประสบความสำเร็จมากนักในแง่ยอดขาย ซึ่งเหตุผลมีทั้งข้อจำกัดของฮาร์ดแวร์บางประการ, ข้อจำกัดของ Windows 8 ทั้งตัวระบบปฏิบัติการและแอพ และการแข่งขันที่ร้อนแรงในตลาด
เวลาผ่านไป Surface พัฒนาขึ้นทั้งในแง่ฮาร์ดแวร์ (ออกรุ่นสอง) และซอฟต์แวร์ (Windows 8.1 Update และแอพจำนวนมากขึ้น) ดังนั้นเรามาดูกันครับว่า ณ วันนี้ Surface 2 พัฒนาไปแค่ไหน และสามารถใช้แทน "พีซี" แบบเดิมๆ ได้หรือยัง
การทดสอบ
สัปดาห์ที่แล้ว ผมมีธุระต้องไปต่างจังหวัดเป็นเวลาหลายวัน เลยตัดสินใจทดสอบด้วยการนำ Surface 2 เพียงตัวเดียวไปใช้แทนโน้ตบุ๊ก (ปกติใช้ ThinkPad) และแท็บเล็ต (มีทั้ง iPad/Nexus 7) เพื่อดูว่า Surface 2 สามารถทดแทนอุปกรณ์ทั้งสองประเภทได้มากน้อยแค่ไหน
งานที่ผมทำบนอุปกรณ์เหล่านี้ก็คงเป็นงานทั่วๆ ไป เช่น อีเมล อ่านข่าว โซเชียล ท่องเว็บ ส่วนที่ต่างไปจากคนอื่นหน่อยคือการเขียนข่าวบน Blognone ซึ่งจะต้องใช้เว็บเบราว์เซอร์และการพิมพ์ค่อนข้างเยอะ
รูปลักษณ์ภายนอกของ Surface 2 ไม่ต่างไปจาก Surface RT รุ่นแรกมากนัก (อ่านรายละเอียดได้จาก รีวิวโดยคุณ nrad6949 และ รีวิวโดยคุณ Diew)
ขาตั้ง
จุดแตกต่างที่สำคัญคือ "ขาตั้ง" ของ Surface 2 ที่สามารถปรับได้ 2 ระดับ (รุ่นแรกปรับได้ระดับเดียว) ช่วยให้มันยืดหยุ่นต่อการใช้งานรูปแบบต่างๆ มากขึ้น
การใช้งานโดยวางไว้บนโต๊ะนั้นไม่ใช่ปัญหาของ Surface เพราะทำได้ดีมานานแล้ว อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดของการใช้ขาตั้งแบบกรณี Surface จะด้อยกว่าโน้ตบุ๊ก (ที่ใช้บานพับในการยกจอ) ตรงที่ต้องใช้พื้นที่ในการวางเยอะกว่า ดังนั้นถ้าไปเจอพื้นโต๊ะแคบๆ (เช่น บนเครื่องบิน) ก็จะวางได้ลำบากขึ้นเพราะต้องหาพื้นที่มากขึ้นในการรองขาตั้งด้วย
ส่วนการวางไว้บนตักที่เป็นจุดอ่อนของ Surface รุ่นแรกมานาน ขาตั้งสองระดับสามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้บ้าง โดยท่าที่เหมาะสมคือกางขาแบบสุด (เป็นระดับการกางแบบใหม่ที่เพิ่มเข้ามา) ทำให้ตาเราพอดีกับหน้าจอมากกว่าระดับขาตั้งแบบเก่า
อย่างไรก็ตาม ขาตั้งของ Surface ก็ยังมีปัญหาอยู่ดีถ้าวางในท่าอื่นๆ เช่น นั่งขัดสมาธิ (วางได้ยากหน่อย) หรือนั่งชันเข่า (วางไม่ได้เลยเพราะติดขาตั้ง)
ดังนั้นในภาพรวมแล้วผมคิดว่ารูปแบบของอุปกรณ์ hybrid/2-in-1 ที่เหมาะสม น่าจะเป็นโน้ตบุ๊กถอดจอได้แบบ ASUS T100 หรือ Acer Switch 10 มากกว่า
คีย์บอร์ด
Surface ถูกออกแบบมาให้ทำงานกับคีย์บอร์ดอย่างแนบแน่น ดังนั้นแม้ว่ามันจะขายแยกกัน แต่เวลาซื้อยังไงก็ควรซื้อคีย์บอร์ดอยู่ดีครับ
ไมโครซอฟท์ประเทศไทยให้คีย์บอร์ดมาทดสอบทั้ง Touch Cover 2 และ Type Cover 2 ซึ่งก็แน่นอนว่า Type Cover พิมพ์ง่ายกว่ามาก ใครที่ตัดสินใจซื้อ ยังไงก็แนะนำ Type Cover มากกว่าถ้าเป็นไปได้
จุดเด่นของ Touch Cover คือขนาดที่บางกว่า แต่ในการพกพาจริงผมพบว่าแทบไม่มีผล เพราะ Type Cover ก็บางมากอยู่แล้ว ยอมใช้คีย์บอร์ดหนาขึ้นอีกหน่อยแต่พิมพ์ง่ายกว่ามากจะดีกว่า (Touch Cover ยังสามารถทำท่า gesture โดยรูดบนคีย์บอร์ดได้มากกว่านิดหน่อย แต่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญอยู่ดี)
การพกพาและแบตเตอรี่
อุปกรณ์ที่ผมต้อง "แบก" ในการทดสอบ Surface 2 มีดังนี้
รวมแล้วก็ประมาณ 1 กิโลนิดๆ พอดี ถือว่าใกล้เคียงกับการแบก MacBook Air 11 นิ้ว (ไม่รวมอแดปเตอร์) แต่กำไรกว่าตรงที่ใช้งานได้เป็นทั้งแท็บเล็ตและโน้ตบุ๊ก ส่วนจะเวิร์คหรือไม่นั้นต้องรอดูการใช้งานจริงซึ่งจะกล่าวต่อไปครับ (จากการใช้งานจริงแล้วพบว่าไม่ต้องมีเมาส์เลย)
เรื่องแบตเตอรี่ ตามสเปกของไมโครซอฟท์บอกว่าเล่นวิดีโอต่อเนื่องได้ 10 ชั่วโมง (การทดสอบของ Engadget อยู่ได้ถึง 14:22 ชั่วโมง ชนะคู่แข่งทั้งหมด) ในการใช้งานจริงเราคงไม่ได้ดูวิดีโอต่อเนื่อง แต่ก็ถือว่าอึดมาก อยู่ได้ทั้งวันกับการใช้งานทั่วไปที่ไม่ใช่วางบนโต๊ะแล้วเปิดทิ้งไว้
ประเด็นที่ผมว่าเป็นปัญหานิดหน่อยคือสายชาร์จ VaporMag ที่ใช้แม่เหล็กดูดติดกับตัวแท็บเล็ต มันเล็งให้ตรงช่องได้ค่อนข้างลำบากพอสมควร ต้องอยู่ในที่มีแสงสว่างเพียงพอแล้วตั้งใจเล็งแบบจริงจังถึงจะใส่ได้ (ประเภทมืดๆ ก่อนนอนแล้วคลำๆ เอานี่ใส่ลำบาก) ซึ่งถือเป็นความน่ารำคาญเล็กน้อยแต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่นัก
อ่านรีวิวเก่า: รีวิว Windows 8 ฉบับการใช้งานบนแท็บเล็ต ตอนที่ 1, ตอนที่ 2
Surface ถือเป็นอุปกรณ์ยุคใหม่ของไมโครซอฟท์ที่ให้ประสบการณ์ personalize เต็มรูปแบบ แค่เปิดเครื่อง ต่อเน็ต แล้วใส่ Microsoft Account รอสักพัก เราก็จะได้ "ข้อมูลทุกอย่าง" ของเราถูกดึงมาจากกลุ่มเมฆของไมโครซอฟท์ทันที ไม่ต้องตั้งค่าอะไรเลย
คุณสมบัติแบบนี้ Android หรือแม้แต่ Windows Phone เองก็ทำได้มาสักพักแล้ว ไม่มีอะไรใหม่ แต่พอคิดว่ามันคือ "พีซี" มาทำแบบนี้ได้ก็น่าตื่นเต้นพอสมควร
ส่วนของระบบปฏิบัติการ เนื้อในของมันคือ Windows 8.1 Update ที่ไม่ต่างจากอุปกรณ์อื่นๆ แต่พอเรามาใช้กับอุปกรณ์จอสัมผัสที่ออกแบบมาเพื่อกันและกันโดยตรง ผลออกมาดีกว่าการใช้บนโน้ตบุ๊กแบบดั้งเดิมมาก ผมพบว่าตัวเองใช้อินเทอร์เฟซแบบ Metro แทบจะตลอดเวลา จะเปิดเดสก์ท็อปขึ้นมาก็ต่อเมื่อเจอ "ข้อจำกัด" ที่ Metro ทำไม่ได้เท่านั้น
ประเด็นเรื่องแอพแบบ Metro ก็พัฒนาขึ้นตามกาลเวลา มีแอพใหม่ๆ มากขึ้น และแอพหลายตัวที่ไม่มีเวอร์ชัน Metro ในช่วงแรกๆ ก็เริ่มออกมาให้ใช้กันบ้างแล้ว
จากการลองทำงานแต่ละด้าน ก็ได้ผลออกมาดังนี้ครับ
การท่องเว็บ เนื่องจากเนื้อในเป็น Windows RT ผมก็ถูกบังคับให้ใช้แต่ IE11 เท่านั้น ผลคือมันทำงานได้ดีกว่าที่คิด (แค่ซิงก์กับข้อมูลของเราใน Chrome/Firefox ที่มีอยู่แล้วไม่ได้)
แต่สิ่งที่ทำให้ประสบการณ์ท่องเว็บบน Surface เหนือกว่าแท็บเล็ตตัวอื่นๆ มากคือมันสามารถแบ่งจอแล้วเปิดเบราว์เซอร์สองอัน (แต่ละจอมีหลายแท็บ) ได้ ทำให้ง่ายต่อพฤติกรรมการใช้งานของผมที่เปิดจอหนึ่งมาอ่านข่าวและอีกจอเป็นหน้าเขียนข่าวของ Blognone
ดังนั้นสรุปว่าถ้าต้องใช้เบราว์เซอร์เยอะๆ เพื่ออ่านเทียบกันสองจอ หรืออีกจอหนึ่งเอาไว้เขียนงาน ต้องถือว่า Surface เวิร์คมากๆ ครับ iPad/Android ชิดซ้ายเลย (แม้ Android บางตัวเช่นแท็บเล็ตซัมซุงจะสามารถแบ่งจอได้เหมือนกัน แต่มันไม่ได้ถูกออกแบบมาตั้งแต่ต้นแบบ Surface)
อีเมล แอพอีเมลของไมโครซอฟท์ทำงานได้ดีในระดับหนึ่ง เช็คเมลได้ ตอบเมลได้ แต่ประสบการณ์การใช้งานยังไม่ค่อยลื่นไหลเท่าการใช้แอพ Gmail บน Android โดยตรง
ปฏิทิน ผมใช้ Google Calendar ที่ยังเชื่อมต่อกับแอพ Calendar ไม่ได้ด้วยปัญหาการเมือง ข้อนี้จึงต้องตัดไป
การจดโน้ต ปกติผมใช้ Evernote ซึ่งทำแอพ Metro ออกมาได้ดี แต่ถ้าใครใช้ OneNote ก็ไม่ด้อยไปกว่ากันนัก
Maps แผนที่มาตรฐานของ Windows 8 แสดงรายละเอียดถนนได้ดี แต่พอต้องค้นหาสถานที่ด้วยชื่อ ยังไงก็ต้องกลับไปใช้ Google Maps บน Android ครับ
Office นี่เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์สำคัญของ Surface RT/2 เพราะราคานี้ได้ Office ผนวกมาด้วย ไม่มีถูกกว่านี้อีกแล้ว การเปิดไฟล์จากอีเมลระหว่างเดินทางไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป
Twitter แอพ Twitter Metro ทำงานได้ไม่ค่อยดีนัก (เทียบกับเวอร์ชัน Windows Phone) มักมีปัญหาเรื่องการซิงก์ข้อความอยู่บ่อยครั้ง
Facebook ผมพบว่า Facebook Metro ทำงานได้ดีมากจนแทบใช้แทนหน้าเว็บแบบปกติได้เลย (กลับกันกับ Facebook Windows Phone ที่ห่วยมาก)
Dropbox Dropbox ใจดีออกแอพเวอร์ชัน Metro ให้ไมโครซอฟท์ (ไม่มีบน Windows Phone) สามารถเข้าถึงไฟล์ได้ตามปกติ แต่ข้อจำกัดคือไม่สามารถเลือกเซฟไฟล์แบบออฟไลน์ได้เหมือนแอพเวอร์ชัน iOS/Android
ทางออกแบบอ้อมๆ คงต้องหนีไปใช้ OneDrive แทน ส่วน Google Drive นั้นไม่ต้องคิดถึง เพราะไม่มีให้ใช้
Kindle แอพ Kindle มีเวอร์ชัน Metro มาตั้งแต่แรกๆ แต่ข้อจำกัดก็คล้าย Dropbox คือฟีเจอร์น้อยกว่าแพลตฟอร์มอื่น กรณีของ Kindle อ่านหนังสือได้แต่ไม่สามารถทำไฮไลท์ข้อความในหนังสือได้
ผมพบว่าตัวเองจะเปิดโหมดเดสก์ท็อปขึ้นมาก็ต่อเมื่อมีโต๊ะนั่งดีๆ มี Wi-Fi ใช้ และใช้งานมันในสถานะ "พีซี" ที่สั่งงานผ่านคีย์บอร์ดและทัชแพดเหมือนพีซีทั่วไป (ซึ่งก็ทำงานได้ดีเพราะมันก็คือ Windows 8.1) ใช้งาน IE Desktop, Office และ File Manager เป็นหลัก
ส่วนยามปกติทั่วไป เช่น นั่งรถ นั่งบนโซฟา จะอยู่ในโหมด Metro แทบจะตลอดเวลา โดยพับคีย์บอร์ดไปด้านหลังหรือถอดคีย์บอร์ดทิ้งไว้แล้วแต่กรณี
ในแง่ฮาร์ดแวร์ถือว่า Surface 2 ทำออกมาได้ดี น้ำหนักเบาเมื่อเทียบกับขนาด งานประกอบดี แบตอึด จอสวย มีพอร์ต USB ขนาดเต็ม ทำงานร่วมกับคีย์บอร์ดได้ดี จะมีข้อติเล็กน้อยก็ที่เรื่องขาตั้งเท่านั้น (ซึ่งถ้าเลือกมาแนวทางขาตั้งก็คงหนีข้อจำกัดนี้ไม่พ้น)
แต่ข้อจำกัดในการใช้งานของ Surface/Windows 8 ยังเป็นเรื่องแอพน้อย-แอพความสามารถต่ำเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่น (แม้สถานการณ์จะดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับ 2 ปีที่แล้ว) ซึ่งตามปกติแล้วปัญหานี้สามารถแก้ไขเบื้องต้นได้ 2 วิธีคือ
ปัญหาคือ Surface 2 ดันเป็น ARM/Windows RT ทำให้ตัวเลือกที่สองต้องถูกตัดทิ้งไป (เช่น ผมไม่สามารถดาวน์โหลด Dropbox หรือ Google Drive เวอร์ชันวินโดวส์ปกติมาลงได้) ทำให้ตัวเลือกจำกัดอยู่แค่การใช้งานผ่านเว็บเท่านั้น ซึ่งบางครั้งก็ไม่ค่อยคล่องตัวนักเพราะต้องต่อเน็ตอยู่ตลอดเวลา
ทางออกที่ดีกว่าสำหรับคนที่อยากได้แท็บเล็ต (ที่ทำตัวเป็นโน้ตบุ๊กวินโดวส์ได้ด้วย) น่าจะเป็นการเลือกใช้แท็บเล็ตสาย x86 เช่น Surface Pro 2 (ที่ไม่ขายในบ้านเราสักที) หรืออุปกรณ์แบบ hybrid ของผู้ผลิตโน้ตบุ๊กค่ายอื่นๆ ที่เป็น x86 ทุกค่ายอยู่แล้ว
ส่วนคนที่อยากได้แท็บเล็ต (แท็บเล็ตอย่างเดียว ไม่ต้องทำตัวเป็นโน้ตบุ๊ก) ด้วยเงินเท่ากันแล้ว ซื้อ iPad หรือแท็บเล็ต Android คุ้มค่ากว่ามากครับในแง่ app ecosystem
Comments
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ อยากได้ surface อยู่เลย
จริง ๆ สาเหตุที่ผมอยากใช้ Surface มีอยู่ประมาณ 2-3 อย่างคือ
สรุปก็คงจะสอยแค่ Surface 2 แต่ปัญหาคือ เงินไม่มี T_T
ป.ล. อย่าบอกนะว่าให้ขายตัว Lumia สักตัว ไม่เอานะ T_T
Coder | Designer | Thinker | Blogger
รีบซื้อก่อนตกรุ่นครับ
+1024
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
Maps แผนที่มาตรฐานของ Windows 8 แสดงรายละเอียดถนนได้ดี แต่พอต้องค้นหาสถานที่ด้วยชื่อ ยังไงก็ต้องกลับไปใช้ Google Maps บน Android ครับ
ใช้แอป Google Maps ที่พัฒนาโดย 3rd Party ก็ได้นี่ครับ ความสามารถครบครัน
ทางออกแบบอ้อมๆ คงต้องหนีไปใช้ OneDrive แทน ส่วน Google Drive นั้นไม่ต้องคิดถึง เพราะไม่มีให้ใช้
เช่นกันครับ ใช้ของ 3rd Party แทนได้ ความสามารถไม่น้อยหน้า แต่อาจต้องเสียเงินกันนิดหน่อย
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ ละเอียดยิบๆ
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ ถ้าซื้อจริงคงเป็น Surface Pro เพราะว่าติดเกมส์ออนไลน์ ^^
เล่นเกมออนไลน์นี่ ผมว่า Surface ไม่เหมาะอย่างแรง เพราะจอเล็ก แล้วมันก็แพง
ถ้าเล่นเกมผมเดาว่า ต้องใช้เม้าส์ และ คีย์บอร์ด ตลอดเวลา ดังนั้น ความเบาของ Surface จึงไม่ใช่ข้อได้เปรียบ
เวลาแบกขึ้นหลังไงครับ ที่มันได้เปรียบ
ก็จริงนะครับ ผมเคยแบกโน้ตบุ๊คกลับบ้านตอนสมัยเรียน ยืนบน 129 รถติดมาก ผ่านไปชั่วโมงกว่าเพิ่งจะถึงห้าแยกลาดพร้าว จะเป็นลมให้ได้เลยทีเดียว (ปกติมันก็ไม่หนักมากแค่ 2.36 กก.) แต่แบกสักชั่วโมงความรู้สึกมันเหมือนแบกของ 236 กก. เลยทีเดียว
ฮา
ว่าแต่ ชั่วโมงนึงถึงห้าแยกลาดพร้าวนี่จากไหนเหรอครับ? เหมือนช่วงไม่นานมานี้ผมเคยใช้เวลาสี่สิบนาทีจากสวนจตุจักรถึงห้าแยกลาดพร้าว (T^T)
จากหน้าม.เกษตรครับ
เพิ่งได้ Surface Pro มาแบบงงๆ ยังไม่ได้แกะกล่องดูเลย...
ให้ผมต่อแบบงงๆ ก็ได้ครับ
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
ขอลองก่อนสิครับ จริงๆ ตอนแรกตัดใจเพราะ Banana เค้าหมดโปรแถม cover แต่ไปๆ มาๆ ไม่ถึงชั่วโมงก็มีคนเอา 128G มือหนึ่งมาให้ พร้อมแถมฟรีอุปกรณ์ทุกอย่างที่ ms เค้าแยกขาย
อยากจะอยู่ๆ ก็มีคนมาทำแบบนี้ให้เหมือนกันครับ ต้องไปอยู่ที่ไหนเหรอครับ :3
ให้ผมแล้วจะหายงงครับ
หรือถ้าจะลง Ubuntu ก็ไม่หายงงแน่ๆ ครับ
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
เล็งไว้นานแระ แต่ขอปล่อยไวโอ้ให้ได้ก่อน
แต่เห็นว่า MS จะประกาศเซอเฟสใหม่หลายรุ่น รอดูก่อนดีกว่า...
ขอบคุณรีวิวครับ
ไปลองเล่นมาหลายรอบแล้วครับ ส่วนตัวชอบมากเกือบควักเงินแล้วรอบ มันเกือบจะเป็นแท็บเล็ตในอุดมคติของผมเลย เสียอย่างเดียวรันโปรแกรม x86 ไม่ได้มันขัดใจมาก ถ้าเอามารันแต่แอปนี้มันไม่เวิร์คแน่ๆ ช่วยทำ Atom+Win 8.1 มาที ผมจะไปต่อคิวซื้อคนแรกๆเลย ชอบคุณภาพของ Microsoft มากๆ
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ ลังเลอยูจะ pro1 หรือ RT2 ดีนะครับเพราะร้านกล้วยมีโปร ซื้อรุ่นแรกสามารถซื้อคีย์บอร์ด type cover แบบมีไฟได้ในราคา 2990บาท จาก 6 พันกว่าบาท หรือแถมแบบ touch cover แต่ถ้าเป็นรุ่น surface 2 ไม่แถมจั๊กอย่าง จะรอ pro 2 ก็คงแพงเท่า notebook แรงๆ ตัวนึงอีก จะรอ surface 3 กว่าจะเข้าไทยก็คงมีข่าว surface 4 ออกมาอีก ถ้ามัวแต่รอคงไม่ต้องใช้กันพอดี
ป.ล. เอามาไว้พิมพ์งานใช้ office เพราะชอบพกเบาๆ ไม่เยอะดีคับ มี ipad แล้ว macbook pro แล้ว(หนักมากขี้เกียจแบก)
ขอร้านหน่อยได่มั้ยครับที่ซื้อ Pro 1 แล้วแลกซื้อ Type ได้ หามาทุกร้านบอกมีแต่แถม Touch (ซึ่งมันกากสุดๆ)
ผมไปดูที่ร้านบานาน่าที่เดอะมอลล์ครับ พอดีอยู่ต่างจังหวัดไม่แน่ใจว่าโปรจะมีเหมือนกันทุกสาขารึเปล่านะครับ
อ่า เพิ่งไปถาม Banana IT พันทิพมาครับ พนักงานบอกไม่เห็นได้ยินโปรนี้เลย T_T
น่าจะหมายถึงโปรซื้อ RT 2 แล้วซื้อ cover ในราคา 2000 หรือเปล่า? แต่อันนั้นของ Banana เฉพาะในงานมือถือที่เพิ่งจบไปละมั่ง (เห็นแวบๆ อยู่)
ก่อนหน้านี้มีโปรซื้อ surface แถม Touch cover อันนั้นหมดโปรไปเรียบร้อยแล้ว
ไม่ใช่คับ ผมซื้อที่โคราช ,pro 1แลกซื้อ type cover2 แบบมีไฟ 2990 แต่โปรหมดแล้ว ตอนนี้ขายแต่เครื่อง
Surface Pro ตัวแรก เค้าขายเท่าไรครับ
128G 18990 64 15990
น่าจะไม่ผิด
อยากได้ Surface Pro เลยแฮะ ถูกกว่าผลไม้เยอะเลย ความต้องการหลักคือเบาเท่านั้นเอง
แต่ตัวนี้ผมว่ามันหนักนะ
Pro นี่หนักน้องๆ Ultrabook จอ 11-13" เลยแหละครับ
ตอนแรกผมกะจะเอา pro เหมือนกันครับ เจอน้ำหนักเกือบหนึ่งกิโลเข้าไปนี่ชะงักเลยพอลองถือดูจริงๆ
จุดประสงค์หลักคือหาอะไรมาพิมพ์งานแทนโน้ตบุคเท่านั้น เลยไปถอย ASUS T100 มาแทนละ
Surface pro2 เจ็บปวดทีสุด T-T
"ใจถึง" "เงินมี" "แต่ของไม่มา"
อยากได้เครื่องไว้ทำงานนอกบ้าน(หนีร้อนไปตากแอร์ห้าง) ต้องการเครื่องแบบ hybrid เขียน code + photoshop ก็ดูเหมือนจะมีแค่ Surface ที่ตอบโจทย์
รัน Photoshop บนชิพอตอมเลยเหรอครับเนี่ย =3=
แค่ Crop, ดึง Curve, Color replace อะไรพวกนี้ผมว่ามันก็ไหวอยู่นะครับ
VaporMag นี่เห็นด้วยครับ กว่าจะหลับตาคลำเสียบได้แบบทุกวันนี้นี่ก็นานพอตัว แถมยังต้องใช้เวลาไม่น้อยอยู่ดี
ส่วน Kindle ตอนนี้แนะนำให้ใช้ Cloud Reader บน https://read.amazon.com/ แทนดีกว่าครับ สามารถใช้งานออฟไลน์ได้ (ไม่มีเน็ตก็เปิดอ่านได้ปกติ แต่ต้องเลือกดาวน์โหลดหนังสือเล่มที่จะอ่านไว้ก่อน ซึ่งปกติถ้ากดเปิดหนังสืออ่านตอนมีเน็ตมันก็จะโหลดมาติดเครื่องไว้อยู่แล้ว) ไฮไลต์ได้ แถมถ้ามีเน็ตจะเปิดดิกได้ด้วยครับ น่าจะดีกว่าตัวแอพไปแล้ว
เพิ่งโดนมาสดๆ แบตจะหมดเสียบชาร์จ สักพักนึงได้ยินเสียงเตือนดังมากๆ นึกว่า PC มีปัญหา เพราะวาง RT ไว้หน้า PC ลองปิดลำโพง PC เสียงก็ยังดังอยู่ เลยยก RT ขึ้นมาฟัง มันใจว่าใช่แน่ รีบล็อกอิน นึกว่าเครื่องมีปัญหา เข้าเดสก์ท็อปได้ เจอหน้าต่างแจ้งแบตเหลือน้อยอันเบ่อเร่อเลย
ป.ล. เพิ่งเคยได้ยินเสียงเตือนแบตของ RT เป็นครั้งแรก
ป.ล. 2 ดูเหมือนว่า RT จะตรวจสอบได้ว่ามีสายชาร์จเสียบอยู่ เพราะตอนขึ้นเตือนหน้าจอจะกระพริบแล้วกดอะไรไม่ได้เลยทั้งที่หน้าจอและ Cover ต้องดึงสายชาร์จออกก่อนถึงหยุดกระพริบ
ป.ล. 3 ปรกติเวลาเสียบชาร์จผมจะรอจนขึ้นไปสีขาว แต่รอบนี้ไม่ได้ดู
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
ผมไม่เคยแบตลดขนาดนั้นเหมือนกันครับ สงสัยต้องลองบ้าง
Surface Pro 2 (ที่ไม่ขายในบ้านเราสักที)
นั่นน่ะซิรอ อะไรเนี้ยยยย
รอ Surface Pro (1)
ขายหมดก่อน :P
ไปลองจับๆ ต้องๆ มาแล้ว ดูดีทีเดียว
วัสดุอุปกรณ์ คุณภาพดี สมมาตราฐาน hardware by Microsoft
อยากให้ Surface Pro เป็นในรูปลักษณ์ Notebook จัง
ชอบลักษณั Design ของ Surface มาก แต่มันจอเล็กไปนิดส์