GrabTaxi ผู้ให้บริการเรียกรถแท็กซี่ผ่านแอพ ซึ่งมีให้บริการในกลุ่มประเทศเขตอาเซียนรวมทั้งประเทศไทยมาระยะหนึ่งแล้ว ได้เพิ่มบริการ GrabCar ซึ่งจะให้บริการโดยสารรถลิมูซีนคล้ายกับที่ Uber กำลังให้บริการในกรุงเทพมหานครอยู่ในขณะนี้
แต่เดิมผู้ที่ใช้บริการ GrabTaxi จะสามารถเรียกรถแท็กซี่ (ซึ่งเป็นรถที่ให้บริการรับจ้างโดยสารสาธารณะอยู่แล้ว) ให้มารับเพื่อพาไปส่งยังที่หมายได้โดยการเรียกผ่านแอพ ทว่าในตอนนี้ GrabTaxi ได้เพิ่มการให้บริการด้วยรถลิมูซีนด้วยเช่นกัน โดยประเดิมที่แรกในประเทศมาเลเซียซึ่งเป็นบ้านเกิดของ GrabTaxi
GrabTaxi ระบุว่าอัตราค่าโดยสารรถลิมูซีนนี้จะคำนวณในลักษณะคล้ายกับการคำนวณค่าโดยสารของรถแท็กซี่ทั่วไป คือมีค่าบริการขั้นต่ำต่อการเรียกในแต่ละครั้ง รวมกับค่าบริการอีกส่วนที่แปรผันตามระยะทางที่รถวิ่งไป โดยจะมีการคิดค่าบริการเพิ่มเป็นพิเศษสำหรับการเรียกใช้บริการรถในชั่วโมงเร่งด่วน (เหมือนกับ surge pricing ของ Uber) โดย GrabTaxi ยกตัวอย่างการประมาณค่าโดยสารระยะทาง 15 กิโลเมตรในเขต Kuala Lumpur ช่วงชั่วโมงเร่งด่วน คิดเป็นเงินประมาณ 8.40 ดอลลาร์ ในขณะที่การเดินทางด้วยเส้นทางเดียวกันนอกชั่วโมงเร่งด่วนจะคิดค่าโดยสารประมาณ 5.80 ดอลลาร์
GrabTaxi ระบุว่าใช้การคัดเลือกพนักงานขับรถโดยเลือกจากคนในท้องถิ่นที่มีใบอนุญาตขับขี่และผ่านการรับรองอื่นเท่าที่กฎหมายระบุ โดยใช้ประวัติการขับรถสาธารณะเข้ามาเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาคัดเลือกคน ซึ่งสาเหตุที่ GrabTaxi เลือกใช้คนในท้องถิ่นเป็นหลักเพราะเห็นว่าพวกเขาสามารถเข้าใจสภาพพื้นที่ให้บริการเป็นอย่างดี ที่สำคัญคือพวกเขายินดีให้บริการโดยรับชำระเงินในรูปแบบเงินสด ซึ่ง GrabTaxi ระบุว่าผู้คนในกลุ่มประเทศอาเซียนนิยมพกเงินสดมากกว่าชำระเงินผ่านแอพ
ก่อนหน้านี้ GrabTaxi เพิ่งระดมทุนเพื่อขยายธุรกิจได้เป็นเงินมากกว่า 10 ล้านดอลลาร์ และดูเหมือนความนิยมใช้งาน GrabTaxi ในกลุ่มประเทศอาเซียนจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ดังจะเห็นได้จากยอดดาวน์โหลดแอพ GrabTaxi ใน 5 ประเทศที่ให้บริการ (มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, เวียดนาม, สิงคโปร์ และไทย) ที่มีจำนวนมากกว่า 1.2 ล้านครั้งแล้ว
ที่มา - The Next Web
Comments
เพราะตระหนักพวกเขาเข้าใจ ?
ทำแข่งกันเยอะๆ เลยครับ ลูกค้าเราจะได้มีทางเลือกเยอะๆ :D
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
ถ้ามาไทยแล้วถูกกว่า Uber ก็จะลองใช้ดู แต่ตอนนี้ใช้ Uber ตลอดเพราะสิ่งสำคัญมันไม่ได้อยู่ที่เรื่องของรถ (แม้ว่ารถแพงกว่าใหญ่กว่าสะอาดและนั่งสบายกว่าแทกซี่ทั่วไปจะเป็นอีกเหตุผลที่ผมเลือกด้วย) แต่ประเด็นหลักอยู่ที่โชเฟอร์มากกว่า เพราะส่วนใหญ่แล้วคนที่มาขับ Uber ขับดีกว่า taxi ธรรมดามาก และบางคนยังบริการดีพิเศษ มีมาเปิดประตูให้ด้วย