สำหรับคนที่รอโทรศัพท์จากค่ายอเมซอน วันนี้อเมซอนก็เปิดตัวโทรศัพท์อย่างเป็นทางการแล้วในชื่อ Fire Phone ข่าวร้ายสำหรับคนที่รอของถูกจากอเมซอน คือ Fire Phone ราคาไม่ถูกนัก เมื่อซื้อแบบติดสัญญาสองปีจะมีราคา 199 ดอลลาร์ และหากซื้อไม่ติดสัญญาจะอยู่ที่ 649 ดอลลาร์ เบื้องต้นยังขายเฉพาะกับเครือข่าย AT&T ในสหรัฐเท่านั้น (เป็น exclusive)

แทนที่อเมซอนจะเน้นราคาถูกเหมือนสินค้าตัวอื่นๆ ที่ผ่านมา Fire Phone กลับเน้นฟีเจอร์สำคัญ ได้ แก่ Firefly, Mayday, กล้องแบบมีระบบกันภาพสั่นในตัวเลนส์

เทคโนโลยี Firefly

ฟีเจอร์ที่ทำให้ Fire Phone แตกต่างจากโทรศัพท์อื่นๆ คือมันสามารถ อ่าน ฟัง และจดจำข้อมูลรอบตัวเราได้มากมาย เมื่อเราถ่ายรูปด้วย Firefly ซอฟต์แวร์จะแยกข้อความออกจากภาพ ค้นหาหมายเลขโทรศัพท์, URL, หรืออีเมล เพื่อถามว่าเราต้องการใช้งานข้อมูลเหล่านั้นหรือไม่ หรือจะเก็บภาพเฉพาะส่วนที่เป็นข้อความเอาไว้ก็ได้เช่นกัน การเก็บภาพเฉพาะส่วนข้อความทำให้ขนาดภาพมีขนาดเล็กลงมาก

Firefly ยังสามารถแยกแยะวัตถุกว่า 100 ล้านชนิด โดยอิงจากฐานข้อมูลสินค้า หนังสือ เพลง ภาพยนตร์ รายการทีวีของ Amazon เช่น เราถ่ายรูปปกซีดีเพลงด้วยกล้อง Firefly ก็สามารถเรียกอัลบั้มเพลงนั้นจาก Amazon มาแสดงให้เราดูได้ทันที

Dynamic Perspective

ทั้งสี่มุมของตัวเครื่อง Fire Phone จะมีกล้องเพื่อจับใบหน้าของผู้ใช้ตลอดเวลา ข้อมูลใบหน้าผู้ใช้ทำให้ Fire Phone สามารถแสดงภาพเสมือนภาพสามมิติจนหน้าจอได้

ตำแหน่งของใบหน้าผู้ใช้กับจอของ Fire Phone จะเป็นส่วนหนึ่งของการควบคุมโทรศัพท์ เราสามารถเอียงโทรศัพท์ไปซ้าย หรือขวา เพื่อขอดูข้อมูลที่แตกต่างกันได้ ความสามารถนี้ยังเปิดเป็น SDK ให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงได้ด้วย (Amazon คาดว่าจะมีเกมที่ใช้ฟีเจอร์การควบคุมแบบนี้เกิดขึ้น)

กล้อง 13 ล้านพิกเซล มีระบบกันภาพสั่น พื้นที่เก็บภาพไม่จำกัด

อเมซอนภูมิใจกับกล้องของ Fire Phone เป็นพิเศษ กล้องที่ใส่มานั้นมีชิ้นเลนส์ห้าชิ้น ขนาดรูรับแสง F/2.0 ความละเอียดเซ็นเซอร์ 13 ล้านพิกเซล และชิ้นเลนส์มีระบบกันภาพสั่นไหวในตัว พร้อมความสามารถถ่ายภาพรัวและภาพแบบ HDR

เรื่องคุณภาพภาพคงต้องรอดูเมื่อเริ่มมีการทดสอบจากภายนอก แต่ฟีเจอร์สำคัญที่อเมซอนให้มาพร้อมกับ Fire Phone คือ ภาพทุกภาพและวิดีโอทุกชุดจาก Fire Phone จะสำรองขึ้น Amazon Cloud Drive ได้ฟรีไม่จำกัดพื้นที่ และไม่ย่อขนาดภาพ ภาพและวิดีโอจะซิงก์ขึ้น Cloud Drive โดยไม่นับโควต้า

ฮาร์ดแวร์

สเปคพื้นฐานของ Fire Phone มีดังนี้

• จอภาพ 4.7 นิ้ว 1280x720
• กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 2.1 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอ 1080p ได้ทั้งสองกล้อง
• ซีพียู Snapdragon 800 2.2GHz ควอดคอร์, Adreno 330, แรม 2GB
• Fire OS 3.5.0
• แบตเตอรี่ 2400 mAh
• รองรับ 2G GSM/EDGE คลื่น 850, 900, 1800, 1900
• รองรับ 3G DC-HSDPA คลื่น 850, 900, 1700/2100, 1900, 2100
• รองรับ LTE 9 ความถี่ (Bands 1, 2, 3, 4, 5, 7, 8, 17, 20)
• Wi-Fi 802.11ac, Bluetooth 3.0, NFC, GPS, GLONASS
• ใช้ Nano Sim

บริการอื่นๆ จาก Amazon

Fire Phone ยังรวบรวมบริการออนไลน์ต่างๆ ของ Amazon ที่เคยมีให้ใช้ในสินค้าตระกูล Kindle และ Kindle Fire เอาไว้ด้วย

• Mayday ปุ่มขอความช่วยเหลือจากพนักงาน
• ASAP (Advanced Streaming and Prediction) ช่วยเดาว่าเราอยากดูหนังหรือรายการทีวีเรื่องไหน และโหลดมารอไว้ล่วงหน้า
• X-Ray ฟีเจอร์จาก Kindle (ข่าวเก่า) ที่ช่วยแสดงรายชื่อตัวละคร สถานที่ เหตุการณ์ ในหนังสือว่าเกิดขึ้นตรงไหนบ้าง สามารถใช้กับทีวี หนัง เพลง ได้ด้วย
• Second Screen สำหรับส่งมัลติมีเดียที่อยากดูบนมือถือไปยังกล่อง Fire TV และอุปกรณ์อื่นๆ ที่รองรับมาตรฐาน Miracast

Fire Phone เริ่มส่งสินค้าวันที่ 25 กรกฎาคม เปิดรับสั่งซื้อล่วงหน้าแล้ว รุ่น 32GB ขายแบบติดสัญญา 199 ดอลลาร์, รุ่น 64GB ขาย 299 ดอลลาร์ (สัญญากับ AT&T สองปีทั้งคู่) คนที่ซื้อในช่วงเปิดตัวจะได้สิทธิเป็นสมาชิก Amazon Prime ฟรีหนึ่งปี

ที่มา - Amazon