ฟีเจอร์ใหม่อย่างหนึ่งของ Chromecast ที่เปิดตัวในงาน I/O คือการเชื่อมกับสมาร์ทโฟนโดยไม่ต้องอยู่ในวง Wi-Fi เดียวกัน (ตัวอย่างเช่น เราไปบ้านเพื่อนที่มี Chromecast แต่เราสามารถเล่นวิดีโอขึ้นจอทีวีของเพื่อนได้ แม้ไม่ได้ต่อ Wi-Fi ของเพื่อน)
คำถามคือ Chromecast รู้ได้อย่างไรว่าจะให้มือถือเครื่องไหนส่งภาพขึ้นจอ
ทีมงาน Chromecast เผยคำตอบในห้องสัมมนาย่อยที่งาน I/O ว่าใช้คลื่นเสียง ultrasonic ที่มนุษย์ไม่ได้ยิน เป็นสื่อจับคู่ระหว่างมือถือกับ Chromecast โดยไม่ต้องต่อเน็ตเลย
John Affaki ผู้จัดการฝ่ายวิศวกรรม Chromecast อธิบายว่ากูเกิลต้องการทำฟีเจอร์ให้มือถือหลายๆ เครื่องสามารถส่งวิดีโอ "เข้าคิว" เพื่อเล่นบน Chromecast ได้ (ลองนึกถึงภาพงานปาร์ตี้ และเพื่อนแต่ละคนก็ส่งเพลงที่ตัวเองชอบเข้าคิวเพื่อเล่นออกจอ) แต่ข้อจำกัดเรื่องการเชื่อมต่อ Wi-Fi ที่ต้องกรอกรหัสผ่านทำให้กระบวนการนี้ยุ่งยากเกินไป กูเกิลจึงมองหาวิธีอื่นที่ง่ายกว่านั้น
หลักการทำงานเริ่มจากเจ้าของ Chromecast จะต้องอนุญาตให้อุปกรณ์ในบริเวณเดียวกันสามารถเชื่อมต่อเข้ามาได้ก่อน จากนั้นนำมือถือที่ต้องการกดขอเชื่อมต่อไปยัง Chromecast (อุปกรณ์แต่ละตัวเชื่อมต่อเน็ตคนละวิธี ไปรู้จักกันบนเน็ต) เมื่อ Chromecast ได้รับคำขอก็จะส่งคลื่นเสียง ultrasound รูปแบบเฉพาะออกมาทางลำโพงทีวี มือถือจะรับเสียงนั้นผ่านไมโครโฟนเพื่อยืนยันว่าเป็นเครื่องที่อยู่ใกล้จริงๆ ก็เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการเชื่อมต่อ
วิศวกรของกูเกิลเคยโชว์การเชื่อมต่ออุปกรณ์ด้วยคลื่น ultrasonic เมื่อปีที่แล้ว แต่เป็นการเชื่อมมือถือกับโน้ตบุ๊ก หลักการแบบเดียวกันครับ
ที่มา - GigaOm, Ars Technica
Comments
ล้ำมาก!
เด็ก หมา แมว จะได้ยินไหมครับ
โคตรล้ำ!!
ลาก่อน Apple TV เริ่มจะหลุดจากบ่วงแอปเปิลได้ละ อีกนิดๆ
ผมเป็นลูกคนเล็ก
สัตว์เลี้ยงที่บ้านจะงี้ดๆไหมอะครับ
บ้านใครเลี้ยงวาฬ,โลมาหรือค้างคาวก็ดูแลกันดีๆนะครับ
เปลี่ยนเครื่อง Connect ที หมาหอนทีหนึ่ง สยองเบาๆ
ปรากฎว่าทีวีติด low-pass filter
ตึ่งโป๊ะ
ต้องลองๆ
งั้นต้องอยู่ที่สเป็คลำโพงมือถือด้วยว่าจะใช้ได้รึเปล่า?
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ผมไม่เห็นเค้าเขียนว่าใช้ลำโพงมือถือนะครับ มีแต่ลำโพงทีวี
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ไม่ได้เขียนแต่ว่า ตามนี้ครับ
มือถือ ส่งเสียงที่มนุษย์ไม่ได้ยิน (คลื่นความถี่สูง) ออกทางลำโพง
เสียง ก็คือพลังงานที่กระจายออกไปตามอากาศ
จากนั้น Chrome Cast ใช้ไมโครโฟนรับความสั่นสะเทือนแล้วตีความออกมาเป็นข้อมูล
(เทคโนโลยีเดียวกับ Wifi นั่นแหละ เป็นข้อมูลวิ่งอยู่บนอากาศเหมือนกัน แค่ความถี่เสียงนั้นต่ำกว่า จึงบรรจุข้อมูลได้ไม่เยอะ )
ก็ต้องขึ้นอยู่กับ ลำโพงด้วยหละมั้ง เพราะลำโพงตัวสำคัญในการส่งเสียงเลย
และถ้าลำโพงไม่ดีพอ หรือห่วยๆหน่อย อาจทำให้เกิดเสียงรบกวน หนวกหู ดังจี๊ดๆๆ เนื่องจากลำโพงรับไม่ไหว
จริงๆแล้ว ลองนึกถึงการต่อเน็ตสมัยก่อนก็ได้ที่ใช้โมเด็ม 56k เวลาต่อเน็ต จะได้ยินเสียงเฉพาะตัว
เสียงนั้นเกิดจาก ข้อมูลสั่นสะเทือนออกมาเป็นโทนเสียง
ผมอ่านตามข่าวเค้าให้โทรทัศน์(ที่ต่อกับ chromecast) ส่งเสียงให้โทรศัพท์นะครับ ไม่ได้ให้โทรศัพท์ส่งเสียงให้ chromecast ขั้นตอนอื่นคุยกันผ่าน internet ปกติได้หนิครับ มีแค่ครั้งเดียวเพื่อยืนยันว่าตำแหน่งใกล้กัน พยายามอ่านต้นทางแต่ไม่ได้อธิบายละเอียดเลยไม่แน่ใจเหมือนกัน
A nearby device then requests access to the Chromecast, and the Chromecast plays an ultrasonic sound through the connected TV's speakers. The sound is then picked up by the microphone in the device, which allows it to pair with the TV.
ปล. chromecast นี่มีไมค์รึเปล่า?
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ผมว่าอย่างน้อย ต้นเสียง และท้ายเสียง จะเป็นตัวหลักให้มือถือได้ยิน รู้ว่าต้องปรับ pitch ของเสียงระดับไหน
ยกตัวอย่าง 2d barcode ที่มีแถบต้นและปลายเป็นตัวบอกเปิดปิดข้อมูล
chrome cast ยังได้ไปต่อซินะ ไม่ต้องออกรุ่นใหม่มารองรับ L
เจ๋งอะ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
เป็นการแก้ปัญหาที่เฉียบแหลมดีมาก
ผมว่าคลื่นเสียงที่ว่า มันไม่มีข้อมูลอะไรเลย แค่เชคว่าเสียงดังกี่วินาทีก็พอ
จริงๆอาจเป็นรหัสมอสคำว่า google
ทีวี mute ไว้พอดี หาทางแก้กันทั้งวัน 555
ไปรู้จักกัน => ไม่รู้จักกัน หรือเปล่าครับ
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.