จากปัญหาค่าบริการจากการซื้อสินค้ารวมบิลกับค่าบริการโทรศัพท์ (Direct Carrier Billing - DCB) ในเกม Cookie Run เป็นมูลค่าสูงนับแสนบาท ตอนนี้ทางกสทช. ได้พูดคุยกับผู้ให้บริการเพื่อสร้างมาตรฐานร่วมกับผู้ให้บริการ
มาตรฐานการให้บริการเหล่านี้ได้แก่
- ทางผู้ให้บริการตัดเงินอย่าง Google Play ต้องขึ้นขอรหัสผ่านทุกครั้ง
- ค่าบริการจะตัดได้ไม่เกินครั้งละ 1000 บาท
- ค่าบริการจะรวมเข้ากับวงเงินโทรศัพท์
- ตั้งให้ส่ง SMS ไปยังหมายเลขที่ใช้งานและหมายเลขของพ่อแม่ทุกครั้งที่มีการใช้ DCB
ตามมาตรฐานนี้ ทาง AIS จะเปิดบริการ DCB อีกครั้งในวันที่ 22 กรกฎาคมนี้
ที่มา - @TakornNBTC
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Comments
ค่าบริการจะตัดได้ไม่เกินครั้งละ 1000 บาท
หมายถึงเดือนละครั้งรึเปล่าครับ ไม่งั้นกดซื้อ item ทีละชิ้นปกติก็ไม่เกิน 1000 อยู่แล้ว
ตั้งให้ส่ง SMS ไปยังหมายเลขที่ใช้งานและหมายเลขของพ่อแม่ทุกครั้งที่มีการใช้ DCB
หมายความว่าบ้านนั้นต้องมีโทรศัพท์มือถืออย่างน้อย 2 หมายเลขหรอครับ ถ้าเด็กเล่นจากเครื่องผู้ใหญ่ก็จะใช้ข้อนี้ไม่ได้
ครั้งละถูกแล้วครับ เพราะสุดท้ายจะถูกบล็อคจากวงเงินรวมอีกที
อีกข้อนี่ผมว่าก็ตรงไปตรงมานะครับ ถ้าเล่นเครื่องพ่อแม่คงไม่รู้จะให้ sms ไปแจ้งใครอีก
lewcpe.com, @wasonliw
ผมสงสัยว่าถ้าไม่มีอีกหมายเลขมารับ SMS จะขอเปิดบริการจ่ายเงินผ่าน DCB ได้มั้ย
ทีนี้เข้าใจว่าของ ais หลายๆ หมายเลขไม่มีวงเงิน ของผมไม่มีวงเงิน ใช้ได้ไม่จำกัด ต้องไปขอต้ังสินะ
คิดว่ามีกันทุกคนล่ะครับ ปกติใช้ใหม่ๆ น่าจะไม่เกิน2000 แล้วมันจะค่อยๆ ปรับตามการใช้งานโดยเฉลี่ยของเราแล้วคูณสอง เพื่อสามารถใช้ได้ต่อหากยังไม่จ่ายเงินเมื่อครบรอบบิลได้อีกเดือนนึง(เป็นข้อคิดเห็นไม่ใช่ข้อเท็จจริงนะครับ ^^)
The Dream hacker..
เบอร์ ais ของผมไม่มีวงเงินจริงๆ ครับ เคยถามไปทาง cc แจ้งว่าลูกค้าบาวรายใช้มานานๆ หรือประวัติชำระไม่มีปัญหาจะปลดออกครับ แต่ค่ายอื่นไม่เป็น
ต้องถามต่อว่าขอทาง CC ใส่ limit กลับได้ไหมครับ
เรื่องปลดหรือเพิ่มวงเงินเอง เป็นอีกประเด็นที่ผมมองว่าค่ายมือถือ "เอาเปรียบ" ผู้บริโภคครับ
lewcpe.com, @wasonliw
ของผมก็หาย
ได้ยินมาว่า วงเงินหายจากการ ย้ายค่าย มาเป็น 2100 นี่แหละครับ
ใส่ได้ครับจัดการเองในอีเซอวิสได้ด้วย
ข้อเท็จจริงคือเอไอเอสมีไม่จำกัดวงเงินครับ เบอร์ผมก็ไม่จำกัดวงเงิน แต่ถ้าโรมมิ่งไม่แน่ เพราะตอนมาอังกฤษวันแรก มันส่ง เอสเอมเอสมาเลยว่าจำกัดการใช้งานโรมมิ่งไม่เกินสองพันบาทถ้าอยากใช้เพิ่มให้โทรไปปลดล๊อค
roaming ล่ะครับ
ไม่อยากให้มองแค่มุมมองเดียววัวหายล้อมคอก อยากให้คิดทุกกรณีที่อาจจะเกิดขึ้นทำเป็น total credit limit
เช่น bts, smart purse, หรืออื่นๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย
หรือตั้งแยกได้ limit แต่ละ profile ไปเลย
เห็นด้วยครับ roaming ไม่เกิน 5,000-10,000 บาท อะไรอย่างนี้
แล้วกรณีตัดบัตรเครดิตล่ะครับ ธปท มีมาตรการอะไรแล้วยัง ผมว่ามันต้องมีกรณีแบบเดียวกันแน่ๆ
บัตรเครดิตมีกรณีตัดบัตรเกินวงเงินหรือครับ?
lewcpe.com, @wasonliw
หมายถึงซื้อเยอะปกติอย่างกรณีนี้น่ะครับ วงเงินผมสามแสนถ้าตัดจนครบวงเงินนี่มีหงายแน่นอน
บัตรเครดิตปกติถ้าซื้อเยอะผิดปกติน่าจะโทรหานะครับ ผมแค่จ่ายเงินผ่าน airbnb วันรุ่งขึ้นโทรมาถามเลยว่าใช้ไปหรือเปล่า
บัตรวงเงินสามแสนนี่คือความเสี่ยงสามแสนครับ ถ้ารับไม่ได้ควรโทรไปลดวงเงิน ผมเองลดวงเงินใช้เวลาไม่ถึงห้านาที
การผูกบัตรเครดิตคือมือถือเป็นเหมือนบัตรเครดิตไปด้วย ถ้าผูกบัตรวงเงินสูงๆ ไว้ก็ไม่ควรให้คนอื่นใช้ไม่ว่าใคร และควรล็อกให้เรียบร้อย
lewcpe.com, @wasonliw
ถ้าตัดไม่ใช่ความผิดเราเค้าตัดยอดออกให้ได้อยู่แล้วครับ แต่ถ้าเกิดจากใช้จริงจะมาอ้างว่าลูกกดไม่ได้หรอกครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ถ้าคุณไม่กล้าเอาเงินสามแสนบาทฝากลูกไว้ ก็ไม่ควรให้ลูกมีสิทธิในการใช้บัตรเครดิตวงเงินสามแสนของคุณครับ ฉันใดก็ฉันนั้น
จุดประสงค์ของบัตรเครดิตคือเพื่ออำนวยความสะดวกในการชำระเงิน ลดการพึ่งพาเงินสดและเพิ่มความปลอดภัยในการทำธุรกรรม (เทียบกับหอบธนบัตรเยอะๆ ไปจ่าย) ธนาคารช่วยได้แค่รักษาความปลอดภัยของระบบอย่างสมเหตุสมผล ส่วนธปท. มีหน้าที่แค่ดูว่าธนาคารและสถาบันการเงินอื่นทำตามเกณฑ์หรือไม่ ผู้ใช้เองก็มีหน้าที่จะต้องป้องกันความเสี่ยงของตัวเองด้วยครับ ถ้าไม่สามารถดูแลได้ก็ควรลดหรือยกเลิกวงเงินเสีย
อย่างนี้ซื้อ app ราคาเกิน 1000 บาทไม่ได้สิเนี่ย
คงต้องซื้อผ่านบัตรเครดิตแทนครับ โอเคละครับ ของธนาคาร ถ้ามียอดผิดปกติ เปปเดียว แบงค์โทรหาเลยครับ
ผมเข้าใจว่ามาตรการนี้ออกมาเพื่อช่วยผู้ปกครองควบคุมค่าใช้จ่ายให้ลูกหลานนะครับ สังเกตว่ามีมาตรการร่วมอื่นๆ ด้วยเช่นส่ง sms ไปแจ้งที่เบอร์ของผู้ปกครอง ฯลฯ
คงมีเด็กไม่กี่คนที่จะซื้อ app ราคาเกิน 1000บาท/ครั้ง ถ้านานๆ ทีก็ใช้ช่องทางอื่นๆ เช่น ชำระผ่านบัตรเครดิตแทน
น้อยไปนะ -.- ถ้าให้ชัก 4000-5000 ก็ยังโอเค
1000 บาท "ต่อครั้ง" นะครับ ไม่ใช่ทั้งเดือน
oops.
ต่อครั้งก็น้อยไปครับ เพราะว่าบางอย่างราคา 3-4 พัน หรือมากกว่าแล้วแต่ค่าย
ได้พูดคุยกับผู้ให้บริการเพื่อสร้างมาตรฐานร่วมกับ ??
I am Cortana.
Nice to meet you.
เค้าไม่ได้ห้ามไม่ให้ซื้อหนิครับ ถ้าอยากซื้อเกิน 1,000 บาท มีช่องทางอีกมากมายให้เลือกใช้
ทั้งบัตรเครดิต บัตรเติมเงิน เป็นต้น
ผมว่ากรณีที่ต้องการเกิน 1000 บาทน่าจะโทรไปหา CC ขอเพิ่มวงเงินชั่วคราวได้นะครับ
ซึ่งก็จะเหมือนกรณีที่เพิ่มวงเงินการใช้งานโทรศัพท์ของเดิมที่มีอยู่แล้ว
แบบนี้ก็รับได้นะครับ เหมือน 1,000 บาท เป็นวงเงินเริ่มต้นที่ถือเป็นความคุ้มครองพื้นฐาน
ถ้าอยากได้เพิ่ม ผุ้ใช้ก็สามารถเรื่องขอได้ แต่ก็หมายความว่า ความคุ้มครองก็จะลดน้อยลงหรือไม่มีเลย
เพราะผู้ใช้งานเป็นคนขอเอง
เลือกตัดบัตรเครดิต/Paypal/อื่นๆที่ไม่ใช่ Operator Billing ครับ
ซึ่งคนที่มีกำลังซื้อสูงขนาดรวดเดียว 3000+ บาทเขาก็น่าจะมีวิธีจ่ายเงินแบบอื่นๆที่ไม่ใช่ Operator Billing อยู่แล้วครับ
เห็นด้วยอย่างมากเลยครับ
ถ้าจะซื้อของราคาแพงขนาดนั้น ไปตัดบัตรเครดิตแทนเหอะครับ ราคาถูกกว่าตั้ง 7-10% -_-
แบบนี้เวลามีโปรซ์้อเยอะๆ ก็ซ์้อไม่ได้สิ
แต่ผมว่านะ คนที่เติมจริงเลือกทำ Debit card กันหมดแหละ
ซื้อของราคาสูงกว่า 1000 ก็แย่เลย น่าจะให้คนเขากำหนดวงเงินเอง แต่ไม่เกิน 25000 อะไรประมาณนี้ น่าจะดีกว่า
ผมว่าโอเคนะ เพราะ
1 ที่ว่าซื้อแพงๆ ไม่ได้ ผมว่าบิลที่ตัดกับมือถือนี่ เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีบัตร ไม่สะดวกใช้บัตร ไม่เคยคิดจะซื้ออะไรแพงๆ อยู่แล้ว ถ้าอยากซื้อเกิน 1000 หาทางอื่นเอาเถอะ
2 ส่วนตัว ผมว่า 1000 บาทยังแพงไปด้วยซ้ำ ควรจะประมาณ แค่ ครั้งละไม่เกิน 300-450 (9.99-15$) ด้วยซ้ำ
3 เป็นโอกาสอันดีที่ Google จะเอา Gift Card มาขายในไทย อิๆ
ซื้อเกมตระกูล Final Fantasy ไม่ได้นะครับนั่น
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
Final Fantasy ต่อ 1 ภาคจะไม่เกิน 1,000 บาทครับ (เช็คมาแล้วทุกภาคตั้งแต่ตอนออกใหม่เลย) เพราะส่วนนี้มันคิดต่อครั้งไม่ใช่หรือ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
คุณ xnone เค้าเสนอว่าไม่ควรเกิน 450 ผมเลยตอบเค้าว่าซื้อ FF ไม่ได้
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
แล้ว set item ราคา 79.99$ หละ...