ในงานสนทนา Fireside ซึ่งจัดโดย Khosla Ventures โดยมีผู้ก่อตั้งกองทุน Vinod Khosla เป็นผู้สัมภาษณ์และมี Larry Page กับ Sergey Brin เป็นแขกร่วมสนทนา เนื้อหาตอนหนึ่ง Khosla ถามว่ากูเกิลมีวิธีบริหารจัดการโครงการใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้นตลอดอย่างไร ซึ่ง Page บอกว่าวิธีการก็ตรงไปตรงมา เมื่อมีโครงการมากขึ้น ก็เพิ่มจำนวนคนให้มากขึ้น
Page ได้เปิดประเด็นต่อไปว่ากูเกิลเป็นบริษัทใหญ่ และการที่มีพนักงาน 30,000 คนทำงานแค่ไม่กี่อย่างนั้นทำให้กูเกิล "ดูไม่น่าสนใจ" เอาเสียเลย เขายังยกตัวอย่างแอปเปิลว่าเป็นบริษัทที่ใหญ่มาก แต่กลับทำผลิตภัณฑ์ขายแค่ไม่กี่อย่าง ซึ่งในอดีตเขาเองก็เคยถูกสตีฟ จ็อบส์บอกว่ากูเกิลทำหลายอย่างพร้อมกันมากเกินไป
ด้าน Brin ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องการทำอุปกรณ์สวมใส่เข้ากับการวัดผลด้านสุขภาพว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมากในอเมริกา เพราะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด
ที่มา: Cult of Mac
Comments
บทสัมภาษณ์นี้ยิ่งทำให้แอปเปิล "ดูน่าสนใจ" ขึ้นเยอะเลย ผลิตภัณฑ์ชิ้นนึงมีคนดูแลจำนวนมาก สบายใจที่จะใช้
ถ้าไม่ใช่แอปเปิ้ลเราอาจจะเจอคอมเม้นท์ประเภท มีคนเยอะ โปรดักท์นิดเดียว จ้างมานั่งเฉย ๆ หรือเปล่าเนี่ย แหง ๆ :)
แอปเปิ้ลเขาเครดิตดีจริง ๆ นั่นแหละ
อาจจะเพราะแอปเปิ้ลเครดิตดี หรืออาจจะเพราะสินค้าแอปเปิ้ลมีคุณภาพก็ได้นะครับ
หรือเครดิตดี = สินค้ามีคุณภาพ ? 555
เพราะในข่าวเค้าพูดไปแล้วมั๊งครับ /แอปเปิลทำไรก็ไม่ผิด ขนาดทำผิด ยังไม่ผิดเลย แฮ่
อย่าง Antenna iPhone 4 ก็โดนด่าเยอะนะครับ
หรือ Ping เจ๊งก็โดนด่าครับ
เรื่อง Confabulator นี่ถ้าไม่ใช่แฟนแบบหนักๆก็ด่ากันเยอะเหมือนกัน
มันเป็นสองมุมมองสองแนวทางซึ่งก็แล้วแต่ว่าจะเลือกเดินทางไหนนะ
"แนว"ทางใครทางมัน
นี่ขนาดไม่น่าสนใจนะ ยังเตะ apple ชะปลิวกระเด็น
จ้ะ
บริการส่วนใหญ่ของ Google ทั้ง Search, Maps, Android ได้เงินจากลูกค้าทางอ้อมทั้งนั้น
ส่วน Apple ขายสินค้าและบริการที่ทำเงินจากลูกค้าโดยตรง
โมเดลธุรกิจต่างกัน วิธีการหาเงินก็ต่างกัน วิธีการบริหารก็คงจะต้องต่างกันด้วยมั้ง แต่ผมชอบแนว Apple มากกว่านะ มันดูมุ่งมั่นดี คนเยอะๆ ทำของไม่กี่อย่างให้ดีไปเลย แล้วมันเหมือนผู้ผลิต-ลูกค้าได้สัมพันธ์กันโดยตรงมากกว่า
หันกลับมามองกรณี Apple กับ Samsung ถึงแม้โมเดลธุรกิจคล้ายกันคือทำสินค้าและบริการ(ที่แป้กแล้วแป้กอีก)ขายให้ลูกค้าโดยตรง แต่สร้างความรู้สึกไว้เนื้อเชื่อใจให้ลูกค้าไม่ได้เลย
"ใช่ครับ" ช่วงหลังๆ มานี้ได้ยินข่าวบ่อยๆ และเจอกับตัวเอง เช่น อาการจอเหลือง, battery ระเบิด จนมั่นใจกับความรู้สึกไม่ไว้ใจสินค้าจากจีนเหมือนที่เป็นมาตลอด จะซื้อแต่ละทีต้องดูของดีๆ ด้วยตัวเอง
ข้อควรระวัง: ก่อนซื้อต้องตรวจสอบสินค้าเหล่านี้ให้ดี Made in China, Made in Thailand, ..., Made on Earth.
อยากรู้ว่าในบริษัท Larry Page กับ Sergey Brin ใครมีบารมี มากกว่ากัน
บู๊ กะ บุ๋น ดูยาก
แต่ผมว่ารวมๆตอนนี้น่าจะเป็น Schmidt
คำถามปัญหาโลกแตก Larry Page เป็น CEO ที่น่าเกรงขามก็จริงแต่ Brin ลุยงานกับลูกน้องพบปะพนักงานอยู่เป็นประจำ
ดูยาก บารมีพอๆกัน2คนนี้
** กูเกิลเป็นบริษัทใหญ่ และการที่มีพนักงาน 30,000 คนทำงานแค่ไม่กี่อย่างนั้นทำให้กูเกิล "ดูไม่น่าสนใจ" **
ผมว่ามันเป็นรูปประโยคที่แย้งกัน น่าจะมีคำว่า"ถ้า" กับ "จะ" ตัดนิด เพิ่มหน่อยมันจะอ่านลื่นขึ้น เช่น
** ถ้ากูเกิลเป็นบริษัทใหญ่ และการมีพนักงาน 30,000 คนที่ทำงานแค่ไม่กี่อย่างนั้นจะทำให้กูเกิล "ดูไม่น่าสนใจ" **
หรือ
** กูเกิลเป็นบริษัทใหญ่ และถ้าการที่มีพนักงาน 30,000 คนแล้วทำงานแค่ไม่กี่อย่างนั้นจะทำให้กูเกิล "ดูไม่น่าสนใจ" **
ลองพิจารณาครับ
อิจฉา พูดให้ตัวเองดูดี
มันก็จริงอย่างที่เค้าว่านั่นแหละ โปรเจ็คที่ล่มไปของ Google มันเยอะจริง ๆ
เหมือนสตาร์ทอัพเกิดใหม่ร้อยรายจะอยู่รอดและเติบโตไม่ถึงห้ารายแหละครับ
เฮียแกเลยเล่นบทสองสามร้อยบริษัทซะเลย :v ลองผิดลองถูกไว้ก่อน
ขอให้ได้ลองของใหม่ไปเรื่อยๆ อยู่รอดสักอันก็คืนทุนที่ลงไปร้อยอันล่ะ ทุนเยอะ
อ่านแล้วก็ไม่เห็นมีอะไรนะ อีกอย่างคนตายไปแล้วคงจะมาพูดตอบอะไรไม่ได้
ทำล้ม ๆ และปัญหาด้านความเป็นส่วนตัวที่มักสวนทางกับโมเดลการหารายได้ แล้วภาพลักษณ์แบรนด์มันจะไม่ดี แบบนี้คือต้องทำเฉพาะบริการแล้วให้พาร์ทเนอร์มาผลิตดีไวซ์ให้ ถ้าทำเองก็มีสิทธิ์แป้กแบบไมโครซอฟท์
โปรเจคเกิดๆ ตายๆ ของ Google ช่างมากมาย
ก็โอเคนะ อย่างน้อย google.com , gmail , android ก็กลายเป็นสิ่งที่คนเกือบทั้งโลกใช้
ผมเองใช้ของ Apple เป็นหลัก แต่ขาด Google ไม่ได้เลย
แต่อย่าลืมความจริงที่ว่า Google เองก็เกิดขึ้นมาได้จากโปรดักที่ชื่อว่า Google search ที่เจ๋งจริงๆ ซึ่งป็นผลิตผลมาจากการที่สองคนทุ่มเทให้กับมันอย่างจริงจังเพียงอย่างเดียวในช่วงเริ่มต้น
เค้าก็ใช้คน (อย่างน้อย) 5คน ต่อการจริงจัง 1 อย่างไงครับ แต่พอดีมันมี 30000 คน มันเลยมีออกมาหลายอย่าง 555