Elon Musk ในฐานะซีอีโอ Tesla และ xAI ประกาศว่าบริษัทได้ปรับขึ้นเงินเดือนและสิทธิประโยชน์ กับพนักงานในฝ่ายวิศวกรรรม AI ของ Tesla รวมทั้ง xAI บริษัทที่พัฒนาด้าน AI ของเขาด้วย
สาเหตุนั้น Musk บอกว่าเริ่มจาก Ethan Knight วิศวกรฝ่าย Computer Vision ของ Tesla มีแผนจะลาออกไปอยู่ OpenAI เขาจึงให้ข้อเสนอที่สูงกว่าและไปทำงานที่ xAI แทน เขายังบอกว่า OpenAI นั้นพยายามดึงตัววิศวกร AI จาก Tesla อยู่ตลอด โดยเสนอเงินเดือนที่สูง แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยสำเร็จ
Sergey Brin ผู้ร่วมก่อตั้งกูเกิลหายหน้าไปนานหลายปี ก่อนที่ปีที่แล้วมีข่าวว่าเขากลับมาร่วมโครงการพัฒนา Gemini ด้วยตัวเอง
ล่าสุด Brin กลับมาปรากฏตัวในงานสัมมนา AGI House ในแคลิฟอร์เนีย และตอบคำถามนักพัฒนา ผู้ก่อตั้งสตาร์ตอัพที่เข้าร่วมงานในเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะกรณี Gemini ทำงานผิดพลาดเรื่องการสร้างภาพคน
Brin ยอมรับว่ากูเกิลทำงานพลาด (We definitely messed up) เขาคิดว่าเหตุผลหลักมาจากการทดสอบที่ไม่เพียงพอ และความผิดพลาดของกูเกิลก็ทำให้คนจำนวนมากไม่พอใจ
The Wall Street Journal รายงานว่าผลจากกระแสของ AI ทำให้ตอนนี้ Sergey Brin ผู้ร่วมก่อตั้งกูเกิล กลับเข้ามาร่วมประชุมที่สำนักงานใหญ่ของกูเกิลเป็นประจำ โดยเขาเข้ามาทำงานที่สำนักงานสัปดาห์ละ 3-4 วัน งานหลักคือประชุมกับฝ่ายวิจัยพัฒนาด้าน AI
Brin และ Larry Page ผู้ร่วมก่อตั้งกูเกิลอีกคน ลดบทบาทการทำงานประจำที่กูเกิลมาหลายปีแล้ว เหลือเฉพาะการเป็นผู้ถือหุ้นและกรรมการบริษัท แต่จากการพัฒนาที่รวดเร็วของแชทบอต AI ในปีที่ผ่านมา ทำให้มีข่าวว่าทั้งสองคนเริ่มกลับมาช่วยงานกลยุทธ์มากขึ้น
มีรายงานจาก The New York Times เผยว่าเมื่อเดือนที่แล้ว Larry Page และ Sergey Brin สองผู้ก่อตั้งกูเกิล ซึ่งปัจจุบันลดบทบาท และไม่ได้ทำงานกับกูเกิลมากนัก ได้เรียกประชุมผู้บริหารระดับสูงของกูเกิล เพื่อหารือผลกระทบจากเสิร์ชแชตบอต และวางกลยุทธ์การนำแชตบอตมาใช้กับเสิร์ชของบริษัท
ในสไลด์การประชุม พูดถึงแผนการนำแชตบอตไปใช้กับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของกูเกิลที่มีอยู่แล้ว ซึ่งโครงการนี้ซีอีโอ Sundar Pichai ให้ความสำคัญสูง มีโค้ดเนมภายในว่า code red ซึ่งกูเกิลตั้งเป้าเปิดตัวแชตบอตในมากกว่า 20 ผลิตภัณฑ์ของบริษัทภายในปีนี้ โดยคาดว่าจะเปิดตัวในงาน I/O ช่วงกลางปี
Elon Musk โพสต์ภาพถ่ายคู่กับ Sergey Brin ผู้ร่วมก่อตั้งกูเกิล เป็นการแก้ข่าวลือก่อนหน้านี้ ที่ Wall Street Journal รายงานว่า Musk ไปมีสัมพันธ์กับ Nicole Shanahan อดีตภรรยาของ Brin ที่เพิ่งหย่ากันเมื่อเดือนมิถุนายน 2022 โดยทั้ง Musk และ Brin เป็นเพื่อนกันมายาวนาน และ Brin ลงทุนใน Tesla ตั้งแต่ปี 2008
ก่อนหน้านี้ Musk ออกมาตอบโต้ข่าวนี้ว่าไม่เป็นเรื่องจริง ในขณะที่ Sergey Brin ไม่ปรากฏตัวต่อสื่อมานานมากแล้ว และไม่มีบัญชีโซเชียลใดๆ ต่อสาธารณะ
Musk ยังโพสต์ต่อเนื่องว่าตอนนี้มีคนสนใจชีวิตของเขามากเกินไปแล้ว และสื่อก็พยายามเรียกความสนใจ เรียกคลิก จากการเขียนประเด็นเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับตัวเขา
Sergey Brin ผู้ร่วมก่อตั้งกูเกิล หย่ากับภรรยาคนที่สอง Nicole Shanahan หลังแต่งงานกันมาได้ 3 ปี การหย่าของมหาเศรษฐีอันดับหกของโลกอย่าง Brin ทำให้เป็นการหย่าที่มีทรัพย์สินมาเกี่ยวข้องด้วยมหาศาล เป็นรองแค่การหย่าของ Jeff Bezos เมื่อปี 2019 เท่านั้น
Sergey Brin แยกทางกับภรรยาคนแรก Anne Wojcicki เมื่อปี 2013 และหย่าขาดจากกันในปี 2015 จากนั้นเขาแต่งงานกับภรรยาคนที่สอง Nicole Shanahan ในปี 2018 และมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน
ส่วนเรื่องการแบ่งทรัพย์สินหลังหย่ากัน ตามข่าวบอกว่าจะเจรจากันภายหลัง โดยอิงจากข้อตกลงก่อนแต่งงานที่มีอยู่แล้ว
Larry Page และ Sergey Brin สองคู่หูผู้ก่อตั้งกูเกิลเงียบหายไปนานหลายปี (ทั้งสองคนยังเป็นบอร์ด Alphabet แต่ไม่มีตำแหน่งบริหารแล้ว)
ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวของ Sergey Brin ที่หันไปทำบริษัทส่วนตัวด้านเรือเหาะ ชื่อว่า Lighter Than Air (LTA) Research ซึ่งตอนนี้มีพนักงานด้านวิศวกรการบินหลายร้อยคนแล้ว และกำลังจะทดสอบการบินภายในปี 2022 นี้
Sergey Brin ผู้ก่อตั้งกูเกิล สร้างองค์กรการกุศลเพื่อป้องกันภัยพิบัติ Global Support and Development (GSD) ขึ้นมานานแล้ว และสร้างขึ้นอย่างเงียบๆ โดยคนที่ทำงานใน GSD ครึ่งหนึ่งเป็นทหารผ่านศึก และอดีตบอดี้การ์ดของ Brin เอง
ใน GSD มีเทคโนโลยีทันสมัยอย่างโดรน, เรือยอชต์แจกจ่ายสิ่งของจำเป็นในเขตภัยพิบัติ และได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือผู้คนในภัยพิบัติครั้งสำคัญในสหรัฐฯเช่น พายุโดเรียน รวมถึงโรคระบาด COVID-19 ด้วย
Larry Page และ Sergrey Brin สองผู้ก่อตั้งกูเกิลประกาศลาออกจากตำแหน่งซีอีโอและประธาน Alphabet (ตามลำดับ) ประกาศลาออกจากทั้งสองตำแหน่ง ทำให้คงเหลือแต่ตำแหน่งผู้ร่วมก่อตั้ง, ผู้ถือหุ้น, และกรรมการบริษัท โดย Sundar Pichai ซีอีโอกูเกิล จะขึ้นมารับตำแหน่งซีอีโอ Alphabet ควบไปด้วย
Larry และ Sergrey เขียนจดหมายเปิดผนึก ระบุว่านับจากการตั้งบริษัท ตอนนี้ก็ 21 ปีแล้ว หากบริษัทเป็นคนก็กำลังเป็นผู้ใหญ่ และทั้งสองคนก็น่าจะเป็นผู้ปกครองคอยให้คำปรึกษาและความรักมากกว่าการบ่นรายวัน
อย่างที่ทราบกันแล้วว่า Google+ บริการโซเชียลของกูเกิล ที่เคยหมายมั่นปั้นมาเป็น Social Network ตัวใหม่ ได้ประกาศปิดตัวในปีหน้า สิ่งน่าสนใจคือหลายคนก็ยังใช้งาน Google+ อยู่ เพียงแต่เมื่อไปดูผู้บริหารระดับสูงของกูเกิล ... พวกเขาเลิกใช้มาระยะหนึ่งแล้ว
Business Insider รวบรวม Google+ ของผู้บริหารระดับสูงในกูเกิล พบว่าทุกคนเลิกใช้ Google+ (โพสต์แบบสาธารณะ) มาเป็นเวลาพอสมควรแล้ว
ในงานสัมมนาเกี่ยวกับ Blockchain ที่มหาเศรษฐีชาวอังกฤษ Richard Branson จัดขึ้นในโรงแรมของเขาที่โมร็อกโก โดยเนื้อหาหลักเป็นการพูดคุยกันถึงโอกาสของเทคโนโลยี Blockchain มีประเด็นน่าสนใจเมื่อ Sergey Brin ประธานบอร์ด Alphabet และผู้ร่วมก่อตั้ง Google เปิดเผยว่าเขาเองก็ทำเหมืองขุดเงินคริปโต Ethereum อยู่เหมือนกัน
Brin เล่าว่าเรื่องเริ่มจากลูกชายเขามาขอให้ซื้อเกมมิ่งพีซีเครื่องใหม่ เขาก็เลยตอบไปว่า ทีนี้นอกจากได้เกมมิ่งพีซีแล้ว เราก็ได้เหมืองขุดเงินคริปโตด้วย จึงได้เริ่มขุดเงิน Ethereum ซึ่งก็ทำเงินไม่มากนัก (a few pennies, a few dollars)
กูเกิลออกแถลงการณ์วันนี้ถึงแผนการปรับโครงสร้างองค์กร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การบริหารงานในส่วนธุรกิจใหม่ๆ ทั้งหลายมีความคล่องตัวมากขึ้น ที่ผ่านมาส่วนธุรกิจใหม่ของกูเกิลอย่างเช่น Nest, Calico หรือโครงการอย่าง Google X ถูกตั้งคำถามว่าจะสร้างประโยชน์อย่างไรให้กับกูเกิลในฐานะบริษัทแม่ ซึ่งโครงสร้างองค์กรใหม่จะแก้ปัญหาดังกล่าว มีรายละเอียดดังนี้
สำนักข่าว Reuters รายงานข่าววงในว่า Google Glass ดูท่าจะไปไม่รอดแล้ว หลังผลิตภัณฑ์ไม่ได้รับเสียงตอบรับจากตลาดกระแสหลักมากนัก นักพัฒนาแอพภายนอกบริษัทเริ่มหันไปทำอย่างอื่น (หรือทำแอพ Glass สำหรับภาคธุรกิจแทนที่จะเป็นคอนซูเมอร์)
ในฝั่งของกูเกิลเองก็มีสัญญาณไม่ค่อยดีเช่นกัน โดยแกนหลักของทีม Google Glass ลาออกจากบริษัทไปหลายคน หรือแม้แต่ Sergey Brin ผู้ร่วมก่อตั้งกูเกิลและผู้นำทีม Google X ที่เราเห็นเขาใส่แว่น Glass อยู่บ่อยๆ ก็เริ่ม "วางแว่นทิ้งไว้ในรถ" แล้ว
เทศกาลเทน้ำแข็งราดตัวยังระบาดต่อไปเรื่อยๆ คราวนี้เป็นคิวของสองคู่หูผู้ก่อตั้งกูเกิล Larry Page และ Sergey Brin บ้างครับ
Larry Page ถูกแท็กมาจาก Satya Nadella ซีอีโอไมโครซอฟท์ แต่เขาไม่ยอมถูกราดคนเดียว เลยนำคู่หู Sergey Brin มาถูกราดพร้อมกันด้วย
ในวิดีโอไม่ได้บอกว่าสองผู้ก่อตั้งกูเกิลส่งหน้าที่ให้ใครต่อ แต่โดยรวมแล้ว ตอนนี้ซีอีโอของกูเกิล แอปเปิล ไมโครซอฟท์ เฟซบุ๊ก ถูกราดน้ำกันครบหมดแล้ว
สองผู้ก่อตั้งกูเกิล Larry Page และ Sergey Brin ให้สัมภาษณ์กับ Vinod Khosla นักลงทุนชื่อดัง (อันเดียวกับข่าวนี้) เล่าประวัติศาสตร์กูเกิลในช่วงแรกที่เกือบจะขายให้ Excite เว็บค้นหารายใหญ่ในช่วงนั้น
Brin เล่าว่าตอนนั้นพวกเขาพัฒนาเทคนิคค้นหา PageRank (เขากล่าวติดตลกว่าเสียดายที่ไม่ชื่อ BrinRank) แต่ยังไม่สมบูรณ์ เพราะมีแต่ข้อมูล title และ URL ของเว็บเพจ ไม่มีตัวเนื้อหาของเพจจริงๆ ในช่วงนั้นเขาโชว์เทคโนโลยีนี้ให้บริษัทด้านค้นหาหลายราย เช่น Infoseek, Excite, Lycos แต่ไม่มีรายไหนสนใจมากนัก
ในงานสนทนา Fireside ซึ่งจัดโดย Khosla Ventures โดยมีผู้ก่อตั้งกองทุน Vinod Khosla เป็นผู้สัมภาษณ์และมี Larry Page กับ Sergey Brin เป็นแขกร่วมสนทนา เนื้อหาตอนหนึ่ง Khosla ถามว่ากูเกิลมีวิธีบริหารจัดการโครงการใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้นตลอดอย่างไร ซึ่ง Page บอกว่าวิธีการก็ตรงไปตรงมา เมื่อมีโครงการมากขึ้น ก็เพิ่มจำนวนคนให้มากขึ้น
Page ได้เปิดประเด็นต่อไปว่ากูเกิลเป็นบริษัทใหญ่ และการที่มีพนักงาน 30,000 คนทำงานแค่ไม่กี่อย่างนั้นทำให้กูเกิล "ดูไม่น่าสนใจ" เอาเสียเลย เขายังยกตัวอย่างแอปเปิลว่าเป็นบริษัทที่ใหญ่มาก แต่กลับทำผลิตภัณฑ์ขายแค่ไม่กี่อย่าง ซึ่งในอดีตเขาเองก็เคยถูกสตีฟ จ็อบส์บอกว่ากูเกิลทำหลายอย่างพร้อมกันมากเกินไป
จากข่าว Sergey Brin แยกกันอยู่กับภรรยาและมีแฟนใหม่เป็นพนักงานกูเกิล ทำให้หลายๆ ท่านสงสัยว่าพนักงานคนนั้นคือใคร
เมื่อเร็วๆ นี้แหล่งข่าวจาก ValleyWag ได้ไปสืบทราบมาว่าเธอคือสาวน้อยชาวอังกฤษวัย 26 ปี ที่มีชื่อว่า Amanda Rosenberg ครับ ปัจจุบันเธอทำงานอยู่ที่กูเกิลมา 5 ปี (ตั้งแต่เธอเรียนจบ) ตอนนี้ดำรงตำแหน่ง marketing manager สำหรับผลิตภัณฑ์ Google Glass ในกูเกิลอยู่ และที่สำคัญเธอยังเป็นผู้คิดค้นวลีเด็ดที่ใช้สำหรับเริ่มต้นการป้อนคำสั่งให้ Google Glass นั่นก็คือ "OK Glass," นั่นเอง
สามารถเข้ามาดูรูปของเธอชัดๆ ได้จากในข่าวครับ ในความคิดผมเธอสวยมาก
Sergey Brin ผู้ร่วมก่อตั้งกูเกิล แยกกันอยู่กับภรรยา Anne Wojcicki หลังจากแต่งงานมา 6 ปีและมีลูกด้วยกัน 2 คน (ยังไม่หย่าขาดจากกันในทางกฎหมาย)
แหล่งข่าวของเว็บไซต์ AllThingsD ยังให้ข้อมูลว่า Brin มีความสัมพันธ์ครั้งใหม่กับพนักงานกูเกิลคนหนึ่งแล้ว แต่เรื่องราวก็ซับซ้อนเพราะพนักงานกูเกิลคนนี้ก็เคยมีความสัมพันธ์กับพนักงานกูเกิลอีกคนหนึ่งด้วย (ไม่มีข้อมูลว่าเกี่ยวกับ Hugo Barra หรือเปล่านะครับ อาจเป็นคนละกรณีกันเลยก็ได้)
Sergey Brin ผู้ร่วมก่อตั้งกูเกิลไปพูดที่งาน TED 2013 เขาบอกว่าสมาร์ทโฟนเป็นอุปกรณ์ที่ไม่มีประสิทธิภาพ (emasculating) ผู้ใช้ยืนอยู่ที่ไหนสักแห่งแล้วเอานิ้วถูกกระจกไปเรื่อยๆ
แน่นอนว่า Brin ถือว่า Google Glass มีประสิทธิภาพมากกว่า และช่วยแก้ปัญหาของสมาร์ทโฟนหลายจุด เช่น กล้องถ่ายภาพที่พร้อมทำงานตลอดเวลา และการแสดงข้อมูลที่ผู้ใช้ต้องการขึ้นมาบนหน้าจอก่อนที่ผู้ใช้จะถามหาเสียอีก (เขาบอกว่านี่คือเทคโนโลยีการค้นหาในอุดมคติ ที่เขาพยายามทำมา 15 ปีแล้ว)
ที่มา - CNET
Sergey Brin เผยถึงความจริงที่น้อยคนจะรู้ว่า ก่อนที่เขาจะร่วมมือกับ Larry Page สร้าง Google เขาได้พยายามทำระบบสั่งพิซซ่าผ่านเว็บมาก่อน แต่มันไม่ประสบความสำเร็จ
Brin ได้ขึ้นเวทีกล่าวบรรยายในงานประชุมซีอีโอของ Google Venture เมื่อปีก่อน (แต่เพิ่งมีคลิปวิดีโอเผยแพร่เมื่อเร็วๆ นี้) โดยเขาได้เล่าเรื่องราวในช่วงปี 1993-1994 ก่อนที่จะมี Google ถือกำเนิดขึ้นว่า ตอนที่เขาเป็นนักศึกษาอยู่ที่มหาลัยสแตนฟอร์ด เขาและเพื่อนคิดที่จะพัฒนาระบบสั่งพิซซ่าด้วยคอมพิวเตอร์ ทว่ามันกลับล้มเหลวไม่เป็นท่า
ถึงแม้ว่ากูเกิลและเฟซบุ๊กเป็นคู่แข่งกันโดยตรง และแต่ละฝ่ายก็โจมตีฝ่ายตรงข้ามอยู่เสมอ
แต่เมื่อ Mark Zuckerberg ไปร่วมงานแถลงข่าวการประกวดความคืบหน้าด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพ (Life Sciences) งานเดียวกับ Sergey Brin ผู้ก่อตั้งกูเกิลและหัวหน้าโครงการ Google Glass เราเลยได้เห็นข่าว (เพราะไม่มีภาพ) ว่า Sergey Brin ถอดแว่น Glass แล้วนำไปใส่เข้ากับหัวของ Zuckerberg จนได้
ตามข่าวบอกว่าสองคนนี้แอบไปนั่งคุยกันด้านหลังห้องประชุม และเมื่อ Zuckerberg ร่วมแถลงข่าวเสร็จ เขาก็ตรงมาหา Brin ทันที
Zuckerberg บอกกับผู้สื่อข่าวว่าอยากได้ Glass ของตัวเองแล้ว และตอนนี้เฟซบุ๊กก็ตั้งทีมวิศวกรจำนวน 3 คน เตรียมพัฒนาแอพสำหรับ Google Glass ทันทีที่ได้รับของ
แม้ว่าเซอร์เก้ บริน ผู้ร่วมก่อตั้งกูเกิล มีเงินมากพอที่จะขึ้นรถลีมูซีนไปไหนมาไหนได้สบาย ๆ แต่ล่าสุดมีผู้พบเห็นเขานั่งรถไฟใต้ดินสาย 3 ในกรุงนิวยอร์ค พร้อมสวม Google Glass อยู่ด้วย
สำหรับเหตุผลที่เขาขึ้นรถไฟใต้ดิน พร้อมกับสวม Google Glass ไปด้วยนั้นยังไม่มีใครทราบแน่ชัด เป็นไปได้ว่าเขาอาจจะกำลังทดสอบการใช้งาน Google Glass ในที่อับสัญญาณด้วยตัวเอง
เช่นกัน เมื่อเดือนที่แล้วนี้มีผู้พบเห็นชายคนหนึ่งที่กำลังสวม Google Glass เวอร์ชันที่ออกแบบมาสำหรับคนที่สายตาสั้นกลางกรุงนิวยอร์ค เพราะฉะนั้นคนที่ใส่แว่นก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปแล้วว่าสามารถใช้ Google Glass ได้หรือไม่
ผู้ก่อตั้งกูเกิล Sergey Brin ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่าจะวางขาย Google Glass ให้ได้ในปี 2014
Brin กล่าวว่าที่ต้องรอถึงปี 2014 เพราะกูเกิลอยากได้ข้อมูลป้อนกลับ (feedback) จากนักพัฒนาก่อน เขายังเสริมว่ากูเกิลได้รับไอเดียที่แปลกใหม่และข้อมูลป้อนกลับจำนวนมากหลังการเผย Google Glass สู่สาธารณะเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา บริษัทจึงตัดสินใจเข้าสู่ขั้นถัดไปโดยเปิดให้นักพัฒนามาทดสอบและป้อนกลับข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาที่กูเกิล ซึ่งจะมีผลต่อการปรับปรุงการออกแบบและซอฟต์แวร์ในอนาคตต่อไป
ที่มา: Bloomberg Television
ต่อเนื่องจากบทสัมภาษณ์ของ Sergey Brin ผู้ร่วมก่อตั้งกูเกิล ที่ให้สัมภาษณ์กับ The Guardian ว่า Facebook และ Apple เป็นภัยต่อเสรีภาพในอินเทอร์เน็ต
ล่าสุด Brin ออกมาแก้ข่าวผ่าน Google+ ของเขาแล้ว โดยเขาบอกว่านักข่าวของ The Guardian อาจเขียนไม่ตรงประเด็นกับที่เขาต้องการจะสื่อนัก
Brin บอกว่าประเด็นหลักที่เขาให้สัมภาษณ์คือ "เสรีภาพของอินเทอร์เน็ต" ซึ่งเขามองว่าปัญหาสำคัญและอันตรายที่สุดในตอนนี้คือ รัฐบาลประเทศต่างๆ ทั่วโลก (รวมถึงสหรัฐ) ที่เซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ตในมิติต่างๆ
Sergey Brin หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Google ได้ออกมาแถลงถึงภัยคุกคามของเสรีภาพในอินเทอร์เน็ต 3 อย่างด้วยกัน โดยมีการพาดพิงถึง Apple และ Facebook ด้วย
Sergey กล่าวกับทาง The Guardian ไว้ว่า
The threat to the freedom of the internet comes, he claims, from a combination of governments increasingly trying to control access and communication by their citizens, the entertainment industry’s attempts to crack down on piracy, and the rise of “restrictive” walled gardens such as Facebook and Apple, which tightly control what software can be released on their platforms.