ลดยังไง 3 ยี่ห้อแรกก็พุ่ง
ตอนนี้ PC เป็นแค่เครื่องเล่นเกม PS1
ส่วน มือถือเป็น PS2 หลังจากนั้น เครื่องสวมใส่ เช่นแว่นตา นาฬิกา)จะเป็น PS3 (มีแต่ยอดไม่ดีเท่า PS2)

ps= playstation

คิดว่าตลาดเครื่องประกอบคงไปหมดแล้วครับ เครื่องแบรนด์ ยอดเลยขึ้น

คนไม่ค่อยใส่ใจสเปคเท่าไรแล้วมั้ง เครื่องมีแบนด์ราคาก็ถูกลงมากๆด้วย

ผมคิดว่าน่าจะเป็นเพราะองค์กรต่างๆ มากกว่า ที่ซื้อเครื่องแบบสำเร็จรูปไปใช้ในระดับที่หลาย 10-100 เครื่อง ซึ่งถ้าเป็นงานเกี่ยวกับเอกสารและอินเทอร์เน็ต มันไม่ต้องใช้สเป็คเครื่องที่แรงระดับพระกาลก็ใช้งานได้ครับ แถมเครื่องพวกนี้พอครบอายุรับประกัน 1-2 ปี หรือสัญญาเช่าหมดาลง หรือสเป็คเครื่องเริ่มเก่าลง ก็จะมีการนำเครื่องพวกนี้มาขายทอดตลาดเป็นเครื่องมือ 2 (ผมซื้อจอ HP ที่มันมีฐานยืดจอให้สูง-ต่ำได้ และพลิกตะแคงให้เป็นจอแนวตั้งได้ได้มาตัวนึงด้วย ซึ่งจอพวกนี้ปกติแทบจะไม่มีขายในตลาดปกตินะ ส่วนใหญ่จะเป็นตลาดองค์กรธุรกิจซะมากกว่า ความละเอียดจอ 1280x1024 ไม่รู้จะตะแคงได้ไปทำไม ในเมื่อเป็นจอ 4:3 แต่ก็อาจยกเว้นว่าจะซื้อจอใหม่มาแล้วมีหมุดยึดน็อต 4 จุดมาเปลี่ยนกับฐานตัวนี้ล่ะนะ) มีเครื่อง Pentium 4 2.8 HT ในราคา 1,900 ด้วยนะ เป็นเคสแนวนอน ซึ่งผมว่าจะซื้อมาไว้ใช้เล็กๆ น้อยซะหน่อย (แต่ก็ยังไม่ได้ซื้อ) ไม่ก็เอาเคสแนวนอนมาปรับใช้บอร์ดใหม่ๆ เพราะปกติจะไม่มีเคสแนวนอนที่ขายในท้องตลาด จะไม่มีเคสแนวนอนขาย จะมีขายได้ก็แต่ PC สำเร็จรูปเท่านั้น

ส่วน PC ประกอบนั้นส่วนใหญ่ถ้าพังเราก็เปลี่ยนเฉพาะบางส่วนที่เสียหาย หรือเลือกอัพเกรดแค่บางชิ้นส่วน ทำให้เราไม่เคยซื้อเครื่อง PC เต็มๆ เซ็ตซะที ซึ่ง PC สำเร็จรูปมันก็ไม่ต่างกับ Notebook, Tablet, Smartphone ที่เวลาเสียก็คือเสียไปทั้งหมด ต่อให้มีบางส่วนยังใช้ได้อยู่ก็ตาม แต่ก็เปลี่ยนไม่ได้ ซึ่งก็ต้องโยนทิ้งเป็นซากไป ไม่ก็ขายซากให้ร้านในราคาถูกๆ

ไม่แปลกที่ PC จะมีตลาดการขายที่ลดลง แต่มันก็ใช่ว่าจะลดลงจนไม่มีใครใช้ เพราะ PC มันยังมีหน้าที่ที่สำคัญในการทำงานหนักๆ ได้อยู่หลากหลาย ไม่ว่าจะเก็บไฟล์ ทำงานด้านสตูดิโอ ทำงานได้กราฟิก ทำงานได้เร็นเดอร์โมเดล เปิดไฟล์ทำงานได้หลายหน้าต่างพร้อมๆ กันแบบที่เป็นหน้าต่างลอยๆ พร้อมที่จะ Drag & Drop ยังมีเรื่องการนำไปใช้เล่นเกมต่างๆ ที่มีบน PC อีก รวมถึงเกมออนไลน์ในตลาดที่มีเฉพาะในเครื่อง PC ด้วย คิดว่าส่วนที่ลดลงไปนั้นอยู่ที่คนกลุ่มไหนก็คงเดาได้ไม่ยากครับ