หลังจากที่สัปดาห์ที่แล้วไมโครซอฟท์ปลดพนักงานไปกว่า 18,000 โดยกว่า 12,500 คนเป็นพนักงานเก่าของโนเกียนั้น ล่าสุดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของฟินแลนด์ แสดงความเห็นตัดพ้อว่าทางไมโครซอฟท์นั้น "หักหลัง" ฟินแลนด์
การปลดพนักงานดังกล่าวของไมโครซอฟท์ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากจากสื่อ โดยในจำนวน 12,500 ที่เป็นพนักงานเก่าของโนเกียนั้น เป็นชาวฟินแลนด์กว่า 1,000 คน ซึ่งทำให้ Antti Rinne รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของฟินแลนด์ออกมากล่าวตัดพ้อว่าทางไมโครซอฟท์หักหลังฟินแลนด์ เพราะในเบื้องต้นทางไมโครซอฟท์สัญญาว่าจะสนับสนุน know-how ของทางโนเกียและฟินแลนด์ แต่กลับไม่ได้ทำตามสัญญา โดย know-how ในที่นี้จึงน่าจะหมายรวมถึงบุคลากรของโนเกียที่เป็นชาวฟินแลนด์ด้วยเช่นกัน
This is, of course, Nokia and Microsoft trade. But when the deal was made, Microsoft announced its commitment to Finland in Finnish know-how. Now, it seems that all parts of this are not met. From this point of view, I presume that the company will build a bridge from job to job, with employees from now on
ที่มา - WPCentral via PhoneArena
Comments
หึหึหึ
วิพากย์วิจารณ์ => วิพากษ์วิจารณ์
ยาวปายย
กางสัญญากันเลยดีกว่า
งืมๆ ถ้า ms ไม่เข้าไปซื้อ nokia ๆ ยังจะต้องปลดพนักงานอยู่หรือเปล่า ผมว่าก็คงต้องปลดอยู่ดีนั้นล่ะ ดีล ms nokia อาจต่ออายุให้คนมีงานทำก็ได้ แต่ผิดที่ ms ทำตามสัญญาไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของตัวเลขขาดทุน ซึ่งจะส่งผลให้คนใน ms โดนเด้งเสียเอง แต่ถ้า ms ไม่ไปสัญญาแบบนั้น ทางรัฐฟินแลนด์อาจไม่ยอมให้ดีลนี้เกิดขึ้นก็ได้
ปล เดาล้วนๆ
ขายแล้ว กรรมสิทธิเขาแล้ว จะมาเรียกร้องอะไร
ก็แค่สัญญาปากเปล่า จะมาบ่นแะไรตอนนี้
โนเกียบริหารงานผิดพลาดเอง เลือก CEO ก็ผิดพลาดซ้ำอีก
ตอนนี้มันแค่คอยรับผลจากสิ่งที่ได้เลือกไปก็เท่านั้น
Happiness only real when shared.
โนเกียก็หักหลังฟินแลนด์มากกว่า ขายให้ไอ้กันไปมันจะทำอะไรก็เรื่องของเขา น่าจะรู้สันดานพวกอเมริกา ว่ามันทำธุรกิจแบบไหน
Hate speech มาเต็มที่เลยนะครับ และผมคิดว่ามันเป็นสภาวะที่ถ้าไม่ปลด อาจล่มทั้ง MS และ Nokia ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อพนักงานทั้งหมดครับ
ทำไมไม่มองว่าจุดหมายปลายทางที่ M$ วางไว้แต่แรก คือชื่อแบรนด์ ช่องทางการจัดจำหน่าย และสิทธิบัตรต่างๆ นาๆ ของ Nokia ไม่ใช่พนักงานบรรดามี สามอย่างที่ผมว่าสามารถนำไปต่อยอดให้ธุรกิจมือถือของ M$ ได้เต็มๆ ส่วนพนักงานคัดเอาแต่หัวกระทิไว้ก็พอ ที่เหลือเป็นภาระต้องกำจัด :-)
ไม่ขายให้MS ก็คงต้องขายให้คนอื่นอยู่ดี nokia ตอนนั้นสภาพย่ำแย่แล้ว มัวแต่ฝันหวานถึงวันเก่าๆแล้วโทษCEOคนเดียวคง
ไม่ได้
ป.ล. ผมกดreply ผิดคน ตั้งใจจะตอบข้างบนนู้่น ขอโทษทีครับ
จริง ๆ nokia ยังมีอาวุธหนักที่จะสู้ศึกอีกเยอะ แต่ใครหว่าทำให้ปืนด้านหมด
ใครหว่ารีบประกาศว่าจะเลิกซิมเบี้ยนทำผู้คนแตกตื่น ทั้ง ๆ ที่ปล่อยให้ความนิยมค่อย ๆ ซาไปเอง
น่าจะมีประโยชน์กว่า
sumsung เลิกทำ bada หรือ HTC เลิกทำ Brew เขายังทำเงียบ ๆ ไม่ประกาศครึกโครม
ทำลายขวัญลูกค้าขนาดนี้
แล้วใครหว่า ประกาศว่า windowphone7 จะไม่ได้ไปต่อ 8 (ทั้ง ๆ ที่เครื่องเพิ่มจะเริ่มวางขาย)
android สาระพัดรุ่นที่ลอยแพกัน เขายังไม่ประกาศตัดขาตัวเองแบบนี้เลย
แล้วใครครับทำแท้ง meego ตั้งแต่ยังไม่ได้คลอด ประกาศลอยแพก่อนขาย แล้ว N9 มันจะเอาไปขายใคร
(จริง ๆ ทีมโนเกียเหมือนหวังตัวนี้ไว้เยอะ แต่ก็นะ...)
ผมไม่เชื่อนะว่าคนฟินแลนด์จะดูไม่ออก นอกจากมีอะไรมาอุดปากมากกว่า
Happiness only real when shared.
ไม่แปลกใจเท่าไหร่
MS หักหลังลูกค้าเป็นปกติอยู่แล้ว แค่นี้เด็กๆ
"หลักจาก" ที่สัปดาห์ที่แล้วไมโครซอฟท์ปลดพนักงานไปกว่า 18,000 โดยกว่า 12,500 คนเป็นพนักงานเก่าของโนเกียนั้น
หลักจาก -> หลังจาก
ในมุมนึง ผมว่าก็น่าเห็นใจเหมือนกันนะครับ
การจะปลดพนักงานบ้าง คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
แต่ปลด 50% ของพนักงานทั้งหมดเลยนี่...ผมว่าโหดร้ายนะครับ
เห็นใจทั้ง 2 ฝ่ายครับ เรื่องนี้ถ้าจะโทษจริง ๆ ต้องโทษบอร์ดโนเกีย ที่มองผิด ยอมให้โทรจันเข้ามาบริหารแต่แรก โดยที่ทั้งหมดน่าจะเป็นแผนซื้อเวลาของ ms แต่ตอนนี้ ms สถานการณ์ก็ไม่ได้ดีสักเท่าไร แก้ปัญหากันไปละกันครับ
สมเป็น MS ผู้ก่อตั้งหักหลังเพื่อน บริษัทหักหลังลูกค้า ต่อมาก็หักหลังบริษัท Nokia ที่ซื้อมาอีก
นึกถึงคำในนิยาย
"ไม่ต้องแปลกใจ คุณไม่ใช่คนแรก"
คิดผิดตั้งแต่เลือก Windows Phone แล้ว
ไม่แน่ว่าลูกค้าบางคนก็อาจรู้สึกเหมือนกัน
เห็นด้วยครับ ถ้าเลือก Android ตั้งแต่แรก Nokia อาจได้เป็นเจ้าตลาด Samsung อาจไม่ได้เกิด แต่ก็ย้อนเวลากลับไม่ได้แล้ว
อีกหน่อยชื่อ Nokia คงค่อยๆ หายไปจากสารบบ
Nokia Here กับฝั่งอุปกรณ์เครือข่ายยังอยู่นะครับ
เหตุการนี้จะไม่เกิดขึ้นถ้า Nokia ทำ androidตั้งแต่แรก
nokia พลาดอย่างมากที่ไปยุ่งกับวินโด้โฟนสุดท้ายบริษัทระดับโลกพังลงไม่เป็นท่า
อนาคตมันเป็นสิ่งที่ไม่นอนครับ เพราะเรามาถึงจุดนี้ไงถึงบอกว่าอะไรดีหรือไม่ดี ใครจะไปรู้ว่าโลกในอีก 2 4 หรือ 10ปีข้างหน้าอะไรดีกว่ากันนี่ครับ
นั่นสิ ถ้าเป็นเวลานั้นไมโครซอฟสร้างความเชื่อมั่นให้กับโนเกียมาโดยตลอด ไม่แปลกที่โนเกียจะเชื่อมั่นว่าไมโครซอฟจะพาโนเกียขึ้นมาได้
ไม่มีคนรู้อนาคต แต่มีคนทายถูกนะครับ และมันเป็นหน้าที่ของ CEO ของบริษัทที่ต้องทายให้ถูก เขาเรียกสิ่งนี้ว่า vision ง่าย ๆ คือ การทายอนาคตครับ เป็นคุณสมบัติสำคัญของ CEO ถ้า CEO ทายไม่เก่ง บริษัทก็จะดับ แบบ nokia เป็นตัวอย่าง
+1
+8.3
รัฐบาลฟินแลนด์ต้องตอบโต้โดยการงดใช้สินค้าไมโครซอฟท์ (ทำแบบเยอรมันไปสิ)
เซียนหลังหวยออกเก่งกันจังแหม่
ตอนนั้นandroid เพิ่งจะเริ่มต้น Nokiaที่เคยเป็นยักษ์มือถือ จะมาลงตลาดandroid ที่มีเจ้าอื่นครองอยู่ ก็คงลำบาก สุดท้ายก็อาจกลายเป็นเจ้าเล็กๆแบบHTC,SONY ที่ครองส่วนแบ่งได้นิดหน่อย กำไรก็คงไม่พอกิน ต้องลดขนาดกิจการลงอยู่ดี
การเสี่ยงเลือกMS ตอนนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะMSให้เงินสนับสนุนมาห้าพันล้านเหรียญด้วยนะครับ ไม่ใช่ไปเลือกเขาฟรีๆ
ส่วนจะโทษCEOหาว่าเป็นโทรจันบ้าง เป็นสายลับบ้าง ถ้ามองในแง่ว่าNokiaเป็นยักษ์ที่ก้าวไม่ทันโลก ก่อนelop จะมาแล้ว ก็คงยากที่จะแก้ไขอะไรได้ บ.ยักษ์อื่นๆที่ล้มหรือเกือบหายไปจากวงการก็มีมาก ขนาดBB เองที่เคยครองตลาดcorperation ก็ยังแทบตาย ลองถามย้อนไปสี่ห้าปีที่แล้ว คนจะเดาได้ไหมว่าจะต้องกลายเป็นแบบนี้?
+1 ผมว่าหลายมองแค่ตอนนี้ไม่ได้มองตอนนั้นมันมีปัญหาอะไรบ้างสำหรับโนเกีย ผมก็ยังมองว่านาทีนั้นโนเกียไม่มีทางเลือกอื่น เพราะมันเลยเวลามาไกลมากแล้ว ถ้าจะรุ่งคือเริ่มด๋อยตั้งแต่เจ้าอื่นเขาเริ่มกันซึ่งมันคงเป็นไปไม่ได้
คือโนเกียน่าจะรู้ตัวเองว่าไปไม่รอดตั้งแต่ทำวินโด้โฟน7แล้วนะช่วงนั้นAndroidก็ดังระเบิดสุดๆแล้ว และใครๆก็เห็นว่าวินโด้โฟน7มันไปไม่รอด ทุกคนมองเห็นแต่โนเกียที่มองไม่เห็น เรื่องนี้โนเกียหลงตัวเองเกินไปโทษใครไม่ได้
มีโอกาสให้กลับขึ้นมาเยอะมากแต่ก็ดึงดันทำวินโด้โฟน8ต่อ สุดท้ายก็ต้องขายกิจการแล้วก็พังลงมาในที่สุด มีโอกาสเยอะแต่ไม่ทำเอง
"สิงห์สนามซ้อม หมูสนามจริง" คำนี้ใช้คำคนวิจารย์ได้เยอะนะครับ ผมเบื่อคำว่า"ถ้าตอนนั้นนะ ถ้าเมื่อก่อนนะ" ผมเบื่อแล้วครับ คนพูดลองมองชีวิตตัวเองย้อนกลับไปบ้าง ว่าตัวเองมีอะไรตัดสินใจผิดบ้างหรือเปล่าแล้วใช้คำแบบนี้บ้างหรือป่าว
ตอนนั้นมันมีปัจจัยเยอะแยะ แล้วก็มีทางเลือกต่างๆให้เลือกเพื่อจะให้บริษัทไปต่อ ตอนนั้นผมก็เห็นว่าจะเลือก วินโด้หรือแอนดรอย ตอนนั้นถ้าเลือกต้องแข่งกับใครบ้าง แอนดรอยคู่แข่งเพียบวัดกันที่อะไรหล่ะครับถ้าใช้ OS เหมือนๆกัน เป็นผมผมก็เลือก วินโด้ พวกนี้มันต้องเดิมพันกับอนาคตอยู่แล้ว ผลมันผิดพลาด เลยเป็นแบบนี้เท่านั่นเองครับ
เอาจรืงๆถ้าไปอยู่ตรงนั่นต้องตัดสินใจภายใต้แรงกดดัน คุณจะตัดสินใจแล้วโดนยำบ้างหรือเปล่าต้องดูปัจจัยภายในภายนอกแถมด้วยโครงสร้างองค์กรค์อีก
เฮ้อ
ช่วง wp 7
นี่น่าจะอยู่ในช่วงที่สัญญามันผูกมัดอยู่นะครับ
ถึงจะรู้ว่าผิดท่าแล้วก็จำใจต้องอยู่ต่อ
1,000 คนเอง.... เอางี้สิ พนักงานโนเกียฟินแลนด์ ลาออกจากโนเกียกันซะทั้งหมด เหลือแต่บริษัทเปล่า ๆ แล้ว รบ.ฟินแลนด์ก็จ้างคนเหล่านั้นมาเปิด บริษัทมือถือใหม่เสียเอง เรียกว่าล้างไพ่ซะ
เห็นข่าวแว่วๆว่า Nokia ส่วนที่เหลือ จะซื้อกิจการมือถือจาก Panasonic มาทำต่อ
ทดแทนส่วนที่ขายให้ Microsoft
ก็ไม่เลวร้าย ถ้าดีลนี้สำเร็จ พนักงานโนเกียบางส่วนก็คงได้กลับสู่บริษัทแม่
ปกติในสัญญาขายกิจการ น่าจะมีระบุด้วยนะว่า
ห้ามไม่ให้ทำกิจการแบบเดียวกันมาขายแข่งด้วย
ข่าวต่อมา huawei รับพนักงานเก่าของ nokia เกือบทั้งหมด
เป็นไปได้สูงนะ ขนาดออฟฟิศภาคพื้นยุโรปก็ยังใช้สำนักงานเก่าของ Nokia เลย (ข่าวดูดคนก็มีมาก่อนหน้านี้แล้วด้วย)
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")