By: mk 
on 29 July 2014 - 07:50
Tags:
จากข่าวก่อนหน้านี้ เฟซบุ๊กถอดความสามารถตอบข้อความในแอพพลิเคชั่นออก ต้องใช้ Messenger เท่านั้น วันนี้ปฏิบัติการ "คืนความสุข" ของ Facebook เริ่มต้นขึ้นแล้วครับ โดยผู้ใช้แอพ Facebook บนอุปกรณ์ Android/iPhone จะไม่สามารถแชตกับเพื่อนๆ ได้อีกต่อไป ถ้าอยากคุยจะต้องดาวน์โหลดแอพ Facebook Messenger แยกต่างหากเท่านั้น
Facebook อธิบายถึง "ความจำเป็น" ที่ต้องปรับใช้นโยบายนี้ว่าจากสถิติแล้ว ผู้ใช้แอพ Facebook Messenger ตอบข้อความเร็วขึ้น 20% และการแยกแอพสองตัวออกจากกันทำให้ความซับซ้อนของแอพลดน้อยลง ดูแลรักษาได้ง่ายขึ้น
ส่วนผู้ใช้อุปกรณ์อื่นๆ ได้แก่ iPad, Windows Phone, เดสก์ท็อป, ฟีเจอร์โฟน จะยังไม่โดนบังคับใช้ Messenger และสามารถแชตผ่านแอพ Facebook ปกติได้ต่อไป
แนวทางของ Facebook ในช่วงหลังค่อนข้างชัดเจนว่าจะไปในทาง "แยกแอพ" ตามงานเฉพาะด้าน เช่น Paper หรือ Slingshot
ที่มา - TechCrunch
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
วันนี้ที่รอคอย! (เท่าที่อ่าน comment ในเวป Mac Rumors ฝรั่งด่ากันเยอะเลย) แต่ผมชอบนะ จะ chat ไม่อยากโหลด content รูป หรืออื่น ๆ ก็แค่เข้า App chat และต่อไปคงตัดปัญหา เด้งเตือนพร้อมกันสอง App ละ
บางกระแสก็ไม่อยากให้แยกนะ โดยเฉพาะคนใช้ iPhone ไม่มี chat head เหมือน android ที่อยากจะอ่าน timeline ไปแชทไป
Chat head คือรูปหน้าลอยแบบลูกโป่งป่าวครับ มีนะ
ตอนนี้มีครับ แต่ต่อจากนี้อะครับ ที่ว่าจะแยกไปแอพ Messenger อย่างเดียว ก็จะไม่มีแล้วครับ (เพราะธรรมชาติของ iOS ไม่สามารถรันแอพพร้อมๆ กัน 2 แอพได้ ?)
คิดอยู่เหมือนกันครับ แต่ผมว่าถึงจะเอาคอลัมน์ Chat ใน Facebook ออกแต่ Chat head ในแอพ Facebook น่าจะมีเหมือนเดิมนะผมว่า
เจ๋งจะได้ไม่โดนสั่งงานทางเฟซบุ้คอีกต่อไป เพราะเด้งบ้างไม่เด้งบ้างโดนด่าอยู่บ่อย ๆ
ฝั่ง WP Facebook ตัว Beta ก็แยกแล้วนะครับ กดตรงแชทละมันย้ายแอพให้เลย ไม่แน่ใจว่าตัวปกติเปลี่ยนหรึยัง
ตัวปกติยังไม่แยกครับ และตัว Beta เองก็ไม่ได้แยกขนาดบังคับแยก
เอ้อ มีคนบอกว่าถ้าในเครื่องไม่ได้ติดตั้ง Messenger มันจะยังใช้แชทในแอพอยู่นะครับ
ก็ไม่รู้สินะ มีเพื่อน 0 คน อ่าน Feed อย่างเดียวก็พอ ~
บังคับเยอะๆ ก็ลบappหมดเลย รอเปิดที่คอมวันละครั้งพอ
อยากอ่านfeed เข้าผ่านmobile browserเอา
เอา apps ไปเข้าโครงการ จำนำ/ประกันราคา แป๊บ
อูย สำลักความสุขจนล้น...
เวงกำผมชอบแบบรวมกันก็ดีแล้วต้องบังคับทำไมละเนี้ย
อยากจะอ่าน Feed อ่าน Timeline ไป จิ้ม Message ไปเมื่อยากใช้คงทำไม่ได้แล้วสินะ
ยุค Multitasking ถดถอย..
ผมงงตรงห้วข้อข่าว "คืนความสุขให้คนทั้งโลก" ??
แต่ในที่มาเขียนว่า "Facebook Forces Users Worldwide To Download Messenger For Mobile Chat"
เลยพยายามหาอ่านอยู่ว่า การที่ตัดฟีเจอร์แชทในแอพ facebook ออกแล้วแยกไปใช้อีกแอพนึง คือสงสัยว่าทำไมถึงต้องบอกว่าเป็นการคืนความสุขให้คนทั้งโลก ผมสงสัยอะ?
อิอิ
สไตล์การเขียน เอามาล้อเลียนกับสถาณการณ์ปัจจุบัน แต่ละคนมีสำนวนของตัวเอง มันก็จะไม่เขียนแบบแปลเป๊ะตรงทุกกระเบียดนิ้วหรอกครับ
สิ่งสำคัญคือ เขียนยังไงให้สื่อสารเนื้อหาหลักได้เหมือนต้นฉบับเท่านั้นเอง
เพิ่มเติมให้ครับ
มีข้อนี้ด้วย แต่ตามจริงก็ขัดกับ "หลักการเขียนข่าว การผลิตข่าว และการรายงานข่าว" ของกรมประชาสัมพันธ์
ผมขอแสดงความเห็นว่า ส่วนตัวการนอกเรื่องหรือประชดประชันในการนำเสนอข่าวหนักกว่าการสะกดผิดครับ
keyword : Forces Users
อิ อิ
ก็คล้าย ๆ บ้านเราช่วงนี้ไงครับ บังคับให้มีความสุขทั้งประเทศ
ผมเองก็งงครับ
เว็บแปลข่าวควรทำหน้าที่แปลข่าวอย่างตรงไปตรงมา มีใจความตามแหล่งข่าว ไม่ควรสอดแทรกถ้อยคำเสียดสีประชดประชันการเมืองลงไปในข่าว ถ้าอยากแสดงความคิดเห็นทางการเมือง เขียนบทความวิจารณ์การเมืองไปเลยดีกว่าครับ (ถ้ากล้าพอนะ) อีกอย่าง ข่าวนี้จะอยู่ในโลกออนไลน์ไปอีกนาน หลายปีผ่านไปหากมีคนมาสืบค้นข้อมูลเรื่องนี้ ก็คงพากันงงอีกหลายคนว่าการที่ Facebook บังคับใช้ Messenger ทำไมจึงถือเป็นการคืนความสุขให้คนทั้งโลก
เปิดวาร์ป
กรณีนี้ไม่ใช่การแสดงความคิดเห็นทางการเมือง แต่เป็นการประชดประชัน ที่สำคัญคือการประชดประชันนี้อาจทำให้เข้าใจในสาระสำคัญของข่าวผิดเพี้ยนไปได้
เว็บนี้ไม่ใช่เว็บ "แปลข่าว" แต่เป็น "สำนักข่าว" ครับ
ถ้าแปลอย่างเดียว ใครก็ทำได้ครับ
แล้วทุกอย่างก็มี timestamp อยู่แล้ว ทั้งยังเป็นเรื่องที่จะติดเป็นตราบาปอยู่ในประวัติศาสตร์ไปอีกยาวนาน ทำไมคุณคิดว่าคนจะงงล่ะครับ?
ผมอ่านหัวข้อแล้วเข้าใจว่า คนส่วนใหญ่อยากให้ทั้งสองอย่างแยกออกจากกันมากกว่า เลยรู้สึกมีความสุขที่ Facebook บังคับให้ Download แยกครับ พออ่านเนื้อหาของข่าวยิ่งสงสัยใหญ่เพราะไม่มีตรงไหนบอกว่าคืนความสุขให้คนทั้งโลก
ผมไม่ได้กวนนะครับ แต่คิดแบบนี้จริงๆ ขออภัยครับ
ผมไม่ได้ "คิด" ว่าคนจะงงครับ แต่ผมเองที่งง แล้วก็เห็นคนอื่นงงเหมือนกัน อย่างเช่นคุณ BOMBHIN ข้างบนเป็นต้น คือผมอ่านเนื้อข่าวแล้วชวนให้เข้าใจไปว่า คนทั้งโลกรอคอยให้ Facebook แยก Messenger ออกเป็นอีกแอปต่างหาก พอ Facebook ทำอย่างนั้น คนทั้งโลกก็เลยมีความสุข และการกระทำนี้ก็ถือเป็นการคืนความสุขให้คนทั้งโลก แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่อย่างนั้น
ส่วนเรื่อง Blognone เป็น "เว็บแปลข่าว" หรือ "สำนักข่าว" ขอทำความเข้าใจก่อนว่าผมไม่ได้บอกว่า Blognone เป็น "เว็บแปลข่าว" โดยมีเจตนาดูถูกหรืออะไรทำนองนั้น ผมชอบอ่านข่าวใน Blognone และเห็นว่า Blognone มีประโยชน์มากๆ โดยเฉพาะสำหรับคอไอทีที่อ่านภาษาอังกฤษไม่ค่อยเก่งอย่างผม แต่ถึงอย่างไรถ้าดูตามบทบาทหน้าที่ของ Blognone แล้ว ยังไงเว็บไซต์นี้ก็เข้าข่ายเป็น "เว็บแปลข่าว" อยู่ดีครับ เพราะบทความส่วนใหญ่ที่โพสต์เผยแพร่คือข่าวที่ได้มาจากการแปล มีบางส่วนเท่านั้นที่เป็นข่าวซึ่งผู้เขียนข่าวเป็นแหล่งข่าวโดยตรง หรือเป็นบทความในเชิงวิเคราะห์หรือสัมภาษณ์ ซึ่งไม่ได้แปลมา แต่การจะบอกว่า Blognone เป็น "สำนักข่าว" นั้น ผมเถียงแน่นอนครับ คุณเข้าใจหรือเปล่าว่า "สำนักข่าว" (News agency) หมายถึงอะไร มีบทบาทหน้าที่อย่างไร สร้างรายได้ด้วยวิธีไหน ในฐานะที่ผมจบด้านสื่อสารมวลชนมา ผมกล้ายืนยันว่า Blognone ไม่ใช่ News agency แน่นอนครับ (แต่ไม่ได้หมายความว่า Blognone จะต่ำต้อยด้อยค่านะครับ)
+1
ที่คุณว่ามา ใจความมันมีอะไรบิดเบือนครับ? คุณเข้าใจ หรือคิดว่ามันชวนให้เข้าใจผิดเป็นอย่างไร? ถ้าบอกว่ามันประชดเสียดสี มันประชดเสียดสีใคร?
เรื่องการใส่มุขบ้าง ถ้าวิจารณญาณคนทั่วไปมันแยกออกได้ว่าตรงไหนคือมุข จะไม่เข้าใจมุขบ้าง (ซึ่งก็เกิดขึ้นตลอด) แต่เนื้อหายังครบ ไม่เข้าใจผิด อันนั้นคงไม่ไปบังคับ อนาคตจะมีเรื่องที่คนในอนาคตไม่เข้าใจแล้ว อันนั้นคนในอนาคตก็คงต้องไปค้นกันเอง
lewcpe.com, @wasonliw
ผมก็ไม่ได้บอกว่า "บิดเบือน" นี่ครับ ทั้งจากเจตนาจริงและจากเนื้อความที่ผมคอมเมนต์ ผมไม่ได้มองว่าข่าวนี้บิดเบือนเลย
ย้อนอ่านคอมเมนต์ก่อนๆ ดูครับ ขี้เกียจพูดซ้ำ
มีคำว่า "คืนความสุข" นี่ยังต้องบอกอีกหรือครับว่าประชดใคร
จริงๆ ถ้าข่าวนี้มีใจความในเชิงบวก เป็นเรื่องดี เป็นประโยชน์กันคนส่วนใหญ่อย่างเห็นได้ชัด เช่น Facebook ยกเลิกระบบโฆษณา (สมมุตินะครับ) ผมก็คงไม่มองว่าคำว่า "คืนความสุข" เป็นการประชด แต่ข่าวนี้เป็นไปในทางตรงกันข้าม แถมที่มาของข่าวก็ใช้คำว่า "Forces" ผมจึงอดมองไม่ได้ว่านี่เป็นการเขียนประชด
ถ้าคุณ lew มองว่าไม่ประชด งั้นอธิบายทีว่าการบังคับแยกแอป Messenger ออกจากแอป Facebook มันเป็นการคืนความสุขให้คนทั้งโลกอย่างไร แนวทางนี้ของ Facebook ทำให้คนทั้งโลกมีความสุขตรงไหนบ้างครับ
ยินดีที่ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันครับ :)
ถ้าแบบนั้นก็ไม่ได้มีอะไรไม่ "ตรงไปตรงมา" อย่างที่คุณบอกว่าเว็บควรทำนี่ครับ ทั้งหมดก็แค่ว่าคุณรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องไม่ดีจากความเห็นของผู้เขียนในข่าวต้นทาง ซึ่งเขาก็มีความเห็นของเขา ความเห็นของคนเขียนข่าวนี้ ที่อาศัยข้อเท็จจริงจากต้นทางก็ไม่จำเป็นต้องเป็นทางเดียวกัน
ผมไม่มองว่าเป็นการประชดอาจจะเป็นมุขล้อเลียนบ้างแต่ก็ไม่ได้แสดงความเลวร้ายอะไร (ใครขำใครไม่ขำก็คงเรื่องของเขา ความเห็นอื่นๆ เขาเล่นกันเฮฮาก็ไม่มีปัญหาอะไร) ตัวผมเองใช้ Facebook Messenger แยกมาตั้งแต่มันออกแรกๆ ก็ไม่รู้สึกว่ามีปัญาอะไร และคิดวา่มันสะดวกดี คนอื่นมีชอบไม่ชอบก็คงต่างกันไป
lewcpe.com, @wasonliw
ผมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรครับ แค่แสดงความคิดเห็นเท่านั้น ผมเองก็ใช้แอป Messenger แยกจากแอป Facebook ตัวหลักทั้งใน Windows Phone, ใน Android และใน iOS เหมือนกัน และก็ไม่คิดว่าการใช้แอปแยกจะมีปัญหาอะไร ในขณะเดียวกันผมก็ไม่รู้สึกว่าการบังคับให้ใช้แอปแยกจะเป็นการ "คืนความสุข" ตรงไหนเหมือนกันครับ
สรุปว่านานาจิตตังครับ
เห็นด้วยครับ
ผมไม่งงกับเนื้อข่าวนะ และไม่มีปัญหากับการใส่สำนวนที่ล้อเลียนกับเทรนด์หรือสถานการณ์ใดๆ ในขณะนั้น ส่วนเรื่อง Blognone จะเป็นอะไรยังไงผมว่าก็เป็นประมาณแบบนี้แหละดีแล้ว ซึ่งตัวผมเองก็ไม่ได้ถูกใจไปซะทั้งหมด แต่ที่ยังติดตามอ่านอยู่ก็เพราะคิดว่าที่นี่คุยกันด้วยตรรกะและเหตุผลได้ค่อนข้างมากที่สุดแล้วถ้าเท่ียบกับบรรดาฟอรั่มที่เคยเห็น และการได้โต้เถียงหรือแสดงความคิดเห็นแบบที่คุณว่ามาและมีคนเข้ามาแย้ง เห็นด้วย หรือเสนอความคิดเห็นนี่แหละที่ผมว่ามันทำให้ได้เห็นมุมมองหลากหลายดีและเป็นเสน่ห์ของที่นี่
เว็บนี้ไม่ใช่เว็บแปลข่าวนะครับ
อย่างงี้นิเอง เก็ตละครับ
ขอตัวละ แว๊บ!!!
เว็บนี้มีประเด็นเรื่องการเมืองอยู่บ่อยๆครับ คุยกันแต่ละทีก็ถึงพริกถึงขิงพอสมควร 555+
ก็เลยจะมีการแซวกันบ้างแบบเข้ากับสถานะการณ์ปัจจุบันครับ
งั้น ใช้ "ชาวเน็ตอึ้ง" หรือ บังคับให้ "มวลมหาประชาชน" แทนน่าจะดีกว่าชิมิครับ อิ_อิ
เปิด 2 แอฟ มันจะใช้แรมเพิ่มขนาดไหนน้า ขนาดแรม1GB(เหลือใช้จริง 150-200) facebook เลื่อนๆไปยังมีเด้งเลย - -
เราบังคับอย่างซื่อตรง ขอแค่เธอจงไว้ใจ..
เราบังคับกันตรงๆ ขอให้เธอว์อย่าสนใจ และปิดตา?!?
555 แผ่นดินจะดีในไม่ช้า ด้วยหรือเปล่าครับ
รีบลบออกไปในไม่ช้า ...
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
แอพแท้จะเร็วส์ในไม่ช้า ขอคืนความสุขให้เธอประชาชน...
Coder | Designer | Thinker | Blogger
เท่ากับบีบผู้ผลิตมือถือว่า ต่อนี้ไปต้อง Ram 1.5 GB+ แล้วนะ เพราะ 1 GB มันไม่พอจริงๆ เคยใช้แท็บเล็ต Ram 1 GB อ่าน Timeline ไป Message ก็หายไปดื้อๆ
ไม่จำเป็นว่าต้องเพิ่มหรอกครับแต่ยังไงก็เป็นการบีบผู้ผลิตนิดๆอยู่ดีๆ เพราะเรื่องแรมมันอยู่กับผู้ผลิตด้วยว่าจะปรับส่วนระบบให้มันกินน้อยที่สุดได้หรือปล่าวด้วย 1GB ของผมก็ไม่มีเด้งนะครับ ก็คือบีบนิดๆล่ะครับว่าถ้าไม่อยากเพิ่มก็จงทำให้ระบบกินน้อยที่สุดซะ
1 Gb ก็พอครับ มาใช้ iOS กันครับ #เผ่น #อย่าบล็อคผมนะ
เข้ามาดีใจด้วยครับ
WE ARE THE 99%
โครงการต่อไปก็จะมีคอนเสริต์โดย โปรแกรมเมอร์/แฮกเกอร์ ร้องเอง เต้นเอง ตามมาด้วยแจกตั๋วหนัง โซเชียว เน็ตเวิร์ค ฟรี มีฟามสุขกันทั้งโลกเลย kappa :V
Facebook Messenger คงมั่นใจในลำแข้งของตัวเอง จึงกล้าที่จะแยกตัวออกจากแอพ Facebook
เพราะถ้าไม่รุ่ง ก็ร่วงดับหายไปเลย มีแอพแชตเจ้าอื่นๆรอขย้ำลูกค้าส่วนนี้อยู่
ผมชอบเปิด Facebook และมี Chat ในตัวสะดวกรวดเร็วมากครับ ไม่ชอบตอนแชทเด้งไปเด้งมา รำคาญมากๆบอกตรงๆ
♫เฟซบุ๊กจะทำตามสัญญา ♪ ขอเวลาอีกไม่นาน ♪ แล้วนิวส์ฟีดอันงดงามจะกลับคืนมา♫
เฟซจะทำตาม...
พอดีกว่า ถถถ+
+1
แยกออกมาแบบนี้ ช่วยให้พัฒนาได้ง่ายมากขึ้นหรือเปล่า รวมถึงการจัดการแสดงผลโฆษณาในอนาคต ถ้ามี
ส่วนตัวนะครับ แต่ก่อนใช้ chat hangout ของ google+ บ่อยมากกกกก
แต่พอแยกตัวไปแล้ว ไม่ใช้อีกเลย
บาย
ที่จริงบน Android น่าจะยกเลิกแอพ Messenger แต่ใส่ Messenger Launcher Activity เพิ่มเข้ามาใน Facebook App มากกว่า
แล้วคนที่ไม่ต้องการ CHAT แต่ต้องการ MESSAGE หละครับ !!
ผมไม่ต้องการให้มันเด้งในมือถือ แต่ผมต้องการให้คนฝากข้อความไว้
และเข้าไปอ่านได้ใน app facebook ที่มี notification บอกว่ามีใครส่งข้อความฝากถึงเรา
คือยังไงก็ชอบแบบดั้งเดิมที่เป็นเหมือน email มากกว่าอยู่ดี
เบื่ออย่างเดียวคือมันต้องรอหลายวิ กว่าจะ Switch ไปแอฟ Messenger ของ Facebook
ผมใช้ SP เด้งได้เด้งดีมากครับ
จริงๆ คงเห็นว่า app chat บ้างเจ้ามีรายได้เป็นกอบเป็นกำ เลยเตรียมลู่ทางไว้ก่อน
อ่านคอมเม้นต์แล้วหนาวๆร้อนๆ พรุ่งนี้จะเข้าเว็บได้ไหมเนี่ย ฮ่า
Blognone = 138.1 news/w เยอะมากๆ