หลังจากมีรายงานว่าสำนักพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ กระทรวงวัฒนธรรม สั่งห้ามจำหน่ายเกม Tropico 5 ก็กลายเป็นประเด็นไปทั่วโลก
เริ่มต้นจากสำนักข่าว AP รายงานเมื่อช่วงเย็นวานนี้ โดยสัมภาษณ์คุณนงลักษณ์ สหวัฒนพงศ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของ New Era ประเทศไทย ระบุว่าที่ผ่านมาทาง New Era ได้จำหน่าย Tropico 3 และ 4 ในประเทศไทยโดยไม่มีปัญหา แต่ในภาค 5 เนื้อเรื่องเปลี่ยนแปลงไปและบางส่วนอาจจะไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยทาง New Era จะไม่อุทธรณ์ต่อคำสั่งห้ามนี้แต่อย่างใด
ทาง Kalypso Media ผู้พัฒนาเกม Tropico 5 ออกแถลงการณ์ ระบุว่าคำสั่งห้ามจำหน่ายระบุว่ามีเนื้อหาบางส่วนไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันแต่ไม่ได้บอกว่าส่วนไหน ทาง Stefan Marcinek กรรมการผู้จัดการบริษัทให้ความเห็นว่าคำสั่งห้ามแบบนี้เหมือนมาจาก El Presidente ในเกมเอง
ท้ายแถลงการณ์ของ Kalypso Media โฆษณาเพิ่มเติมว่านอกจาก Tropico 5 แล้วใน Tropico 4 ยังมีชุด DLC ที่ชื่อว่า "Junta" จำลองการรัฐประหารให้ได้เล่นกัน
รายงานจากเว็บอื่นๆ ไม่ต่างกันนัก แต่รายงานจากสำนักข่าวใหญ่ๆ เช่น TIME, ABC News, IGN, The Guardian, PC Gamer, Kotaku, และ Polygon เป็นต้น ตัวเลขจำนวนรายงานข่าวจาก Google News ตอนนี้อยู่ที่ 88 รายงานและกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
Comments
อาาา ดังไปทั่วโลกเลย
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
"๋Junta" -> มี ๋ เกินมาครับ อีกอย่างชื่อเต็มของ DLC ตัวนี้คือ Junta Military
แค่เกมส์ก็กลัวหราา
ดังเลยทีนี้ กะลาแลนด์
ผมละงงมากเลยเวลาดูถูกชาติอื่น หรือว่าชาติอื่นทางเวปจะแบนและตักเตือน แต่พอด่าชาติตัวเองแล้วปล่อยเฉย งงจริงๆนะอยากให้adminมาตอบหน่อย
ทำไมครับ ผมไม่มีสิทธิ์วิจารณ์ประเทศกะลาเหรอครับ ?
หรือว่าสิทธิ์ในการพูดมันสำหรับแค่คนบางคนเท่านั้น ?
ผมแบนการใช้เชื้อชาติใดๆ เป็นคำด่าหรือดูถูกครับ อย่างเช่น "พวกนี้มันแย่เหมือน[ชื่อเชื้อชาติ] จริงๆ" อะไรแบบนี้ ถือว่าเป็นการเป็นการอนุมานว่าคนในชาตินั้น (ซึ่งมันติดตัวมากับเขา) แย่เสมอ ทั้งที่คนจำนวนมากที่เป็นเชื้อชาตินั้นไม่ได้ทำอะไร
ถ้ามีใครมีเชื้อชาติ "กะลา" ก็จะโดนเตือนหรือแบนแน่ๆ ครับ ในกรณีนี้
lewcpe.com, @wasonliw
เห็นด้วยอย่างแรง คนไทยติดนิสัย เหยียดชาติ อื่น ด้วยภาษาที่ติดปาก
เช่น [เชื้อชาติ]จัง บ้านนอก หรือ หน้าตา[เชื้อชาติ]มาก
เป็นการดูถูกคล้ายการเหยียดผิว
ไม่แปลกใจที่ประเทศเพื่อนบ้านบางกลุ่มไม่ชอบเรา
เห็นด้วย ในฐานะที่เป็นคนอีสาน ไม่ค่อยชอบที่คนกทมเอาคำว่า "เสี่ยว"ไปใช้ในแง่ลบ
ไม่ใช่แค่คนไทยหรอกคับ นิสัยนีัก็เป็นกันทั่วโลก พวกเมกันยังชอบใช้คำว่าเกย์เวลาด่าทุกสิ่งเลย
"ไทยจริงๆ" โดนไหมครับ?
รู้สึกว่าคนฟิลิปปินส์เค้าใช้เหยียดเชื้อชาติเราครับ ถ้าคนไทยใช้ก็เหมือนคนดำด่ากันเองด้วย N word
เรื่องนี้รู้สึกว่าไม่จริงครับ คนฟิลิปปินส์เขาไม่ได้พูดอย่างนั้น
แล้วถ้ากรณี... เป็นข่าวเกี่ยวกับประเทศ X (ที่ไม่ใช่ประเทศเรา) แล้วเรา comment ว่า.. "กะลาแลนด์จริงๆ"... โดยที่ก็ไม่มีใครเป็นเชื้อชาติกะลา แต่มันก็ถือว่าไม่เหมาะรึเปล่าคับ
เพราะเราก็รู้อยู่ว่า คำว่ากะลาในเจตนารมณ์นี้ มันไม่ใช่หมายถึงกะลามะพร้าวแน่ๆ
ประเด็นนี้ผมเคยถามมาแล้ว นานแล้วล่ะ แต่เหมือนไม่เคลียร์เท่าไหร่
ตอนนั้นมีข่าวเรื่องชื่ออะไรสักอย่าง แล้วมีคนมาคอมเม้นต์ประมาณว่า "ชื่อลาวจัง" ผลคือโดนแบนครับ
ผมเลยถามไปว่า ทำไมคำว่าลาวถึงมีความหมายไปในทางไม่ดี เป็นการเหยียดเชื้อชาติล่ะ
ถ้าเค้าคอมเม้นต์มาว่า"ชื่อน่าเกลียดเหมือนลาวเลย" หรืออะไรทำนองนี้ผมจะไม่มีปัญหากับการแบนนะ
แล้วถ้าคอมเม้นต์อย่าง "ไทยจัง" "ญี่ปุ่นจัง" "เกาหลีจัง" "เวียดนามจัง" "เขมรจัง" ฝรั่งจัง" งี้อันไหนที่ถือเป็นการเหยียดเชื้อชาติ
กลับมาข่าวนี้ อ่านคำอธิบายของคุณลิว ถ้าเม้นต์ข่าวนี้ อย่างเช่นว่า "คนไทยนี่มันไทยจริงๆ" ก็ต้องโดนแบนใช่มั้ยครับ
เห็นด้วยครับ เป็นประเด็นที่น่าสนใจมาก
คลัายๆกับกรณีทัศนคติในการมองที่แตกต่างกันของแต่ละคน
อย่างคำว่าลาว ถ้าเป็นคนกรุงเทพอาจจะมองว่าดูถูก
แต่แม่บ้านผมชอบเรียกตัวเองว่าคนลาว (จริงๆเป็นคนร้อยเอ็ด)
และเรียกคนภาคกลางว่าคนไทย ผมก็เถียงว่ามันก็ไทยหมด
แกบอกบ้านแกเรียกแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรไม่ได้รู้สึกอะไรเลย
คำมันจะไม่เจ็บเวลาออกจากปากคนในประโยคคำพูดธรรมดา แต่ถ้าผู็ใช้มีเจตนาดูถูกและสร้างความเจ็บช้ำน้ำใจแก่ผู้รับฟังอันนี้ควรโดนลงโทษครับ ถ้าคุณด่าแม่บ้านคุณในอารมณ์โกรธด้วยคำนั้น ผมว่าแกคงจำไปจนตายว่าเจอคนดูถูกเชื้อชาติ
หากมีการถกเถียงกัน การดูถูกบุคคลด้วยวิธีต่าง ๆ จะนำการเหยียดเชื้อชาติมาด้วย คำธรรมดาที่มันไม่เจ็บ มันจะมาเจ็บเอาช่วงนี้แหละครับ
ผมถึงบอกว่ามันเป็นทัศนคติที่ต่างกันไงครับ
บางทีคนที่เม้นตอบว่าลาวอาจจะไม่ได้มองว่าลาวเป็นคำด่ารุนแรง
หรืออาจจะไม่ได้เป็นคำตำหนิซะด้วยซ้ำ แต่คนอ่านตีความกันไปเอง
แล้วผมก็บอกอยู่ว่าแม่บ้านแกเป็นคนไทยแต่เรียกตัวเองว่าคนลาว
ส่วนตัวผมไม่เคยด่าแม่บ้านและไม่ใช้คำว่าลาวในการด่าคน (ออกตัวก่อนว่าผมเองก็เข้าใจว่าคำว่าลาวเป็นคำด่า)
ดังนั้นกรณีที่คุณยกมาผมคงให้คำตอบไม่ได้ว่าแกจะจำไปจนวันตายหรือไม่
แต่ผมคิดว่าไม่เพราะแกไม่ได้มองคำว่าลาวเป็นคำด่าเลย
ใช่ครับ จริงๆ มีเรื่องนึงครับที่ผมไม่ทราบว่าคนไทยมีความเข้าใจในเรื่องนี้กันหรือเปล่า เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของอีสาน และลาว เพราะดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่รัฐไม่อยากให้คนเข้าใจ แม้แต่ตำราเรียนก็เขียนในเชิงที่พูดไม่หมด
เอาแบบรวบรัดคือในอดีต พื้นที่ในอีสานทั้งหมด รวมถึงประเทศลาวในปัจจุบัน คืออาณาจักรล้านช้าง ที่มีคนเชื้อชาติลาว และใช้ภาษาลาว ทั้งสองฝั่งแม่น้ำโขงคืออาณาจักรเดียวกัน คนข้ามไปมากันเป็นปกติ ต่อมาไทยตีเอาล้านช้างเป็นเมืองขึ้น ทั้งฝั่งลาว และฝั่งอีสานในปัจจุบัน ต่อมาช่วงล่าอาณานิคมของตะวันตก ฝรั่งเศสก็มาเข้าครอบครองแผ่นดินล้านช้างในฝั่งเวียงจันทน์ไป (ที่คั่นด้วยแม่น้ำโขง) ส่วนล้านช้างฝั่งอีสาน ไทยยังยึดเอาไว้ ต่อมาฝรั่งเศสคืนเอกราชฝั่งเวียงจันทน์กลับคืนสู่ล้านช้าง จนตั้งเป็นประเทศลาวในปัจจุบัน
ในขณะที่ล้านช้างฝั่งอีสาน ซึ่งก็คือคนลาวแท้ๆ ใช้ภาษาลาวแท้ๆ ไทยไม่ได้คืนเอกราชหรือให้ไปรวมกับลาว แต่ต้องการกลืนอีสานให้มาเป็นส่วนหนึ่งของไทย โดยใช้นโยบาย "แผลงความเป็นไทย" เช่นการให้เข้าใจว่า อีสานคือ "ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย" ตั้งโรงเรียน และให้ใช้ภาษาไทย ในส่วนของภาษาลาวเดิมก็ให้เขียนด้วยตัวอักษรภาษาไทย กลายเป็นภาษาไทยสำเนียงอีสานไป ให้วัฒนธรรมและค่านิยมแบบไทยลงไป ร้องเพลงชาติไทย ให้เชื้อชาติไทยสัญชาติไทย
เดิมที ก่อนหน้านั้นคนในอีสาน ยังรับรู้ว่าตนเป็นคนลาวอยู่ ใช้ภาษาลาว วัฒนธรรมลาวอย่างสมบูรณ์ จนเมื่อใช้นโยบายแผลงความเป็นไทย จากนั้นใช้เวลาผ่านไปไม่นาน สิ่งที่มหัศจรรย์มากคือรุ่นปู่รุ่นย่า พบว่าแผ่นดินตนถูกกลืนชาติพันธุ์ได้ภายใน "หนึ่งชั่วอายุคน" เท่านั้น ล้านช้างฝั่งอีสาน กลายเป็นไทยอีสานโดยสมบูรณ์
หากจะมีคำถามว่า ไทยกับลาว เป็นพี่น้องกันหรือไม่ คงจะไม่แน่ใจในคำตอบกันมากนัก แต่ถ้าถามว่าชาวไทยอีสานกับชาวลาวเป็นพี่น้องกันหรือไม่ ก็ต้องตอบว่าเป็นพี่น้องกันจริงๆ
สิ่งที่เล่ามา ต้องการนำเสนอข้อเท็จจริงซึ่งเนื้อหาเหล่านี้มีปรากฏในตำราภาษาอังกฤษ (wikipedia ภาคภาษาอังกฤษก็มีครับ) รวมถึงคำบอกเล่าที่พบได้จากคนเก่าคนแก่ คิดว่าในปัจจุบันคงไม่เกี่ยวกับความมั่นคงแล้วล่ะครับเพราะเราผ่านจุดนั้นไปไกลมากแล้ว เราทั้งหมดก็ล้วนก็เป็นไทยด้วยกันอย่างสมบูรณ์แล้ว
แต่ข้อเท็จจริงเหล่านี้ ก็เพื่อจะตอบคำถามที่ว่า ทำไมภาษาอีสานถึงมีการใช้คำและสำเนียงที่ใกล้เคียงกับลาวมาก (มีแผลงจนต่างกันบ้างตามเวลา) แต่ใช้ตัวอักษรภาษาไทย ทำไมวัฒนธรรมของอีสานจึงใกล้เคียงกันกับลาวมาก และทำไมคนอีสานจึงเรียกว่าตนเองว่าเป็นคนลาวนั่นเองครับ
คนอิสาน ไม่ใช่คนลาวครับขึ้นกับตำแหน่งที่อยู่
อย่าง อิสานตอนใต้ ก็จะใช้ภาษาอีกแบบ
พวกที่ติดกับกัมพูชาก็อีกแบบพูดขะแมร์กันกระจุย
อิสานตอนกลางก็อีกแบบ
ตอนบนอย่างสกลนครก็อีกแบบ เขาเรียก ภูไท พูดอิสานกลางไม่ได้
ผมไปมาครบแล้วครับไม่เหมือนกันเลย
ภาษที่คนที่อยู่จ.ขอนแก่น ยโสธร ก็อีกแบบ
หนองคายก็อีกแบบ
คนที่บอกว่าคนอิสานคือคนลาว คือคนที่ไม่รู้อะไรเลยครับ
ภาษาอิสานแบบ ยโสธร ขอนแก่น จะหยาบกระด้างนิด แต่ฟังก็ได้อารมณ์ดี
ภาษาลาวเนี่ย คนละที่ก็มีความแตกต่างกันครับ ภาษาลาวของเวียงจันท์ก็แบบนึง อีกที่ก็อีกแบบนึง ไม่ได้เหมือนกัน
เห็นด้วยเลย ภาษาอีสานไม่เห็นจะเหมือนภาษาลาวเลย ภาษาเหนือสิเหมือน (สมัยนี้นะ แต่ก่อนไม่ทราบ)
เรียกว่าคล้ายก็ได้ครับ แต่ไม่เหมือน คือคำมันคล้ายแต่สำเนียงไม่คล้าย
อย่างคนจ.เลยก็พูดไม่เหมือนคนขอนแก่นครับแยกง่ายมากๆ คำที่ใช้บางคำความหมายไม่เหมือนกันอีก
กลุ่มชนเผ่าลาว มีหลายกลุ่มครับ รวมถึงภาษาที่ใช้ ขนาดในประเทศลาว(สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว) ยังมีภาษาถิ่นหลายสำเนียงครับ(ตามwiki แยกเป็น6 สำเนียง) ลาวเหนือนี่สำเนียงพูดใกล้ภาษาเหนือมากๆ แต่ถ้าพูดถึงตัวอักษรก็จะไม่เหมือนกัน ภาษาล้านนาตัวเขียน ไม่เหมือนภาษาลาวกลางเลย
ส่วนอีสานใต้ เป็นเขมรเก่าจริงๆ ดั้งเดิมก็มาจากคนละอาณาจักรครับ
สมัยก่อนไม่มีอาณาเขตชัดเจน ก็ปะปนไปตามระบบชนเผ่าครับ เพิ่งมาแยกเส้นชัดเจนก็สมัยร.4 ร.5 นี่เอง อันที่จริงต่างชาติเขาแยกว่าเรา เป็นหนึ่งในชนเผ่าไท-ลาว ที่อยู่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่โขงครับ ประเทศสยามก็รวมมาจากคนหลายชนเผ่า หลายอาณาจักร ซึ่งแต่ละอาณาจักรก็เคยมีภาษาทั้งพูดและเขียนเป็นของตัวเอง เพิ่งถูกนโยบายกลืนชาติในสมัยร.5 และจอมพลป.ที่ทำให้เด็กหลายคนไม่รู้ว่าบ้านตัวเองเคยเป็นอาณาจักรอะไรมาก่อน
ลองอ่านwiki ดูจะเข้าใจ
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A7
อิสานใต้ไม่ใช่เขมรเก่าทั้งหมดนะครับ
อย่างโคราชนี่ก็ไม่ใช่
ผมไม่สนใจ wiki หรอกครับผมใช้ชีวิตเดินทางสัมผัสผู้คนในส่วนต่างๆของภาคมาราวๆ 20ปีแล้วครับ
ดังนั้นสิ่งที่ผมพูดคือประสบการณ์ตรง ต่างกับ Wiki ที่ใครจะใส่ข้อมูลก็ได้ ถึงมันจะมีมูลอยู่บ้างและเรื่องบางเรื่องไม่มีใน Wiki แต่คุณจะต้องสัมผัสมันด้วยตนเองครับ
อย่างคนภูไท นั้นภาษาแตกต่างจากคนอิสานตอนกลางและตอนล่างแบบชัดเจน แทบจะไม่คล้ายกับภาษาลาวเลยเป็นอีกภาษาหนึ่งเลย ผมเองก็เคยพูดคุยกับคนลาวจริงๆครับ
ผมจึงยืนยันคำเดิมว่า คนที่คิดว่าคนอิสานคือคนลาว คือคนที่ไม่รู้อะไรเลยครับ
wiki คือแค่อ้างอิงคร่าวๆสิครับ ผมขี้เกียจไปอ้างอิงชื่อหนังสือ เรื่องภาษาลาวมันไม่มีคนมาแก้มั่วหรอก หลักๆลอกจากหนังสือมาลงด้วยซ้ำ เรื่องนี้มันเป็นวิชาการ ไม่ใช่ความเชื่อ ภาษาลาวในประเทศลาวเองยังมีห้าสำเนียงหลัก+หนึ่งสำเนียงไทย เอาแบบชาวบ้านแก่ๆๆไปเจอลาวกลาง ยังงงได้เลย เพราะชนเผ่ามีหลายกลุ่มครับ
แต่ถ้าจะบอกว่าด้วยประสบการณ์ xxx ก็จบ ไม่รู้จะคุยต่อยังไงต่อ คุณอ้างว่าเคยคุยกับคนอีสาน แต่ผมก็จะอ้างว่า ผมก็ไปมาทั้งเหนือ อีสานและลาวเช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องภาษาได้ใช้จริง รวมไปถึงตำราประเภท พจนานุกรมภาษาล้านนาอะไรแบบนี้ก็ยังมี(ถึงผมจะอ่านตัวอักษรไม่ออก แต่เรื่องฟัง พูด นี่ค่อนข้างมั่นใจ)
ยังไม่ต้องพูดไกลไปตปท. เอาแค่ภาษาพื้นถิ่นของไทย ภาษาเมืองเหนือ ภาษาอีสาน กับ ภาษาใต้ ถ้าไม่เอากลางปนเลย รับรองว่าคุยกันไม่รู้เรื่อง และในภาคยังแบ่งย่อยตามหัวเมืองหลักๆอีกนะครับ ภาษาเหนือเชียงใหม่ ลำปาง ก็จะมีศัพท์บางอย่างใช้ไม่เหมือนกัน แต่โดยรวมเขาก็จัดกลุ่มไว้ภาษาเมืองเหมือนกัน
แต่เรื่องภาษา มันก็คนละประเด็นว่า อีสานเรา มาจากอาณาจักรอะไรบ้างนะครับ หัวเมืองหลักทางอีสาน เมื่อก่อนไกลสุดแค่โคราชครับ(นั่นทำให้โคราชมีความเป็นสยามมากสุด เพราะได้รับอิทธิพลสูงสุด) ไกลกว่านั้นคือไปตีเป็นเมืองขึ้นสมัยรัตนโกสินทร์นี่เอง ถ้าจะพูดรวมๆว่า เมืองอีสานไกลๆเคยเป็นอาณาจักรเดียวกับเมืองที่อยู่ในลาวตอนนี้ ก็คงไม่ผิดเท่าใด รวมไปถึงหัวเมืองอีสานใ่ต้ที่ก็เคยเป็นหนึ่งในหัวเมืองของเขมร ที่เราไปตี แล้วโดนยึดกลับไปบางส่วนตอนยุคตะวันตกล่าอาณานิคมเช่นกัน
เวลาทำ paper เขาไม่ให้น้ำหนักกับ Wiki ครับเพราะใครเขียนก็ได้ทีทำๆคืออ่าน wiki เสร็จต้องตาม ref ไปดูหนังสือตัวจริงแล้วต้องเข้าไปอ่านเนื้อหาด้วยครับ เอา wiki เป็น source นี่โดนด่ายับครับ
ตอบรวบทีเดียวนะครับ
ถ้าผมเข้าใจผิดเองตีความหมายผิดไป ในกรณีที่โดนเตือนก็ทักท้วงได้ครับ ต่อให้โดนแบนแล้วก็อีเมลมาท้วงได้ ผมก็เคยเปิด account กลับมาให้ ก็ยืนยันมาถึงผมครับว่าไม่ได้ตั้งใจหรือมีความหมายจะดูถูก
ผมไม่ได้ห้ามพูดชื่อเชื้อชาติใดๆ หรือแสดงความไม่พอใจ ถ้าผมมองแล้วไม่เป็นการดูถูกเชื้อชาติ ไม่ได้เหมารวมว่าเชื้อชาตินั้นแย่ก็ไม่ได้สนใจครับ อย่างที่คุณยกตัวอย่างมาก็เป็นบริบทของความหมาย ประเภทว่าเล่นมุข "จัง" ทังหลายแล้วโดนแบนคงไม่ใช่
ถ้าคอมเมนต์เหมารวมคนไทยในทางไม่ดีก็ต้องโดนเตือนหรือแบนถูกครับ อย่างกรณีที่คุณยกมาผมเองไม่รู้สึก คุณเห็นแล้วอาจจะรู้สึกว่าโดนดูถูก ถ้าเกิดเคสขึ้นมาก็แจ้งมาได้ครับ บางครั้งมีคอมเมนต์หลุดรอดจากทีมงานไปเรื่อยๆ
ส่วนชาติเว็บบอร์ดในชาติอื่นๆ จะเป็นอย่างไรคงไม่ว่ากัน ในไทยเองก็มีเว็บ (น่าจะส่วนมากด้วย) ที่ไม่ได้ห้ามการเหมารวมแบบนี้ ผมก็ไม่ได้มีปัญหากับเว็บเหล่านั้นครับ ถือเป็นนโยบายของแต่ละเว็บกันไป
lewcpe.com, @wasonliw
อันนี้ถามคุณ lew หน่อยนะครับ ตามเม้นบน
ถ้าเล่นมุก คนไทยนี่มันไทยจริง หรือสารขัณแลนด์ นี่จะโดนแบนมั้ยครับ
(ถามไว้ก่อนเผื่อเผลอเล่นไปจะโดนแบนเอา)
สมมติถ้าผมเป็นผู้ดูแลแล้วมีกฎว่าห้ามใช้คำดูถูกหรือหยาบคาย
สำหรับผมว่าไม่ว่าจะเป็นคำว่า "เสร่อ สถุล ลาว เขมร เวียดนาม บ้านนอก" เป็นต้น ก็โดนแบนครับ เพราะมันไม่ใช่คำที่ควรจะพูดในที่สาธารณะ (ผมยกตัวอย่างนะครับไม่ได้ด่าใครทั้งนั้น)
ถ้าเป็นผมแบนหมดครับถ้ากฎเป็นแบบนั้นไม่จำเพาะว่าต้องเป็นคำที่ Racism อย่างเดียว
เท่าที่มีประสบการณ์คนไทยหลายๆคน(ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเป็นแบบนี้)นั้นเคยชินกับการ Racism มากเกินไปจนคิดว่ามันปกติไม่น่าผิดอะไรเมืองนอกนี่ติดคุกเอาดื้อๆนะครับพูดทีต้องระวังมากๆ
ผมเข้าใจความรู้สึกนะเป็นผู้ดูแลมันตัดสินใจลำบาก แล้วถ้ามีเรื่องกับใครไม่สามารถลงไปตัดสินเองต้องให้คนอื่นตัดสินแทนไม่งั้นจะโดนกล่าวหาว่าใช้อำนาจในทางที่ไม่ถูก
ปล. คำด้านบน ใช้ในการยกตัวอย่างนะครับ ไม่ได้มีเจตนาดูถูกใครอย่าแบนผมก็พออิอิ
racism มันมีจุดแบ่งแยก ว่าเป็นการด่าแบบเหมารวม หรือด่าเฉพาะบุคคลนะครับ
เช่นถ้าคุณพาดพิงที่ สีผิว สถาบันที่เรียน เชื้อชาติ ชนชาติ แผ่นดินเกิด ว่าคนที่มีส่วนร่วมในกลุ่มนั้น มีลักษณะในเชิงไม่ดีทุกคน(เขาใช้คำว่าoffensive)อันนี้เรียกว่าracism
แต่ถ้าเป็นการเจาะจงบุคคล เช่นคนนี้ ถ่อย สถุล ก้าวร้าว ไม่ได้เหมารวมใคร มันไม่ใช่racism แต่เป็นการด่าตรงๆนั่นแหละ
ซึ่งส่วนใหญ่การด่าตรงๆมันก็ผิดข้อห้ามพื้นฐานทั่วไปอยู่แล้ว เพราะเป็นการดูหมิ่นซึ่งหน้า ผิดกับเรื่องracism ที่หลายคนไม่รู้สึกผิด หรือบางทีคิดว่าเป็นแค่การล้อเล่นเบาๆ
และโดยปกติบทลงโทษของracism ก็จะรุนแรงกว่าการดูหมิ่นซึ่งหน้าอยู่แล้วครับ เพราะถือว่าเป็นการเหมารวม ไม่ใช่ด่าเฉพาะเจาะจงบุคคล
สงสัยจะเข้าใจอะไรผิด ผมพูดถึงกฎครับ
เรื่อง racism ผมเข้าใจดีอยู่แล้ว
แต่ที่ผมสื่อคือ ไม่ว่าจะเป็น คำดูถูกหรือหยาบคาย ต่างผิดกฎทั้งสิ้นครับ
มันมีเรื่องเล่าอยู่เรื่องนึงก็คือคนเราเปลี่ยนชาติกำเนิดไม่ได้ คนที่มีปมด้อยไม่รู้ว่าจะเอาอะไรมาดูถูกคนอื่น
ก็มักที่จะเอาเชื้อชาติของคนอื่นมาเหยียดหยาม เพราะเขาไม่สามารถเปลี่ยนชาติพันธุ์ของตนเองได้ หรือ เขาคิดไปเองว่าชนชาติของตนเองนั้นดีเลิศทั้งๆที่ความเป็นจริง ต่างคนก็มีข้อดีข้อเสีย หาได้มีแต่ข้อเสียอย่างเดียว
และอีกอย่างวัฒนธรรมต่างชาติเขาเชื่อกันว่า คุณไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบแทนเผ่าของคุณมันเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคน
แต่วัฒนธรรมทางตะวันออก คุณต้องรับผิดชอบร่วมกับเผ่าของคุณ
สังคมไทยมีการดูถูกแบบแปลกๆเยอะครับ ทั้งเรื่องข่มกันเรื่องการศึกษา คนที่นิสัยไม่ดีมักยกเรื่องนี้มาข่มก่อน แต่สำหรับผมการศึกษามันขึ้นกับโอกาสของแต่ละคน คนที่ได้รับโอกาสที่ดีกว่าไม่ควรจะยกเรื่องนี้มาข่มคนอื่นที่ขาดโอกาส
คนเราคบกันไม่ใช่ที่การศึกษาแต่คบกันที่ใจผมเชื่อแบบนั้น
ตรรกะไม่ผ่านนะครับ เหยียดชาติอื่นไม่ได้ เหยียดคนไทย ให้ผ่าน คุณอยู่ในกะลาเหมือนกันนะ
ที่ผมงงกว่าคือเวลาพูดกันจะเข้าใจว่ากะลาหมายถึงอะไร แต่พอพูดจากมุมกฎหมายกลับหมายถึง "กะลา" จริง ๆ
ในมุมของกฎหมายผู้ฟ้องจะต้องอธิบายว่า กะลา มีความหมายเชิงนัย หมายถึง คำย่อของสำนวน "กบในกะลา" เป็นคำแสลง จะทึกทักเองว่าเป็นตามที่เรารู้สึกไม่ได้เพราะศาลไม่รับฟัง
เช่น ผมด่าคุณว่าเป็น เห็บ ถ้าอยู่ๆคุณฟ้องผมเลย ผมผิดแค่ดูหมิ่นซึ่งหน้าปรับไม่กี่ตัง เหมือนด่าว่าเป็น หมา เป็น ควาย เพราะไม่มีใครเชื่อหรอกครับว่าคุณ เป็นหมา หรือ ควาย (ผมไม่ได้ด่าใครนะผมยกตัวอย่างให้ฟัง)
แต่ถ้าคุณอธิบายได้ว่า เห็บ ที่ผมพูด หมายถึง การเอาเปรียบคนอื่นเหมือนพฤติกรรมของเห็บที่กินเลือดของสัตว์ที่มันไปอาศัยอยู่ และมีเงื่อนไขว่าทุกคนและคนทั่วไปตีความไปในทางนี้ด้วย คุณจึงจะสามารถเอาผิดผมฐานหมิ่นประมาทได้
มีครั้งหนึ่งคุณนายท่านนึงไปซื้อของที่ต่างจังหวัด ไปซื้อผลไม้เลยถามว่าผลไม้สุกไหม เน่าหรือไม่ คนขายบอกว่าไม่เน่าแน่นอน ไม่เชื่อว่ายก... (เสียงพ้องกับคำที่ใช้เรียกอวัยวะเพศชาย)ดู คุณนายโมโหมากให้ตำรวจไปจับลุงคนนี้ ลุงแกไม่ยอมเพราะแกก็พูดดีๆ เพราะคำนี้ในภาษาถิ่นแปลว่า "เขย่า" ตำรวจไปถามชาวบ้านแถวนั้นเขาก็ยืนยันตามนั้น ลุงแกเลยรอดไป
ดังนั้นในทางกฎหมาย คำว่ากะลา ก็หมายถึง กะลา ทั่วๆไปตามพจนานุกรม ตราบใดที่คุณไม่สื่อให้เห็นว่า กะลา นั้นมีความหมายเชิงนัยแฝงอยู่ ก็ไม่ถือว่าเป็นคำด่าหรือคำดูถูก
ส่วนตัวเข้าใจว่าอันนี้เป็นความเห็นเชิงวิจารณ์ ไม่ใช่ความเห็นเชิงอคติ/กดขี่ทางเชื้อชาติ/เหยียดชาติพันธ์/สีผิว/ภาษาพูด/ลักษณะทางกายภาพครับ
อันนี้ผมไม่ได้พูดแบบเข้าข้างนะ ผมเองก็หงุดหงิดประเด็นนี้บนเว็บนี้พอสมควร แต่ก็พยายามศึกษาและสอบถามจาก @lew จนหลายๆ ครั้งก็ดูเหมือนผมกวนตีน @lew ด้วยซ้ำครับ
คืออยากจะเข้าใจน่ะครับ แต่ตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจนะ แต่สรุปได้แบบด้านบนแหละ คร่าวๆ
ผมว่าคุณลองไปหาเกมมาเล่นดูดีกว่านะ เผื่อจะคิดอะไรออกบ้าง
กรณีนี้ผมเห็นด้วยกับทั้งสองท่านเลยแฮะ
ผมเห็นด้วยว่าการกระทำแบบนี้มัน"กะลา"จริงๆ แนวคิดยังกะประเทศปิดที่ไม่มีช่องทางสื่อสารกับใคร
แต่ผมก็เห็นเหมือนกันว่านี่เป็นการ"เหมารวม"ทั้งประเทศ เป็นการวิจารณ์ในระดับเหมาทั้งชาติ ซึ่งในกรณีของชาติอื่นอย่างเบาก็คงตักเตือน แต่พอเป็นประเทศตัวเองกลับเลี่ยงบาลีได้ว่าไม่มีการระบุชื่อประเทศ(ทั้งที่โดยนัยมันก็เห็นชัดๆว่าหมายถึงประเทศไหน)
ก็แปลกดีแฮะ
คนดำใช้ N word ด่ากันเองได้ฉันใด ชาวกะลาแลนด์ก็ด่ากันเองว่ากะลาได้ฉันนั้น
มันไม่ได้สร้างปํญหาอะไรขึ้นมาเพราะคนด่าก็เป็นส่วนหนึ่งในการถูกด่าด้วย
ผมละงงทำไมชาวกะลาแลนด์ไม่ค่อยรู้จักแนวคิดการเหยียดเชื้อชาติ ด่ากันเองมันก็ไม่จำเป็นต้องเอาเรื่องการเหยียดเชื้อชาติมาใช้ครับ เอาเรื่องการแสดงความไม่สุภาพก็พอ
ออกตัวก่อนว่าผมไม่ได้มองว่ากรณีนี้เหยียดเชื้อชาตินะ และเชื่อว่าต้นความเห็นก็ไม่ได้ตั้งใจจะเหมารวมด้วย(เจาะจงด่าใครอยู่ก็รู้ๆกัน) แต่ด้วยความเข้มงวดของเวบนี้ที่เคยเห็น ในกรณีวิจารณ์ประเทศอื่นด้วยถ้อยคำระดับเดียวกันอาจโดนแจ้งเตือนไปแล้ว
ผมเห็นต่างกับคุณสองเรื่อง
อย่างแรก การด่าแบบเหมารวมที่คนด่าควรจะอยู่ในคำจำกัดความเดียวกันด้วย คนด่าไม่ได้ด่าตัวเองครับ คำด่าแบบเหมารวมนี่ชัดเจนว่าตัวเอง"อยู่นอกคำจำกัดความ"
ยกตัวอย่างคือถ้าคุณคิดว่าเรื่องที่คนอื่นทำมันผิด โดยปกติคุณย่อมไม่ทำเรื่องแบบนั้นอยู่แล้ว เพราะโดยทัศนคติคุณคิดว่ามันเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง
ดังนั้นถ้ากลุ่มสังคมหรือองค์กรใดที่คุณอยู่มีพฤติกรรมแบบนั้น ตอนที่คุณด่าการกระทำของกลุ่มนั้นๆโดยเหมารวมคุณย่อมไม่ได้หมายความถึงตัวเอง เพระาคุณไม่ทำเรื่องแบบนั้น
อย่างที่สอง ด่ากันเองหรือด่าคนอื่นเป็นคนละประเด็นกับการด่าแบบเหมารวม และการด่าแบบเหมารวมเมื่อบริบทมันคือชาติหรือเผ่าพันธ์ มันก็คือการเหยียดเชื้อชาตินั่นแหละ
ต่างกันตรงที่การเหยียดเชื้อชาติตัวเอง มีความน่ารังเกียจของการ"ยกหาง"เฉพาะตัวเองให้เหนือว่าคนอื่นๆในเชื้อชาติแฝงอยู่ด้วยเสมอ ในขณะที่การเหยียดเชื้อชาติอื่นจะแฝงการยกเชื้อชาติตนให้เหนือกว่าเชื้อชาติอื่นแบบเหมารวม
ปัญหาที่เกิดจากการเหยียดเชื้อชาติอื่นมันสร้างความเกลียดชังเป็นวงกว้างซึ่งเป็นปัญหามากกว่า แต่โดยแก่นแล้วมันคือเรื่องเดียวกัน เป็นการรวมกันของการตัดสินความด้วยตรรกะวิบัติแบบเหมารวมและความมั่นใจว่าตัวเอง(หรือกลุ่มของตัวเอง)เหนือกว่า
ผมงงมากกว่าว่าทำไมคนที่เรียกร้องให้เลิกการเหยียดเชื้อชาติอื่น บางคนกลับไม่สนใจการเหยียดเชื้อชาติตัวเองเผลอๆยังทำเป็นปกติด้วย ทั้งที่แก่นมันไม่ต่างกันเลย
ผมเรียกร้องให้เลิกการเหยียดเชื้อชาติอื่นครับ และสนับสนุนการเหยียดชาติตนเอง เพราะการติการกระทำของคนชาติตัวเองมาจากเจตนาที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงของการกระทำของบุคคลในชาติตัวเองเป็นไปในทางที่ดีขึ้น เพราะการกระทำของคนที่ถูกติส่วนใหญ่เป็นการเลือกที่จะกระทำ (โดยอิสระ) โดยไม่รู้ หรือรู้แต่ก็กระทำเพื่อหวังผลไปในทางที่ไม่ดี (ในมุมมองของคนเหยียดชาติตนเอง) ซึ่งคนเหยียดก็สมควรจะมีอิสระในการเหยียดการกระทำนั้น ๆ เพราะมันย่อมไปสร้างภาพเหมารวมแบบใหม่ให้ชนชาติอื่นมาดูถูกเราได้ การปรามกันเองเป็นสิ่งที่ควรกระทำ (และมีสิทธิด้วยเพราะเป็นคนเชื้อชาตินั้นเอง)
การเหยียดเชื้อชาติมันเป็นเรื่องโหดร้ายที่เกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้ง การด่ากันเองในคนเชื้อชาติเดียวกันมันเป็นเรื่องธรรมดามาก อย่าเอาเรื่องคนละระดับมาปนกันเลยครับ ที่เค้าปกป้องการเหยียดเชื้อชาติกันทั้งโลกเพราะมันมีเหตุการณ์น่าเศร้าเกิดขึ้นมากเกินไปแล้ว แต่การด่ากันเองยังไม่มีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตัวเองหรือถึงมีเชื้อชาติอื่นก็ไม่อยากยุ่งด้วย คนในเชื้อชาติเดียวกันเองย่อมต้องคุยกันเองว่าจะเอากันยังไงครับ
และอย่างที่ผมบอกไว้ข้างบน มันเป็นเรื่องความสุภาพแค่นั้นครับ ไม่ได้เป็นปัญหาระดับโลกเลย การตักเตือนลงโทษก็ต้องแล้วแต่คุณ lew ว่าจะเห็นกำหนดเรื่องความสุภาพขนาดไหน ว่าจะให้ห้ามไม่ให้เปรียบเปรยเป็นกบในกะลา ต้องบอกตรง ๆ อย่างสุภาพว่าแนวคิดนั้นไม่เป็นที่ยอมรับจากนานาอารยะประเทศก็ย่อมได้ แล้วแต่คุณ lew จะกำหนด แต่ผมว่าเป็นคนไทยด้วยกันวิจารณ์คนไทยด้วยกันไม่ได้จะให้คนชาติไหนมาเตือนละครับ
แน่ใจว่าติเพื่อก่อ เพื่อการพัฒนานะครับ หลายเคสมีแต่การล่าล้างทำลายเพราะแค่ "เป็นคนไทย" เท่านั้นเอง แต่ถ้าเป็นประเทศอื่นไม่เป็นไรด้วยซ้ำ
I need healing.
ครับ ผมขอเปลี่ยนคำว่า "เจตนาที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงของการกระทำของบุคคลในชาติตัวเองเป็นไปในทางที่ดีขึ้น" เป็น "เจตนาที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงของการกระทำของบุคคลในชาติตัวเองเป็นไปในที่ตนเองคิดว่าถูกต้องมากกว่า (ซึ่งต้องถูกวิจารณ์กลับได้ว่าอาจไม่ได้ดีกว่าเลย และต้องนำไปถกเถียงกันต่อจนกว่าจะพบสิ่งที่ดีที่สุดครับ) "
ขอย้ำว่าถ้าไม่เกี่ยวข้องกับชาติพันธุ์อื่น เกี่ยวกับคนในชาติเดียวกันล้วน ๆ มันเป็นเรื่องแค่ความสุภาพมากกว่า เพราะถ้าจะให้ดีให้สุภาพจริง ๆ ก็ต้องอธิบายตรง ๆ ว่าการกระทำของกลุ่มบุคคลนั้นไม่ดีอย่างไร เพื่อเปิดโอกาสให้มีการถกเถียงโดยไม่เอาอารมณ์มานำเหตุผล ในความเห็นของผมไม่ควรเอาเรื่องระดับโลกมาปนกับเรื่องเล็ก ๆ อย่างนี้ครับ
ผมเข้าใจว่าเจตนาของคุณหมายถึงคนในชาติควรตำหนิการกระทำอันไม่บังควรที่คนจำนวนมากทำกันเป็นปกติในสังคมของเรา อันนี้ผมเห็นด้วยครับ เราควรติคนกันเองก่อนที่จะให้คนอื่นมาติ ไม่ใช่หลับหูหลับตาปกป้องเพราะถือว่าเป็นพวกเราหรือกลุ่มเรา
ซึ่งมันเป็นคนละเรื่องเลยกับการเหมารวมและการเหยียดนะครับ การวิจารณ์การกระทำ การชี้ให้เห็นว่าคนจำนวนมากทำ กับการเหมารวม เป็นคนละเรื่องกันโดยสิ้นเชิง
เราสามารถวิจารณ์ได้ว่าการกระทำแบบไหนไม่ถูกต้อง เราสามารถชี้ให้เห็นได้ว่ามีการกระทำแบบนี้มากในชนชาติเรา นั่นคือการวิจารณ์ การชี้ช่อง ซึ่งอาจเกิดจากเจตนาอันดีที่อยากให้มีการพัฒนา หรือแค่ยกหางตัวเองให้สูงส่งก็ได้
แต่การเหมารวมนี่เป็นตรรกะวิบัติแท้ๆ โดยนัยของการเหมารวมคือการเหยียดและการคิดว่าตัวเอง(หรือกลุ่มตัวเอง)เหนือกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย
หรือเราไม่สามารถวิจารณ์หรือตำหนิการกระทำอันไม่เหมาะสมโดยไม่เหยียดได้เลย?
ที่คุณเห็นมันเป็นเรื่องคนละระดับเพราะคุณมองเป็นจำนวนครับ ทั้งที่เหตุและผลของสองเรื่องนี้ไม่ต่างกัน คือคนคนนึงหรือกลุ่มนึงมองว่าตัวเองสูงส่งกว่า ซึ่งระดับสุดท้ายจะนำไปสู่การแบ่งแยกและเกลียดชังไม่ต่างกัน
อืม พยายามทำความเข้าใจครับ ถ้าจะพูดกันถึงการเหยียดคนในชาติตัวเองที่เกิดจากการเหมารวมก็ต้องคุยกันก่อนว่าการเหยียดคืออะไร คือจะเหยียดกันได้ต้องเริ่มจากมีผู้ที่ด้อยกว่ากับผู้ที่เข้มแข็งกว่าก่อน แล้วผู้ที่เข้มแข็งกว่าเกิดรู้สึกไม่ปลอดภัยอาจจะเกิดจากการโดนแย่งงาน แย่งพื้นที่ในสังคม ก็อาศัยความรู้สึกว่าตัวเองสูงส่งกว่า พวกมากกว่า อยู่มานานกว่า ไปกดขี่โดยการสร้างภาพเหมารวมอีกฝ่ายว่าไม่ดีในเรื่องใดเรื่องหนึ่งซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ผิดมาก่อนเช่น ด่าเชื้อชาติ ด่าเพศสภาพ ด่าความพิการ โดยหวังผลที่จะทำให้ความรู้สึกไม่ปลอดภัยของตนหายไป
ทีนี้ต้องมามองกันว่า
ฝ่ายไหนเป็นฝ่ายเข้มแข็งที่ไปทำร้ายอีกฝั่ง -> อันนี้ผมดูแล้วเป็นคนไทยเท่ากันด่ากัน
ผู้ที่อ่อนแอกว่า -> อันนี้ก็คนไทยเท่ากันไม่มีใครอ่อนแอกว่ากัน มีสิทธิเท่าเทียมกัน
คำเหมารวมที่ใช้ด่ากัน -> ในที่นี้คือกะลาแลนด์ แต่ทุกคนก็อาศัยอยู่ในประเทศเดียวกันอยู่ดี
นำไปสู่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ -> อันนี้น่าจะไม่เกิดอยู่แล้วครับ
ก็ดูไม่มีปัญหาอะไรเท่าไหร่นี้ครับ คนคิดเห็นไม่ตรงกันเถียงกันได้ ด่ากันได้ ด่ากันได้ อยากให้คุณ YF-01 ช่วยแยกให้ผมหน่อยในความเห็นของคุณ ใครเป็นผู้กระทำ ใครเป็นผู้ถูกกระทำ
ในความเห็นผมการดูถูกกันเองมันไม่ควร แต่ไม่ได้ร้ายแรงครับ ในประเทศเสรีก็แบ่งแยกเกลียดชังไม่ต่างจากเรา และก็ไม่ฆ่ากัน ในอเมริกาคนรัก Democratic Party รักโอบาม่า ก็ไม่ชอบ Republican Party กลับกัน คนรัก Republican Party ก็ไม่ชอบโอบาม่า เพื่อนเกาหลีใต้ผมเกลียดประธานาธิปดีหญิงของเค้ามากด่าว่ามารด_ สุนั_ทุกคำ แล้วพอไปเห็นว่าคนรู้จักชาวเกาหลีใต้อีกคนชอบเข้าเวปไซต์สนับสนุนประธานาธิปดีคนนี้ก็ไม่ยอมคุยกับคนนั้นซะงั้น ผมก็ยังบอกว่าโอป้าติดนิสัยคนไทยไปหรือไง เค้าบอกว่าเป็นกันอย่างนี้มานานแล้ว ถ้าเพื่อนกันก็จะไม่ว่ากัน แต่ถ้าเป็นคนไม่สนิทนี้ไม่คุยกันเลย เราก็อืมเกาหลีใต้มันก็แตกแยกเหมือนคนไทยหรือเนี้ย นี้ขนาดผมพยายามเคลียร์ มาอยู่เมืองไทยมีเกาหลีไม่กี่คนก็คุยกันเถอะ แกยังไม่ยอมเลยคิดดู
สรุปครับ (แชร์ไปเยอะ ไม่ต้องอ่านบางส่วนก็ได้นะครับ) ผมรู้สึกว่าการเกลียดกันในชาติมันก็เป็นกันทุกที ที่สำคัญคือไม่ฆ่ากันครับ และส่วนใหญ่ก็ไม่ฆ่ากันเป็นแสนเหมือนพวกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ผมเลยรู้สึกว่ามันเรื่องเล็ก ๆ ไม่ควรเอาไปเทียบกันครับ
เหยียด ไม่แน่ว่าฝ่ายหนึ่งต้องเข้มแข็งกว่าครับ แต่ต้องมีความรู้สึกว่าตัวเหนือกว่าในแง่ใดแง่หนึ่ง เช่นบางครั้งก็เป็นความรู้สึกว่าเหนือกว่าเชิงจริยธรรม ซึ่งไม่ได้หมายความว่าใครเข้มแข็งกว่า
ชนชั้นกลางเหยียดคนรวยแบบเหมารวมก็มีนะครับ เช่นเหมาว่าคนรวย = โกง แล้วถือว่าตัวเองดีกว่าเพราะไม่ได้โกง(ในสเกลพันล้าน แต่อาจจะโกงเครื่องใช้สำนักงานทุกวัน)หรือเราซึ่งด้อยกว่าอเมริกาทุกด้านแต่ดันไปเหยียดเค้าว่าคนจิตใจหยาบกว่า ทั้งที่ดูจากแง่สถิติอาชญากรรมหรือความไม่เป็นระเบียบเราสูงกว่าเห็นๆ
ถามว่าการเหยียดกันแบบนี้ไม่นำไปสู้การ"ฆ่าล้างเผ่าพันธ์"จริงรึเปล่า ก็ลองสเกลคำว่า"เผ่าพันธ์"ลงมาเป็นระดับ"ชนชั้น"แทน ในหน้าประวัติศาสตร์ก็เคยเกิดอยู่หลายครั้งนะครับ เช่นการปฏิวัติของฝรั่งเศสหรือการล้มล้างราชวงศ์โรมานอฟที่ไล่เข่นฆ่ากันแบบกะให้หมดวงศ์ เพราะเหมาว่าคนในราชวงศ์ทั้งหมดเป็นต้นเหตุของปัญหา ทั้งที่บางองค์ยังไม่ถึง10ชันษาด้วยซ้ำ
อย่างที่บอก ในกรณีนี้ผมไม่ได้คิดว่าต้นความเห็นตั้งใจจะเหมารวมครับ(อันนี้ไปคิดแทน แต่คงไม่ผิด) ผมไม่ได้มีปัญหากับคำว่ากะลาแลนด์ แต่มีปัญหากับการคิดว่าทัศนคติแบบเหมารวมเป็นเรื่องที่ถูกต้อง หรือทัศนคติที่ว่าห้ามเหยียดชนชาติอื่นแต่เหยียดกันเองไม่เป็นไร
ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของทัศนคติครับ ไม่ว่ามันจะจบที่การฆ่าคนเป็นล้านหรือไล่ฆ่ากันไม่กี่สิบคน หรือแค่เกลียดขี้หน้ากัน ต้นเหตุมันเป็นเรื่องเดียวกัน และเป็นเรื่องไม่เป็นเรื่องที่มีผลจากตรรกะวิบัติแบบพื้นๆ
แต่ถ้าไม่ชอบเพราะการใดการหนึ่งเฉพาะ(เช่นไม่ชอบคนที่แซงคิว หรือไม่ชอบการเซนเซอร์บ้าๆบอๆ)อันนี้ผมว่าปกตินะ
การด่ากันเองของคนที่เท่าเทียมกันมันไม่ใช่ racism ครับ มันแค่ไม่สุภาพครับ อยากรู้ว่าคุณพยายามจะพูดถึง Internalized racism หรือเปล่าครับ ที่คนสีผิวเหยียดกันเองเพราะรับมาจากคนขาวอีกที เค้าก็มีการศึกษากัน แต่มันเป็นแค่กลุ่มย่อยเล็ก ๆ นะครับ ไม่สร้างปัญหาอะไรมากหรอกครับ
แล้วคนที่อ่อนแอกว่ากระทำต่อคนที่แข็งแรงกว่า เค้าเรียกเหลืออดครับ เพราะโดนกระทำมาเยอะแล้ว มันเป็น reaction ที่เกินจากการถูกกระทำมายาวนาน มันเป็นผลของการเหยียดผู้อื่นมากเกินไปครับ ส่วนใหญ่ไม่มีผู้อ่อนแอเป็นผู้เริ่มกระทำก่อนหรอกครับ คนที่กระทำก่อนต้องเป็นผู้ที่พร้อม เค้าเรียกว่าผู้เข้มแข็งครับ
คนที่เท่าเทียมกันคืออะไรล่ะครับ? ถ้าคุณมองว่าตัวเองเหนือกว่าเพราะมีเงินมากกว่า หรือมีจริยธรรมมากกว่า ยังเป็นคนที่เท่าเทียมกันอยู่รึเปล่า?
แล้วกรณีชนชั้นกลางเหยียดคนรวยว่าโกง คนไทย(บางคน)เหยียดประเทศพัฒนาแล้วว่าพัฒนาแต่วัตถุแต่ด้อยทางจิตใจ อันนี้เข้าข่ายเหลืออดรึเปล่า?(โอเค อาจมีบางคนเหลืออดอยู่ด้วยละนะ)
ผมเข้าใจว่าคุณมองที่ผลกระทบว่าปัญหาแต่ละประเภทส่งผลยังไง เพราะเห็นประโยคที่นับปริมาณอยู่บ่อยๆ(ซึ่งผมอาจจะเข้าใจผิด ช่วยแก้ด้วยนะครับ) ในขณะที่ผมมมองว่ามันเป็นเรื่องที่มีต้นเหตุเดียวกัน และมันไม่เข้าท่าซักเท่าไหร่
ขอโทษน่ะครับเมื่อวานไม่ว่างตอบ
คือการที่จะให้การปกป้องเป็นพิเศษในกรณีเหล่านี้ ส่วนใหญ่ต้องเป็นเรื่องการเหยียดที่ผู้ถูกเหยียดไม่สามารถเลือกที่จะเป็นสิ่งนั้น ๆ เอง เช่น เลือกเกิดไม่ได้ เลือกเพศไม่ได้ เลือกความพิการไม่ได้ เค้าจึงออกมาปกป้องกันครับเพราะมันไม่ยุติธรรมเพราะไปเหยียดสิ่งที่เค้าเป็นไม่ใช่สิ่งที่เค้าทำ
ถ้าผู้ถูกเหยียดเป็นผู้เลือกเองที่จะกระทำใด ๆ แล้วถูกเหยียดการกระทำนั้น มันก็คือผลของการที่เลือกไปสู่จุดนั้นเอง เรียกว่าต้องรับผิดชอบผลของการกระทำของตนครับ อย่างตัวอย่างของคุณนะครับ มันคือคนทะเลาะกันธรรมดาครับ อยากให้เข้าใจในจุดนี้ด้วยครับ
เอาละ งั้นผมคงต้องถามก่อนเพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน
สำหรับคุณคนรวยเหยียดคนจน อันนี้เหยียดมั้ยครับ
คนนับถือศาสนา A ถือว่าศาสนาตนมีจริยธรรมมากกว่า(โดยไม่มีอะไรรองรับ) ไปเหยียดศาสนา B อันนี้เหยียดมั้ยครับ
ไม่แน่ใจว่าจะกลับมาอ่านรึเปล่า แต่ผมกำลังรู้สึกว่าผมน่าจะได้เปิดหูเปิดตากับแนวคิดแบบเก่าของตัวเองเลยจริงๆนะ ผมอาจจะเข้าใจอะไรผิดมาตลอดก็ได้
กลับมาแล้วครับ พอดีไม่ได้อยู่บ้านหลายวันเลยไม่ค่อยได้ดู
คือผมพยายามอธิบายว่ามันต้องแบ่งความรุนแรงครับ ทำผิดมีหลายระดับไม่ใช่ต้องลงโทษรุนแรงเท่ากันหมด
การดูถูกสิ่งที่เค้าเกิดมาเป็นแบบนั้นมันไม่ยุติธรรมมาก ๆ ครับ จะให้เค้าตายแล้วเกิดใหม่ก็ยังไม่มีเทคโนโลยีทำได้ขนาดนั้น ดังนั้นจึงมีการห้ามกันเป็นพิเศษมากกว่าการทะเลาะกันปกติ
การดูถูกสิ่งที่เค้าทำมันก็มีหลายระดับ ถ้ารุนแรงเค้าก็ลงโทษครับ แต่ส่วนใหญ่มนุษย์ทุกคนต้องรับผลของการกระทำของตนเอง เมื่อทำย่อมต้องเตรียมที่จะถูกกระทำกลับ ถ้าคุณไปปกป้องฝั่งนึงมันก็ไม่ยุติธรรมกับอีกฝั่งเหมือนกัน ถ้าไม่มีอะไรรุนแรงก็ไม่น่าเข้าไปยุ่งครับ แถมมันจะกลายเป็นการขัดขวางการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับสังคมด้วยครับ
คนรวยคนจนคนนับถือศาสนาต่าง ๆ เป็นสิ่งที่เลือกจะเป็นครับ เหมือน นีโอนาซี กับ White supremacy ก็เป็นสิ่งที่คนเลือกเป็น ถ้าคนเหยียดนีโอนาซี เหยียด white supremacy ต้องโดนลงโทษมั้ยครับ ต้องครับถ้าทำรุนแรงเกินไปเช่น จับเค้าไปทรมาณ กักขังหน่วงเหนี่ยว บีบคั่นทำร้ายจิตใจให้ทำสิ่งที่ไม่ต้องการทำ เรื่องพวกนี้คนในโลกนี้ไม่ยอมรับแน่นอนครับ แต่ถ้าแค่วิจารณ์ ด่าทอ ล้อเลียน มันก็เป็นไปตามธรรมชาติของมนุษย์ จะลงโทษก็แค่ตักเตือนว่าไม่สุภาพก็พอครับ
ผมจะพยายามกลับมาเช็คเรื่อย ๆ นะครับ ชวนคุยต่อได้เรื่อย ๆ ครับ :)
กฎหมายหมิ่นประมาทไม่ได้มีไว้คุ้มครองบุคคลที่ 1
ผมว่า ความเห็นนี้คือ "ประชด" นะครับ
ที่ผมเข้าใจว่า "ประชด" เพราะเจ้าของความเห็นก็อยู่ในกะลาแลนด์นี้ด้วย
แต่ถ้าเจ้าของความเห็นใส่ ป.ล. มาว่า "ดีนะ ย้ายมาอยู่ต่างประเทศหลายปีแล้ว" อาจจะโดนเก็บเสียเองก็ได้ครับ
เคยมีกรณีโดนเก็บเพราะ ป.ล. ด้วยนะ เพราะฉะนั้นถ้าไม่มันใจว่าความเห็นของคุณจะเป็นที่ยอมรับหรือเปล่า อย่าพิมพ์มันลงไป ประเภท ขำๆ นะ ถ้าคนอื่นไม่ขำด้วยคุณก็เจ็บ หรือ ความเห็นส่วนตัว แต่ให้คนอื่นรับรู้ มันจะส่วนตัวได้ยังไง สงสัยจริง
ส่วนที่ไปลากกรณีอื่นๆ มาตีรวมว่าทำไมแบบนั้นโดนแบน แบบนี้ไม่โดนแบน ก็เพราะกรณีอื่นๆ เหล่านั้นมันส่ออาการ "เหยียด" จนรู้สึกได้ไงล่ะ
ถ้าคุณคิดว่ามันไม่ถูกต้องหรือรุนแรงเกินไป (หรือสำนึกได้) ส่งอีเมลไปยื่นอุทรณ์กับ Admin ได้ครับ
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
เขียนตอบข้างบนทั้งหมด เรื่อง "การเหยียดชาติ vs กะลาแลนนด์"
ผมเข้าใจว่า กะลาแลนด์สื่อถึงคนไทย ที่ไม่เปิดไปดูโลกภายนอก การเขียนลักษณะนี้ไม่ถือเป็นการเหยียดชาติ เพราะคนเขียนเองก็เป็นคนไทย การเขียนลักษณะนี้เป็นการวิภากสังคมที่ตนเองอยู่ แสดงนัยะถึงความไม่พอใจสภาวะสังคมของตน ไม่มีนัยะของการเหยียดแบบเหมารวม
แต่ประเด็นนี้คาบเกี่ยวกับ "minority discriminates minority" มากกว่า เพราะผู้เขียนก็สังกัดสังคมที่ตนวิภาก แต่จุดตัดอยู่ที่ตัวผู้เขียนกำลังเขียนถึง majority และผู้เขียนเองมองว่าตนเป็น minority
ที่สำคัญอีกประการ คำว่า "กะลาแลนด์" เป็นการวิจารณ์ "พฤติกรรม" ไม่ใช่ "ชาติพันธุ์" โดยผู้ถูกวิจารณ์สามารถปรับพฤติกรรมตนเองได้ หากมองว่าตนเองรู้สึกไม่สบายใจจากคำวิจารณ์ ต่างจากชาติพันธุ์ ที่เป็นการเหมาแบบผู้ถูกวิจารณ์ไม่มีทางเลือก
น่าจะหมายถึงผมนะ
อันกะลาแลนด์นี่ผมเข้าใจนะ ไม่ได้คิดว่าเขาเหยียดเลย รู้ว่ากำลังวิพากษ์อะไรอยู่ แตมีปัญหากับความเห็นล่างๆลงมาที่ว่าเราจะเหยียดคนในกันเองยังไงก็ได้ต่างหาก
เช่นคำว่า Thailand Only ที่ใช้กันบ่อยๆ ถามว่าคนไทยทุกคนทำจริงหรือ? แล้วคนชาติอื่นไม่ทำกันหรือ? นี่ไม่ได้เหมารวมอยู่หรือ? Thailand ที่เจ้าตัวเขียนถึง มีเจ้าตัวอยู่ด้วยจริงๆหรือ?
และอันที่จริง racism มันก็คือสับเซทของ Discrimination นั่นแหละ ถ้าอารยันมองว่าตนเป็นเชื้อชาติที่สูงส่งกว่าทุกชาติพันธุ์ มันก็คือ minority discriminates majority ในสเกลของเผ่าพันธุ์มนุษย์เช่นกัน ส่วนความรุนแรงนี่เป็นเรื่องที่ตามมาอีกที
แต่ผมไม่ได้หมายความว่าคนไทยกำลัง racism กันเองนะ ไม่ได้มองว่าร้ายแรงขนาดนั้น
เป็นเอามากนะ
ยอดขายใน steam พุ่งพวดแน่ๆ
กำลัง ลังเลตั้งแต่เมื่อวานละ สงสัยวันนี้คงได้จัด แต่ไม่ค่อยเก่ง Eng. คำยากๆอะดิ กลัวเล่นไม่เข้าใจ แต่ข่าวออกมาได้ต้นเดือนพอดีเลย 555 จัดไป 1 license
ไม่ยากครับ เล่นๆ ไปสักพัก พอมี ท. ออกมาวิ่ง คุณก็จะเริ่มจับทางได้ สร้าง ท. ปลดล็อก ถัง สร้าง ถัง ปลดล็อก ดอกกุหลาบ
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
The Sims 4 จะโดนด้วยไหม มีการไปจีบแย่งผัวเมียคนอื่นมาเป็นแฟนของตน ทำให้ครอบครัวคนอื่นแตกแย่ง เป็นปัญหาที่สังคมอาจลอกเลียนแบบได้ ฮาๆๆๆ
Streisand effect in 3...2...1...
อา... หรือว่านี่มัน Nice boat เวอร์ชั่นภาษาไทย
้เฮ้อ....โลกสวยจิงจิ้ง
ดีใจจังประเทศเราดังแล้ว
ตลอด ประเทศเราดังบ่อย ในเรื่องแปลกๆ
ร่วมกันซาบซึ้งสิครับ
ดังไปทั่วโลก แต่คนทำเกมนี้คงนั่งยิ้มขอบคุณประเทศไทยแน่ๆ เพราะได้โฆษณาเกมฟรีทั่วโลก
โฮ่ๆ ดังในเรื่องไม่เป็นเรื่อง
แอบหวังไว้ว่าพอผ่านพ้นช่วงนี้จะปลดแบน
ต่อไปเกมส์เศรษฐี จะโดนไหม :D
ไม่นะ !! อย่าเอาเมืองฉันไป
เมื่อเช้าดูรายการสรยุทธ์ มีข่าวนี้เหมือนกัน แกเล่าฟีเจอร์ในเกมซะผมอยากจะซื้อเลยทีเดียว
เป็นแผนการโปรโมทเกมที่แยบยลมาก
Eurogamer.net ก็ลงด้วยครับ ดังเลยทีนี่ ดังในเรื่องดีๆทั้งนั้น
โวยวายมากไปเดี๋ยวลามมาถึง steam เดี๋ยวจะอดเล่นจริงๆ
คืนความสุขให้ผู้พัฒนาด้วยการโฆษณาให้ฟรี
ผมสงสัยครับ สั่งห้ามจำหน่าย แต่ สามารถซื้อผ่าน steam ได้
คือ ห้ามจำหน่าย แบบแผ่น เท่านั้นหรอ
เดี๋ยวก็คงมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งส่งคำสั่งระงับการขายไปเองแหละครับ คล้ายๆกับ Ragnarok ที่ไปทับที่ทับทางเขา (อยากเล่นอะ)
ทหารสมัยนี้บางทีก็รับมือกับเทคโนโยยีไม่ทันนะ ต้องยอมรับว่าตำราเค้าอาจจะเก่าไป
+1 ตำราเค้าเก่ามาก ถ้ารอบตัวมีคนเป็นทหารที่ค่อนข้างจะมียศหน่อยก็จะทราบจริงๆ
ระดับพลเอกใช้สมาร์ทโฟนไม่เป็นก็เยอะแยะไปครับ อยากทราบข้อมูลด้านไหนลองสอบถามข้อมูลจากฝ่ายปฏิบัติการของด้านนั้น ๆ ดูท่านอาจจะได้ข้อมูลที่ตรงกว่า
ตำราเก่าหรือไม่ ไม่อาจทราบได้ แต่เท่าที่รู้จักบางท่านที่ทำงานด้าน IT เขามีความรู้เฉพาะทางสูงพอสมควรนะครับ จะบอกว่ารับมือกับเทคโนโลยีไม่ทันนี่ไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่
ที่บอกว่าทำงานด้าน IT ก็มีแค่บางคนนี่ครับ
ส่วนระดับบนๆที่ทำงานด้านบริหารนี่ไม่มีความรู้เลย สั่งอย่างเดียวเถียงก็ไม่ได้
ผมอยู่กับทหารเป็นปีๆรู้ไส้รู้พุงระบบนั่นแหละครับ
ระบบเขาคือ คำสั่งผู้บังคับบัญชาเป็นที่สุด
ผู้ปฏิบัติงานคือคนรุ่นราวคราวใกล้เคียงกับยุคที่เราคุยกับผ่าน internet นี่แหละครับ แต่ผู้สั่งการและตัดสินใจมักจะอวุโสมากกว่านั้น
แล้วไม่แปลกหรอกครับว่าทำไมการตัดสินใจบางอย่างทำไมมันถึงดูโบร้าณโบราณกับยุคสมั้ยนี้จริงๆ คำตอบคือ เพราะในยุคสมัยเค้า คำตอบนั้นมันเคยใช้ได้ในยุคสมัยของเค้าเอง... และมันก็ต้องใช้ได้ในสมัยนี้ด้วยเช่นกัน(ซึ่งจริงๆแล้วเป็นความคิดที่ผิดถนัด)
กุนซืออายุ 87 ปี
คุณหมายถึงใครครับ !!!
เดี๋ยวผมซื้อโอเลี้ยงไปฝากนะครับ
ตำราบางเล่ม แรกมาด้วยเลือดครับ อยากอัพเดทตำราใหม่ก็ต้องใช้เลือดเขียน
เหมือนประเทศบ้าสงครามประเทศหนึ่ง เทคโนโลยีการทหาร ยุทธวิธีต่างๆสมัยใหม่ กว่าจะได้มาต้องผ่านความตายมากมาย
ถ้าถามว่า แค่เขียนขึ้นใหม่ ไม่ต้องเอาไปลองใช้ไม่ต้องไปเสียเลือด เราจะรู้ไหมว่าวิธีการสมัยใหม่มันจะได้ผลจริงๆ
ตำราเทคโนโลยีทางทหารของไทย ล้ำยุคกว่าที่คุณคิดมากครับ แม้ไม่มากเท่ามหาอำนาจ แต่มากพอที่จะเอาตัวรอดได้
และไม่ได้มีไว้เพื่อเอามาปกครองประชาชน แต่มีไว้เพื่อป้องกันและทำลาย
และที่สำคัญ ทหารเขาไม่มาสอนวิชา facebook วิชา ios วิชา update ชีวิต cyber วิชาเล่นเกมส์
ฟังดูน่ากลัว
ระดับปฎิบัติงานที่เก่งทางเทคโนโลยีน่ะมีครับ นายทหารหลายท่านที่ผมรู้จักก็จบป.เอกทางเทคโนโลยีจากเมืองนอกนี่แหละ แต่ระดับนโยบายหรือระดับเสธ.ฯ ยังยึดติดกับตำราเก่าๆ อย่างเช่นความพยายามในการปิดกั้นFB หรือการข่มขู่ให้รางวัลนำจับกับข้อความหรือภาพการต่อต้านในinternet ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งของความเชื่อและการใช้เครื่องมือในแบบตำราเก่าๆ โดยเชื่อว่าการใช้กำลังเข้าปราบหรือปิดกั้น จะทำให้เรื่องจบได้โดยเร็ว
ผมเห็นในประวัติศาสตร์ชาตินี้ ทหาร ในยุคสมัยใหม่ปกครองประเทศมามากกว่าใครและที่แน่ๆ มากกว่า ปกป้องและทำลายที่คุณว่าแน่นอน เอาเป็นว่า หันปืนเข้าบ้านบ่อยกว่าหันใส่ข้าศึกแล้วกัน ผมตอบด้วยข้อเท็จจริงที่ทุกคนควรจะรู้ แต่ก็มีคนที่ไม่รู้และคนที่แกล้งทำเป็นลืมมัน
ตอนนี้เรายังไม่ได้ปกครองแบบประชาธิปไตย
ไม่ใช่เรื่องที่ต้องแปลใจอะไร
แต่ถ้าโดนแบนในขณะที่ปกครองแบบประชาธิปไตย นั่นแหละ จะน่าแปลกใจ
แปลกใจเวลาเกมอื่นโดนประเทศอื่นแบนไม่เห็นมีคนมาถากถางอะไรแบบนี้เบย
ขึ้นอยู่กับเหตุผลในการแบนด้วยป่าวคับ
เท่าที่เคยอ่านมา เหตุผลก็ราวๆนี้อยู่แล้ว
จริงๆเมืองนอกมันก็แค่เป็นข่าวอยู่แว๊บเดียว แล้วก็ผ่านไป (เหมือนตอนเราอ่านข่าวแนวๆนี้บ่อยๆ)ไม่มีใครสนใจเท่าไหร่หรอก
แค่สงสัยว่า มันก็เหมือนๆกันในหลายประเทสกับการปกครองแบบนี้(?) แล้วจะดิ้นๆด่าๆไปทำไม
รัฐประหาร ตามที่ผมเข้าใจไม่ได้มีในหลายประเทศครับ
ตอนรัฐประหารใหม่ๆผมตอบคำถามฝรั่งแทบไม่ทัน ใครจะคิดว่าชีวิตนี้เจอรัฐประหาร3ครั้งแล้ว
เพราะเราไม่ได้อยู่ในประเทศนั้นไง
เหมือนข่าวตลกๆของเกาหลีเหนือ เช่นส่งคนไปอวกาศบ้าง หรือชิงแชมป์บอลโลกบ้าง เราเห็นก็ขำๆตลกๆ แล้วก็ลืมไป
แต่ถ้าเราอยู่ในประเทศนั้นเองแล้วรู้"ข้อเท็จจริง"ก็คงขำไม่ออกเช่นกัน
Clip พวกนั้นผมเข้าใจว่าคนทำล้อเองนะครับ
พอดีผมไม่ได้อยู่ประเทศนั้นไงครับ :p
ครั้งก่อนเซ็นเซอร์หัวนมโงกุนในดราก้อลบอล ฝรั่งเอาไปล้อกันใน 9gag หลายรอบซะ รอบนี้ก็น่าจะโดนล้ออีกตามเคย อับอายแทนสังคมโลกจริงๆ
ผมก็เพิ่งรู้จักไอ้เกมนี่จากข่าวการโดนแบนนี่แหละ
Battlefield 4 ไม่โดนแบนนะครัช
https://www.blognone.com/node/56398
แผนที่ฮาขนาดนั้น เลยไม่แบนเพื่อความฮาหรือเปล่า
มีข่าวดังก็ไม่เห็นมีอะไรเลย ชีวิตก็ดำเนินไปเหมือนเดิม (ช่วงนี้กำลังฟินอยู่กับความสุขอยู่)
แหมก็บ้านเราเป็นรัฐบาลทหารนี่!!
ไอ้คนที่ตรวจมันเคยเล่นเกมไหม อาจจะอ่านข้อมูลคร่าวๆเลยตีความในทางลบ
ผมสงสัยอย่างนึงว่าตอนนี้ประเทศเรากำลังปกครองด้วยระบอบอะไร ? ประชาธิปไตยหรือว่าเผด็จการทหาร ?
(ไม่ค่อยรู้เรื่องการเมือง)
ระบอบ ประชาธิปไท เป็นระบอบที่มีการปกครองหลากหลายแบบวนไปมาหลายรอบ และจะมีการนองเลือดทุกๆ 10 ปี
ตามหลักวิชาการคือรัฐทหาร100% ครับ ฝรั่งเขายังใช้คำว่า military junta เรียกรัฐเราอยู่เลย
ตามรัฐธรรมนูญช่วงคราวนะครับ เราปกครองด้วย"ประชาธิปไตย"
ตามความเป็นจริงก็คือเผด็จการแหละครับ
ในแง่นี้ก็เหมือนกับเกาหลีเหนือครับ
เกาหลีเหนือเขายังตั้งชื่อประเทศเขาว่า สาธารณรัฐ"ประชาธิปไตย"ประชาชนเกาหลีอยู่เลย แถมอ้างว่ามีการเลือกตั้ง ที่มีผู้สมัครแค่คนเดียวและได้เสียง vote 100% ด้วยครับ :P
ตอนนี้ท่านผู้นำเราก็บอกว่า ตั้งสนช.แล้ว มีครม.แล้ว ก็เป็นประชาธิปไตยแบบ"ไทยๆ"แล้วไงครับ เชื่อท่านผู้นำบ้างสิชาวโลก!
ผมเคยเห็นแค่ผ่านๆ เรียกว่าไม่สนใจเลยก็ได้ ยังต้องกลับไปอ่านแล้วก็ดูตัวอย่างการเล่นเลย
นึกถึงแฮร์รี่ พ็อตเตอร์
วิธีที่จะทำให้แน่ใจว่า ทุกคนในฮอกวอตต์ ได้อ่าน
ก็คือสั่ง"ห้ามอ่าน"นั่นแหละ
หน่วยแบนของเรา น่าจะรักษาภาพให้ท่านผู้นำซะหน่อย อย่าทำอะไรให้ท่านเสียหายสิ ทำเป็นมองไม่เห็นบ้างอะไรบ้างก้ได้
แบนเกมนี้ คือข้อผิดพลาด
อาจจะเป็นนโยบายโดยตรงมาก็ได้นะครับ
ดูตัวอย่างจากที่สั่งจับคนชูนิ้ว กินแซนด์วิช แถมท่านผู้นำออกมาพูดเองว่าอยากแสดงออกให้แสดงแค่ในบ้าน มันชัดเจนมากๆว่าท่านผู้นำสั่งนโยบายเรื่องนี้มาอย่างไร
ทุกวันนี้พอมีอะไรเกี่ยวกับการสั่งห้ามประชาชนอะไรสักอย่าง มักจะโยนให้ คสช. ไปซะหมด ทั้งๆที่คำสั่งดังกล่าวมาจากผู้ปฏิบัติที่อาจจะ(พึ่งมา)เคร่งครัดหน้าที่มากในตอนนี้ เช่น กรณีคราวก่อนสั่งปิด fb ก็มาจากกระทราง ICT แต่ทุกคนกลับโบ้ยไปให้ คสช. ซะหมดด่ากันซะมันเลย
ในเน็ตก็มีข่าวว่าจะสั่งระงับซีรีย์ฮอร์โมน2 ชาวเน็ตต่างรุมจ้วงด่า คสช. ไปซะหลายพันคอมเม้น ทั้งๆที่หน่วยงานที่เพ่งเลงจะระงับเซีรี่ย์รื่องนี้เป็น กสทช. (มีข่าวมาตั้งแต่ภาค1แล้ว)
ข่าวระงับเกมห้ามจำหน่ายก็เช่นกัน ไม่ใช่เกมนี้เป็นเกมแรกที่โดนสั่งห้ามจำหน่าย คำสั่งดังกล่าวมาจากกระทรางวัฒนธรรมแท้ๆ แต่ผู้คนต่างคอมเม้นตำหนิ คสช. ซะส่วนใหญ่
เหอๆ
งั้น เวลาลูกน้องทำผิด หัวหน้าก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นด้วยได้ไช่ใหมครับ?
ถ้าปู รัฐประหารแล้วถ้าปูแบนเกมนี้ด้วย เขาจะด่าใครครับ ด่า กระทรวงหรือด่าปู?
จัดสรรน้ำ จำนำข้าว เขาด่าใครครับ ถ้าไม่ไช่ปู?
จะพูดเรื่องการเมืองกันใช่ไหมครับ
ต้องถามว่า หัวหน้า/คณะ คสช. เขารู้รึเปล่า ว่ากระทรวงวัฒนธรรม สั่งแบนเกมนี้ด้วยหรือเปล่าครับ
และการจัดสรรน้ำหมายถึงตอนน้ำท่วมรึเปล่า ต้องถามว่า ใครเป็นคนดำเนินการออกคำสั่งท่านปลอดประสพ เป็นหัวหน้าบัรรชาการ ซึ่งต้องรายงานตรงกับคณะรัฐมนตรีไม่ใช่หรอครับ
จำนำข้าว ต้องถามว่ามีการรายงานผล และมีการท้วงติงการทรุจริตกับนายกรับทราบแล้วหรือไม่ และเมื่อทราบแล้วทำอะไรไหม คำตอบมีในข่าวทั่วไปนะครับ
อันนี้สงสัย ตอนปิดเฟซบุ๊ก อยู่ๆ กระทรวง ICT อยากปิดเองหรือว่ายังไงครับ ทีแรก คสช. ออกมาประกาศแทบจะทันทีว่า ไม่ได้ปิดกั้นเป็นปัญหา gateway จนไปๆ มาๆ คนก็รู้ว่าไม่ใช่แบบนั้น มีความพยายามทำจริง ภายหลังบริษัท telenor asia ก็บอกว่า มีการปิดกั้นจริง ไม่นานก็มีข่าว กทค. จะตัดสิทธิ์ dtac ในการประมูล 4G/LTE
ส่วนในข่าวนี้ ถ้าเกิดอะไรแบบนี้ในสภาวะปกติคนก็ต้องมีคนด่ารัฐบาล ในกรณีนี้ก็ทำไม่ต่างกัน "...กรมส่งเสริมวัฒนธรรมปรากฎว่าคณะกรรมการฯ มีมติไม่อนุญาต เนื่องด้วยเนื้อหาเกมบางส่วนอาจกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประเทศ..." อ่านแล้วเหตุผลในการแบนมันก็น่าตั้งคำถามครับ
ตอนนี้คุมเบ็ดเสร็จก็เป็นเรื่องที่คนควรจะเพ่งเล็งเป็นแบบนั้นนะ
จ้าๆ ไม่มีใครสั่ง ลูกน้องอยากเอาหน้าทำเองหมด
แหมแล้วไอ้ที่ออกประกาศเตือน ผู้จัดการรายสัปดาห์น่ะใครสั่ง? ใครพูดออกทีวีว่าอยากชูนิ้วให้ชูในบ้าน ห้ามชูนอกบ้าน?
รัฐบาลทหารที่เน้นแต่สร้างภาพก็แบบนี้แหละครับพอทำผิด ก็โบ้ยลูกน้องทำเอง ตนเองไม่รับผิดชอบ
บางคนก็ย้ำแต่ความคิดที่ว่าลูกน้องทำกันเอง คุณจะเอาคนแบบนี้มาบริหารประเทศก็ตามใจครับ รับแต่ชอบผิดไม่รับ
แต่ไม่มองว่าถ้าหัวหน้าไม่มีนโยบายแบบนี้ลูกน้องมันก็ไม่ทำให้มาโดนด่าฟรีๆหรอกครับ
นโยบายเขาคือควบคุมสื่อ เกมเขาถือว่าเป็นสื่อชนิดหนึ่ง อันไหนที่กังวลว่าจะกระทบกับตนเองก็ปิดหมด
เพราะผู้บริหารวิสัยทัศน์มันโบราณไงครับ
แหม แค่นี้ก็หวั่นไหว จิตใจอ่อนแอซะเหลือเกินนะทั่น ผู้กล้า??
ได้โปรโมต+ขายDLCเนียนเลยงานนี้
ตลกดีครับ แยกแยะไม่ออกกันเลยหรือยังไง ระหว่างโลกความจริงกับโลกของเกมจินตนาการ
จริงๆ ผมคิดว่าปัญหามันแค่เกิดจากคนแยกแยะไม่ได้+อคติ+ความคิดส่วนตัวเข้าไป มันเลยกลายเป็นเลยเถิด ซึ่งจริงๆแล้วถ้าคนแยกแยะได้ ผมว่าเกมมันก็คือเกม ปัจจัยต่างๆอะไรแม้จะใกล้ความจริงแค่ไหน สุดท้ายเราก็ยังกำหนดมันได้ แต่ว่าความจริงมันกำหนดไม่ได้เลยนะครับ
ตลกดีกับความคิดแบบ"เต่าล้านปี" แบบนี้จริงๆ แบนอย่างเดียวไม่คิด ชี้แจงเลยหรอว่า ความจริงเป็นยังไง กับเกมเป็นยังไง เฮ้อ...
เป็นการตัดสินใจที่สิ้นคิด ไม่แพ้เรื่อง GTA กับ การโทษสื่อการ์ตูน เลย
ตอนนี้สื่อต่างประเทศก็คงรู้และสินะ ว่าประเทศไทย ไม่ได้ดีและน่าสนใจอย่างที่คิด
เพราะนับว้น มีแต่เรื่องงี่เง่า และเรื่องไร้สาระมากขึ้นทุกที
ผมหวังว่าประเทศไทยจะหลุดจากยุคมืดในเร็ววัน (แต่คงอีกนาน)
Get ready to work from now on.
ตบมือให้ประเทศไทยรัวๆ แปะๆๆ น้ำตาจะไหล T_T
Tropico 5 Banned In Thailand, Because People Are Dumb
http://gamesided.com/2014/08/04/tropico-5-banned-thailand-people-dumb/