จากการสำรวจข้อมูลใน 28 ประเทศทั่วโลกของ Hotels.com พบว่านักท่องเที่ยวชาวไทย “ติดมือถือ” มากสุดในโลก ในขณะที่นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย “ไม่ติดมือถือ” โดยจากข้อมูลเมื่อถามว่าคุณพร้อมที่จะสละการติดต่อสื่อสารผ่านทางโทรศัพท์มือถือระหว่างท่องเที่ยวหรือไม่ 85% ของนักท่องเที่ยวชาวไทยระบุว่าไม่พร้อม ในขณะที่ชาวอินเดียเพียง 20% ระบุว่าไม่พร้อม
ในรายงานยังมีการจัดอับดับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ชอบ “เล่าเรื่องเกินจริง” เกี่ยวกับประสบการณ์การท่องเที่ยวของตัวเองกับคนรู้จัก หลังจากที่กลับมาบ้านแล้ว โดยนักท่องเที่ยวไทย 46% ชอบเอาประสบการณ์ตัวเองมาเล่าเกินจริง (อันดับ 1 คือประเทศจีนที่ 67%)
ข้อมูลที่น่าสนใจอื่น ๆ จากรายงานฉบับนี้มีตามนี้ครับ:
- อันดับ “ติดมือถือ” ต่อ ๆ ไปหลังจากไทย ได้แก่ เกาหลีใต้ (78%), ญี่ปุ่น (69%), จีน (67%) และสิงคโปร์ (60%)
- 10 อันดับแรกของประเทศที่ติดมือถือเป็นประเทศเอเชียหมด ยกเว้นนอร์เวย์ บราซิล และฟินแลนด์ ส่วนอันดับที่ 14-28 เป็นประเทศตะวันตกทั้งหมดยกเว้นอินเดีย
- อันดับ “เล่าเรื่องเกินจริง” ต่อ ๆ ไปหลังจากจีน ได้แก่ เยอรมนี (64%), เกาหลีใต้ (48%), สเปน (47%) ส่วนที่ต่ำที่สุดคือฮ่องกง (9%) และแม็กซิโก (8%)
ที่มา - Newswire Canada
เอ้า ใครไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วต้องมี Pocket Wi-Fi ติดตัวตลอดยอมรับมาซะดี ๆ อิอิ
Comments
ชัดเจน แต่อันหลังนี่ได้ที่ 5เองเหรอ 5555
The Dream hacker..
drama แน่ๆงานนี้ //ขอบคุณสำหรับข่าวนะครับ
หลังจากนี้ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ คงจะมีติด wifi ฟรีเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวเอเชีย
ที่ไทยติดมือถือที่สุดเพราะพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้รึเปล่าครับ ฮา
ติดงอมแงม เลยทีเดียว
โผลนี้จะทำให้บริษัทมือถือหันมาสนใจคนไทยเป็นพิเศษ
เข้าใจแล้วครับ ทำไม Siri ใน iOS 8 มีภาษาไทย และ [ลือ] iPhone 6 ไทยได้รับเกียรติวางขายพร้อม USA
ไม่ต้องเครียดๆ มันเป็นแค่การโปรโมทให้บริษัทมือถือต่างชาติ มาลงทุนประเทศเรา เพื่อเศรษฐกิจ ขำๆนะครับ ฮ่าๆๆๆ
จริงๆอาจจะไม่ได้ติดมือถือ เราแค่ขาดอินเตอร์เน็ทไม่ได้มากกว่า เอาไว้แชท เอาไว้อัพ Social life ถ่าย selfie // ที่กล่าวมา อยู่บนมือถือ !!!
น่าจะจริง เพราะตอนไปญี่ปุ่นเมื่อต้นปี สิ่งแรกที่ผมคิดจะทำหลังจากผ่านตม. คือ "ไปที่ไปรษณีย์ในสนามบินเพื่อเอาซิมที่สั่งไว้มาเสียบแล้วเช็คอิน" เพียงแต่ว่าเครื่องลงเช้าเกินไป ไปรษณีย์ยังไม่เปิด เลยต้องเปลี่ยนเป็นเข้า Lawson ไปซื้อไอติมมากินแทน
ตอนไปเที่ยวกลุ่มผมนี่เอาไว้ดูแผนที่และค้นหาข้อมูลครับ และแน่นอน Facebook คืออีกหนึ่งปัจจัยหลัก -
ไปเที่ยวต่างประเทศที่ไม่มีซิมเติมเงิน การโรมมิ่งเพื่อใช้งาน Line จำเป็นมาก เวลาหลงทางหรือนัดเจอต่างๆ (ต่างคนต่างช๊อป) ใช้ติดต่อกัน โทรผ่าน Line
ส่วนนอกเหนือจากนี้ก็แล้วแต่คน แต่ผมใช้ google translate ภาษาญี่ปุ่นถ่ายรูปมาแปล สดวกมากๆ
เปิดแผนที่ google map/apple map และ app Tokyo Rail Map+ ด้วยครับ โดยเฉพาะอันหลังนี่ช่วยเรื่องสายรถไฟได้เยอะเลย
บางทีมือถือ ที่ว่าอาจหมายถึงสมาร์ทโฟนก็ได้ครับ เพราะถ้าเป็นสมาร์ทโฟนผมไม่ติดนะยินดีไม่เอาไปด้วยเวลาไปเที่ยว แต่ถ้าเป็นโทรศัพท์มือถือนี่ คือมันจำเป็นนะผมว่า เกิดเรื่องอะไรขึ้นถ้าไม่มีนี่ซวยเลย ปัจจุบันโทรศัพท์สาธารณะยิ่งเริ่มหายากหล่ะ
กลับกันกับของผมเลยครับ ^^"
ผมไปเที่ยวบ่อยนะ แต่ผมไม่เคยพึ่งมือถือเลยซักครั้ง คา airplane mode ไว้ตลอดทริป (สมัยก่อนถอดซิมออกด้วยซ้ำ) และไม่เคยซื้อซิมโลคัลใส่เลย ผมคิดว่าไม่จำเป็นต้องติดต่อกันขนาดนั้นเมื่อเทียบกับเงินที่ต้องเสียไปซื้อซิมกับการใช้ไม่กี่วัน (เมืองไทยขายซิมถูกสุดแล้ว) ปกติติดต่อคนที่เมืองไทยก็หา free wifi โดยเฉพาะโรงแรม แล้วใช้ Line/FB เอา ส่วนการติดต่อระหว่างคนในทริป การนัด การหาที่เจอเผื่อหลง แบบยุคก่อนๆ ก็ยังใช้ได้ดีเสมอ
แต่สมาร์ทโฟนนี้ของจำเป็นมากๆๆๆๆ เพราะใช้ google maps เป็นหลักครับ แถมตอนแพลนทริปก็ pin ติดดาวสถานที่ไว้เรียบร้อย ไม่หลงแน่ (แต่เจอ POI มั่วก็บ่อย) ใช้แทนแผนที่กระดาษไปแล้ว เพราะแผนที่ใน smartphone มันบอกพิกัดตัวเองได้!! จะไปไหนมาไหนง่าย ไม่ต้องนั่งงมอีกต่อไป แถมพวกรีวิวต่างๆ ผมเซฟในมือถือหมด เปิดอ่านมาก็ง่าย หาวิธีการเดินทางก็ง่าย ไหนจะถ่ายรูปง่าย อัพ FB ง่าย ไหนจะ Line ไว้ใช้ติดต่ออีก (ไม่พึ่งมือถืออยู่แล้ว) ไปเที่ยวนี่ผมขาด smartphone ไม่ได้จริงๆ จำเป็นมากๆ
85% ของนักท่องเที่ยวชาวไทยระบุว่า "ไม่พร้อม" ในขณะที่ชาวอินเดียเพียง 20% ระบุว่า "ไม่พร้อม"
ผิดหรือเปล่าครับ
ก็ถูกแล้วนี่ครับ เพราะอ่านจากบริบทข้างหน้ามันหมายถึง "ไม่พร้อมที่จะตัดขาดการสื่อสารจากมือถือตอนเที่ยว"
ผมว้าที่เขาเอะใจว่ามันฺผิดอะถูกแล้วครับ เพร่ะาบนเครื่องบิน อินเดียเนี่ยมือถือยกลำ แถมไม่พอ ถึงอินเดียปุ๊บ เปิดปั๊บ คุยเลย แอร์ห้ามก็ไม่ฟังบอก 1 minute - -"
ปล. แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นแบบนี้นะครับ แต่ถ้าเขาบอกว่าอยู่ได้โดยปราศจากมือถือนี่ดูแม่งๆ อ่าครับ โดย Nature แล้วน่าจะติดพอๆ กับเรา
อืม งั้นแบบสอบถามนี้ อาจจะสรุปได้ว่า อินเดียตอบแบบสอบถามโกหกเป็นอันดับ 1 ก็เป็นได้
ชอบขี้อวดด้วยละ บางคนไปเอารูปในกูเกิ้ลมาแล้วอ้างว่าไปมาแล้ว
จริงที่สุด
น่าจะเล่น line ตลอดเวลามากกว่าครับ
ผมเวลาไปไหน ชอบดูแผนที่ google map
การติดต่อสื่อสารผ่านมือถือ นี่มันรวมถึงการเปิดพวก Google Map หรือ หารีวิวที่เที่ยวน่าสนใจมั้ย
คือให้ผมไม่แชทไม่โทรคุยก็ไม่มีปัญหา แต่ผมต้องใช้หาเส้นทางแฮะ
เยอรมนี !!!!
ผมขยี้ตาแล้วอ่านใหม่อีกรอบเลย ได้ขี้โม้ลำดับที่ 2 เชียว
อ่านถึงตรงนี้ก็ตกใจเหมือนกันค่ะ 555
พวกได้น้อยๆนี้ จัดเป็นพวกเถรตรงมาก คิดยังไงก็พูดแบบนั้น
ฝากร้านๆ ไปที่ไหนก็เจอแต่ฝากร้าน
คนไทยบางคน มือถือ คือสมบัติที่แพงที่สุดในชีวิต ณ ปัจจุบัน
มองในแง่ดี บริษัทแอปมือถือต่างชาติอาจจะมาตีตลาดไทยมากขึ้นก็เป็นได้ !!
Facebook , Instagram , Line 3 อันนี้น่าจะมีคนติดมากที่สุด
เรื่องขี้โม้ผมว่าปกติ มันเป็นจิตวิทยาครับว่าฉันไปเที่ยวที่นั่นที่นี่มาจะพูดให้ออกรสต้องใส่ไข่หน่อย
ก็ดูประเทศที่ได้ลำดับต้นๆสิ เป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวที่ไปต่างประเทศเยอะสุด พวกเม็กซินกันเขาไม่ค่อยจะเที่ยวหรือเป็นพวกข้ามฟากมาอเมริกาก็เยอะเหมือนไม่ได้มาเที่ยวมาได้ไม่อั้น
มันมีเหรอครับประเภท "ไปเที่ยวอเมริกามา ก็ไม่มีอะไรนะบางอย่างก็คล้ายๆเมืองไทย ทะเลก็คล้ายๆกันแต่ต่างกันตรงไม่ค่อยมีใครไปว่ายน้ำยกเว้นหน้าร้อน" คนที่เล่าเรื่องไม่เกินจริงคือคนที่ไปต่างประเทศแล้วไม่เที่ยวแบบผมนี่แหละ เวลาคนมาถามก็ตอบอืมก็ดีนะ บางอย่างคล้ายๆบ้านเรา คนอื่นเที่ยวไปทั่วสารพัด ผมไม่เที่ยวเลยไม่มีอะไรจะเล่า
โม้ว่าหลงป่ายังมีเลย
/me เผ่นนนนนนนนนนนนนนน...
Educational Technician
ห้า ห้า
..: เรื่อยไป