ประเทศจีนเป็นหนึ่งในประเทศที่รู้กันว่ามีการควบคุมการรับรู้ข้อมูลของประชาชนมากที่สุดประเทศหนึ่งในโลก โดยที่เว็บต่างๆ ถูกบล็อคตามช่วงเวลาโดยไม่มีการแจ้งเหตุผลกันเสมอๆ แต่ประชาชนจีนจำนวนมากก็รู้ว่าวิธีการเข้าถึงข้อมูลที่ถูกบล็อคเหล่านั้นได้ง่ายๆ คือการอ่านข้อมูลผ่านบริการ RSS ที่ไม่ได้ผ่านระบบกรองเอกสารของจีน ทำให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นได้เป็นวงกว้าง
เมื่อวานนี้ทางการจีนจึงมีการดำเนินการบล็อคข้อมูลทาง RSS Feed ทั้งประเทศ รวมถึงเว็บเช่น FeedBurner และเว็บทั้งหมดที่ขึ้นต้น URL ด้วยคำว่า feed, rss และ blog โดยการทำเช่นนี้ทำให้แม้แต่เว็บที่ไม่ได้มีเนื้อหาเป็นภัยต่อความมั่นคง ของจีนก็ถูกบล็อคบริการเหล่านี้ไปด้วยทั้งหมด
แน่นอนว่าการบล็อคอย่างนี้ก็ไม่ได้ช่วยป้องกันไม่ให้ประชาชนที่ต้องการเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้สามารถรับข้อมูลที่พวกเขาต้องการได้ บริการที่ได้รับความนิยมสูงๆ ในจีนก็เช่น gladder, Tor ตลอดจนบริการ Proxy และ VPN อื่นๆ ที่มีอยู่ทั่วโลก
ที่มา - ArsTechnica
Comments
หลักการคอมมิวนิสต์ที่การปกครองโดยใช้คนเพียงกลุ่มเดียวกำหนดทิศทางของประเทศ และมุ่งเน้นผลประโยชน์และความมั่นคงของชาติเป็นหลัก การปิดตาประชาชนแล้วรัฐ(ในความหมายด้านสังคมศาสตร์)ได้ประโยชน์อะไร?
ผมค่อนข้างขัดใจกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพในประเทศจีนด้านการรับข่าวสารและข้อมูล
ประชาชนทุกคนควรมีโอกาสในการได้รับและเลือกรับข่าวสารข้อมูลที่เท่ากัน แต่หลักการนี้คงใช้ไม่ได้กระมังในประเทศที่ไม่ได้ดำรงอยู่บนฟื้นฐานของประชาธิปไตย
คอมมิวนิสต์มีหลายสายนะครับ เพียงแต่ว่าแบรนดิ้งของคำนี้เสียไปเนื่องจากแนวคิดกับการปฎิบัติจริงต่างกันมาก เวลาเอ่ยถึงต้องบอกให้ชัดว่าเป็น
ถ้าเอากันจริงๆ ตามหลักวิชาการ ก็มีสายย่อยอีกเยอะมาก
คำว่าคอมมิวนิสต์ข้างบนผมหมายถึงคอมมิวนิสต์แบบของจีนครับ เพราะผมค่อนข้างเชื่อว่าไม่ว่าไม่ว่าคอมมิวนิสต์สายไหน ก็คงไม่นโยบายปิดหูปิดตาประชาชนริดรอนข้อมูลข่าวสาร เพื่อส่งผลให้ประชาชนโง่ลงทำให้การปกครองภายในประเทศง่ายขึ้น
เพราะผมคิดว่าแนวคิดอย่างนี้น่าจะหมดไปตั้งแต่สมัยการล่าอาณานิคมแล้ว
ขอโทษด้วยถ้าผมใช้คำที่อาจจะดูรุนแรงไป เป็นความรู้สึกส่วนตัวเกี่ยวกับสิทธิมนุษย์สิยะชล
คอมมิวนิสต์ในจีนไม่ได้เท่าเทียมกันทุกคน ผู้บริหารจะมีอภิสิทธิ์มากกว่าประชาชนทั่วไป
ประชาธิปไตยในไทยก็ไม่ได้เท่าเทียมกันทุกคน ตละกูลขุนนางก็มีอภิสิทธิ์มากกว่าประชาชนทั่วไป
ถ้าคิดในมุมมองแบบนี้ ผมคิดว่าหลักการสิทธิและเสรีภาพของข้อมูลข่าวสาร ก็ใช้ไม่ได้ในระบอบประชาธิปไตย (แบบไทยๆ) เช่นเดียวกัน
PoomK
ยังไม่เคยมี รัฐคอมมิวนิสต์ตามทฤษฎีของมาร์กซ์จริงๆเลยนะครับ
ที่แล้วมามี่แต่ เผด็จการสังคมนิยม กับเผด็จการทุนนิยม แทบทั้งนั้น
หนักกว่าบ้านเราเยอะแฮะ
Don't think, Just read
pittaya.com
ไม่ใช่ครับหลักการของคอมมิวนิสต์ม่ได้ปกครองโดยใช้หลักการความมั่นคงเป็นหลักเพียงอย่างเดียวแต่ต้องให้ประชาชน
มีสิทธิขั้นพื้นฐานเท่าเทียมกัน ใช้หลักการในการร่วมมือกันผลิตและยังใช้ระบบธุรกิจแบบสังคมนิยมด้วยครับแต่หลักการนี้มันเป็นไปได้ยาก
ในโลกนี้จึงไม่มีคอมมิวนิสต์แท้จริงอยู่แท้จริงแล้วจีนอ้างว่าเป็นคอมมิวนิสต์นั้นผมว่าจีนน่าจะเป็นเผด็จการทุนนิยมมากกว่า
จากข่าวทางด้านบนแสดงว่าจีน ไม่สามารถให้ประชาชนมีสิทธิขั้นพื้นฐานเท่าเทียมกันได้ซิครับ
ผมคิดว่าสิทธิในการรับข้อมูลข่าวสารถือเป็นสิทธิขั้นฟื้นฐานเช่นเดียวกัน ข้อมูลในที่นี้หมายถึงข้อมูลโดยๆทั่วๆไปที่ไม่ขัดต่อจิตสำนึกของคนในชาตินั้นๆ
คำว่าได้รับเท่าเทียมหมายถึงทุกคนมีสิทธิที่ควรจะได้รับเท่ากัน ไม่ได้หมายถึงทุกๆคนถูกปิดตาเหมือนกันหมดทั้งประเทศอย่างนี้
พวกคอมมิวนิสต์สมัยยังต่อสู้ ยังจนๆอยู่ จะค่อนข้างเสมอภาคกันดี
แต่พอรวยหน่อย ตั้งรัฐบาลได้ เกิดมีตำแหน่งขึ้นมา ความเสมอภาคก็จบลง หนักกว่าทุนนิยมอีก
คอมมิวนิสต์เป็นแนวความคิดที่ดีแต่เป็นไปไม่ได้ ที่จะคล้ายๆหน่อยก็คงพวกฟินแลนด์ สวีเดน
เออ...ชักนอกเรื่องไปแล้ว :(
ใข่ครับ
คอมมิวนิสต์เป็นแนวความคิดที่ดีแต่เป็นไปไม่ได้ ที่จะคล้ายๆหน่อยก็คงพวกฟินแลนด์ สวีเดน เออ…ชักนอกเรื่องไปแล้ว :(
คอมมิวนิสก็ดีอย่างนะ นโยบายพัฒนาประเทศเขามีทิศทางที่แน่นอน
ประชาธิปไตยยุบสภาที ก็เปลี่ยนที...
บล็อคนานแล้วค่ะ ประมาณเดือนนึงได้แล้ว ตอนนั้นคิดว่าโปรแกรมอ่าน RSS เราเจ๊งซะอีก ที่แท้ก็บล็อคนี่เอง เฮ้ออ บล็อคเยอะไปแล้วนะ
เมืองจีนอากาศดีมั๊ยครับ
คอมมิวนิสต์ที่แท้จริง มันอุดมคติเกินไป ทำจริงๆไม่ได้
ผมว่ามันก็อุดมคติพอๆกับคำว่า ประชาธิปไตยนะ โดยเฉพาะประชาธิปไตยในห้องประชุมกับผู้หลักผู้ใหญ่
ผมว่าคำพูดที่ว่า "คอมมิวนิสต์มันอุดมคติเกินไป ทำไม่ได้หรอก" เป็นเพียงคำพูดของอาจารย์ในโรงเรียน ที่ถูกปลูกฝังมาในยุคต่อต้านคอมมิวนิสต์มากกว่า
ปัญหาไม่ใช่ว่ามันเป็นอุดมคติหรือเปล่า ถ้าจะทำมันก็ทำได้ทั้งนั้นแหละ นอกจากเราติดปัญหาอะไรทำให้เป้าหมายนั้นเป็นไปได้ยาก เช่นการทำให้ไทยเป็นประชาธิปไตย ต้องสังคมไทยเท่าเทียมกันเสียก่อน
PoomK
ประชาธิปไตยแบบทุนนิยม ตามที่หวังกันจริงๆ มันก็อุดมคติเกินไป ทำไม่ได้เหมือนกัน
คนยังไม่มีคุณภาพพอ ระบอบอะไำรๆ ก็คงห่างไกลคำว่าสมบูรณ์พอๆกัน
..
ส่วนจีนเรียกว่า ทุนนิยมโดยรัฐ State Capitalism
ผมไม่เชื่อในระบบทุนนิยม มันเป็นระบบที่นำพาสู่ความฉิบหาย สู่การผูกขาดในที่สุด
ทำไมถึงพูดอย่างนั้น แนวคิดทุนนิยมตอนเริ่มแรกนั้นดี คือมีสมมุติฐานว่าทรัพยากรเป็นสิ่งที่มีอยู่อย่างจำกัด ต้องนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทุนและแรงงานจึงถูกบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงความพึงพอใจของทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค
แต่พอทำไป กลับทำให้เกิดการแบ่งชนชั้น รายได้ไปตกค้างอยู่ที่ชนชั้นนายทุน ซึ่งต้องสะสมทุนไว้แข่งขันกับนายทุนอื่น ต้องขยายกิจการเพื่อให้อัตราการเติบโตสูงขึ้นเรื่อย ๆ โตแบบเชิงเส้นก็ไม่ได้ด้วย ต่ำกว่าเชิงเส้นก็ถือว่า "ซบเซา" การแข่งขันอย่างเอาเป็นเอาตายทำให้เกิดความจำเป็นที่จะต้องเอาตัวรอด หลักอุปสงค์-อุปทานจากเดิมที่เป็นดุลยภาพของความพึงพอใจของผู้ผลิตกับผู้บริโภค ก็ถูกควบคุมด้วยหลักการตลาด พออุปทานเพิ่มก็ไปเพิ่มอุปสงค์ ทำให้คนจับจ่ายใช้สอยอย่างไม่สมเหตุสมผล แล้วก็เร่งแข่งกันถลุงทรัพยากรมาผลิตอย่างบ้าคลั่ง ลืมแนวคิดเริ่มแรกเรื่องทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดไปเสียสิ้น
ทุนนิยมยิ่งพัฒนาไป ก็ยิ่งสร้างความฟุ้งเฟ้อ ถ่างช่องว่างระหว่างชนชั้นให้กว้างขึ้น ในเมื่อด้านหนึ่งก็มีการกระตุ้นอุปสงค์ในตลาดอยู่ตลอด และอีกด้านหนึ่ง ชนชั้นแรงงานก็ถูกกดราคาค่าแรง เนื่องจากนายทุนต้องเก็บทุนไว้แข่งขัน
การแข่งขันที่ว่าจะทำให้ผู้บริโภคได้ประโยชน์ ก็ไม่จริงเสมอไป บ่อยครั้งที่การแข่งขันเป็นเพียงมายาภาพ ในเมื่อทุกอย่างยังมีต้นทุน สิ่งที่เกิดจากการแข่งขันก็คือ การบิดเบือนข้อมูล ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือโปรโมชั่นมือถือต่าง ๆ ที่ผ่านการคำนวณกำไรมาอย่างดี แต่สามารถนำเสนอให้ผู้บริโภครู้สึกว่าถูกได้ หรือจะเป็นการลดคุณภาพสินค้าอย่างจงใจ นอกจากนี้ บ่อยครั้งก็มีการฮั้วกันเองของกลุ่มผู้ผลิต
แข่งกันหนักเข้า ก็เกิดความจำเป็นต้องเอาตัวรอด เกิดการควบรวมกิจการจนกระทั่งเหลือรายใหญ่ไม่กี่เจ้าในตลาด หรือในบางตลาดอย่างซอฟต์แวร์ ถึงกับมีบริษัทเดียวผูกขาดตลาดส่วนใหญ่ ตลาดที่บอกว่าแข่งขันแบบเสรีนั้น ในบั้นปลายจะจัดระเบียบตัวเองกลายเป็นตลาดผูกขาดในที่สุด
ทุนนิยมจึงไม่ควรนำมาใช้เดี่ยว ๆ แต่ควรใช้สังคมนิยมผสมด้วย ดังเช่นการตั้งสหภาพแรงงานเพื่อต่อรองสวัสดิการลูกจ้างกับนายทุน การมีสวัสดิการสังคมของรัฐ การบริหารโครงสร้างพื้นฐานโดยรัฐ การแทรกแซงตลาดโดยรัฐ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การป้องกันการผูกขาดตลาด
จริงๆทุกวันนี้ แม้แต่ในไทยเราก็ยืมนโยบายของคอมมาหลายอย่างเหมือนกันนะครับ
สหกรณ์ สหภาพแรงงาน ฯลฯ
ส่วนตัวผมก็คิดว่าทุนนิยมไม่ใช่สิ่งดีที่สุด แต่ ณ ตอนนี้ ก็ดีกว่าสังคมนิยมเยอะมากละครับ
เรื่องชนชั้นแม้จะต่างกัน แต่ชนชั้นต่ำในทุนนิยมก็ยังอยู่ดีกินดีกว่าชั้นต่ำในสังคมนิยมมากมาย
ไม่รู้สิครับ รู้แต่ว่าเรื่องเศรษฐกิจของเอเซีย นอกจากญี่ปุ่นและสิงค์โปรแล้ว ก็จะเห็นว่ามีจีนนี่แหล่ะครับที่เริ่มจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำทางด้านเศรษฐกิจกับเขาบ้างแล้ว แถมทุนสำรองเงินตราก็มากที่สุดในโลกอีกต่างหาก (หรือญี่ปุ่นเยอะกว่านะ จำไม่ได้แล้ว) ขนาดเค้าปิดประเทศแถมบางประเทศยังประณามว่าเค้าเป็นคอมมิวนิสต์ แต่เค้าก็ยังทำให้เศรษฐกิจบ้านเค้าเจริญ
ประเทศประชาธิปไตยบางประเทศ (ประเทศไหนก็ไม่รู้) ก็ขยันทะเลาะกันจัง อายเค้ามั๊ยนั่น
เท่าที่ผมรู้ เศรษฐกิจจีนโตมาจากจำนวนประชากรที่มาก และค่าแรงที่ถูกนะครับ
มันคงดูง่ายที่เราจะบอกว่าอย่างเขาก็ดีอย่างนั้นอย่างนี้ เพราะตัวเลขทางการเงินแข็งแกร่งต่างๆ นาๆ
แต่ถ้าเราต้องเป็นชนชั้นล่างของประเทศเค้าที่ต้องได้รับค่าจ้างต่ำๆ ล่ะครับ เราจะชื่นชมประเทศตัวเองกันออกไหม
อ่อ เศรษกิจจีนเปิดประเทศมานานแล้วครับ ปิดประเทศนั่นต้องประมาณพม่าครับ
LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
จะ คอมมิวนิสต์ หรือ ปรธ มันก็มีจุดด้อยจุดอ่อนทั้งคู่แหละครับ
ลองดูละกัน คนไทยที่ศึกษาแตกฉานจริๆงมีซักกี่คน? แล้วคิดว่าคนมีการศึกษาไม่วันๆบนบานศาลกล่าว ไม่งมงาย โดนเป่าหู ยัดเงินหน่อยก็เอาแล้ว มีตั้งเท่าไหร่??
มันขึ้นกับว่าเหมาะกับประชาชนในประเทศนั้นรึเปล่าก็แค่นั้นมากกว่านะ
เทียบง่ายๆ เหมือนเอาคนไม่เรียนหมอซั4คน กับคนเรียนหมอ 1 คนมาตัดสินเรื่องของหมอแหละครับ พวกไม่เรียนหมอ 4 เห็นด้วยหมด อย่างี้ยุติธรรมเหรอครับ?
เข้า blognone ไม่ได้ด้วย
เกี่ยวกับการเมืองทีไร มีความเห็นกันสนุกสนานทุกทีจริงๆ
จีนนี่สุดยอดจริงๆ (ในทางลบนะครับ)
---
Khajochi
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com