ในงาน IFA 2014 ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ทาง Toshiba เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมด 3 ตัวด้วยกัน คือ Toshiba Chromebook 2, Toshiba Radius 11 และ Toshiba Encore Mini
สำหรับ Toshiba Chromebook 2 นั้นเป็นโน้ตบุ๊กที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Chrome OS รุ่นที่ 2 ต่อยอดจากรุ่นแรก โดยอัพเกรดจากเดิม เช่น หน้าจอเปลี่ยนเป็นแบบ Full HD 1080p แต่ยังคงอยู่ที่ขนาด 13.3 นิ้วเช่นเดิม, เปลี่ยนไปใช้ซีพียู Intel Celeron Bay Trail, รองรับ Wi-Fi แบบ ac, ไมโครโฟน 2 ตัวสำหรับการสนทนาแบบวิดีโอคอลล์ รวมถึงตัดพัดลมออกจากเครื่อง ทำให้เสียงเครื่องขณะที่กำลังทำงานเงียบขึ้น
ที่สำคัญคือ ใน Toshiba Chromebook 2 นั้น ทาง Toshiba ได้จับมือกับ Skullcandy ผู้ผลิตหูฟังสำหรับวัยรุ่นชื่อดัง นำระบบเสียงของ Skullcandy ใส่ลงในเครื่องนี้ด้วย ทำให้ตัวเครื่องมีเสียงเบสทรงพลัง และเสียงกว้างขึ้น (wide range of audio) และสุดท้ายคือแบตเตอรี่ที่สามารถใช้ได้นานถึง 11.5 ชั่วโมง (รุ่นก่อนหน้านี้ใช้ได้ 9 ชั่วโมง)
Toshiba Chromebook 2 จะมีสีเดียวคือสีขาว แต่จะมีเคสวางจำหน่ายเพิ่มเติมทั้งหมด 3 สีคือ สีถ่านชาร์โคล, สีฟ้า Aqua และสีแดงกุหลาบ สนนราคาของเครื่องอยู่ที่ 249 ดอลลาร์สหรัฐ (สำหรับรุ่นที่ใช้จอ 1366 x 768 พิกเซล และแรม 2 GB) จนถึง 329 ดอลลาร์สหรัฐ (สำหรับรุ่นจอ 1080p และแรม 4 GB)
Toshiba Chromebook 2 (ภาพจาก The Verge)
ทางด้าน Toshiba Radius 11 นั้นเป็นโน้ตบุ๊กบิดหน้าจอได้ 360 องศา รัน Windows 8.1 ในราคาระดับเดียวกันกับ Chromebook โดยเป็นตัวที่ต่อยอดมาจาก Toshiba Satellite Radius รุ่นหน้าจอ 15 นิ้ว
สำหรับสเปกของ Toshiba Radius 11 มีดังนี้
จุดเด่นสำคัญจุดหนึ่งของรุ่นนี้คือ จะไม่มีพัดลม เช่นเดียวกันกับ Chromebook 2 และด้วยซีพียูที่ประสิทธิภาพไม่ค่อยสูงนัก ทำให้แบตเตอรี่ของเครื่องนี้ทนทานขึ้นมาก
Toshiba Radius 11 จะวางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นราว ๆ 400 ดอลลาร์สหรัฐ เริ่มวางจำหน่ายไตรมาสที่ 4 ของปีนี้
Toshiba Radius 11 (ภาพจาก The Verge)
ตัวสุดท้ายคือ Toshiba Encore Mini ซึ่งเป็นแท็บเล็ตที่รัน Windows 8.1 ขนาดหน้าจอ 7 นิ้ว (น่าจะเป็นตัวเดียวกันกับที่ไมโครซอฟท์โชว์ในงาน Computex ที่ไต้หวัน) โดยจุดขายสำคัญของ Encore Mini คือ ราคาที่ตั้งอยู่ที่ 119.99 ดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น! ยังไม่พอ ยังได้ Office 365 Personal ไปใช้ฟรี 1 ปีอีกต่างหาก
สำหรับสเปกของ Encore Mini ประกอบด้วย
Toshiba Encore Mini วางจำหน่ายแล้ววันนี้ในราคา 119.99 ดอลลาร์สหรัฐ
ที่มา
Comments
ยังเขียนไม่เสร็จใช่ไหมครับ?
ตอนนี้เสร็จแล้วครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
แก้อีกรอบครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger