มาถึงรอบงาน IFA 2014 โซนี่ก็ไม่พลาดที่จะนำมือถือและแท็บเล็ตรุ่นใหม่ๆ มาเปิดตัวด้วยกันทั้งหมด 4 รุ่น เรียกได้ว่าเป็นการถาโถมตลาดชนิดที่เรียกว่าไม่เกรงใจใครเลยทีเดียวครับ ซึ่งทั้ง 4 รุ่นของโซนี่ก็ประกอบไปด้วย ตามนี้ครับ
Xperia Z3
การอัพเกรดตระกูล Z ครั้งที่ 4 ที่ครั้งนี้ไม่ได้ใช้รูปแบบ OmniBalance ในการออกแบบตัวเครื่องแล้ว แต่เน้นลูกเล่นภายในตัวเครื่องแทน
ลูกเล่นใหม่ๆ ของ Xperia Z3 นั้นมีดังต่อไปนี้ครับ
- PS4 Remote Play : รองรับการสตรีมเกมมาเล่นจาก PlayStation 4 โดยตรง และซอฟต์แวร์ของ Xperia Z3 และรุ่นหลังจากนี้จะรองรับการเชื่อมต่อกับ DualShock 4 แล้ว อีกทั้งโซนี่จะออกอุปกรณ์เสริมสำหรับยึดตัวเครื่องไว้บนจอย DualShock 4 วางขายทีหลัง
- Sony's DSEE HX technology : ตัวถอดสัญญาณด้านเสียงตัวใหม่ของโซนี่โมบาย อันนี้โซนี่พอร์ตออกมาจาก Walkman เช่นเดียวกันกับฟังก์ชัน Noise Cancelling ใน Xperia Z2
- รองรับการกันน้ำในระดับ IP65/68 ทำให้ตัวเครื่องสามารถอยู่ในน้ำลึกระดับสองเมตรได้
- 3x Clear Image zoom รองรับการซูมโดยไม่เสียความละเอียดภาพที่ 3 เท่า และรองรับดิจิทัลซูม 8 เท่า
สำหรับสเปคผมคงไม่พูด เพราะสเปคเหมือนกับ Xperia Z2 อย่างกับแกะ เพราะงั้นขอข้ามเลยนะครับ
Xperia Z3 Compact
การอัพเกรดครั้งแรกของตระกูล Compact ที่ครั้งนี้ยืนพื้นบนสเปคของ Xperia Z3 สำหรับสเปคละเอียดมีดังต่อไปนี้ครับ
- หน่วยประมวลผล Snapdragon 801 (MSM8974AC) ความเร็ว 2.5 GHz
- หน้าจอ IPS 4.6 นิ้ว ความละเอียด 1280*720 พิกเซล
- หน่วยความจำในตัว 16 GB รองรับ microSD สูงสุด 128 GB แรมในตัว 3 GB
- กล้องหลัก 20.7 ล้านพิกเซล กล้องหน้าไม่ระบุ
- ตัวเครื่องหนักเพียง 129 กรัม
Xperia Z3 Compact Tablet
สำหรับแท็บเล็ตตัวนี้ ถือได้ว่าเป็นแท็บเล็ตขนาด 8 นิ้ว ตัวแรกของโซนี่ ในส่วนสเปคก็ยังคงยืนพื้น Xperia Z2 Tablet เช่นเคย แต่มีจุดที่แตกต่างตังต่อไปนี้
- หน่วยประมวลผล Snapdragon 801 (MSM8974AC) ความเร็ว 2.5 GHz
- หน้าจอ IPS 8 นิ้ว ความละเอียด 1920*1080 พิกเซล
- หน่วยความจำในตัว 16 GB รองรับ microSD สูงสุด 128 GB แรมในตัว 3 GB
- กล้องหลัก 8 ล้านพิกเซล รองรับดิจิทัลซูม 8 เท่า
- แบตเตอรี่ขนาด 4500 mAh สแตนด์บายได้นาน 1100 ชั่วโมง เล่นวิดีโอได้ต่อเนื่อง 15 ชั่วโมง และฟังเพลงได้ต่อเนื่อง 170 ชั่วโมง
- แยกรุ่นจำหน่ายระหว่าง Wi-Fi และ LTE
Xperia E3
รุ่นอัพเกรดครั้งที่สองของ Xperia E โดยการอัพเกรดในรอบนี้ ยังมีการเปลี่ยนแปลงสเปคดังต่อไปนี้ด้วยครับ
- หน่วยประมวลผล Snapdragon 400 ความเร็ว 1.2 GHz
- หน้าจอ LCD ขนาด 4.5 นิ้ว ความละเอียด WVGA พิกเซล
- หน่วยความจำในตัว 4 GB รองรับ microSD สูงสุด 128 GB แรมในตัว 1 GB
- กล้องหลัก 5 ล้านพิกเซล รองรับดิจิทัลซูม 8 เท่า
- แบตเตอรี่ขนาด 2330 mAh
- แยกรุ่นจำหน่ายระหว่าง 3G/LTE และ DualSIM
ทั้งหมดนี้ โซนี่ยังไม่ประกาศว่าจำหน่ายเมื่อไหร่ครับ
ที่มา - Android Community (Xperia Z3/Z3 Compact, Xperia Z3 Tablet, Xperia E3)
Comments
กล้องของZ3 ISO 12800
โอ้ว อยากได้ Xperia Z3 Compact Tablet
แบต e3 4500 mAh จัดหนักมากกกกก
แบต E3 เขียนผิดครับ 555 แก้ใหม่ละครับ
กลับมาลูปที่ช้ากว่าชาวบ้านหนึ่งสเตปอีกแล้ว ทำไมไม่ snap805 ไปเลย
A smooth sea never made a skillful sailor.
เห็นโซนี่เคยบอกว่ารอ Snapdragon 8xx ตัวท็อป 64 บิตครับ (ซึ่งมันต้องรอ Android L ก่อน)
ไหนบอกว่าที่ออกเรือธงทุก 6 เดือนเพราะเดี๋ยว hardware จะตามเค้าไม่ทัน แล้วนี้อะไร สเป็คถอดด้าม Z2 มาเลยชัดๆ
Xperia Z3 Compact Tablet
ก้อปเกินรึเปล่าครับ ในวิดีโอเขียนว่าหนัก 270 กรัม
Xperia E3
อันนี้ก็น่าจะก้อปเกินมา...
iPad Mini ที่อยู่บนโต๊ะมันสั่น
รับสายสิครับ #ผิด
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
ตัง -> ดัง
DSEE HX ไม่ใช่ Decoder แต่ DSP นะครับ
My life and hobbies blog!
Technology and Gadget blog!
ใช่ครับ DSP แต่จริง ๆ ทั่วโลกเค้าก็ยัง สงสัยกันนะครับว่า DSEE มัน work จริงมั้ย ?
แต่ส่วนตัวผมว่า มันเป็นวงจรเติม bit ลงไปใน bit stream แบบนี้
mp3(PCM) -> sigma-delta module(1 bit stream) -> DAC แบบ 24bit (แต่ทำงานที่ 16 bit)
DSEE
mp3(PCM) -> sigma-delta module(1 bit stream) -> DSEE -> DAC แบบ 24bit (ทำงาน 24 bit)
ผมเดาเอาว่า DESS มันจะไม่ทำงานแน่ ๆ กับ file แบบ stream เช่น SACD หรือ DSD
เพราะ DSD จะอัด data ดิบใส่ DAC ตรง ๆ
เท่าที่เคยอ่านบทความสัมภาษณ์คนประดิษฐ์ DSEE HX มันคือเอฟเฟกต์ Enhancer/Exciter ตัวหนึ่งครับ ซึ่งเทคโนโลยีที่ปรับแต่งพวกไฟล์เพลงที่มีความถี่สูงหายไปจากการบีบอัด เพิ่มคุณภาพเสียงของการสนทนาทางโทรศัพท์ก็ใช้เอฟเฟกต์ตัวนี้เหมือนกัน แต่ข้อแตกต่างของแต่ล่ะเจ้าคืออัลกอริทึมที่ใช้ในการสร้างเสียงความถี่ที่หายไปขึ้นมาใหม่ครับ
ในส่วน DSEE HX เขาก็เพิ่มขั้นตอนในการทำ upsampling เพิ่ม bit ให้กับสัญญาณเสียงแล้วก็ใช้ Enhancer/Exciter เพื่อสร้างความถี่ที่หายไปอีกที จากที่เมื่อก่อนมันสร้างความถี่ถึงแถว ๆ 20 - 22 kHz ใน DSEE HX มันก็สร้างความถี่ที่หายไปได้มากกว่า 20 - 22 kHz ครับ ซึ่งก็ตรงตามจุดประสงค์ของคนประดิษฐ์ที่ต้องการให้ผู้ใช้ที่มีไฟล์เพลงความละเอียด Audio CD ได้ใช้ประโยชน์จากเครื่องเล่นแบบ HRA เต็มที่ด้วย
ส่วนเรื่องมันทำงานได้จริงไหม ผมเห็นมีคนวัดสัญญาณเสียงที่ได้อยู่ ซึ่งมันสามารถเพิ่มได้จริง แต่ในทางปฏิบัติเองจะมีคนได้ยินเสียงความถี่สูง ๆ ที่มันสร้างขึ้นได้หรือเปล่า ผมก็ไม่แน่ใจ เพราะคนเราเองรวมทั้งอุปกรณ์ก็ตอบสนองต่อเสียงความถี่สูงได้ไม่มาก แต่สำหรับตัวผมเองได้ยินความแตกต่างแค่บางช่วงของเพลงแบบนาน ๆ ทีครับ
My life and hobbies blog!
Technology and Gadget blog!
Z3 Tablet เหมือนจะโทรได้ด้วยแฮะ มีแอพโทรศัพท์อยู่ในรูป
อยากซื้อแล้วใช้ได้นานๆ ขอรอ Z4 ที่เป็น Snapdragon ตัวใหม่ 64 bit พร้อม Android L แล้วกัน
ใช่ๆ รอ Snapdragon 805 + Android L มาเสริมขบวนก่อนดีกว่า แล้วค่อยซื้อ
snapdragon 805 ยังไม่ใช่ 64 bit ครับ ต้องเป็นตัว 808 810 จะเป็น 64 bit
มี Hi-res audio technology เพิ่มมาด้วยครับ Z2 ไม่มีอันนี้
Z2 มี Hires-Audio via USB
คืออะไรครับ อันนี้ผมไม่เคยใช้
ของ Xperia Z2 ถ้าต้องการเล่นไฟล์ความละเอียดสูง จะต้องต่อ DAC เช่น PHA-2 ถึงจะสามารถเล่นไฟล์ได้ ถ้าไม่ต่อแอพ WALKMAN มันจะไม่เล่นเพลงนั้นแล้วข้ามไปเล่นเพลงอื่นที่เป็นความละเอียด Audio CD แทนครับ
My life and hobbies blog!
Technology and Gadget blog!
ผมว่า Z3 มันก็ยังออกแบบเป็นแบบ OmniBalance เหมือนเดิมนะครับเหมือนเป็นเอกลักษณ์ของตระกูล z ไปแล้ว
พูดยาก เพราะว่าจุดเด่นของ Omnibalance คือมันเป็นดีไซน์ที่ด้านตรงข้ามเท่ากัน และกระจายน้ำหนักสม่ำเสมอกัน คราวนี้ไม่รู้ว่าไอ้ที่บอกว่าไม่ใช่ Omnibalance เนี่ยเพราะอะไรเหมือนกัน
ปล. เพราะ Omnibalance เนี่ย เวลาล้วงกระเป๋าจะกดปุ่มอะไรบนเครื่องมันจะหาไม่ค่อยเจอ เพราะว่ามันเท่ากันไปหมด 555
เห็นด้วยครับ ยังดีที่มีที่คล้องสายมาให้ เอาตุ๊กตามาห้อยเวลาหยิบคลำๆพอจับทางได้ว่าเครื่องมันหันไปทางไหน เกือบลืมไปเลยว่าใช้แรกๆเคยหยิบออกมาแล้วถือกลับหัวประจำ 5555
ใช่เลย ถ้าไม่ดู กลับหัวกลับหาง กลับหน้ากลับหลังมั่วไปหมดจริง ๆ
Jusci - Google Plus - Twitter
ผมใช้วิธีติดฟิลม์คนละชนิดกันเพื่อแยกหน้าหลังครับ
ด้านหลังใช้ฟิลม์นิรภัยแบบเหนียวๆหนืดๆที่ต้องใช้น้ำติด ผิวคล้ายเปลือกส้ม จับแล้วติดมือดี
ด้านหน้าใช้ Tempered Glass เพื่อสัมผัสที่ดี
พอรู้หน้าหลังแล้ว เรื่องกลับหัวกลับหางก็ง่ายละครับ แค่สัมผัสให้รู้ว่าปุ่มอยู่ทางขวา หรือรูที่ Tempered glass เจาะเว้น proximity sensor ไว้อยู่ด้านบน(ด้านหน้า) หรือไม่ก็เจอรูกล้องอยู่ข้างบน(ด้านหลัง) ก็เจอละ
Ram 3Gb!!
ถ้าแท็บเล็ตมีปากกา หรือใช้ดินสอได้ จดเทพ ๆ หน่อยนะ..
Z Ultra ใช้ดินสอเขียนได้ ไม่แน่ใจว่า Z2 ต้องมอด (+รูท) ก่อนถึงจะทำได้หรือว่าได้เลย (ลืมแล้ว) คิดว่าตัวจอ Z3 ถ้าไม่ต่างกับรุ่นอื่นมากก็คงใช้ได้เหมือนกัน
Z2 ใช้ดินสอเขียนได้เลยครับ ไม่ต้องทำอะไีรเพิ่ม
ซีรีย์ M ตัวต่อไปตั้งไปใช้ Snapdragon 6xx ได้แล้วนะโซนี่ อย่ากั๊กเยอะ
Xperia Z3 Compact Tablet อันนี่มันน่าโดนจริงๆ น้าาาา
The Dream hacker..
Tablet น่าสนมาก บ.อื่นเวลาทำ 8 นิ้วชอบมองว่าเป็นรุ่นกลาง-ล่าง กันไม่ค่อยจัดเต็ม (ยกเว้นพวก SS, Apple น่ะนะ)
กลัวอย่างเดียว...จะได้อัพมั้ย ; ;
ราคา เท่านั้น ที่อยากรู้
Xperia Z3 Compact Tablet
ผมเก็บตังใส่กระปุกไว้ ตั้งแต่ซื้อ tablet S กี่ปีแล้วไม่รู้ ไม่ยอมออกมาซักที
sony tablet 8 นิ้ว บางระดับเทพ จอเทพ เสียงเทพ
เจอกันแน่ ซื้อแบบไม่สนราคาด้วย
ถ้าเก็บตั้งแต่ Tablet S คงได้เยอะแล้ว
เผื่อผมซักเครื่องนะครับ 555
ขอข้ามนะรอบนี้
รอบนี้ชื่อไม่ผ่าน รอซีโฟร์
รอ Z ultra2
Z Ultra เหมือนไม่ทำต่อแล้วครับ เพราะจอ Z2/Z3 เอาดินสอเขียนได้โดยไม่ต้องแก้อะไรครับ
แต่ขนาดมันยังไม่ได้ครับ
5.2 ยังเล็กกว่า 6.4 อยู่
Z3 Compact Tablet น่าสนมากกก
หวังว่าราคาตัว wi-fi คงจะไม่แรงมากนะ
ที่มีอยู่ในมือ สั่นเลยครับ ได้ขายเพื่อกลับมาคบ sony แน่ๆ
วางขายเมื่อไหร่ครับ