NVIDIA เปิดตัวการ์ดจอที่ใช้สถาปัตยกรรมใหม่อย่าง Maxwell ไปตั้งแต่ช่วงต้นปีกับ GeForce GTX 750 ซึ่งเป็นรุ่นกลางที่เน้นการประหยัดพลังงาน แต่วันนี้ถึงคราวของรุ่นท็อปจะได้กระโดดมาใช้ Maxwell บ้าง โดยมาพร้อมกันสองรุ่นรวดทั้ง GeForce GTX 980 และ 970
การเปลี่ยนมาใช้สถาปัตยกรรม Maxwell ของการ์ดจอรุ่นเรือธง นอกจากจะได้เรื่องประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นแล้ว อัตราการบริโภคพลังงานก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด รุ่นท็อปอย่าง GTX 980 แม้ประสิทธิภาพจะเหนือกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง GTX 780 Ti เพียงประมาณ 10% แต่กินไฟน้อยกว่าถึง 1 ใน 3 และยังให้ประสิทธิภาพเหนือกว่ารุ่นเรือธงของคู่แข่งอย่าง Radeon R9 290X ประมาณ 10%-20%
สเปคเต็มๆ ของ GTX 980 (ค้นเจอจาก AnandTech) มีหน่วยประมวลผล 2048 หน่วยที่สัญญาณนาฬิกา 1126MHz (เพิ่มได้อีกเป็น 1216MHz) VRAM ความจุ 4GB แบบ GDDR5 7GHz แต่มีค่า TDP เพียง 165 วัตต์ ส่วนของ GTX 970 นั้นลดหน่วยประมวลผลลงเหลือ 1664 หน่วย และลดสัญญาณนาฬิกาลงเล็กน้อยครับ
NVIDIA เปิดราคา GTX 980 มาที่ 549 เหรียญ ส่วน GTX 970 เปิดราคามาที่ 329 เหรียญ เริ่มขายตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปครับ
ที่มา - NVIDIA
Comments
970 น่าสนใจแฮะ
แรงแบบประหยัดไฟ ประหยัดค่า PSU ไปด้วย
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ประหยัดค่าแอร์ด้วยครับ ผมเคยเอาการ์ดตัวเก่าๆ มาขุดเหรียญตอนหน้าหนาวพบว่าใช้แทนฮีตเตอร์สบายแฮครับ
เป่าผมหรอครับ?
ผมจะไปเป่าคุณทำไมล่ะครับ (อย่าต่อมุขนะ เดี๋ยวโดน F ดุ ช่วงนี้ผมโดนดุบ่อย)
HDMI2.0 มาซะที
กินไฟน้อยลง ดังนั้นความร้อนต้องน้อยลงด้วยป่าว
ดามหลักก็อาจจะเป็นเช่นนั้น ถ้าเทียบกับ 10 วัตต์ จาก 50-100 Watt ไม่สามารถทำให้ความร้อนลดลงได้ ยิ่ง 100 วัตต์ขึ้น ถึงจะลดจาก 200 วัตต์ก็ไม่สามารถทำให้ความร้อนลดลง(ลด) แต่มันก็ยังร้อนเหมือนเดิม (ต้องอาศัยพัดลมเหมือนเดิม)
แต่สิ่งที่ตากจากการลดจำนวนวัตต์คือ ค่าไฟ(การใช้งาน PSU-ต่อวัตต์) จะลดลงแน่นอน) ส่วนความร้อนนั้น ต้อง10วัตต์ถึงจัดว่าไม่ร้อนจนต้องพึ่งพาพัดลม ส่วนการลด จำนวนวัตต์ให้น้อยลงด้วย จำนวนทรานซิสเตอร์ให้น้อยลง และขขวนการผลิตให้เล็กลงด้วย อาจจะทำให้ความร้อนลดลง
พอดีเลย กำลังจะตัดสินใจซื้อ GTX780ti อยู่ รอราคาตกละกัน (หรือไม่ตกกันหว่า??)
เห็นเว็บไทยรีวิวตัว 970 น่าเล่นมากๆ
GeForce GTX 9xx
ใกล้แล้วสินะ สิ่งที่ผมกำลังจะดูต่อไปว่า รหัสต่อไป จะใช้เลข 4 หลักหรือเปล่า? เพราะถ้าใช้ 4 หลักก็จะไปเหมือนกับสมัยก่อนที่ NVIDIA เคยใช้ (เช่น GeForce 8800 GT 9500 GT งี้อ่ะ) หรือจะเล่นแบบ AMD ใช้อักษรมาเพิ่มเป้น R งี้อ่ะ
ตอนนี้ที่บ้านผม จำเป็นต้องกลับไปใช้ GeForce 9500 GT เพราะการ์ดจอ GeForce GTX 560 เจ๊ง (ก่อนหมดประกันในกลางเดือน ธ.ค.57 เกือบไปละ ดีที่เสียก่อน ถ้าเสียหลังจากนั้นคงได้ทิ้งอย่างเดียว)
รหัส HD นี้ก็ใช้มานานเกือบจะสิบปีแล้ว หรืออาจจะน้อยกว่าไม่ได้นับ จึงเปลี่ยนเป็น R7,R9 ตามลำดับ ทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ ส่วนค่ายเขียวผมคิดว่า รหัสมันก็มาถึงทางตันแล้วคือ 9 เขาอาจจะเปลี่ยนเป็น 290GTX เพราะตระกูลที่ลงท้าย ด้วย GTX สมัยนั้นจะเป็นตัวเลขสี่หลัก(อันนี้เดา)
แต่ถ้าผมเป็น CEO ก็จะเปลี่ยนเป็น GeForce GF 290GTX (ใช้ได้ยาวอีกกว่าสิบปี)(เพราะค่ายเขียวเขานิยม GS,GT,GTS,GTX) ถ้าจะเป็น G7,G9 แล้วต่อด้วยชื่อรุ่นเช่น G7-280GTS,G9-290GTX มันอาจจะไม่เพราะ แต่ก็ตั้งได้
และอาจจะเหมือนความเห็นด้านบน คือเปลี่ยนเป็น GTX 9700 ก็ได้(เพิ่มเป็นสี่หลัก) ซึ่งโดยส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่าไม่น่าจะทำ(เพราะค่ายแดงเขาเปลี่ยนให้เห็นเป็นตัวอย่างแล้ว)
ทำการบ้านมาดีมาก คอมสมัยนี้แข่งกันเล็กลง แต่ที่สวนทางกันก็คือการ์ดจอนี่ละ นับวันจะกินไฟมากขึ้น
แต่ series นี้นับว่า nvidia ทำได้ดีแรงขึ้นและกินไฟน้อยลง
อ้าววยั่งเป็น 28 nm อยู่อีกหรอ แสดงว่า 20 nm ยั่งไม่พร้อมผลิตชิปขนาดใหญ่สินะ แสดงว่าปีหน้าน่าจะมี Maxwell 20 nm ตามมาหรือเปล่าครับ
ผมคิดว่า TSMC สามารถผลิตให้ได้แต่อาจจะทำให้ Nvidia มีต้นทุนเพิ่มขึ้น(และราคาการ์ดจออาจจะไม่ถูกลง)
ปกติ การลดขนาดกระบวนการผลิตเป็นการลดต้นทุนวิธีนึงด้วยไม่ใช่หรอครับ แต่ถ้าบอกว่าทำให้ต้นทุนของ Nvidia สูงขึ้นแสดงว่า ผลิตแล้วมีขอเสียในระบบเยอะ จนไม่คุ้มที่จะเปลี่ยนกระบวนการผลิต สุดท้ายเลยก็เลยยั่งอยู่บน 28 nm ต่อไป
ใช่และไม่ใช่ครับ
การลดขนาดการผลิต ทำให้ใช้วัสดุน้อยลง ชิปเล็กลงใน performance เท่ากัน ความร้อนก็น้อยลง Heatsink เล็กลง
แต่ที่ไม่คือ ยิ่งเล็กยิ่งผลิตยาก ทำให้มีชิปเสียเยอะ เช่นผลิตมา 40 แทนที่จะใช้ได้ 38 ดันใช้ได้แค่ 20 ที่เหลือเสีย แบบนี้ต้นทุนต่อชิปก็สูงขึ้น นี่ยังไม่รวมการลงทุนเครื่องจักรใหม่ที่ทำให้ผลิตได้เล็กลงนะครับ
970 - แรงพอๆกับ 780 มีชนะบ้างบางการทดสอบ แต่ราคาหมื่นนึง
980 - แรงกว่า 780ti นิดหน่อย แต่ราคาพอๆกับ 780
อืม......
มันคือนโยบายการค้าขายที่จะไม่กลืนของเดิมแบบเบ็ดเสร็จ เพียงแต่เป็นตัวเลือกในด้านพลังงาน เพื่อไม่ให้รุ่นเดิมเสียเครดิส และรุ่นใหม่ขายได้เพราะประหยัดไฟ
แต่เห็นว่าจะ discontinued 780 780ti หรือเปล่าครับ
ราคามางี้ผมคงได้โดน 980 OTL
ต่างประเทศลดครับ แต่เมืองไทยคงต้องรอ 3-5เดือน กว่าราคาจะเริ่มตกลง
พี่ไทยก็อย่างนี้แหล่ะครับ สั่งของมาราคาเท่าไหร่ มันก็ยังขายเท่าเดิม แม้วันเวลาจะเปลี่ยนไปมาก(ขาดทุนมิได้ กำไรมาก่อน)จะหวังของถูกก็ ebay amazon นั่นแหล่ะ เสียค่าสั่ง 200 บาทต่อชิ้น ค่าน้ำหนัก ค่าไปรษณีย์อีก รวมแล้วถูกกว่า (บางอย่าง) ครึ่งต่อครึ่ง เช่นผมสั่งซื้อ DDR2 PC5300 ECC ที่ไทย 4 GB. 7-8000 บาท ผ่าน ebay 16 GB แค่ 1500 บาทเอง แต่รอนาน 1 เดือนจีงได้ของ CPU Xeon E5430 ราคาบ้านเรา อาจจะ 6000 บาท (3500) จาก ebay มือสอง (1500 บาทเอง) ถ้าใครจะประกอบ Server เก่าสักเครื่อง หรือเวอร์กสเตชั่นสักเครื่องคงต้องซื้อจากนอกมาประกอบไทย ราคาก็จะลดลง ครึ่งหนึ่ง (ต้องตาดีในการเลือกของด้วยน่ะครับ(มีความรู้พอสมควร))
คือผมอัพเกรด HP Proliant LM350 G5 จากของเดิมแรมแค่ 2 GB เป็น 16 จากซีพียู 1 ตัวเป็นสองตัวด้วยงบเพียง 5000 บาทเท่านั้นเอง (อย่าลืม)VR-RAM ด้วยสำหรับการเพิ่มซีพียู อีกตัวของรุ่นนี้ แล้วจะอับเกรด SAS เป็น 15K 300 GB. (ก็คงอีกสัก 5000 บาทครับ )แต่ถ้าซื้อในไทย คงต้องคูณสองครับ(ย้ำว่ามือสองน่ะครับไม่ใช่ของใหม่)สภาพ 60-80%)(หรือของใหม่ค้างสต๊อกก็มีน่ะครับแล้วแต่ตาดี)
แล้วทำไมมันจึงถูก คือ Server ที่ใช้งานด้าน DATA Center ที่เริ่มล้าสมัย เขาจะโละของเก่า ๆ แล้วจะมีผู้รับเหมาเข้าไปซื้อต่อเพื่อเอาอไหล่ และอุปกรณ์บางอย่างที่ยังพอใช้งานได้ ออกมาขายให้ Home Server หรือ บริษัทที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย ทำให้ราคาถูกนั่นเองครับ ซึ่งอาจจะดีกว่าซื้อใหม่ยกชุด (ซึ่งผมดูตามเว็บที่ขายแล้วกำไร ทั้งนั้นประสิทธิภาพกับราคานั้น)ถ้าจะให้ดีเหมือนเราประกอบเอง อาจจะต้องซื้อเครื่องราคา 2-3 แสน ประมาณนี้ (อันนี้เล่าให้ฟังเฉย ๆ นะครับ)ไม่อยู่ในประเด็น (ก็น่าสงสารคนที่ประกอบเองไม่เป็น) แต่ก็ดีคือมีการ Support จากบริษัทตลอดอายุรับประกัน (ดีคนละอย่าง) ถ้ามีคนแย้งว่า Server ประกอบเองไม่เสถียรนั่น เป็นเพียงความเข้าใจผิด ที่มีอยู่ตามเว็บบอร์ด(หรืออาจะเป็นเพราะคนประกอบต้องการกำไรเกินไป ทำให้ใช้ PSU เคส หรือแม่แต่ ฮาร์ดดิสก์ ไม่เหมาะสมกับ สถาพการทำงานของ Server นั่น ๆ (การสั่นสะเทือนของพันลมมากกินไปทำให้ ฮาร์ดดิสก์พังไว) PSU ที่ไม่สเถียร ไม่ได้ออกแบบมาแบบ 24x7 มันไม่เหมาะที่จะเอาไปทำ Server อยู่แล้ว อืน ๆ อีก (เอาแค่นี้พอ)
ถูกแล้วครับ มันก็คล้าย ๆ มือถือค่าย Samsung นั่นแหล่ะ ต่างแต่มันจะไม่ฆ่ากันเองในเร็ววัน เพราะแต่ละประเทศ ภูมิภาค บางสิ่งบางอย่างอาจจะเป็นของใหม่อยู่ เหมือน Nissan Frontire โฉมเดิมยังขายได้ในต่างประเทศแบบหน้าตาบ้านเราในอดีต(แถว ๆ บาซิล)ก็ประเทศบาซิลนั่นแหล่ะ ส่วนบ้านเราเป็น NP300 แล้ว
ซีรี่ส์ 8 ข้ามไปเลยหรอครับ?
ซีรีส์ 8xx เป็น Kepler Mobile ครับ
ทรานซิสเตอร์น้อยลง ชิปเล็กลง กินไฟน้อยลง ราคาเปิดตัวถูกลง แต่ประสิทธิภาพดีขึ้น แสดงว่าที่ผ่านมา kepler มันออกแบบผิดไปหมด 5555
เมื่อลดจำนวนด๊อกเตอร์ลง ทำให้การใช้พลังงานลดลง แต่เพิ่มจำนวนมีโมรีบัสวิดท์ให้มากขึ้นเป็น 7.012 GHz ทำให้มันมีประสิทธิภาพดีขึ้น ในราคาที่ถูกลง (Kepler) ออกแบบมาดีแล้ว แต่ทุกอย่างในโลกย่อมมีการปรับปรุ่งให้ดีกว่าเดิม เมื่อเรามีแบบอย่าง(ต้นแบบ)(สิ่งที่ควรแก้ไข)(สิ่งที่ควรปรับปรุง)แบบแผ่นการต่อยอด (เหมือน)AM3,AM3+)
เสริมอีกนิด เท่าที่ดูรายละเอียดแล้วพบว่า สิ่งที่ต่างจากเดิม คือ ROPs 64 ตัวนี้ทำให้ประสิทธิภาพของการ์ดจอดีขึ้นในขณะที่มีจำนวน Cuda Core ลดลง แต่ถ้า Nvidia เพิ่ม ROPs แล้ว ทัั้งยังไม่ลดจำนวน Cuda core ลง แต่ยังใช้ ทรานซิสเตอร์ 7.1 พันล้านตัว(7.1B) เหมือน GTX 780Ti แล้ว จะทำให้ค่า TDP สูงขึ้น ทั้งราคาก็แรง อาจจะทำให้ขายได้ไม่มาก(อีกอย่างหนึ่งกั๊กไว้ทำรุ่นอื่นขายอีก)
สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งที่ทำให้มันประหยัดไฟลงคือการลดจำนวนทรานซิสเตอร์(ด๊อกเตอร์)ลงเหลือ 5.2B แต่เพิ่ม ROPs เป็น 64 จากเดิม 48 และลดจำนวนมีโมรีบัสไวด์ลงจาก 384 เหลือ 256 (Bit Widht) แล้วเพิ่มจำนวน TMUs เป็น 128 ในรุ่น GTX 980 และ 112 ในรุ่น GTX 970 ทำให้ราคาไม่แพง และเร็วกว่าเดิม 10-20% ตามมาตรฐานการออกแบบทั่ว ๆ ที่จะไม่ทำให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นจากเดิมไปมากกว่า 25% ในรุ่นท๊อป เพื่อรักษาราคา ผลกำไร และไม่ทำให้ผู้ค้าที่มีรุ่่นเดิมขายต้องลำบากใจ อีกทั้งยังช่วยเป็นทางเหลือกใหม่สำหรับผู้ที่รอความแรงแบบประหยัดไฟด้วย(เงินคงไม่)
เจอร้านไทยพี่ท่านตั้งราคา 980 ไว้แพงกว่า 780ti เลยแฮะ
OTL