Eric Schmidt ประธานกูเกิลให้สัมภาษณ์ในรายการ Market Makers ทางช่อง Bloomberg เพื่อโปรโมตหนังสือใหม่ How Google Works โดยมีประเด็นต่างๆ ที่ Schmidt ระบุถึง รวมทั้งเรื่องของ iPhone 6 ดังนี้
- Schmidt บอกว่ากูเกิลไม่ใช่บริษัทที่เอารายได้-กำไรเป็นหัวใจหลัก แต่การสร้างนวัตกรรมที่ส่งผลกระทบในวงกว้างคือสิ่งที่กูเกิลเน้นมากที่สุด
- เขาแสดงความเห็นต่อ iPhone 6 ว่า "ซัมซุงทำสินค้าแบบนี้ขายมาเป็นปีแล้ว" และเมื่อพิธีกรถามซ้ำทำนองว่ากระแสตอบรับ iPhone 6 ดีกว่ามาก เขาก็ตอบด้วยคำตอบเดิม
- Schmidt บอกว่าการแข่งขันระหว่างกูเกิลกับแอปเปิลตอนนี้รุนแรง และจะรุนแรงมากขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งสุดท้ายคนได้ประโยชน์ก็คือผู้บริโภค
ที่มา: 9to5 Google และ Apple Insider
Comments
ถูกต้อง สุดท้ายคนที่ได้ประโยช์นคือผู้บริโภค แล้วบรรดาสาวกจะเถียงกันไปเพื่อสิ่งใด
ดีครับชอบๆ ยิ่งแข่งกัน ยิ่งไปได้ไกล ฮ่าๆๆๆๆ
เขาแสดงความเห็นต่อ iPhone 6 ว่า "ซัมซุงทำสินค้าแบบนี้ขายมาเป็นปีแล้ว" และเมื่อพิธีกรถามซ้ำทำนองว่ากระแสตอบรับ iPhone 6 ดีกว่ามาก เขาก็ตอบด้วยคำตอบเดิม
เค้าต้องการจะสื่ออะไรที่ตอบคำตอบเดิมซ้ำ?
เพราะซัมซุงพาแอนดรอยด์ไปไกลก็ตอบเข้าข้างซักหน่อยและคงต้องการให้พิธีกรหยุดถามคำถามนี้ครับ
ซัมซุงก็ชิงขายดีไปก่อนแล้วด้วย
แกตอบตรงดีแฮ่ะชอบตรงที่บอกว่า "ผลประโยชน์ก็คือผู้บริโภค"
สิ่งที่ iPhone ทำวันนี้ Samsung ทำมานานแล้วน่ะใช่
แต่สิ่งที่ Samsung ทำไม่เคยได้สักทีคือ User Friendly ครับ ยอมรับเลยว่า Apple มันเปนมิตรกับ user มากกว่า
Destination host unreachable!!!
และสิ่งที่ Apple ไม่ยอมเลยสักที คือ user customization
User Friendly กับ user customization ค่อนข้างไปด้วยกันยากครับ
เหมือน วินโด กับ osx
mac mini กับ pc desktop
ปรับได้เยอะ ปัญหาก็เยอะ คนส่วนใหญ่ ได้แต่ปรับเป็นอย่างเดียว แต่ไม่พร้อมจะรับมือกับการแก้ปัญหาที่ตามมา
User Friendly ไม่ใช่หมายถึงปรับได้ง่ายหรือปรับได้เร็ว แค่นั้น แต่ต้องหมายถึง การไม่สร้างปัญหาตามมาภายหลังด้วยครับ การจัดการที่มีระเบียบด้วย
User friendly ขอตัวอย่างหน่อยครับ
เรื่องปล่อยให้ลงแอปเถื่อนติดมัลแวร์ลงเครื่องได้
ตัวอย่างเช่น การเข้าถึงระบบต่างๆ app ต่างๆ ได้เพียงการ tap ไม่ถึงสองหรือสาม tap ครับ
การใช้ icon หรือ การจัดเรียง การจัดการ ตรงนี้ผมให้ apple ทำได้ดีกว่า การทำงาน smooth กว่า
แต่มันจะเปนข้อจำกัดตรงที่ ผู้ใช้งานไม่สามารถปรับเปลี่ยนอะไร ให้เข้ากับพฤติกรรมการใช้งานได้ แต่ต้องปรับพฤติกรรมการใช้งานให้เข้ากับตัว Device หรือระบบแทน
กลับกันสิ่งที่ Samsung ให้มาคือความยืดหยุ่นของระบบ (แน่ล่ะเพราะมันมาจาก Android นิ) แต่ต้องแลกกับการจัดการ การเข้าถึงที่ยุ่งยากแทน ลง app แล้ว ต้องมา set widget ,icon อีกรอบ
แต่ส่วนตัวแล้วผมว่า Windows Phone นี่ลงตัว อยู่กลางๆระหว่างสองระบบ
Destination host unreachable!!!
แล้ว iTune หล่ะครับ ?
เป็นมิตรกับผู้ใช้งานมั้ย ?
สำหรับผมเป็นนะครับ เพราะผมชอบใช้งานแบบนั้น
สำหรับผมเป็นมากฮะ ไม่ใช่มุมมองของสาวกด้วยนะ
ตอนแรกผมก็คิดว่าไฟล์ manager ง่าย แต่พอมีเพลงซัก 20GB
แล้ว iTunes ดีกว่ามากๆครับ
Android มีโปรแกรม sync เพลงหลายเจ้าให้เลือกครับ ส่วนใหญ่เร็วกว่า itune เยอะ
ที่สำคัญการมี sd card ทำให้การย้ายเพลงจากเครื่องเก่าไปเครื่องใหม่ทำใด้ง่ายและเร็วกว่ามาก
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
เป็นนะครับ อย่างน้อยก็สำหรับผม
พอจัดระเบียบ Tag เพลงเสร็จปุ๊บการหาเพลง จัด list เพลงมันง่ายดายมากๆในทันที
ในบรรดาโปรแกรมฟังเพลงแบบ Library based ผมก็ให้ iTunes ใช้งานได้ดีที่สุดครับ
ผมยังไม่เห็นส่วนที่แตกต่างมากนักระหว่าง Android และ ios ผมว่ามันพอๆกัน แต่ Android จะดีและง่ายกว่าในเรื่องการโอนถ่ายไฟล
ปล. Android เมื่อลง app แล้วจะใด้ icon วางไว้ที่ home เลยนะครับ ถ้าไม่ไช้บ่อยก็ลบออกไป ทำให้หา app ที่ไช้งานบ่อยใด้ง่าย
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
Android ล่าสุดที่เคยใช้เวอร์ชั่นไหนครับ หรือว่าไม่เคยใช้
Android ที่ใช้ล่าสุด และใช้อยู่คือ Galaxy Tab Plus update 4.1 กับ Galaxy Note 8 Update 4.4
iOS ที่ใช้อยู่ iPad2 Update iOS7 ครับ
Windows Phone ใช้ Lumia 720 ครับ
Destination host unreachable!!!
การ Tab เข้า App ต่างๆ หรือแม้แต่หน้า Setting ส่วนตัวใช้ Samsung ก็ 2 Tab นี่ก็ถึงหน้า Setting แล้วนะครับ (ถ้าไม่รวม กดปุ่ม Power , Slide unlock)
การจัดเรียง App นี่ผมว่าเหมือนกันครับ
ส่วนเรื่องความ Smooth นี่ผมว่ามันอยู่ที่ Animation Graphic มากกว่านะครับ (ความเห็นส่วนตัวนะครับ) เช่นการเพิ่ม fps ให้มากๆ มันเลยดูเหมือน Smooth อะไรประมาณนี้นะครับ
Widget นี่ผมไม่ถือว่าเป็นข้อด้อยกว่า iOS นะครับ ผมว่าเป็นข้อที่ดีกว่าด้วยซ้ำ ทำให้การใช้งานง่ายขึ้น เช่น ดูเวลา iOS ถ้าไม่ดูมุมจอ หรือดูที่ตัว App Clock ซึ่งก็เล็กนะครับ แต่ถ้าตั้ง Widget อันนี้เห็นเลยตัวใหญ่ พร้อมสภาพอากาศ (แต่ส่วนนี้ก็แล้วแต่มุมมอง และความชอบส่วนบุคคลครับ อันนี้เข้าใจ)
แต่ใครบอก iTune User Friendly ผมนี่ผมเถียงเอ็นขึ้นคอครับ อีก Version สูงยิ่งใช้ยาก ขนาดผมว่าผมก็ไม่โง่คอมพ์ ไม่โง่ eng มาก กว่าจะรู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน หรือแฟนให้ลงเพลง ดึงไฟล์รูป ผมยังงงๆ อยู่เลย
เรื่อง iTunes ผมว่ามันคงขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของแต่ละคนครับ อย่างผมตั้งแต่ใช้บน Windows มาก่อนหน้านี้ก็ไม่มีปัญหาอะไร เซ็ตอัพทุกอย่างครั้งแรกเสร็จแล้วก็แทบจะไม่ต้องมาจัดการอะไรเพิ่มเติมอีก เวอร์ชั่นก่อนหน้านี้อาจจะลำบากกว่าหน่อยตรงที่ต้องคอยต่อสายกับคอม แต่เวอร์ชั่นหลังๆ มานี้ ซื้อเพลงก็ add เข้า playlist จากนั้นก็ลืมๆ ไปไม่ต้องมายุ่งอะไรอีกเลยปล่อยทิ้งไว้ แล้วก็ทำงานไป เอามือถือมาดูอีกทีก็มีเพลงเข้ามาอยู่ในเครื่องแล้ว
ผมว่า itunes ใช้ยากนะยิ่งใครไม่มี mac เนี่ย ผมว่าเริ่มมาเห็นข้อดีมันตอนใช้ mac เนี่ยแหละ ผมว่าใครมี PC อย่างเดียวคงลำบากแน่นอน สรุปผมว่าไม่ friendly สำหรับคนใช้ PC ครับ
ผมรำคาญแค่ตรงประสิทธิภาพนะครับ บนพีซีอืดมากไม่รู้สมัยนี้เป็นยังไงบ้าง ตอนย้ายมาแมคก็ย้ายได้ราบรื่นดีไม่มีปัญหาอะไร
+1 คุณ Meow-Meow
การออกแบบ UI/UX ผมว่า Apple ยังนำอยู่มาก
User Experience ไม่ใช่เรื่องหมาๆแมว ทำๆให้มันจบๆไป ของแบบนี้คนต้องใช้ทุกวัน เจอทุกวัน มันส่งผลต่อการตัดสินใจทั้งนั้นแหละ
อันนี้ ถือว่า แลกเปลี่ยนมุมมองกันนะครับ
เรื่อง user friendly ในการใช้งาน ผมว่าเราควรผ่านจุดนั้นไปได้ ตั้งนานแล้ว
ตั้งแต่ เริ่มยุดที่ มือถือทุกเครื่อง ออกแบบมาเหมือน iPhone นั่นแหละ
คุณอยากโทรศัพท์ ส่ง sms กด ๆๆ โทรออกได้
คุณอยากเล่น internet กด ๆๆๆ เล่น internet ได้เลย
คุณอยากฟังเพลง เล่นเกมส์ กด ๆๆๆๆ คุณเล่นได้เลย
เทียบกับ
ยุคก่อนหน้านั้น กว่าจะ set เครื่องให้ออก internet ได้คุณต้องเปิด เอกสารดูเป็น หน้าๆ
เปลี่ยน sim card เป็นเจ้าใหม่ คุณต้องตั้งค่าใหม่
จะใช้งาน internet ผ่านมือถือด้วม notebook คุณต้องลงโปรแกรม ต่อสายเข้าเครื่อง สั่งโทรออกด้วยเบอร์พิเศษ
ตามนั้น นะครับ
แอนดรอยแค่ลากจากบนลงล่างก็มีเมนูให้ปรับแต่งทุกอย่าง
ยังไม่ friendly พออีกเหรอ (จนบางเจ้าต้องเลียนแบบ แต่ก็ยังไม่ friendly เท่าเลย)
android ผมว่ายุ่งยากแค่ช่วงแรกเท่านั้นน่ะครับ พอลงตัวนี้มันสะดวกสบายกว่า iOS มากๆเลย
ทั้งเรื่อง Widget ที่ไม่ต้องไปเสียเวลาเปิดแอฟ, การจัดการ icon ที่จัดแบบอัตโนมัติและเรียงตามตัวอักษรได้เอง
เปิดไฟฉายไม่ต้องมา unlock เครื่องก่อนและอื่นๆอีกมากมาย(ให้เราไปหาใน play store)
ส่วนสิ่งหนึ่งที่ผมว่า iOS มันไม่ friendly เลยคือการปิดแอฟทิ้งไว้ที่ต้องนั่งเขี่ยทีล่ะอันเนี้ยครับ
หรือใครมีวิธีก็บอกผมหน่อยครับ TvT
อ่านจากคอมเมนต์ของคุณก็น่าจะคล้ายๆ กันกับ iOS ครับ ช่วงแรกๆ อาจจะยุ่งยากหน่อย ซึ่งตรงนี้จะวัดว่า user friendly หรือไม่ ก็ต้องมาวัดกันด้วย learning curve ครับ
ส่วนไฟฉายใน iOS เปิดได้โดยไม่ต้อง unlock มาตั้งแต่ iOS 7 แล้วครับ
ปิดแอพโดยใช้สามนิ้วเขี่ยพร้อมกันได้ครับ
อย่างเรื่องกล้องไงครับ ตามนี้
สรุปเพิ่งจะมา friendly ตอน i6 งั้นสิ เพราะก่อนหน้านั้นก็แพ้เขาหลุดลุ่ย
คนมันจะอคติก็จะอ้างไปเรื่อยๆนะครับ คือรุ่นก่อนหน้ามันก็ดีในที่ณเวลานั้น ทุกรุ่นออกมาก็มีปรับปรุงเรื่อยมานิครับ ที่ยกมามันเป็นข่าวใหม่ที่พออ้างถึงได้และดูมีตัวเลขครับ
อะไรคือ User Friendly ครับ?
The Dream hacker..
ลอยแพ Galaxy S2 บอกว่าเสปกไม่แรงพอ แล้วออก Galaxy Ace บน Android รุ่นที่ใหม่กว่า แล้วใส่แรมมาน้อยกว่า S2
สิ่งที่ user ได้รับคือ confined by apple ออกจากกะลาแทบไม่ได้เหมือนกันนะ
ทำแบรนด์ nexus ให้น่าใช้ ติดตลาด คุณภาพเยี่ยม รอม pure รับรองเทียบชั้นฝั่ง apple
ส่วน android แบรนด์อื่นลืมๆไปเถอะ 555
+1
+100
Destination host unreachable!!!
แต่ android ที่นำตลาดอยู่ มันยี่ห้ออื่นนี้สิ ไม่ใช่ pure android
ให้เลือกระหว่างมีฟังก์ชั่นเยอะๆ กับ ไม่มีอะไรอำนวยความสะดวกเลย
ยังไงคนก็เลือกที่มีฟังก์ชั่นเยอะๆ มากกว่า
ผมกลับมองว่าไอ้ที่นำๆ อยู่เป็นเรื่องของการตลาด + ราคาที่หลากหลาย แล้วตอนนี้ก็กำลังเริ่มสั่นคลอนในด้านสงครามราคาที่ตัวเองเป็นคนจุดชนวนไว้แล้ว
อย่างเปิดเว็บนี้ผมก็เห็นโผล่มาแว็บๆ ด้านขวามือ หรือเข้าเฟซบุ๊คก็เจอกระหน่ำโฆษณาบนหน้า Feed
5555+
ซัมซุงคงบอกอยู่ดีๆ ก็จัดดราม่ามาให้สาวกตบกันอีกละ ทำไมไม่เอา Nexus มาเทียบละ
ผมว่า ios มันดีกว่าแค่แอพ มันดีกว่า android มากครับ เรื่อง hardware os การเป็นมิตรกะ user นี่พอๆกันครับ มีจุดอ่อนจุดแข็งทั้ง2จ้าว
อีกเรื่องคือ
เอาเข้าจริงๆ ตระกูล Nexus รุ่นท็อปที่ใช้ Snapdragon+Smart Launches 2 เร็วกว่า สเถียรกว่าตระกูล iOS ไปแล้วนะ ยิ่งตอนโหลดเกมเร็วกว่า 2เท่าด้วย
แต่รุ่นล่างๆ กับรุ่นที่โมรอมซะอืดแบบ Samsung ทำให้ภาพลักษณ์สำหรับคนที่ไม่เคยใช้หลายรุ่น ดูเป็นว่า Android อืดกว่า iOS ไปซะงั้น
แต่เรื่องเกมคุณภาพดี ยอมรับว่า iOS มีมากกว่า Android มาก
+1"ผลประโยชน์ก็คือผู้บริโภค"
+1 แต่ผู้บริโภคชอบตีกันเอง
ทำไมคนทำหรือ บริษัทต่าง/ๆ ถึงเลือกที่จะทำแอฟให้ iphone ก่อน หรือทำเฉพราะ iphone ในเมื่อ android มีจำนวนผู้ใช้มากกวว่า
1.เพราะขนาดหน้าจอ ios มีน้อยกว่า
2.คนพัฒนาคงใช้เครื่อง Mac
ผมบอกให้ จริงๆคือ จากสถิติหลายปีที่ผ่ายมา
ผู้ใช้ iOS มักจ่ายเงินซื้อ app มากกว่า ผู้ใช้ android อยู่มากๆๆ
นักพัฒนาก็ต้องการเงินมาเลี้ยงลกลูกเลี้ยงเมียครับ
ถ้าคุณเป็นนักพัฒนาคุณจะทำของขายให้คนซื้อก่อนหรือให้คนเล่นฟรีก่อน
เพราะมันมีโอกาสขายได้มากกว่าไงครับ
คิดง่ายๆเมื่อเทียบราคา iPhone ต่อปริมาณผู้ใช้ ผู้ใช้น้อยกว่าแต่ด้วยราคาโทรศัพท์มันสูง
จึงเปรียบเสมือนว่าผู้ใช้ iPhone มีสถานะพร้อมจ่ายเงินในส่วนอื่นมากกว่า
แต่ Android มีหลายรุ่นหลายราคา ราคาโทรศัพท์ในระดับ iPhone ไม่ใช่ว่าจะขายดีเท่า
ส่วนมากผู้ใช้ Addroid เป็นตลาดระดับกลางซะมากกว่า
ทั้งๆที่จริง มันไม่ใช่เรื่องที่เอามาวัดว่าใครจะซื้อหรือไม่ซื้อแอ๊พได้จริงๆจังๆ
แต่แค่มันแสดงถึง โอกาส ที่มีมากกว่าเท่านั้นครับ
ซัมซุงทำมานานแล้วครับ LG ก็ด้วย
เอ Samsung Galaxy Round กับ LG Flex นี่ตัวไหนออกมาก่อนนะครับ ;)
ลืมไป เขาพูดถึง iPhone 6 ไม่ใช่ iPhone 6 Plus
Galaxy Round จอมันโค้งแบบแทบไม่มีประโยชน์อะไรเลย ส่วนLG G Flex ยังพอใช้อ้างอิงถึงโค้งรับสายตาได้
iPhone ก็พยายมเลียนแบบ LG Flex นะ
แต่เหลว งอแล้วไม่ยอมดีดกลับ
555555
แทบพุ่ง 555+
และเมื่อพิธีกรถามซ้ำทำนองว่า iPhone 6 พังง่ายขึ้นมาก เขาก็ตอบด้วยคำตอบเดิม "ซัมซุงทำสินค้าแบบนี้ขายมาเป็นปีแล้ว"
May the Force Close be with you. || @nuttyi
อันนี้ฮาดีนะ :)
orz
5555555555555555555555555
เมื่อก่อนนวัตกรรมจากฝั่ง Apple เข้าใจง่าย สวยงาม และใช้งานได้สะดวกกว่า (iPod ,iPhone รุ่นแรกๆ) ปัจจุบัน Google ทำได้เก่งขึ้นในเรื่องความเข้าใจง่าย สวยงาม และสะดวกแทบจะเทียบเท่าแล้ว , ส่วนเรื่องนวัตกรรมที่ส่งผลกระทบในวงกว้างนั้น ของใหม่ๆมาจากฝั่ง Google (gMail ,Google Map/ระบบนำทาง , Google Glass ,Android ware , ฯลฯ)