ในฐานะที่เป็นสมาร์ทโฟนที่มีคนรอคอยกันมากที่สุด iPhone 6 จึงถูกนำไปประเมิน พร้อมทั้งทดสอบและวัดประสิทธิภาพการทำงานในแทบทุกมิติที่ครอบคลุมการใช้งานจริง เราเห็นการทดสอบกล้องซึ่งบ้างก็ว่าดีที่สุดในยุคนี้ (แต่ก็มีบางฝ่ายบอกว่าติดปัญหาภาพถ่ายอมม่วง) เราเห็นข้อมูลต้นทุนจากการประเมินมูลค่าชิ้นส่วน ไหนจะมีผลการวัดประสิทธิภาพเครื่องในส่วนประมวลผล และคุณภาพหน้าจอ ไม่เว้นแม้แต่การทดสอบแบบง่ายๆ โดยผู้ใช้งานเรื่องความสามารถในการชาร์จไฟ คราวนี้มาดูการทดสอบเรื่องระบบเสียงกันบ้าง
สืบเนื่องมาจากข่าวลือที่ว่า iTunes กำลังจะมีการจัดหมวดหมู่ไฟล์เพลงความละเอียดสูงไว้โดยเฉพาะ จึงมีผู้เชี่ยวชาญด้านระบบเสียงทำการทดสอบ iPhone 6 สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดของ Apple ว่ารองรับการเล่นไฟล์เสียงความละเอียดสูงแล้วหรือไม่ ซึ่งผลการทดสอบก็ทำให้พบว่า iPhone 6 ยังไม่สามารถถ่ายทอดคุณภาพของไฟล์เสียงความละเอียดสูงได้
การทดสอบของผู้เชี่ยวชาญทำโดยการเล่นไฟล์เสียงคุณภาพสูงสกุล .wav ที่ผู้เชี่ยวชาญสร้างขึ้นมาเอง โดยปล่อยให้เสียงออกลำโพงผ่านทางช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรของ iPhone 6 จากนั้นใช้เครื่องบันทึกเสียงที่สามารถบันทึกด้วยความละเอียดสูง (บันทึกเสียงโดย sampling ข้อมูลด้วยความถี่ 96kHz, ขนาดข้อมูลต่อการ sampling แต่ละครั้งคือ 24 bit) มาทำการบันทึกเสียงจากลำโพงดังกล่าว แล้วท้ายที่สุดจึงนำเอาไฟล์เสียงที่บันทึกได้ไปเปรียบเทียบกับไฟล์เสียงต้นฉบับดั้งเดิม
ในการเปรียบเทียบนี้ ผู้เชี่ยวชาญใช้โปรแกรม Adobe Audition เป็นเครื่องมือช่วยในการวิเคราะห์ ซึ่งนำไปสู่ข้อสรุปในท้ายที่สุดว่า iPhone 6 ยังไม่สามารถรองรับการเล่นไฟล์เสียงความละเอียดสูงที่มีคุณภาพระดับ 24 bit ได้ โดยยังมีข้อสรุปเพิ่มเติมอีกว่าข้อจำกัดนี้เป็นความจงใจของ Apple ที่ยังไม่ยอมให้ iPhone 6 ได้สำแดงประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ เพราะจากข้อมูลด้านฮาร์ดแวร์ของสมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าว มีการใช้หน่วยประมวลผลด้านเสียงที่สั่งทำพิเศษ Cirrus Logic 338S1201 ซึ่งแน่นอนว่ามันสามารถเล่นไฟล์เสียงคุณภาพสูงได้
หากเปรียบเทียบกับสมาร์ทโฟนยี่ห้ออื่น ก็พบว่าอย่างน้อย LG G2 และ Samsung Galaxy Note 3 นั้นสามารถเล่นไฟล์เสียงความละเอียดสูงมาได้นานแล้ว โดยเฉพาะ G2 นั้นสามารถเล่นไฟล์เสียง 24 bit ที่มีการ sampling ด้วยความถี่ 192kHz ได้อย่างไม่มีปัญหา
ที่มา - Ubergizmo
Comments
สงสัยต้องรอ ios 8.1 ไรงี้ป่าวยังไม่เปิดใช้งาน
8.1 ร่วงไปแล้วไม่ใช่เหรอครับ :P
อันนั้น 8.0.1 ปะคับ -0-
อุ๊ย หน้าแตก
ขออภัย m(_ _)m
จอจังหวะ WOW ครับ จะเป็นอย่างไรเมื่อโทรศัพท์ของคุณเพียงแค่ Update OS ก็สามารถปลดล็อคระดับเครื่องได้ โดยที่ไม่ต้องซื้อเครื่องใหม่ ทั้งเรื่องกล้อง เรื่องเสียง ระบบการทำงาน อื่น ๆ
ลองเปรียบเทียบความรู้สึก จากโทรศัพท์ที่คิดว่ามันจะดีไหมเนีย กลับกลายเป็นโทรศัพท์ดีที่สุด เปรียบเทียบกับ โทรศัพท์ที่ดีอยู่แล้ว กลายเป็นโทรศัพท์ที่ดีที่สุด อันไหนมันให้ความรู้สึกดีกว่ากันหละครับ
จะกั๊กเพื่ออะไรน้อ
คงเป็นเพราะ iphone มีพื้นที่เก็บข้อมูลจำกัดและขยายเพิ่มไม่ได้ (เหตุผลเดียวกับที่กล้องยังอยู่แค่ 8 ล้าน เพราะที่ไม่พอเก็บ) ประกอบกับเพลงส่วนมากที่ขายใน iTMS ไม่ได้มีความละเอียดสูงขนาด 24bit มั้งครับ
ผมเบื่อแนวคิดนี้นะครับ ลูกค้าควรมีสิทธิเลือกเองว่าเค้าจะเอาไอโฟนไปทำอะไร - -" // คุกแก้วอันสวยงาม ..
นั่นหมายความว่าคุณไม่ใช่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของ Apple ครับ
แอปเปิลคล้ายระบอบเผด็จการนิดๆ
Apple - " เราเลือกสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อคุณอยู่แล้ว เชื่อเราเต๊อะ"
EarPod อาจจะยังไม่พร้อมรับเสียง Lossless ก็ได้นะครับ เคยได้ยินมาว่า การเอาหูฟังที่ไม่สามารถรองรับความละเอียดในย่าน 8-40Hz ไปเปิด Lossless มันจะเจ๊งได้ครับ หรือไม่ก็ไม่มีความต่างกันในแง่ของมิติเสียง
คนฟังเพลงระดับ Hi-res เค้าไม่ใช้หูฟัง EarPod หรอกครับได้มาก็ปาทิ้งเค้ามีหูฟังคู่ใจแอมป์คู่ใจของตัวเองอยู่แล้วทั้งนั้น
ประเด็นคงเป็นว่า หูฟังที่ให้มากับเครื่อง ต้องรองรับแล้วไงครับ ลูกค้าซื้อ iphone ไป ต้องฟัง hi-res ได้เลย ไม่ต้องซื้อหูฟังใหม่
ขอบคุณครับ
เดาว่าน่าจะเปิดตลาดใน iTunes ก่อนแล้วซัพพอร์ทด้วย iPod แล้วถึงกระจายไปยังอุปกรณ์อื่น ๆ มีระบบนิเวศก็ต้องจัดการผลประโยชน์ทับซ้อน 55
ในที่มาเขียน sampling rate ไว้ 96MHz นะครับ
มันต้องฟังผ่าน port lightning ล่ะมั้ง
ที่เคยมีข่าวมารอบนึงจะทำหูฟัง port lightning รองรับ bite rate สูงๆอยู่ช่วงนึง
เอ่อ อาจจะใช่ และน่าจะเป็นเหตุผลเดียวกับที่แอปเปิ้ลเลิกขาย iPod classic เพราะมันฟัง HiRes ไม่ได้ ไม่มีพอร์ท lighting อาจจะเปิดตัว iPod ตัวใหม่ ความจุ 500G มีพอร์ท lighting (ฝัน)
line IPOD น่าจะทำให้เล่น HI-Res ให้ได้ซะทีนะไม่ยอมทำทั้งๆที่จะทำผมว่าแทบจะได้ทันทีเลยด้วยซ้ำ
น่าจะแยกตลาดกันไป ถ้าเน้นฟังเพลง คงต้องไป ipod ละมั้ง
แต่ G2 มีแค่ 32G แถมเพิ่มอีกไม่ได้ ใส่ไม่กี่เพลงก็เต็มแล้ว
จากการที่ลองมากับหูของตัวเอง พบว่าหูผมยังระดับแค่หูเงิน
เครื่องเล่นไฮ-เรซ แอมป์นอก หูฟังที่เขาว่าเทพ ถ้าเต็ม 100
หูผมฟังได้ถึงแค่ 85 เกินกว่านี้ เทพแค่ไหน แพงแค่ไหน ก็แยกไม่ออกแระ
(แต่ก็ยังอยากกระแด๊ะนะ)