Tim Cook เขียนอีเมลภายในบริษัทถึงพนักงานทุกคน ในโอกาสครบรอบ 3 ปีการเสียชีวิตของสตีฟ จ็อบส์ โดยมีข้อความสั้นๆ ว่าอยากให้ทุกคนระลึกถึงสตีฟ จ็อบส์ ในแง่ผลงานของเขาที่ช่วยให้โลกดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ของเด็กๆ หรือการทำงานของศิลปินทั่วโลก
Cook บอกว่าวิสัยทัศน์ของจ็อบส์จะคงอยู่ต่อไปแม้เขาเสียชีวิตไปแล้ว และแอปเปิลจะสานต่อคุณค่าเหล่านั้น ถึงแม้ผลงานช่วงหลังของแอปเปิลจะเริ่มขึ้นหลังเขาเสียชีวิต แต่โครงการเหล่านี้ย่อมได้แรงบันดาลใจมาจากแนวทางของจ็อบส์อย่างแน่นอน
ที่มา - 9to5mac
Comments
สานต่อยังไง ทำไมงอ
งานสานไทยลวดลายอ่อนช่อย
สานต่อ แต่ตอนทำมีปัญหาอะไร ไม่มีคนเช็คหนิครับ ปกติ หน้าที่นี้ของเฮีย Jobs เขา เช็คทุกรายละเอียด
+1
ตอนนี้จะมีใครกล้าเดินมาสั่งรื้อเครื่อง...ทำใหม่หมด...เพราะเมื่อคืนนอนไม่หลับทั้งคืนเนื่องจากลายเส้นฝาหลังกับเครื่องงอได้...ในโลกนี้คงมีไม่กี่คนจริง ๆ
สมัย Jobs ก็มี Antennagate หนิครับ iphone 4 มั้ง
อันนั้นคนใช้ถือไม่ถูกวิธีครับ!!!! #ถ้าจ๊อปส์ยังอยู่
"ธรรมและวินัยใดที่เราได้แสดงแล้วและบัญญัติแล้วแก่เธอทั้งหลาย ธรรมและวินัยนั้น เป็นศาสดาของเธอทั้งหลาย โดยกาลที่เราล่วงลับไป"
สาธุจ็อบส์ สาธุจ็อบส์ สาธุจ็อบส์
ธรรมและวินัยใด ที่เป็นเรื่องเล็กน้อย พวกเธอย่อม "งอ" มันได้ตามกาลเวลา
ใครเดินตามสตีฟ จอบส์ แนะนำให้
1.ติดยา LSD ยาที่สร้างภาพหลอน มองทุกอย่างในโลกบิดเบี้ยวไปหมด
2.ไปบวชพระศาสนาพุทธที่อินเดีย
3.แม่เสียชีวิต จนเกลียดพระเยซูที่ไม่ยอมช่วยแม่
4.กินมังสวิรัติตลอดชีวิต
5.อาบเหงื่อแทนน้ำ กลิ่นตัวเหม็นจนเพื่อนร่วมงานทนไม่ไหว เป็นความเชื่อจากพระอินเดีย
6.ถ้าใครไม่ยอมทำตาม ก็ต้องขู่ แม้กระทั่งเอาปืนขู่หรือไล่ออก
7.แต่งงานหลายครั้ง ลูกคนแรกไม่ยอมรับว่าเป็นลูกตัวเองนานหลายปี
8.ชอบเดินเท้าเปล่า โดยไม่ใส่รองเท้า
9.โหลดแอพ,เพลงเถื่อนมาใช้ แต่ไม่ยอมให้ใครใช้แอพ,เพลงเถื่อนของตัวเองแน่
10.ขู่ลูกน้อง แดกดันลูกน้องตลอดเวลา เพื่อให้ผลงานออกมาดีสุด แต่จะใจดีกับแผนกออกแบบเครื่องเป็นพิเศษ
11.ทุกผลงานต้องสมบูรณ์แบบ แม้แต่รายละเอียดในเครื่องที่มีแต่คนซ่อมเครื่องที่จะเห็น
จากหนังสือประวัติสตีฟ จ๊อบส์ โดยวอลเตอร์ ไอแซคสัน
เอาแค่แรงบันดาลใจก็พอ อย่าต้องถึงกับทำตัวเลียนแบบคนอื่นเลยครับ
คนเรามีข้อดีข้อเสียนะครับ ผมว่า อันไหนมีประโยชน์ ก็ลองเอามาใช้ดู
ผมไม่เคยอ่านหนังสือประวัติสตีฟ จอบส์ นะ แต่เห็นแบบนี้แล้วชักรู้สึกอยากอ่าน แสดงว่าไม่ใช่หนังสือที่เอาแต่พูดแต่แง่ดีอย่างเดียว แต่พูดถึงชีวิตเค้าในทุกแง่มุมจริงๆ
เป็นหนังสือประวัติคนดังที่เล่าความจริงมากที่สุดแล้วครับ ไม่เหมือนคนอื่นๆที่ปิดบังด้านไม่ดีของตน อย่างไอน์สไตน์โผล่ด้านไม่ดีมานิดหน่อย อย่างการพูดถึงคนส่วนใหญ่เป็นคนโง่ เป็นเสือผู้หญิง หรือการดูถูกผู้หญิงส่วนใหญ่เป็นเพศที่ฉลาดน้อยกว่าผู้ชาย จนไม่ยอมมีลูกกับเมียคนที่สอง เพราะเป็นแม่บ้านที่ไม่ฉลาด จนกลัวลูกออกมาโง่
สตีฟ จ๊อบส์ถูกลูกน้องเกลียดเยอะนะครับ เพราะฟังไอเดียจากลูกน้อง แต่กลับไปบอกคนอื่นว่าเป็นไอเดียตัวเอง กับถ้างานไม่ถูกใจในวันนี้ พรุ่งนี้ต้องรื้อแก้ใหม่หมด ซึ่งเป็นเรื่องที่ลูกน้องทุกคนเกลียดนั่นล่ะ
ใช่ครับ จ๊อบส์ถูกลูกน้องรังเกียจเยอะมากเพราะค่อนข้างโมโหร้ายและเอาแต่ใจตนเอง และบางครั้งก็มีความตั้งใจสูงเกินไป
(พิมพ์ๆ ออกมาเนี่ยผมนึกว่ากำลังด่าตัวเอง ถถถ)
แนะนำให้อ่านครับ คนเขียนหนังสือเขียนไว้เลยว่า เจตนาที่จ๊อปอนุญาตให้เค้าเขียน สัมภาษณ์ เพราะกลัว่าหนังสือที่ไม่ได้มาโดยการสัมภาษณ์เค้า จะอวยจนเกินจริง
+1 ครับ อีกจุดประสงค์คือ แกกลัวว่าถ้าแกตายไป ลูกๆจะไม่รู้ว่าแกเป็นคนยังไง ทำอะไร ผ่านอะไรมาบ้างน่ะครับ (ประมาณว่าตอนอยู่ไม่ค่อยได้ใช้เวลากับลูกตัวเอง) งานเขียนชิ้นนี้ จ๊อบส์อนุญาติให้ Isaacson สัมภาษณ์ได้ทุกคน แม้แต่คนที่อาจจะมีอคติกับตัวจ๊อบส์เอง แถมไม่ขออ่านต้นฉบับก่อนด้วย
สำหรับผม ผมคิดว่าแม้จ็อบส์จะสร้างอะไรทิ้งไว้เยอะ ดูเหมือนยิ่งใหญ่
แต่ในฐานะมนุษย์ และในฐานะพ่อคนหนึ่งแกกลับล้มเหลวนะ
จ็อบส์มีปมเรื่องที่ถูกพ่อทิ้ง (แม้จะไม่ค่อยยอมรับว่าตัวเองมีปมอันนี้) แต่ตัวแกเองก็ทิ้งลูกสาวคนแรกเหมือนกัน
และหลายๆอย่าง ผมคิดว่าแกได้รับเครดิตมากจนเกินจริงครับ
เห็นแกเข้าร้านอาหารญี่ปุ่นประจำนี้ แต่เพิ่งรู้ว่ากินอาหารมังสวิรัติ...
แกชอบกินซูชิครับ ที่แน่ๆคือกินเนื้อปลา จะมีร้านที่แกชอบไปอยู่ใกล้ๆ Campus และถ้าไปร้านนั้นแกจะชอบนั่งโต๊ะเบอร์ 1 เท่านั้น
(ถ้าจำไม่ผิดถ้าไม่ได้นั่ง แกจะหัวเสียด้วย)
ตอนหลังเจ้าของร้านนั้นมีปัญหาส่วนตัว พยุงร้านไว้ไม่ไหว แกเลยชวนไปเป็นพ่อครัวที่ Apple ซะเลย ซึ่งเป็นช่วงใกล้ๆกันกับที่จ็อบส์เสียชีวิตพอดี
6.เอาปืนขู่นี่อยู่บทไหนของหนังสืออะครับ ผมว่ามันเลวร้ายกว่าไล่ออกเยอะเลยนะ
7.ไม่ยอมรับลูกนี่แย่จริง แต่ที่อ่านมาก็เห็นเค้าแต่งงานครั้งเดียว?
:-)
เช่น iPhone 6 Plus..
คนที่มีนิสัยสุดโต่งแบบจ็อบส์ ผมว่ามีเยอะเลยบนโลกนี้
แต่เก่งและมีโอกาสอยู่ในตำแหน่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ได้ โอกาสแทบเป็นศูนย์
ถ้าเปรียบ Apple เป็นเรือแล้วเปรียบวิสัยทัศน์ของ Jobs เป็นเข็มทิศ ก็อาจจะพูดได้ว่าเรือลำนี้กำลังหลงออกนอกเส้นทางของเข็มทิศ
Tim Cook กับ Jobs แตกต่างกันมากๆ ความได้เปรียบทั้งหมดของ Apple ที่มีเหลืออยู่ในตอนนี้คือ Ecosystem และ Brand Image ซึ่งเป็นผลพวงมาจากยุคของ Jobs ทั้งนั้น
ผมไม่ค่อยเชื่อว่าทำตาม steve jobs นะ
คิดว่าการประคองให้แอปเปิล อยู่ได้3 ปีโดยไม่ล้ม หลังจาก jobs ตายเป็นเรื่องง่ายเหรอครับ
ถ้าไม่เก่งพอตัวคงไม่ประคอง apple ได้ขนาดนี้หรอกครับ งาน ceo ไม่ได้แค่นั่งตากแอไปวันๆ แล้วแค่เซ็นเอกสารหรืออยู่เบื่องหน้าอย่างเดียวนะครับ เบื่องหลังที่พวกเราไม่ได้มีสิทธรู้มีอีกมากมาย ความรู้ความเข้าใจของพวกเราทั้งหมดในเวปนี้ ไปเทียบกับ บริษัทระดับโลก มันก็แค่เศษๆเท่านั่น วิจารณอะไรก็เจียมๆตัวบ้างอย่าทำเหมือน ความสามารถของพวกเราเหนีอกว่า Cook จนตัดสินเค้าเหมือนกับว่าตัวเองยังทำได้ดีกว่าเลย
เขาวิจารณ์กันสนุกๆครับ คงไม่มีใครอยากไปเป็นผู้บริหารบริษัทระดับโลกที่ต้องแบกความเครียดไว้มากหรอก
แต่เรื่องที่ทำให้ไอโฟน6งอง่าย ทั้งที่ต้องจ่ายเงินจำนวนมาก ไม่ใช่เรื่องตลกสำหรับคนซื้อหรอก
บ. ที่มีเงินสำรองเยอะ ไม่มีหนี้สิ้นมากมาย มีสาวกเยอะ น่าจะช่วยให้บริหารง่ายระดับหนึ่งนะ
ปัญหาคือ การประคองให้โตใด้ กับการทำให้โตเร็วเท่าชาวบ้าน เป็นคนละเรื่องกัน
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
โตเร็วเท่าชาวบ้านโตแบบไหนครับ ผมไม่เข้าใจสิ่งที่ท่านสื่อจริงๆ
สิ่งที่ผมเข้าใจ ณ ตอนนี้คือ บริษัทก.ไก่(ชื่อสมมุติ) เมื่อโตแบบพรุ่งพรวดถึงจุดๆ หนึ่ง อัตราการโตก็จะช้าลง ผู้บริหารมีหน้าที่จะต้องเปิดตลาดใหม่ และรักษาตลาดเก่าไว้ เอาไปเทียบกับบริษัทอื่นที่โตแบบพรุ่งพรวดกับการคิดการโตแบบเป็น % มันคงไม่ยุติธรรมนัก
ถ้าเทียบกับชาวบ้านแถบเซาท์อีสเอเชีย นับ revenue ที่เพิ่มขึ้นหลังจ๊อบส์ตายก็ซื้อประเทศชาวบ้านแถวๆ นี้ได้เลยล่ะครับ
ถ้าเทียบกับชาวบ้านแถบแคลิฟอเนียร์ด้วยกัน เอาแบบไซส์พอๆ กัน วัดอัตราการเจริญเติบโต อันนี้ก็อยู่หัวแถว
ปัจจุบัน Apple มี Market Cap เฉียดๆ หกแสนล้าน ($) เพิ่มขึ้นประมาณสองเท่าหลังจากวันตายจ๊อบส์ ซึ่งเป็นวันที่ใครๆ ก็คิดว่า Apple ขาลงแล้ว บริษัทขนาดยักษ์นี่โตได้ปีละ 10% ก็ยากแล้ว แต่ที่ผ่านมา Tim Cook ยังทำให้โตได้ขนาดนี้ SME ยังอายเลยครับ
จากคนที่ก่อนหน้านั้นไม่กี่เดือนยังไม่มีใครรู้จักชื่อ Tim Cook เลย บารมีเทียบกับจ๊อบส์ไม่ได้แบบไม่เห็นฝุ่น แก้ปัญหาการเมืองภายใน เปลี่ยนแปลงนู่นนั่นนี่ที่จ๊อบส์เคยทำมาให้แฟนคลับยอมรับให้ได้ ถ้าเท่านี้ยังไม่สาแก่ใจ ก็ไม่รู้จะให้ Cook ทำยังไงแล้วล่ะนะ
ความคาดหวังของคนนี่ล่ะครับ น่ากลัวที่สุด
แล้วหลายๆ คนก็ดันลืมไปว่าสมัย jobs ยังอยู่ก็ทำอะไรๆ พลาดตั้งหลายอย่าง แต่พอตายไปแล้วกลายเป็นเทวดาซะงั้น...
ผลพวงจากสิ่งที่จ๊อบส์ทำเอาไว้ทั้งนั้นครับ
หึ ทุกวันนี้นี่คือสานต่ออยู่ ?
WE ARE THE 99%
แน่ใจเหรอที่พูดน่ะคุณ Tim
ตลอด 3 ปีมา ดูยังไงก็ไม่เหมือนอย่างที่พูดนะ
คนนึงเน้นดีไซน์ ประสบการณ์การใช้ อีกคนนึงถนัดด้าน supply chain ของดีอยู่แล้ว ขอให้มีขายถึงจะขายได้เยอะ แค่นี้ก็ต่างกันจนไม่ใช่เจตนารมณ์ของคนแรกแล้วครับ
ตั้งแต่ iPhone 6 ประกาศ ความเห็นในบล็อคนันมันบอกอะไรหลายอย่าง ที่เห็นชัดๆ ก็คือไม่ใช่แค่ "สาวก" แอปเปิล แม้แต่คนที่ "เกลียด" ส่วนใหญ่ก็ยังติดอยู่กับ "จ็อบส์" แม้เค้าจะตายมาหลายปีแล้ว ตรงข้ามกับบริษัทคู่แข่งที่พยามไม่พูดถึง เพราะอยากให้ชื่อนี้หายไป...
วิสัยทัศน์ของจ็อบส์ หลังจากที่ Scott บินไปแล้ว ที่เหลืออยู่ก็น่าจะเป็น Ive ล่ะมั้ง
ผ่านไป 3 ปีแล้ว แต่ผมยังไม่เห็นอะไรที่มัน WOW เลย
ไม่รู้สึก ไม่ต้องพูดถึงเรื่องนวตกรรม เอาแค่เรื่องวิสัยทัศน์ก็พอ ไม่รู้สึกจริงๆ
ก่อนตาย จ๊อปส์บอกว่าให้บริหารแบบทิมคุก นี่ก็ถูกแล้วนี่ครับ