รายงานล่าสุดระบุว่ายอดขาย iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ในประเทศเกาหลีใต้วันแรกอยู่ที่ 100,000 เครื่อง สูงกว่ายอดจอง Galaxy Note 4 จากซัมซุง ที่ทำยอดได้แค่ 30,000 เครื่องในวันแรกที่เปิดให้จองเมื่อเดือนที่แล้ว
KT เครือข่ายที่นำไอโฟนเข้ามาขายในเกาหลีใต้ก่อนรายอื่นระบุว่าบริษัทขาย iPhone 6 ได้ 50,000 เครื่องในนาทีแรกที่เปิดรับพรีออเดอร์ ขณะที่เครือข่ายอีกราย LG U+ ขาย iPhone 6 ได้ 20,000 เครื่องภายใน 20 นาทีแรก ทั้งนี้เครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ SK Telecom ไม่ได้รายงานตัวเลขยอดขาย แต่ได้ระบุว่าได้เปิดรอบจอง iPhone 6 สองรอบ และทุกเครื่องก็ถูกจองไว้หมดแล้ว
Lee Seung-woo นักวิเคราะห์จาก IBK Securities ระบุว่าซัมซุงได้สูญเสียข้อได้เปรียบเดียวในตลาดสมาร์ทโฟนของตัวเองไปแล้ว นั่นก็คือจอภาพที่ใหญ่กว่า และเขายังเชื่อว่าแอปเปิลจะมียอดขาย iPhone 6/6 Plus รวมกันสูงกว่ายอดขาย Galaxy S5/Note 4 รวมกันถึงห้าเท่าในเกาหลีใต้ช่วงปลายปีนี้
[อัพเดต] รายงานล่าสุดระบุว่าซัมซุงได้จำกัดยอดจอง Galaxy Note 4 ในประเทศเกาหลีใต้ไว้ที่ 30,000 เครื่องเท่านั้น ทำให้การเปรียบเทียบยอดจองในข่าวนี้ถือว่า "ไม่ยุติธรรม"
ที่มา - The Wall Street Journal ผ่านทาง BGR
Comments
อุ๊ปส์...
ถล่มทลาย
แอปเปิลขาลงแล้วจ้า
สาวกซัมซุงหลายๆ ท่านกล่าวไว้
(แต่ผมว่าก็จริงนะ นวัตกรรมอะ)
apple ขาลงแค่ไม่โตเร็วเหมือนเก่า samsung สิขาลงของจริงๆๆ
ใช่ครับ ปัจจุบันก็ใช้วิชาขี้ลอกแบบเดียวกับ Samsung แถมไม่มีอะไรใหม่ให้ Samsung ลอกด้วย Samsung น่าจะจุกอก เพราะตัวเองยังเหลือปากกาให้ Apple ลอกได้อีก
เหลือปากกาให้แอบเปิลลอก 55+
หลังจากผิดหวังกับ app streaming pro ใน android และอีกหลายๆ app ที่คุณภาพไม่ได้เรื่อง
ผมกำลังจะกลับไปหา iphone เช่นกัน
อนาคต android ลำบากละ เพราะ apple มาชิงตลาดจอทุก size
+1 streaming android ไม่ไหวจะเคลียเลย มีกับไม่มีแทบไม่ต่างกัน
เห็น streaming เวอร์ชั่นใหม่จะ log in ด้วย touch id ได้ด้วย ส่วน Android ไม่มีความเคลื่อนไหว ><
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
+1 ครับ จาก iPhone4 -> Nexus5 และกะลังจะกลับไป iPhone6
+1 ครับ จาก iPhone 4 > Galaxy Nexus > Nexus 4 > Nexus 5 > Note 3 > LG G2 > iPhone 4s ตอนนี้รอ iPhone 6 plus แล้วครับ
ผมไม่ชอบไอโฟน แต่ Note4 นี่จับมาแล้วไม่รู้สึกอยากได้หรืออะไรเลย จับ G2 G3 Nexus5 นี่ยังมีอารมณ์อยากได้มากกว่า
+1
บุกถึงรัง
ไม่รู้จะซ้ำรอยญี่ปุ่นหรือเปล่า หลังจากที่ตอนแรก Android กับ Flip phone ยัง Dominate ตอนนี้กลายเป็นแอปเปิลโผล่มาจากไหนไม่รู้
@TonsTweetings
ผมเพิ่งกลับจากญี่ปุ่น คนยังใช้ flip phone อยู่เยอะเลยนะครับเยอะมาก
ส่วนมากผมเห็นแต่คนแก่กับวัยทำงานที่ไม่สนเรื่อง Technology นะครับ
วัยรุ่นกับวัยเริ่มทำงานส่วนมากก็เป็น iPhone Android กันหมดแล้ว
ผมว่าการตลาดของ Samsung พลาดมากๆ
สำหรับผู้ใช้ธรรมดาๆอย่างผมนั้นมองว่าการปล่อย iPhone ชุดนี้มาคือการก้าวหน้าที่ดีของ Apple
แต่ข่าวที่ออกมาตั้งแต่ "iOS 8 นั้นไม่ดี ทำเครื่องช้า" หรือ "Bendgate และปัญหาของ Ergonomics" หรือ "บั๊กใน iOS 8 แต่ละรุ่น" หรือ "ราคาแพงกว่าเดิม" ซึ่งผ่านไปแค่เพียง 1 เดือน ก็ทำให้มี iOS 8 ออกมาทั้งหมดตอนนี้ 4 เวอร์ชันแล้ว มันเป็นอะไรที่วุ่นวายมากๆ
แต่แทนที่ Samsung จะนำจุดด้อยมาใช้ประโยชน์ให้กับผลิตภัณฑ์ของตัวเอง แต่กลับกลายเป็นว่าทำตรงกันข้าม
อย่างเรื่องสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค นั่นคือ "ราคาของ Note 4" ที่ประกาศออกมาแล้วทำให้หลายๆคนถึงกับกลืนน้ำลาย ผมคิดว่าหลายๆคนคงรู้สึกเสียดายโอกาสในการทำแต้มในครั้งนี้มาก
ตอนนี้ Apple กำลังเข้าถึงในตลาดที่พวกเขาไม่เคยสัมผัสมาก่อนเป็นครั้งแรก นอกจาก Samsung จะต้องทำการบ้านอย่างหนักแล้ว ยังคงจะต้องพัฒนาในสิ่งอื่นๆตามมาด้วย เพราะสิ่งที่ Apple มีดี ไม่ใช่แค่ตัวผลิตภัณฑ์ แต่ยังมีอีกหลายๆอย่างที่ Samsung ตอนนี้ทำไม่ได้ดีเท่า
ป.ล. แต่ถ้ายอดขายรวมก็อีกเรื่องหนึ่งแหะ เพราะ Samsung ไม่ได้ผลิตแค่ S5 กับ Note 4
ป.ล. ผมแอบสงสัยล่ะว่าทำไมราคาของโทรศัพท์มันก้าวมาได้ไกลถึงขนาดนี้ สำหรับผมแล้วผมว่ามันเริ่มแรงเกินที่ความจำเป็นและความต้องการแล้วครับ
เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว โนเกีย 8850 เคยมีค่าตัวเกือบห้าหมื่นบาทเลยนะครับ ทั้งๆที่โทรเข้าโทรออกได้อย่างเดียว (+เกมงูให้เล่นแก้เบื่อ) รุ่นต่ำกว่าก็2-3หมื่นเลยทีเดียว
อันนี้ผมขอตอบตามความเข้าใจผมนะครับ ผิดพลาดช่วยชี้แนะทีนะครับ
มันเหมือนกับกรณีหรือเปล่าครับ ผมขอเปรียบเทียบกับนาฬิกานะครับ
อย่างโทรศัพท์ในสมัยก่อนก็จะมีรุ่นที่ราคาถูก ก็เหมือนกับ นาฬิกาทั่วไป
แต่ในกรณี 8850 ก็คือเพิ่มความหรูหรา มูลค่าเข้าไป ให้แตกต่างจากมือถือทั่วไป เหมือนกับนาฬิกาแบบ Swiss-Made
ถ้าพิจารณาว่า iPhone คือสินค้าฟุ่มเฟือย ข้อสงสัยผมก็จะกระจ่างทันที
แต่ผมไม่คิดว่าสินค้าพวกนี้จะจัดอยู่ในประเภทนั้นนะครับ เพราะแนวโน้มของราคามันสูงขึ้นทุกปี
(เอ่อ ผมหลงประเด็นหรือเปล่าเนี่ย =_=")
ไม่น่าจะใช่นะครับ
ถ้าเทียบนาฬิกาธรรมดากับ Swiss Made สำหรับยุคนี้ต้องเทียบเหมือน สมาร์ทโฟน กับ Vertu มากกว่า
ผมว่า iPhone ยังไม่ถือว่าก้าวไปถึงขั้นที่เรียกว่า Luxury นะ น่าจะเป็นได้แค่ High-End ในกลุ่ม Smart Phone เฉยๆ แต่อย่าง Vertu นี่สิใช่
ส่วน 8850 ไม่แน่ใจ เพราะไม่รู้ว่ายุคนั้นมีอะไรบ้างที่ถือว่า Luxury ในกลุ่มโทรศัพท์ แต่มองๆแล้วก็ยังน่าจะอยู่แค่ในกลุ่ม High-End อยู่ดีแหละ
เรื่องที่โทรศัพท์สมัยก่อน 5 หมื่นบาท แล้วตอนนี้ถูกกว่าตอนนั้น ผมว่าเป็นเรื่องของเทคโนโลยีและต้นทุนแค่นั้นเลยครับ
เพราะเครื่องจักรมีประสิทธิภาพมากขึ้น นาโนเทคถูกเอามาใช้ การใช้แพร่หลายทั่วโลกที่ทำให้เกิด economy of scale ทำให้ต้นทุนการผลิตถูกลงกว่าเดิมมาก เหมือนฮาร์ดดิสก์สมัยก่อนกับสมัยนี้นั่นแหละ คนขายก็เลยตั้งราคาแพงหรูหราก็ได้ ตั้งราคาถูกตัดเจ้าอื่นก็ได้ ตาม positioning ของตน
แต่ถามว่า iPhone เป็นสินค้าฟุ่มเฟือยมั้ย ผมว่าไม่นะ มันราคาสูงก็จริง แต่ถ้าพิจารณาจากโฆษณาที่ Apple พยายามสื่อ ร้านที่ขาย และระดับของคนที่ซื้อได้แล้ว มันก็ไม่ได้ดูหรูหราแบบพวก Armani/Hermes ครับ เป็นสินค้า high-end เฉยๆ
ส่วนที่ผมบอกว่าต้นทุนถูกลง แต่ทำไมโทรศัพท์แพงขึ้นทุกปี ก็น่าจะเป็นเรื่องเงินเฟ้อแหละ ถ้าเราตัดเรื่องเงินเฟ้อออกไป จะเห็นว่าทุกๆ ปีเราจะได้โทรศัพท์ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ในราคาใกล้เคียงเดิม
สมัยนั้นมันยังไม่มีมือถือรุ่นที่ความสามารถและราคาราวๆ Zenphone นี่ครับ
ผมว่างานนี้จริง ๆ แล้ว Intel แทบจะแจก CPU ให้ใช้ฟรีเลยครับ เลยได้ราคานี้
สรุปแค่ปากกายังไม่ดีพอที่จะตี iPhone ได้สินะ แต่รู้สึกคนไกล้ตัวที่จะซื้อ note ส่วนมาจะรอให้ราคานิ่งกว่านี้สักนิดเพราะเจ็บตัวตอนซื้อวันแรกๆ มาหลายรายแล้ว ราคาไปไวมาก - -")
โดนตีหัวแบะในบ้านนี้ สาหัสทีเดียว
แอปเปิลกินบุญเก่า
ประชด!!
กัดเข้าไปสิ จอใหญ่เราทำมานานแว้วว
หารู้ไม่อันตรายกำลังมา ^ ^
เห็นด้วยจริงๆ กัดได้กัดดี โดนแย่งตลาดอยู่เห็นๆ -*-
ผมยังนึกไม่ออกเลยว่า หากซัมซุงไม่มี note ลำพัง เรือธงตระกูล S จะเอาอะไรไปสู้เค้า
ไม่มี
ก่อนหน้า samsung ออกมาทีหลังแล้วลอก สาวก ด่า
apple เห็นขายดี มาทำบ้าง แล้วขายดีกว่า สาวกบอก เยี่ยม
ผมว่าดีแล้ว ถ้าไม่เห็นโรงศพ ก็ไม่หลังน้ำตา
ก็ดีกว่าโนเกียตอนนี้ถึงแค้นก็ทำอะไรไม่ได้มาก ได้แต่ทำ เฮีย กับ โฮม ของตัวเองให้คนอื่นใช้ เห็นแล้วเศร้าแทน อยากทำมือถือก็ทำไม่ได้
การแข่งขันที่สูงทำให้สินค้าพัฒนา เป็นผลดีต่อผู้บริโภค ราคาตกเร็ว แต่พลังแห่งสัทธาช่างน่ากลัวจริงๆ
ผมสงสาร Android รายอื่นเข้าไปใหญ่
Samsung ยังมี Note ที่เชิดหน้าชูตาได้
แต่แบรนด์อื่น(ที่ไม่ได้เน้นแข่งด้านราคา) เช่น h..C, S...y, L..
ผมว่างานงอกหนักเหมือนกัน คงต้องขายคนที่ไม่อยากได้แบรนด์กระแสหลักแทน
ซึ่งก็ต้องมีจุดเด่นที่เรียกคนได้บ้าง ไม่งั้นก็จะโดนกลืนไปเลย
+1 เอาเวลาและงบที่ทำ ads ไปทำ r&d ให้ผลิตภัณฑ์มันดีกว่าที่เป็นอยู่เถอะ ที่ผมไม่มอง ss รุ่นหลังๆ ก็เพราะ design มันย่ำแย่และไม่มีการพัฒนาเลยจริงๆ
เราจะทำจอใหญ่เมื่อเทคโลยีพร้อม
วันนี้เชื่อแล้วมันพร้อมจริงๆ
รังแตกจ้า บอกตรงๆ
ดีครับ เผื่อซัมซว...ย จะมองเห็นอะไรบ้าง เผื่อจะพัฒนาขึ้นกว่านี้โดยเฉพาะดีไซน์และ ROM
ขำแพ้พ บุกถึงถิ่นเลยทีเดียว แต่จริง ๆ ซัมซุงก็ตีตลาดโมโตแตกมาก่อนนะ ที่ตลกคือกัดเรื่องจอเล็กจอใหญ่ของแอปเปิ้ลเหมือนโฆษณาแฝงให้คู่แข่งแบบไม่รู้ตัวนะ หึๆ
เหมือนบอกคนอื่นว่า "Apple มีมือถือจอใหญ่มาขาย(เหมือนเรา)แล้วนะ"
"เย้ ได้เวลาซื้อเครื่องใหม่แล้ว" สาวก Apple ที่อยากได้จอใหญ่กล่าวหลังจากได้ข่าว iPhone จอใหญ่จากแซมซัง
"เย้ ได้เวลาซื้อเครื่องใหม่แล้ว" สาวก Samsung ที่อยากได้ iPhone จอใหญ่กล่าวหลังจากได้ข่าว iPhone จอใหญ่จากแซมซัง
ปัญหามันอยู่ตรงที่ว่า Smartphone มันเด่นที่ Application, feature ของตัวเครื่องมันเป็นตัวสร้าง app, แต่การที่มันเป็น android ทำให้มันขาดเอกลักษณ์ไปซะเยอะ เพราะมีตัวเลือกมาก ควรมีอะไรที่เป็นเอกลักษณ์ที่น่าสนใจที่เป็นของ ss เอง ที่คนอื่นไม่มี ไม่ใช่สักแต่มีเพื่อการตลาดแต่ไม่ work ss ก็พยายามแล้วใน Tizen เพียงแต่มันเข็นไม่ไป เพราะมือมันสั้นไป
ผมมองว่าเป็นการกระทุ้งผู้ผลิต android ทุกเจ้าได้อย่างดีเลยนะ ที่จังะต้องหา feature ไม่ว่าด้าน SW หรือ hw มายัดลงมือถือตัวเอง
เพราะตอนนี้ในตลาดบนชูเรื่องจอใหญ่ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
แถมกลายเป็นว่า android ก็แทบจะจับตลาดบนได้ไม่เต็มปากเท่าไหร่นัก เนื่องจากผู้เล่นหน้าใหม่ทำเสปคมือถือได้สวนทางกับราคามาก
COBOL !!
+1 เหล่าผู้ผลิตมือถือฝั่ง Android ชูเรื่องจอใหญ่ไม่ได้แล้ว
คาดการณ์ไว้ไม่ผิดจริงๆ ถึงแม้แอปเปิลจะมาช้าเรื่องจอใหญ่ (แถมโดน meme ไปเยอะว่ามาทีหลังแต่น้องด๋อยมาก่อนตั้งนานนะ) แต่มาทีนี่ผึ้งแตกรังจริงๆ
Nexus 4 ในมือผมยังสั่นรัวๆ
ผมว่า Samsung ไปใส่ใจ Xiaomi จะดีกว่ามาไล่ตาม Apple แล้วนะ จริงอยู่เมื่อสองสามปีก่อนการไล่ตาม Apple อาจเป็นสิ่งที่ถูก แต่ปัจจุบันเห็นได้ชัดว่า Xiaomi หรือ Zenphone แย่งกลุ่มลูกค้า Samsung ไปได้มาก สินค้าเรือธงก็เหลือแค่ Note รุ่นเดียวที่สร้างความแตกต่างในตลาด (ซึ่งผมอยากได้ lol) อย่าง S5 เปิดตัวมาแปบเดียวก็ลดราคาฮวบเลย อย่างนี้ลูกค้าที่จะซื้อ S6 จะไม่หวั่นๆกันหรือ
ลูกค้าที่จะซื้อ s6 คงหันไปหา Xiaomi กับ Zenphone กันหมดละครับ
เรือธงที่เชิดหน้าชูตา Samsung ได้ตอนนี้เหลือแค่ Note จริงๆ แต่คำถามก็คือ Samsung จะทำยังไงให้คนรู้สึกอยากเปลี่ยนรุ่นได้ทุกปี ในขณะที่มือถือ android จากค่ายอื่นๆ มาประชิดหลังบ้านขนาดนี้ในราคาที่ถูกกว่า ส่วนหน้าบ้านก็มี iPhone จอใหญ่ยืนรออยู่แบบนี้
ตอนแรกSS ก็เน้นราคาคุ้มค่า ตอนหลังๆพยายามจะเล่น premium แต่ก็นะ ของห่วยๆจะดันตัวเองได้ยังไง รอมห่วยๆ ซอฟต์แวร์ขยะเต็มเครื่อง งานประกอบกิ๊ก๊อก ดีไซน์ห่วยแตก พนักงานไม่ใส่ใจ เอะอะอะไรก็ factory resetก่อน รอมขนาดเรือธงก็ไม่ยอมรับปากว่าจะอัพให้เมื่อไหร่ ในขณะที่ ASUS ขายZenfone ถูกกว่ายังรับปากว่าจะให้ 5.0 เลย
เป็นบริษัทที่ผมสงสัยว่าขายของแบบนี้แล้วเติบโตได้ยังไง ตั้งแต่ซื้อNote10.1,Note2 ก็รู้ซึ้งถึงตับเลย ว่าของมันห่วย ยังไงก็ห่วย ที่ขายได้ก็เพราะจอใหญ่เท่านั้นแหละ ยอดสู้iphoneไม่ได้ผมไม่แปลกใจเลย ผมแปลกใจมากกว่าว่าบริษัทมันยังกำไรได้ยังไง เหยื่อจากการโฆษณาสินะ
อุต๊ะ ก็ note เปิดราคามาขนาดนั้นก็เจ๊งไปเถอะครับ สม..
การตลาดในประเทศไทยของซัมซุงมันห่วยครับ ไม่แปลกใจเลยทำไมยอดขายมันตกลงเรื่อยๆ ลูกค้าเก่าได้แพ ลูกค้าใหม่ได้ หลุด QC
Texion Business Solutions
เดิมการเปรียบเทียบมือถือ คนเราจะดูลักษณะภายนอก และการมองเห็นง่ายเป็นหลัก
จึงทำให้ข้อแตกต่างของ samsung กะ apple มีข้อแตกต่างหลายอย่าง
ต่างคนมีเหตุผลของตนเองในการเลือกพิจารณาการซื้อมือถือ
apple กำลังทำให้เปรียบเทียบง่ายขึ้น เมื่อยอมกลืนน้ำลายที่สตีฟได้พูดไว้ ทำมือถือที่มีขนาดจอใหญ่ ทำให้คนที่เลือกมือถือเพราะต้องการมองเห็นง่ายตัวใหญ่ จิ้มง่าย ดังนั้นต่อไปคือ ความสามารถของมือถือที่ผู้พิจารณาจะพิจารณาต่อไป
ต่อไปตัวเลือกการตัดสินใจจะง่ายขึ้น เพราะขนาดเท่ากันแล้ว ตัดสินที่รูปแบบ ประสิทธิภาพ ความคุ้มค่า ราคา มือถือที่สร้าง value ให้กับผู้ถือมากที่สุดก็จะได้ตลาดไป
จะแข่ง value ยังไงล่ะครับ อัดเสปกแล้วลดราคาแข่งกันแบบที่กำลังเป็นอยู่หรือเปล่า ผมดูๆ แล้ว Android ตอนนี้กำลังจะกลายเป็น Red Ocean อยู่รอมมะล่อแล้ว
ส่วน iOS มันลอยๆ อยู่ของมันยังงั้น เหมือนจะแข่งแต่ก็เหมือนไม่ได้แข่งกันตรงๆ เพราะความที่มันใช้ระบบปฏิบัติการและระบบนิเวศที่ไม่เข้ากันกับของ Android ทำให้กลายเป็นเหมือนสินค้าที่อยู่คนละตลาดไปซะงั้น
ผมแฟนซัมซุงนะ
และคิดว่ายอมรับเถอะครับ ตลาดรอ iPhone จอใหญ่มานานละ
+1 เช่นผมเป็นต้น ไม่เคยใช้ iPhone มาก่อน รู้ว่าดีมานานแต่ติดที่จอเล็ก พอมี 6+ ก็ไม่มีเหตุผลว่าทำไมจะไม่ใช้ละ
ยกเว้นเรื่องกลัวเครื่องงอ
ขอจดจำ 6 Plus เอาไว้
....ในฐานะ Galaxy Note Killer
(หรือ SS Killer ดีนะ?)
จากการใช้งาน android ใช้งานได้ดีในระดับหนึ่ง
ถ้าอยากให้ดีจริงๆต้องใช้ Hardware ระดับสูง ถึงจะลื่นๆ
แต่ก็ยังไม่ดีเท่า iOS ที่เล่นยังไงก็ลื่น
"บ้าแบรนด์หรือเปล่า" - ติ่ง
ดูซิ Samsung จะรับมือ Apple ที่ใช้วิชาขึ้ลอกที่ลอกมาจาก Samsung อีกทียังไง โดนวิชาตัวเองเข้าไปคงจี้ดไปเลย ยิ่งตอนนี้ไม่มีอะไรใหม่ให้ลอกแล้วด้วย ต่างกับ Apple หลังจากลอกโทรศัพท์จอใหญ่ไปแล้ว ยังเหลือลอกปากกาให้ว้าวได้อีก
ลอกอะไรครับ เรื่องขนาดจอเหรอครับ ? ผมว่าพวกสเปคเครื่องนี่ไม่น่าจะนับว่าเป็นการลอกนะ ถ้าไม่งั้น ยี่ห้อไหนใช้ ซีพียูอะไร แรมเท่าไหร่ แล้วยี่ห้ออื่นมาใช้เหมือนกัน เช่น snap dragon 801 ram 2 GB จอเท่ากัน ถือว่าลอกใหมครับ - -'
แล้วก็ตลาดจอใหญ่ ไม่น่าจะมีแต่ samsung นะครับ ยี่ห้ออื่นจอใหญ่เยอะแยะไป สำคัญตัวเองผิดไปรึปล่าว
ครับ ยังเหลือปากกาครับ
Phablet เครื่องแรกของโลกคือ AT&T EO 440 แต่เครื่องที่จุดติดเป็นเครื่องแรกคือ Galaxy Note 1 ตอนนั้น Apple ก็ด่าไว้เยอะ แล้วสุดท้ายก็มากลืนน้ำลายลอก Samsung ก็เหมือนตอน Samsung ลอก Apple ก็ขายดี พวกขี้ลอกนี้มักจะขายดีครับ
ผมว่าไม่มีทางเห็นปากกาจาก apple แน่นอนครับ เรื่องจอ สำหรับผม มันเป็นอะไรที่ต้องทำ ต้องมีอยู่แล้ว เมื่อถึงเวลา เหมือน
จอขาวดำ > จอสี > จอใหญ่ขึ้น > จอ 3D > 4D > ปล่อยกลิ่น > hologram ลอยขึ้นมาก
จากเล็ก > กลาง > เริ่มใหญ่
ความละเอียดน้อย > ความละเอียดมาก
การที่จ็อบส์ออกมาบอกว่าไม่ทำจอใหญ่ ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่เกิดขึ้น ส่วนปากกา 3rd party พร้อมจะทำขายให้เยอะแยะ ทำให้เหนื่อยทำไม แถมนี่ขนาดไม่มีปากกายังดีตลาดเครื่องปากกาแตกได้ เป็นผม เอาเวลาไปพัฒนาอย่างอื่นดีกว่า
ที่ผมอยากให้หาไปมากคือปุ่มโฮมนี่แหละ มันทำให้เครื่องเทอะทะมาก อยากให้แบบ จอทั้งจอ แสกนลายนิ้วมือเลยได้ใหม แตะตรงไหนก็แสกนได้ เพราะเห็นปัจจุบัน คนให้ไอ้ตุ่ม assistive touch แทน home ที่มากะเครื่องกัน เยอะมาก ไม่รู้จะถนอมกันไปไหน - -'
ปล.อาผมสองท่านใช้ note 3 นะ แต่เท่าที่ลองคุยแทบไม่เคยใช้ปากกาเลย ทั้งๆที่แต่ก่อนใช้ window mobile กัน ผมเห็นจิ้มกันมันมาก เพราะอะไร เพราะปุ่มบน window มันเล็ก
แต่พอมาใช้ UI ใหญ่ๆ แล้ว ถ้าไม่ใช่คนที่ชอบจดหรือวาดรูป มันแทบจะไม่ได้ใช้งานเลย ^ ^
ครับผมเข้าใจเรื่องที่ท่านอธิบายที่หลายคนซื้อไปแล้วไม่เคยใช้ปากกาเลย เพราะตัวปากกาเองมีประโยชน์กับคนที่สร้างสรรงานมากกว่าคนที่เสพอย่างเดียว แต่การโฆษณามันเล่นกับปากกาได้หลายเรื่องทำให้คนที่ดูรู้สึกอยากซื้อได้ แล้วก็อย่างที่หลายคนคิดว่าตอนนี้เป็นขาลงของ Apple เทคโนโลยีใหม่ ๆ อาจจะช้าไม่ทันการเปลี่ยนรุ่นปีต่อปี ดังนั้นก็อาจหยิบโน่นนี้ของชาวบ้านมาใส่แก้ขัดไปก่อนได้
เรื่องขนาดนี้ด่าเค้าไว้เยอะครับ แล้วมากลืนน้ำลายทีหลัง แล้วก็อ้างยังไม่ถึงเวลา ตอนนั้นนิ้วมนุษย์มันยังไม่ยาวพอ ตอนนี้ยาวขึ้นแล้วเลยทำจอใหญ่ออกมาได้ :V
ความเห็นโครตจะ bias
อืมถ้าผมบอกว่า Samsung ขี้ลอกเจ้าเดียวจะว่าผม bias มั้ยครับ
งงที่ผมว่าทั้งสองเจ้าขี้ลอก เพราะลอกกันไปมา ทำไมกลายเป็นผม bias ไปได้
มันเหมือนกงกำกงเกวียน
ตอนที่แอปเปิ้ลเข้ามาในตลาด กำลังขายเพลินๆในฐานะมือถือสมาร์ทโฟนปฏิวัติวงการ ซัมซุงก็ขอเข้ามาในตลาดบ้างโดยพยายามทำสินค้าให้เหมือนกันในราคาถูก (พยายามไม่ใช้คำว่าลอกนะเนี่ย) พอเริ่มเข้ามาได้ก็ออกสินค้าใหม่สร้างตลาดใหม่ จอใหญ่ใครๆก็ชอบ ขึ้นมา แล้วก็ไปมีตลาดของตัวเอง จอใหญ่ดีกว่า ดูง่าย จิ้มง่าย ว่ากันไป
คราวนี้พอซัมซุงเริ่มมีตลาดจอใหญ่ กำลังขายเพลินๆในฐานะมือถือจอใหญ่ใครๆก็ชอบ แอปเปิ้ลก็ขอเข้ามาในตลาดบ้างโดยทำมือถือจอใหญ่ในมารตฐานแอปเปิ้ลออกมา(พยายามไม่ใช้คำว่าลอกนะเนี่ย) ตีตลาดจอใหญ่บ้างซะเลย
โดนเข้าเองอย่างนี้ ซัมซุงน้ำตาตกใน พูดๆไปก็เหมือนเบิกตลาดให้แอปเปิ้ล
+1
กล้องนูนออกมากับเส้นขาวๆด้านหลัง ทุเรศมากไม่ชอบเลย iPhone5s สวยกว่าเยอะ