เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เรามีข่าวว่ามูลค่าหุ้นแอปเปิลทำลายสถิติเดิม สูงสุดตลอดกาลอีกครั้ง ผ่านมา 12 วัน หุ้นแอปเปิลก็ทำลายสถิติใหม่เป็นครั้งที่สองเรียบร้อย
โดยราคาหุ้นแอปเปิล (NASDAQ: AAPL) ที่เปิดตลาดไปเมื่อสักครู่ (ช่วงเช้าของสหรัฐอเมริกา) มีราคาตั้งต้นอยู่ที่ 120 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเมื่อคิดเป็นมูลค่าตามตลาดก็จะอยู่ที่ 702 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นับเป็นการทำลายสถิติใหม่ของแอปเปิลอีกรอบอย่างเป็นทางการ
สำหรับมูลค่าของบริษัทไอทีรายอื่นๆ ที่เปิดตลาดในช่วงเช้าวันนี้ก็คือ ไมโครซอฟท์อยู่ที่ 394 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กูเกิลอยู่ที่ 367 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อเมซอนอยู่ที่ 155.24 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ IBM อยู่ที่ 161 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และ HP อยู่ที่ 71 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ที่มา - AppleInsider
Comments
เห้ยยย!!! ไหนมีคนบอกว่าถดถอย ไหนบอกแอ๊ปเปิ้ลกำลังจะเจ๊ง!!?
มันมีข่าวว่า iphone ขาดดีไงครับ (https://www.blognone.com/node/63142) หุ้นเลยขึ้น
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ก็นั่นน่ะสิ
ตกลง "มันมีข่าว" หรือ "มันขายดี" ครับ!? งงแฮะ!
อีกอย่าง ผมไม่ได้บอก (ในโพสต์บน) ว่า "หุ้นขึ้น" หรือ "หุ้นลง" ไม่ได้สนใจตรงจุดนั้น
ที่สนใจคือ "มันจะเจ๊ง" รึเปล่า และ "เมื่อไหร่" ตามที่มีคนเคยบอกไว้
และเหตุผลที่มันจะเจ๊ง... ที่นอกเหนือไปจาก ตลาดหด ตลาดไม่ขยายแล้ว ส่วนแบ่งลด
ปัจจัยอะไรบ้างที่จะทำให้มันเจ๊ง (นอกจากการเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยีที่แอ๊ปเปิ้ลทำไม่ได้ หรือตามไม่ทันเลย!)
ผมไม่ได้แฟนบอยแอ๊ปเปิ้ลอะไรหรอกนะ 555 แต่แน่นอนว่าแอบอคตินิดๆ
แต่ไม่ได้เข้าข้างแอ๊ปเปิ้ลครับ ผมมีอคติต่อ เหตุผลที่ฟังไม่ค่อยสมเหตุสมผล หรือ กลับไปกลับมา เท่าไหร่
ก็เลยอยากรู้ว่า บริษัทที่ใหญ่ขนาดนี้ จะเจ๊งได้ยังไง มันเป็นเพราะอะไร!? (อยากรู้จริงๆ นะ)
อยากได้ "เหตุผล" ที่มันฟังแล้ว "เข้าท่า" มากกว่า "มโน"
อย่างน้อยก็อยากจะได้ยินจากคนที่อธิบายได้น่ะครับ (แต่ไม่ใช่แบบ พูดอะไรก็ได้ เพราะไม่ต้องกลัวใครตีหัว นะ)
ปล. อันนี้ไม่ได้กดดันใครใช่มั๊ย!?
ฮ่าๆๆ ไม่ได้กดดันอะไร ผมตอบเอง
เทคโนโลยีเปลี่ยน คนก็เปลี่ยนใจไม่ซื้อแอปเปิ้ล ...เจ๊งแน่นอน
เช่น ลงทุนสมาร์ทวอตซ์มาเกินตัว แต่ใช้งานจริงไม่ได้ เลย คนเบื่อชาร์จแบตบ่อยๆ
หรือ มีคนไทยคิดวิธีโทรศัพท์โดยใช้พลังจิตได้สำเร็จ โทรไปได้ทั่วสุริยจักรวาล โดยวิธีการอมซีพียูไว้ในปาก ใช้น้ำลายเป็นแบตเตอรี่ ฮ่าๆๆๆๆ ...แอปเปิลเจ๊งครับ
มีเหตุผลอื่นไหมครับ นอกจากนี้
(ผมระบุไว้แล้ว บรรทัดที่ 5 ว่า "ปัจจัยอะไรบ้างที่จะทำให้มันเจ๊ง (นอกจากการเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยีที่แอ๊ปเปิ้ลทำไม่ได้ หรือตามไม่ทันเลย!)" อันนี้ดูเหมือนจะเข้าข่ายนะครับ)
SmartWatch ลงทุนไม่ดี เจ๊งแน่
Apply PAY คนรวมหัวไม่ใช้ เจ๊งแน่
Streamimg Media Center มีคู่แข่งเป็นภาษาท้องถิ่นเกิดขึ้นมาเยอะ ฮ่าๆๆๆๆ ...แอปเปิลเจ๊งครับ เช่นเพลงไทย แอพไทย คนไทยทำสโตร์เอง หรือคนจีนทำสโตร์ภาษาจีนเองเอง หรือคนญี่ปุ่นทำเอง คนเกาหลีทำเอง
แต่ที่ญี่ปุ่นทำแอพเองแล้วเจ๊งจนต้องมาใช้ iTune กับ Kindle แทนนะครับ
อยากได้ "เหตุผล" ที่มันฟังแล้ว "เข้าท่า" มากกว่า "มโน" (เขียนไว้ในบรรทัดที่ 9 ครับ)
อยากขอข้อมูลว่า Apple Watch จะเจ๊งเพราะอะไร อะไรคือสาเหตุ หรือปัจจัย
*** ขอข้อมูลที่เป็นตัวบ่งชี้ด้วยครับ ไม่เอาสมมุติฐานแบบที่เด็กๆ ก็พูดได้ ***
อยากขอข้อมูลว่า Apple Pay จะเจ๊งเพราะอะไร อะไรคือสาเหตุ หรือปัจจัย อะไรจะทำให้ "คนรวมหัวกันไม่ใช้"
*** ขอข้อมูลที่เป็นตัวบ่งชี้ด้วยครับ ไม่เอาสมมุติฐานแบบที่ใครที่ไม่ชอบ Apple ก็มโนขึ้นมาได้ ***
ส่วน Streaming Media นั้น กรณีที่ภาษาท้องถิ่นเกิดขึ้นมาเยอะ คิดเป็นกี่ % ในตลาด นับเป็นส่วนแบ่งการตลาดเท่าไหร่ แล้ว Apple ถือความได้เปรียบเหนือตลาดอยู่กี่ % ขอเป็นตัวเลยครับ
การคาดเดาอนาคตของสินค้าและบริการใหม่ มันไม่มีอะไรเป็นตัวบ่งชี้อยู่แล้วนิครับ ดังนั้นเราเดาไม่ใด้หรอกว่าจะเจ๊งหรือไม่
ที่พอจะใกล้เคียงคือ smart watch เจ้าอื่นขายไม่ดี และหลายคน โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่ใด้ต้องการ สินค้าของ apple มา review ล่วงหน้า บอกว่า apple watch น่าเกลียด
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ก็เห็นมีคนบอกบ่อยๆ ว่าจะเจ๊ง! ก็เลยอยากรู้ว่าทำไม สรุปคือ
ใช่ไหมครับ
ครับเราเดาไม่ใด้ 100% หรอกว่า apple watch, apple pay จะเจ๊งหรือไม่
ขนาด itunes ping ที่แจกฟรีเกาะมากับ itune ที่ว่ายิ่งใหญ่ ยังล้มใด้เลย
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ตกลงเดาได้ หรือเดาไม่ได้ครับเนี่ย
ปล. ถ้านับว่า ไม่เจ๊งเลยสักโครงการ = ไม่เจ๊ง นี่ผมว่าตรรกะไม่ใช่แล้วนะ
ที่ไหนๆ มันก็มีโปรเจคที่ล่ม และโปรเจคที่รุ่งกันทั้งนั้น
Google นี่ก็มีเพียบเลย Microsoft, Facebook ก็มี
เท่าที่ผมรู้มา หลายคนบอก Apple ย่ำอยู่กับที่แล้วเจ๊ง
ผมก็เห็นว่า Apple เดินแนวทางนี้มาแสนนานแล้ว ไม่ยักใกล้เจ๊งเหมือนตอนเปิดโครงการล้านแปด!
แต่กลับทำกำไรมากขึ้นๆ ทุกที แน่นอนว่าทุกคนไม่ใช่ iPhone หรอก แต่ทุกคนต้องเปลี่ยนมือถือในสักวัน
รุ่นที่ใช้ก่อนหน้าอาจเป็นแค่ Feature Phone ราคาถูก แต่รุ่นใหม่ๆ มันกลับได้ Android Phone ราคาถูก
มาใช้แทน เพราะกลไลของตลาด และยุคสมัยเทคโนโลยีมันเปลี่ยน (จะเรียก Smart ได้ไหม?)
มันก็เรื่องปกตินี่ครับที่ปริมาณ Market มันต้องพุ่งขึ้น แล้วไม่ต้องให้ด๊อกเตอร์ที่ไหนมาตอบ ก็บอกได้ว่า
iPhone ไม่ใช่สำหรับทุกคน ดังนั้นตัวเลขนึง (ขนาดของตลาด) พุ่งขึ้นสูง ในขณะที่ตัวเลขนึง (ยอดขายของ Apple) มีค่าที่สม่ำเสมอ มากขึ้น แต่ไม่พุ่งตามตัวเลขแรก แต่กลับทำกำไรมากขึ้น
มันไม่สามารถเอามาบ่งชี้ หรือประกอบกับข้อมูลที่คุณพร่ำบอกตลอดเวลาได้เลยว่า Apple จะเจ๊ง
ถึงถามไงครับ ว่าตกลงอะไรเป็นตัวบ่งชี้กันแน่
ปล 2. ทำไม ปล. แรก ยาวกว่าเนื้อหาที่จะตอบหว่า!?
เจ๊งนี่คือ เจ๊ง ปิดกิจการ ต้องขายแบบ nokia หรือเปล่าครับ ถ้าใช่ ไม่น่าจะไปรวมกับ ping นะครับ อันนั้นน่าจะเป็นบริการ(เสริม)มากกว่าไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นตัวหลักในการสร้างรายได้ให้บริษัท
Time ยังออกมาอวย SmartWatch เลยท่าน
ทั้งๆ ที่ Gear ออกมาขายจนลดราคาซ้ำไปซ้ำมาตั้งหลายรุ่นแล้ว ไม่ยักกะอยู่ในสายตาเค้า
คนที่คิดว่า Apple กำลังถดถอยเค้าอาจจะมองแค่ด้านนวัตกรรม ซึ่งที่ผ่านมาเราก็เห็นแล้วว่า สินค้าขายดีหลายๆ ตัว ของ Apple ไม่ใช่ของที่ทำได้เป็นเจ้าแรก ทั้ง mp3, smartphone, tablet ถ้ายังคิดหาคำตอบไม่ได้ว่าทำไมถึงขายดี คิดได้แค่ว่าเพราะมีสาวกเยอะ เพราะพลังแห่งศรัทธาหรืออะไรก็แล้วแต่ตามอคติก็ป่วยการอธิบายละครับ
5-10 ปีก่อนใครจะไปคิดหล่ะครับว่า Nokia จะขายตัวเองให้ Microsoft เรื่องของอนาคตเราก็คงไม่สามารถรู้ได้ ถ้าจะถามหาเหตุผลตอนนี้ไม่มีหรอกครับเพราะบริษัทยังกำไรอยู่ ถ้าถามถึงอนาคตก็ต้องเป็นการมโนอยู่แล้ว
แต่เท่าที่ผมดู Apple ย่ำอยู่กับที่มาสักพักแล้วนอกจากออก Iphone รุ่นใหม่ก็ยังไม่เห็นทีท่าอื่นๆ ไม่ใช่แค่ Apple แต่รวมถึงบริษัทผลิต Android อื่นๆด้วย เป็นนัยว่าตลาด Smartphone เริ่มถึงจุดอิ่มตัว ถ้าเกิดว่าเป็นแบบนี้วันใดที่ Iphone ขายไม่ออก ก็ไม่ต่างจาก Nokia เลย ซึ่งเท่าที่ผมดูก็โดน Android แย่งส่วนแบ่งตลาดเพิ่มทุกปี แต่ที่กำไรสูงขนาดนี้ก็เพราะเล่นขายราคาสะลากเลือดขนาดนั้น
เราเอาอะไรเป็นตัวชี้วัด "ความย่ำอยู่กับที่" ได้บ้างครับ! อยากทราบ (ขอเหตุผล และข้อมูลประกอบในหลายๆ แง่ด้วย)
ไม่ใช่เฉพาะ Apple นะครับ แต่รวมถึงบริษัทอื่นๆ ด้วย!
ความย่ำอยูกับที่ มองได้ 2 แบบครับ
1)ตลาดเดิมมีการเติบโตน้อยกว่าตลาดรวม และไม่สามารถทำกำไรได้
ส่วนสำคัญคือการเติบโตของตลาด แม้จะทำกำไรได้แต่ถ้าการเติบโตน้อยกว่าตลาดรวมก็ถือว่าเสี่ยง
ถ้าเติบโตลดลงแต่ตลาดรวมไม่ลงนี่คือถอยหลังลงคลองเลย ต่อให้ทำกำไรได้ดีก็เถอะ
2)ไม่มีการทำตลาดใหม่ หรือทำแล้วไม่ประสบความสำเร็จ
ถ้ามองในภาพรวมคือแอปเปิล แอปเปิลมีทั้งสองอย่างอยู่เป็นระยะดังนั้นไม่น่าถือว่าย่ำอยู่กับที่
ทีนี้ถ้ามองไอโฟน ต้องมองแยกก่อนแล้วค่อยรวมครับ
เช่นไอโฟนเป็นโทรศัพท์จับตลาดบน อัตราส่วนการเติบโตต่อตลาดทิ้งห่างคู่แข่งตลอด อันนี้ประสบความสำเร็จแน่
iOS เป็น OS สำหรับมือถือ อัตราส่วนเติบโตต่อตลาดแพ้คู่แข่งลิ่ว แถมไม่มีแนวโน้มจะตามทันเลยด้วย
กรณีนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วสมัยแมค vs วินโดว์ คือแมคขายดีกว่าคู่แข่งรายเจ้าคนละเรื่อง ฟันกำไรมหาศาล แต่วินโดว์ค่อยๆเจาะวงกว้างไปเรื่อยๆจนสุดท้ายแมคก็แพ้ไปด้วย network effect เกือบล้มละลาย
ซึ่งรอบนี้ก็ยังคงดูเป็นหนังม้วนเดียวกัน และยังมองไม่เห็นทีท่าว่าแอปเปิลจะแก้เกมนี้ยังไง ถ้ามองโดยเทียบกับอดีตก็จะเห็นว่าแผนของแอปเปิลสำหรับไอโฟนกำลัง"ย่ำอยู่กับที่"ชัดเจน(คือแผนเดิมแทบจะเป๊ะเลย สถานการณ์ก็เหมือนกันเป๊ะ)
แต่จริงๆแล้วมีสิ่งหนึ่งที่ต่างอย่างชัดเจนมาก คือแอปเปิลรอบนี้มี itune ซึ่งก็กิน network effect ของตลาด E-content เรียบวุธเช่นกัน
สรุปคือถ้ามองส่วนตลาดไอโฟน+iOS ผมถือว่าย่ำอยู่กับที่ชัดเจน เพราะซ้ำรอยอดีตเห็นๆ
แต่ถ้านับแผนโดยภาพรวม เช่น itune หรือ Apple Pay(ที่ผมว่าประสบความสำเร็จแหงๆ) แอปเปิลกำลังก้าวไปข้างหน้าอยู่ครับ
ถ้า iOS แจกฟรีให้ใครไปผลิตก็ได้ เกมส์พลิกกลับเลย
แอปเปิลชนะขาดลอย กินรวบทุกตลาด แถมตัวเองมี iTune Apple Pay เก็บเกี่ยวสบายๆ (นี่แค่เริ่มแจกแอพพวกออฟฟิศฟรี ไมโครซอฟต์ยังสัมผัสได้ถึงความหนาวเย็น)
แต่ช้าแต่... หากทำแบบนี้จะเจอข้อกล่าวหาของรัฐบาลชาติต่างๆ ทั่วโลก รุมกีดกันออกกฎหมายสารพัดมาขัดขวาง ซึ่งแอปเปิลแพ้แน่ๆ สู้ไม่ได้หรอก เก็บแอนดรอยด์ไว้เป็นคู่แข่งไปเรื่อยๆ ยังดีเสียกว่า ดันแอนดรอยด์ลงตลาดล่างไปเรื่อยๆ
ผมมองว่า
Mac นั้นเป็น Computer เครื่องหนึ่งครับ ความถี่ในการซื้อซ้ำต่อ 1 คน ต่ำมากๆ
และโอกาสในการใช้งานก็น้อยกว่าด้วย ถ้านับจาก Application (ทั้งในแง่ของตัว Software และการใช้งานเพื่อสร้างผลบางอย่าง)
แต่ iPhone นั้นเป็น โทรศัพท์ ซึ่งมีอรรถประโยชน์ต่อตัวบุคคลทั่วไป มากกว่า
และความถี่ในการซื้อซ้ำค่อนข้างสูง จึงทำให้ผมคิดไม่ออกว่า จะเอา Mac VS PC (Windows) มาเทียบกับ iPhone (iOS) VS Android ได้ยังไง เพราะบริบทมันต่างกันพอสมควรเลย
ส่วนภาวะแวดล้อม
Windows มาด้วยการใช้งานของ App ที่เหนือกว่า
และราคาที่ถูกกว่า Mac OS X มากอยู่
ที่สำคัญเจาะกลุ่มคนทั่วไปได้เร็วกว่ามาก
นับตั้งแต่ Windows 95 - 98 เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้หลายๆ คนเริ่มใช้ Internet เลย
และเกมเข้ามามีบทบาทพอสมควรตั้งแต่ช่วงนั้น ลองย้อนกลับไปดูว่า Mac มีความหมายอะไรกับคนทั่วไปบ้าง?
ก้าวเข้ามายัง Windows XP ซึ่งผมถือว่าน่าจะเป็นยุค Boom ที่สุดของ PC เลยทีเดียว
เกมทั้งหลาย เกมออนไลน์ การเข้ามาของ Browser หลากหลายสายพันธ์
และยุคของ Search Engine ที่ทำให้ทุกๆ คนก้าวเข้ามาใช้ Internet กันจนแทบเป็นปัจจัยหนึ่งของชีวิต
พอมายุค Windows 7 นี่เหมือนทุกอย่างจะดีขึ้น แต่ไม่ได้เรียกว่าแตกต่างสำหรับคนทั่วไปเท่าไหร่ (ผมไม่นับ Pro นะครับ นับเฉพาะ End User ทั่วๆ ไปจริงๆ)
Mac OS X เพิ่งจะมาเป็นที่สนใจของคนทั่วไป (ตลาดใหญ่) ก็หลังจากยุค iPhone ละมั๊งครับ (ก่อนหน้าเปิดตัว iPhone แค่ปีกว่าๆ เองนะครับ ที่มีการ Transition จาก Power เป็น Intel CPU)
ดังนั้น จะเรียกได้ไหมว่า Mac แพ้ Windows มันแน่นอนอยู่แล้วครับ! แต่เราก็ควรดูปัจจัย และที่มาที่ไปประกอบด้วย
แต่สำหรับ iOS กับ Android นี่ ปัจจัยที่ชี้วัดถ้าเป็น App นั้นผมแทบไม่เห็นเลยว่าจะเกิด Network Effect ยังไง!
ประจวบกับ คนเริ่มถือ iPhone นี่หลังจากยุคโทรศัพท์เริ่มจอสี มีกล้องแล้วนะครับ
ส่วนที่ว่า การจะทำนายว่าบริษัทจะยังไงต่อนี่ ผมก็ไม่เก่งนะครับ แต่จะบอกว่าเวลามอง
มองภาพรวมครับ มองเจาะไปที่แต่ละ Product แล้วบอกว่าจะเจ๊ง หรือไม่เจ๊ง ไม่ได้
เพราะแต่ละช่วงเวลาก็มี Key Product อยู่ ใช่ว่าทำโทรศัพท์แล้ว จะต้องทำมันจะทั้งชาติตลอดไป
แต่ความต่อเนื่อง และการก้าวผ่านระยะเปลี่ยนผ่าน ด้วย Key Product ใหม่ๆ ที่โดนใจคน
นั่นต่างหาก ที่อาจจะเป็นปัจจัยหลักว่า Apple จะเดินหน้าต่อไปยังไง
ณ จุดนี้... สินค้าประเภท Smart Phone จากที่อื่นๆ อาจจะทำสิ่งที่เรียกว่า "ดีกว่า"
แต่ผมก็ยังไม่ค่อยสัมผัสว่ามีบริษัทไหน ทำสิ่งที่ "แตกต่าง" เลย
เอ หรือผมคิดไปเองหว่า!!
บริษัทใหญ่ระดับนี้ต้องมี R&D ที่มองชะตาอนาคตบ้างแหละ แต่ปัจจุบันโทรศัพท์มันขายได้แถมยอดโตเอาๆเขาก็ต้องโฟกัสส่วนนี้ก่อนเพราะมันถึงจะเอาเงินมาต่อเงินได้
เทอโนโลยีในวงการเครื่องมือสื่อสารพกพายังไม่ได้เปลี่ยนในระดับ dramatically แบบสมัยที่ไอโฟนเปิดตัวครับ แต่ในอนาคตมันต้องมีสักวันที่ทำแบบนั้นได้อีก อาจจะเป็นยี่ห้อใดก็ได้แต่ถ้าไม่ใช่แอปเปิลไอโฟนก็จะนิยมลดลง ที่ดังมาขนาดนี้ ส่วนหนึ่งนะครับ มันเกิดจาก first impression ด้วย หมายถึง iphone classic มันออกมาแล้วตลาดรับรู้ว่าเป็นมือถือทัสกรีนที่แจ๋วสุด (like magic) และเป็นเจ้าแรกที่บุกตลาดทัสสกรีน (ทั้งๆที่ไม่ใช่แต่ทำออกมาดี) ของ ณ ตอนนั้น แล้วทุกวันนี้คำว่าไอโฟนมันยังมีความ original อยู่
ผมนึกถึงโนเกียเลย เมื่อก่อนแบรนด์เข้มแข็ง ยอดขายดีมาก แถมกินส่วนแบ่งอันดับหนึ่ง แต่ปรับตัวไม่ทัน ทิศทางก็สะเปะสะปะ จนเจ๊ง?(เรียกว่าเจ๊งได้ป่าวน้อ) ต้องขายส่วนมือถือให้ไมโครซอฟต์
Nokia ไม่ได้เจ๊งนะครับ แต่กลายมาเป็นบริษัทขนาดเล็ก เหมือนราชามือถือในอดีตอย่าง Motorola
อ้าว ส่วนแบ่งลดนิครับ ขึ้นได้งายยยย ซํ้ารอยแมคแน่ๆ
ร้อนตัวจริงคนนี้
ผมว่า apple กำลังเจ้งครับ ลอกหน้าจอใหญ่บางค่าย ปร้าดดดดๆๆๆๆๆ
คนพูดตอนนั้น คือคนเงียบในตอนนี้
ยินดีด้วยที่หุ้นได้พุ่งถึงขนาดนี้ ผมไม่รู้ว่าคนที่เคยบอกว่าแอปเปิลจะเจ๊ง จะล่มสลายอะไรนั่นจะคิดอย่างไรกับข่าวนี้ครับ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
เคยอ่านข่าว เซียนหุ้น ฝรั่ง คนหนึ่ง เทขายหุ้น หมด เขาบอกว่า Apple จะเข้าสู่ช่วงถดถอย
ขึ้นอยู่กับว่าเล่นแบบใหนครับ
เค้ามองคล้ายๆผมว่า iphone จะกลายเป็นสินค้าที่มีตลาดแคบลง เนื่องจาก market share ที่ลดลงเรื่อยๆ เมื่อตลาดหยุดขยายตัว ยอดขาย iphone ก็น่าจะลดลง apple เองก็ไม่ค่อยปันผล จึงไม่เหมาะที่จะถือหุ้นระยะยาว
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
แล้วมันจริงหรือมโนครับ?
กำหนดระยะเวลาหน่อยสิครับแหม่ พูดแบบนี้มันก็ไม่ต่างอะไรกับการบอกว่า ซักวันแอปเปิ้ลจะเจ๊ง เลยนะ
เหมือนจะมีสัมภาษณ์อันนึงที่ CEO Tim Cook เองบอกว่า iPhone จะเป็น cash cow ต่อไปประมาณอีกห้าปี
จำไม่ได้ละว่าอันไหน แต่รู้สึกจะเร็ว ๆ นี้
เจ็งยากครับ เพราะเอากำไรต่อหน่วยเยอะ แต่มีส่วนแบ่งการตลาดน้อยจนไม่มีความสำคัญ เป็นอีกหัวข้อ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ส่วนแบ่งการตลาดน้อยแต่ส่วนที่น้อยนี่เป็นกำไรของส่วนโทรศัพท์มือถือแทบจะทั้งหมดของทุกผู้ผลิต และส่วนแบ่งที่น้อยแต่กำลังซื้อสูงมีตังซื้อแอพกับส่วนแบ่งเยอะแต่เครื่องราคา1990ที่โหลดแต่แอพฟรี ผมเป็นนักพัฒนาผมก็ให้ความสำคัญนะครับ
//((กระทู้ขอ))รบกวนขอ apk โปรแกรม xxxx ด้วยครับขอบคุณมากครับ
หืม... แอปเปิลไม่ค่อยปันผล หมายถึงปันผลหรือไม่ปันผลครับ
55555 ออกแนวคล้ายๆ เหมือนคนไม่ค่อยท้อง แบบนี้รึเปล่า!?
ท้องนิดหน่อย
คือ ผมไม่รู้ว่าจะเอายังไงนะครับตอบแบบไม่ฟันธง หางทางลงได้ ประเด็นคือ apple ทุกวันนี้จ่ายปันผลนะครับ แถมซื้อหุ้นคืนด้วย ถ้าคนลงทุนแนว vi จะรู้ว่าเยอะมาก
พันล้านดอลลาร์...ประมาณ3หมื่นล้านบาท... 1182หมื่นล้านบาท 118แสนล้านบาท ประมาณ 12 ล้านล้านบาท
.__. รวยจัง ปล่อยกู้รัฐบาลไทยหน่อยสิ
เจ้งแน่นอน หุ้นขึ้นขนาดนี้
เพราะข่าวแอปเปิ้ลวอชหรือเปล่า ? ที่ยังไม่ทันออก ไทม์ก็อวยให้ซะขนาดนั้น
หรือเพราะหวังผลแบบนี้กันนะ ?
ผมแฟน Android แต่อยากให้ apple ขายดีนะ Android ทั้งหลายจะได้กลับมาพัฒนาของตัวเองเพิ่มขึ้น..
เห็นว่าย่ำอยู่กับที่ ไม่มีเทคฯใหม่ แรมน้อย สเป็คชีตแพ้ชาวบ้านแค่ลอกจอใหญ่ ล่มสลายแน่นอน โดยเฉพาะในพันดริฟต์
หุๆ แล้วต่อไปถ้าขายได้น้อยแบบแม็คก็ยินดี รู้สึกยูนี้คดี(อันหลังนี้ คหสต. )
อ่านทวน ยู-นี้-คะ-ดี อยู่สามรอบ (- -')
โดนชี้นำ ผมเลยอ่านทวนสามรอบเหมือนกันแล้วพบว่า... มันอ่านว่า ยู-นี้ค นี่ฝ่า
ขาลงชัดๆ 555
มองหุ้น samsung ทำไม ...หุ้นตกเอาๆ
จุ๊ๆ
ขายแพงซะขนาดนั้น แต่คนก็ยังต่อคิวซื้อ จะเจ๊งตรงไหน
ฟินกันใหญ่
เดี๋ยวก็มีคนมาเม้นแนวที่ว่า
คงเป็นการหายใจเฮื้อกสุดท้าย ก่อนจะสิ้นลมไรงี้อีก
แน่นอนว่า ตอนนี้คนพวกนี้ ตอนนี้เงียบกริบ
5555
ยอดขายเป็นขาขึ้นครับ เพิ่มขึ้นตลอด คนที่ใช้งานมั่นใจในคุณภาพของแอพสโตร์กับความปลอดภัยมากกว่าเจ้าอื่น(แม้จะไม่เต็ม 100%) หุ้นขึ้นไม่น่าแปลกใจเท่าไร
ส่วนที่เป็นขาลงคือส่วนแบ่งของตลาดมากกว่า เพราะคู่แข่งแย่งตลาดเกิดใหม่ทั่วโลกไปเกือบหมด ด้วยมือถือราคาถูกไม่เกิน 6,000 บาท
ทั้งหมดคือหุ่นเขียวครับ ถ้าจำนวนผู้ใช้ไม่ลดลงแล้วเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างเดียว ยังไงก็รอด เหมือนว่า iOS โต แต่โตช้ากว่า หุ่นเขียวรวมกัน แหง่หล่ะ มีกี่เจ้าที่เอาหุ่นเขียวไปใช้
แต่ผูกกับโทรศัพท์อย่างเดียวกลัว ว่า Apple จะไม่รอดเหมือนกัน
ส่วนเรื่องหุ้น ถ้าขึ้นแบบนี้ก็อันตรายแล้วครับ สองถึงสามเดือนเดี๋ยวก็ลง มันเป็นปกติของหุ้น
หุ้นปั่นสินะ...