แค่วันเดียวหลังจาก GrabTaxi ระดมทุนครั้งใหญ่ Uber ก็ประกาศยืนยันว่าบริษัทได้ระดมทุนเพิ่มอีก 1,200 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนหลายราย ทำให้ตอนนี้บริษัทมีมูลค่าสูงถึง 40,000 ล้านดอลลาร์แล้ว เพิ่มเป็นสองเท่าจากเมื่อกลางปี (ใหญ่กว่า Twitter 1.5 เท่า หรือใหญ่พอกับสายการบิน Delta Air Lines)
เงินทุนรอบนี้ Uber เล็งจะเอาไปใช้ในตลาดเอเชีย-แปซิฟิกที่จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากในการลุยขยายกิจการอย่างรวดเร็ว และครองส่วนแบ่งตลาดจากคู่แข่งรายอื่นๆ
เมื่อเดือนมิถุนายน Uber เพิ่งได้เงินจากนักลงทุนมา 1,200 ล้านดอลลาร์เช่นกัน รวมเป็น 2,700 ล้านดอลลาร์ตั้งแต่เปิดบริษัทเมื่อปี 2009
ที่มา - TechCrunch, Bloomberg
Comments
จ้างทนายดีๆ มาดีลกับตำรวจและรัฐบาลไทยหน่อยเถอะ อยากใช้บริการมานานแล้ว
ทำไมต้องทนายในเมื่อตอนนี้ถือว่า uber ทำผิดกฏหมายอยู่ ผิดก็คือผิด ถ้าอยากเข้ามาควรหาวิธีการที่ถูกต้อง ไม่งั้นใครจะทำอะไรก็ได้กลายเป็นช่องโหว่ให้คอรัปชั่นอีก
คิดว่าพนักงาน Uber จะรู้เรื่องกฎหมายไทยมากกว่าทนายหรอ?
และถ้ายอมทำตามที่กรมขนส่งและตำรวจบอก คิดว่าจะไม่ถูกหลอกเลยหรอ?
ยังไงก็ต้องใช้ทนายอยู่แล้วครับ ยิ่งเก่งยิ่งดี แต่ขอให้มีคุณธรรมด้วย
ทนายธาตรี? :P
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
เอามาจ่ายค่าปรับในไทย
@TonsTweetings
ถูกครับ อยู่เมืองไทยไอเดียไม่เท่ากับการรู้ว่าใครคุมอะไร หยิ่งไปอยู่ไม่ได้หรอก เซ่นส่วยมีเท่าไรบรรนาการณ์ไปเด๋วผ่านได้เอง
ระหว่างที่รอโครงการรถไฟฟ้า มี uber แก้ขัดไปก่อนก็ดีนะครับ แต่ทำให้มันถูกต้องนะ แบบเถื่อนไม่เอา
ราคามันต่างกันลิบนะครับ
ผมคนนึงล่ะที่ทำใจใช้บริการไม่ได้
เคยใช้รอบเดียวที่มันมีโปรโมชั่นเครดิตฟรี 300 บาท
ผมไม่คิดว่าการไปทางไหนแบบสุดโต่ง แบบกำจัดไปเลยจะเป็นผลดีนะครับ :p ถ้าทางเลือกมีมากๆ เดี๋ยวการอยู่รอดก็จะบ่งชี้เองแหละครับ
แน่นอนครับว่าผมอยากได้รถไฟฟ้าและทางจักรยานมาก (มากระดับที่ขนาดมีแค่ทุกวันนี้ผมก็แทบจะใช้แต่รถไฟฟ้ากับจักรยานแล้ว แต่สะดวกได้มากกว่านี้ก็ดี) แต่บางกรณีผมก็ขับรถยนต์ บางกรณีก็ต้องใช้แท็กซี่ และบางกรณี Uber ก็เป็นทางเลือกที่จำเป็นต้องเลือกครับ หลักๆ เลยคือผมเอาของใส่กระโปรงท้ายรถได้ ขณะที่แท็กซี่จะมีถังแก๊สอยู่ในกระโปรงท้ายจนผมยัดของไม่พอ
*Uber ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าต้อง Uber เท่านั้นนะครับ หมายถึงบริการไหนก็ได้ที่ตอบสนองได้เหมือนๆ กัน
ถ้ารถไฟฟ้ามันเข้าไปถึงทุกที่ได้ง่ายๆ ผมก็เห็นด้วยครับ แต่จะให้ได้ขนาดนั้นคงต้องรอไปอีกนาน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะสามารถเป็นจริงได้หรือเปล่า การมีทางเลือกอื่นให้เลือกตามความต้องการและความจำเป็นผมว่ามันน่าจะดีกว่านะ
ใหญ่เท่าสายการบินเดลต้าเลยรึ เดลต้านี่อย่างน้อย4หมึ่นล้านเขายังมี Asset ที่เป็นเครื่องบินเป็นนั่นนี่อื่นๆที่มูลค่าสูงอีกเยอะแยะ มีพนักงานหลายหมึ่นคนทั่วโลก ถ้าจะล้มละลายยังพอเอาเครื่องบินที่ลำละหลายพันล้านบาท(บางลำหลักหมึ่นล้าน)มาขายได้ แต่Uberนี่ดูยังไม่ยิ่งใหญ่เท่าเดลต้าเลย ล้มทีนี่จะเอาเงินจากไหนมาจ่ายเจ้าหนี้น้อ