ความคืบหน้าล่าสุดของเหตุคนขับ Uber ข่มขืนผู้โดยสารในอินเดีย ซึ่งทางการอินเดียเตรียมดำเนินคดีกับทาง Uber ด้วย โดย Travis Kalanick ซีอีโอ Uber ได้เปิดเผยผ่านบล็อกของบริษัทต่อเหตุการณ์ดังกล่าวว่า Uber จะให้ความร่วมมือกับทางการเพื่อดำเนินคดีกับคนขับคนนี้จนถึงที่สุด รวมทั้งจะทำงานร่วมกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากระบบตรวจสอบประวัติอาชญากรรมผู้ขับขี่ปัจจุบันของอินเดียนั้น ไม่สามารถสืบค้นข้อมูลได้มากพอ
ด้านกรมการขนส่งอินเดียเปิดเผยว่าได้สั่งระงับการบริการของ Uber ในนิวเดลีทั้งหมด รวมทั้งอาจกล่าวโทษ Uber ฐานโฆษณาคุณภาพของการให้บริการที่เกินไปจากความจริง ขณะที่ตำรวจเปิดเผยว่าคนขับรถที่ก่อเหตุนั้นเคยถูกจำคุกมาแล้วเป็นเวลาสองปีในคดีข่มขืน
ที่มา: Hindustan Times และ Uber
Comments
Uber จะบอกว่าระบบตรวจสิบประวัติคนขับขิงตัวเองดีอย่างไรก็ว่าไป โดยยังไม่จำเป็นต้องเอาข้อมูลคนขับหรือผู้เสียหายมาเผยแพร่ด้วยเพราะคดียังไม่ถึงที่สุด
แต่ติดใจตรงที่ไปวิจารณ์ระบบการเก็บประวัติของหน่วยงานรัฐอินเดีย คือรู้ได้อย่างไรว่าขงเค้า "ไม่ดีพอ" หรือแอบไปส่องข้อมูลส่องระบบของเค้ามาแล้วจนพรุนถึงได้กล้าพูดเช่นนั้น?
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
เขาบอกว่าสืบค้นได้ไม่มากพอนิครับ น่าจะประมาณสืบไปก็ไม่ได้อะไรเท่าไร
The Dream hacker..
ก็นั่นล่ะครับ รัฐอาจไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเรื่องประวัติของผู้ที่จะสมัครเป็นคนขับ Uber เพราะอาจเป็นเรื่อง privacy ของตัวผู้สมัครขับรถเอง แต่ Uber จจะเอาเรื่องนั้นมาเป็นการอ้างอิงวิพากษณ์ว่าทางการมีระบบสืบค้นที่เป็นการดิสเครดิตทางการอินเดียที่ไม่ make sense นะผมว่า
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
ถ้าผมต้องจ้างบริกรมาทำงานที่ร้าน แต่ไม่มีฐานข้อมูลกลางให้ผมรู้ว่าคนที่ผมจ้าง เป็นคนร้ายฉกาจสามารถฆ่าหมีด้วยจานเปล่าได้
มองจากคนนอกเข้าไป ผมคิดว่าควรปรับปรุงทั้งคู่ ทั้งเจ้าของที่เช็คไม่ดี กับทางการที่มีข้อมูลแต่คนทั่วไปเข้าไม่ถึงอ่ะครับ
แต่ดูแล้วทาง uber เองก็อาจจะไม่ได้ทำตัวให้เหมาะสมสำหรับการขอข้อมูลเท่าไหร่
ประวัติอาชญากรรมไม่ใช่ของที่คนทั่วไปควรเข้าถึงครับ
ถ้าคุณอยากได้ต้องติดต่อขอข้อมูลจากตำรวจเอง (ได้เฉพาะของตัวเองด้วย)
ข่าวต้นทางบอกว่าไม่มีระบบตรวจสอบประวัติคับ "...currently absent in their commercial transportation licensing programs."
แต่ของไทยมีนะคับ
อีกอย่าง กรณีนี้ปรากฏว่าไม่มี GPS ในรถ ดังนั้นไม่น่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ในบ้านเรา
ผมก็หมายถึงข้อความส่วนนี้ล่ะครับ ว่าเป็นข้อความจาก blog ของ Uber เองที่ระบุว่าไม่มีข้อมูลประวัติย้อนหลัง ซึ่งทาง Uber รู้ได้อย่างไรว่า absent จริงๆ ?
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
คือมุมหนึ่ง เอกชนอาจจะเข้าถึงประวัติผู้กระทำความผิดของหน่วยงานของรัฐไม่ได้ (กรมราชทัณฑ์,สถานพินิจฯ,ปปส.)ไม่ได้มั้งครับ คือตรงๆ ถ้าเค้าพ้นโทษมาแล้วมาสอบใบขับขี่รถสาธารณะได้มา Uber จะเอาข้อมูลนาย ก ไปสอบได้รึเปล่าครับ?
ปล. แล้วถ้าภาพนี้ในบ้านเรา นาย ก จะสอบใบขับขี่รถสาธารณะได้หรือเปล่า?
ข้อมูลจากกรมการขนส่งทางบกนะครับ การขอรับใบขับขี่รถสาธารณะ(รถแท็กซี่) รถยนต์สามล้อสาธารณะ และรถจักรยานยนต์สาธารณะ (ขอใหม่)
คุณสมบัติของผู้ขอรับใบขับขี่รถสาธารณะ
8) ไม่เคยเป็นผู้ได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกในความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ หรือความผิดเกี่ยวกับความสงบสุขของประชาชน ความผิดเกี่ยวกับการก่อให้เกิดภยันตรายต่อประชาชน ความผิดเกี่ยวกับเงินตรา ความผิดเกี่ยวกับเพศ ความผิดต่อชีวิต ความผิดต่อร่างกาย ความผิดต่อเสรีภาพ ความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ความผิดฐานรับของโจร และความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตามประมวงกฎหมายอาญา หรือความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ หรือโดยคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ หรือพ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี ในกรณีที่เป็นผู้ขาดคุณสมบัติตามข้อ 8) ต้องพ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า
(ก) หกเดือนสำหรับโทษจำคุกตามคำพิพากษาไม่เกินสามเดือน
(ข) หนึ่งปีสำหรับโทษจำคุกตามคำพิพากษาไม่เกินสามเดือนในคดีเกี่ยวด้วยการใช้รถกระทำความผิด หรือ
(ค) หนึ่งปีหกเดือนสำหรับโทษจำคุกตามคำพิพากษาเกินสามเดือนแต่ไม่เกินสามปี และได้ยื่นคำร้องต่อนายทะเบียนโดยชี้แจงถึงเหตุผลที่ตนต้องโทษพร้อมกับแสดงหลักฐานว่าคนเป็นบุคคลที่มีความประพฤติเรียบร้อยควรไว้วางใจให้ขับรถยนต์สาธารณะหรือรถจักรยานยนต์สาธารณะได้ แล้วแต่กรณี ให้นายทะเบียนดำเนินการสอบสวนคำร้องดังกล่าว ถ้าเห็นด้วยกับคำร้องก็ให้มีอำนาจออกใบอนุญาตขับรถให้ได้โดยมิให้นำ 8) มาใช้บังคับ แต่ถ้าไม่เห็นด้วยให้สั่งยกคำร้องและแจ้งให้ผู้ขอทราบ
อินเดียไม่ได้ใช้กฏหมายไทย ในการสอบใบขับขี่สาธารณะ ครับ
โทษรัฐ ได้อีก ถ้าเป็นบ้านเรา ทำใบขับขี่สาธารณะ ก็ต้องตรวจประวัติอาชญากรรมก่อนอยู่แล้วล่ะครับ
Uber ไทยต้องตรวจ "ตรวจประวัติอาชญากรรม" นะครับ
http://pantip.com/topic/32884301
แบนแอปทุกอย่างก็จบ คิดได้นะ เอาเป็นตัวประกันซะเลย ขนาดขนส่งเมืองไทยยังไม่กล้าทำเลย
พักนี้รู้สึกว่า UBER เริ่มงี่เง่ามากขึ้นเรื่อยๆ แฮะ
มีปัญหากับประเทศอื่นอยู่เรื่อย ไม่เคยทำตามระเบียบ หรือพูดคุยกับรัฐบาล/หน่วยงานต่างๆ เพื่อหาข้อตกลง
แถมคุณภาพการบริการก็ดูเหมือนว่ากำลังแย่ลงไปอีก
Get ready to work from now on.
เอิ่ม ไหงแก้ปัญหางี้ฟระ Uber ทำให้ดีหน่อยได้คะแนนเสียงเต็ม ๆ แท้ ๆ = ="
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
Uber ก็แนวนี้มาแต่ไหนแต่ไรละ..
May the Force Close be with you. || @nuttyi
กติกามันห่วย ข้าไม่เคยผิด
uber เปลี่ยนไปเป็นหน่วยงานผลักดันการแก้กฏหมายเถอะ
เท่าที่สืบค้น ปัญหาจะเกิดจากบริการราคาถูก UberX แทบทั้งหมด และจากที่ทำงานเกี่ยวกับรถบริการทำให้เห็นจุดอ่อนว่า
"คนขับ UberX แทบทั้งหมด ไม่เคยผ่านการขับรถเชิงบริการมาก่อน จึงขาดประสบการณ์ของมืออาชีพในการรับมือกับความกดดันด้านต่างๆ ยังไม่นับจุดอ่อนเรื่องชั่วโมงบินของคนขับ หรือความปลอดภัยด้านตัวรถ และ บลาๆๆ"
ปล1: การสอบประวัติอาชญากรช่วยได้เบื้องต้น... แต่ไม่ได้การันตีว่าอนาคตคนๆนั้นจะไม่ก่ออาชญกรรม อย่างผมถ้าจะรับคนขับ ประสบการณ์การทำงานกับอายุสำคัญที่สุด เช่น ถ้าเคยขับกับบริษัทอื่นมานาน อายุ และการสุดท้ายการสัมภาษณ์พูดคุย ส่วนประวัติอาชญากรดูประกอบ
ปล2: ผมไม่สนับสนุน UberX ด้วยประการทั้งปวง ทั้งเรื่องความชำนาญเส้นทาง ชั่วโมงบินของคนขับ แม้กระทั่งตัวรถ แต่สนับสนุน UberBlack หรือถ้าจะมีตามๆมาอย่าง UberSUV อันนี้ผมก็สนับสนุน
ผมไม่เห็นด้วยกับ ปล.1 นะครับ
งานแนวนี้ประวัติสำคัญมาก ยกตัวอย่างง่าย ๆ โรงเรียนจะรับครูเข้าทำงาน ถึงครูคนนั้นจะเคยสอนมายี่สิบปี นิสัยดี แต่เคยติดคุกเพราะโทษข่มขืนมาก่อน ถ้าเป็นคุณจะรับเข้ามาโดยดูแค่ประสบการณ์กับอายุอย่างนั้นหรือครับ
พ้นโทษออกมา อาจสำนึกผิดแล้วก็ได้นะครับ
มันเกี่ยวกับความเชื่อถือครับ อาจกลับใจก็จริง แต่กรณีตัวอย่างที่ยกมา ผู้รับบริการไม่ยินดีหรอก ใครจะอยากให้ลูกเรียนกับคนที่มีประวัติเช่นนั้น กรณีของ Taxi ก็เหมือนกัน คนขับเคยมีประวัติข่มขืน ผู้หญิงที่ไหนจะยินดีขึ้น
ผมอาจจะเขียนไม่ชัดเจนทำให้เข้าใจผิด
-ประวัติอาชญากรสำคัญครับ ถ้าเคยมีประวัติอันนี้ไม่รับอยู่แล้ว
-แต่ที่เขียนนั้น ผมกล่าวในกรณีที่ไม่เคยมีประวัติอาชญากร(ไม่เคยทำผิด)ว่า เราจะให้ความสำคัญตรงนี้เป็นข้อรอง แต่จะให้ความสำคัญกับประสบการณ์ กับการสัมภาษณ์พูดคุย และสังเกตุพฤติกรรมโดยทั่วไปเป็นสำคัญครับ
-อาชญากรรมต่อทรัพย์ มักจะเกิดเพราะผู้กระทำผิดมีปัญหาทางด้านการเงินรุนแรง เล่นพนัน เสพยา ฯลฯ...ความเสี่ยงนี้ต้องดูต่อเนื่อง
-อาชญากรรมต่อร่างกาย/ทางเพศ เกิดขึ้นจากการควบคุมอารมณ์และการจัดการด้านอารมณ์... ข้อนี้ ประสบการณ์+อายุ จะลดทอนความเสี่ยงตรงนี้ได้มาก
ที่อธิบายยาวเพื่อจะให้เห็นว่า ทำไมถึงให้ความสำคัญกับประสบการณ์ครับ เพราะมันทำให้ความเสี่ยงลดลงอย่างชัดเจน มากกว่าประวัติอาชญากรรมเพียงอย่างเดียว
ผมไม่เห็นว่าประสบการณ์กับความปลอดภัยด้านตัวรถมันเกี่ยวกับการก่ออาชญากรรมตรงไหน
1)ประสบการณ์ในงานด้านบริการสำคัญครับ เพราะงานบริการต้องเจอลูกค้าหลากหลาย ดีบ้างไม่ดีบ้าง ถ้ามีประสบการณ์ในอีกทางหนึ่งก็คือเคยผ่านแรงกดดัน และมีวิธีในการจัดการกับมันได้...
ลองถามตัวเองดูครับว่า ถ้าต้องเลือกคนขับรถส่วนตัวที่มีอายุ 25(ไม่มีประสบการณ์) 30(ประสบการณ์ 5 ปี) กับอายุ 50(ประสบการณ์ 25 ปี) คุณจะเลือกคนไหน(ไม่ต้องเอาตัวแปรอื่นมาประกอบนะครับ) ???
แน่นอนว่าประสบการณ์กับอาชญากรรมมันไม่เชื่อมโยงกันโดยตรง แต่มันเป็นตัวอ้างอิงที่ดีมีประสิทธิภาพมากกว่าสิ่งอื่น(และก็เป็นเพียง 1 ข้อในการพิจารณา)
2)ตัวรถไม่เกี่ยวกับอาชญากรรมเลยครับ
ถ้าจะปัดจริง ๆ ถ้าในไทยมีเหตุการผู้โดยสารโดนปล้นหรือข่มขืนเกิดขึ้น Uber ดูท่าก็อ้างระบบราชการอยู่ดีแหละครับ
ไม่งั้นก็บอกปิดระบบอยู่ไม่รับผิดชอบได้
แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงหากคนแชร์รถขับกับเพื่อน (เคยอ่านว่าส่วนมากแท๊กซี่ทำกันเพราะผลัดขับทั้งวันทั้งคืน)
ระบบจะรู้ได้อย่างไรเพราะคนนั่งเองก็คงไม่ได้เทียบหน้าคนขับกับรูปทุกครั้ง
มันจะอ้างระบบราชการยังไงคับในไทยขอประวัติได้อยู่แล้ว
อ้างปิดระบบก็ไม่ได้อยู่แล้วถ้ามีคนอื่นใช้บริการอยู่ก็มีพยาน เป็นความคิดที่อคติมากๆ
หน้าคนขับกับรูปนี่ แท็กซี่ปกติมันก็ไม่ค่อยตรงอยู่แล้ว
เพราะมีตัวอย่างเหตุการณ์แบบนี้มาแล้วครับ
อย่างในนี้ในอินเดีย Uber บอกว่าเป็นปัญหาที่ระบบราชการ
ในอเมริกาก็มีเคสที่คนขับทำร้ายผู้โดยสารพอถูกจับแล้วเพิ่งรู้ว่าเป็นอดีตคนขายยาก็มี
ส่วนเรื่องที่บอกว่าปิดระบบนั้นมีเหตุการณ์ที่ Uber ตอบมาอย่างน่าเกลียดมาก เช่น
รถของ Uber ชนเด็กตาย
โดยตอบปัดว่า
We can confirm that the driver in question was a partner of Uber and that we have deactivated his Uber account. THE DRIVER WAS NOT PROVIDING SERVICES ON THE UBER SYSTEM DURING THE TIME OF THE ACCIDENT. We again extend our deepest condolences to the family and victims of this tragic accident.
นอกจากนั้นในอเมริกามีเคสที่คนขับทำร้ายผู้โดยสารเมื่อผู้โดยสารถามว่าทำไมชื่อในทะเบียนที่ติดรถกับในแอพเป็นคนละคนกันแล้วพยายามจะถาม
แล้วUberมายอมรับทีหลังว่าทะเบียนติดในรถน่ะถูกแล้ว แต่คนขับเป็นคนจากsubcontractอีกทีหนึ่ง
หลังเกิดเหตุ uber คืนเงิน 14 เหรียญ .... จบ
แต่ถ้าเป็นแบบนั้นการสกรีนประวัติจะแก้ปัญหาอะไรได้ถ้าใครมาขับก็ได้?
เรื่องปัญหาการปัดความรับผิดชอบของเจ้านี้ ลอง ๆ หาดูได้ในเน็ตครับ ข่าวฝรั่งเยอะมาก