จากนโยบายเปลี่ยนชื่อกระทรวงไอซีทีเป็น "กระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม" ความคืบหน้าล่าสุดคือ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และผู้ผลักดันนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล ระบุว่าจะลัดคิวเสนอร่างกฎหมายเกี่ยวกับนโยบายนี้ 2 ฉบับให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาในสัปดาห์หน้า ร่างกฎหมายที่ว่าได้แก่
ร่าง พ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม เพื่อเปลี่ยนกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ให้เป็นกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
จากนั้นอีก 3 สัปดาห์ จะเสนอกฎหมายอีก 6 ฉบับ คือ
พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
ส่วนสถานะของ กสทช. จะยังเป็นองค์กรอิสระเหมือนเดิม ไม่ถูกยุบหรือรวมมาอยู่ใต้กระทรวงใหม่ นอกจากนี้ยังมีข่าวว่าคณะอนุกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เตรียมปรับโครงสร้างของ กสทช. ที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ไม่ให้แยกเป็นบอร์ด 2 ชุด (โทรคมนาคม-กระจายเสียง) ซึ่งมีปัญหาต่อการทำงาน โดยจะให้รวมเป็นบอร์ดชุดเดียวไปเลย
ที่มา - ประชาชาติธุรกิจ, กรุงเทพธุรกิจ
Comments
แล้วกรรมการ กสทช. สายโทรคมนาคมเวลาจะมาตัดสินเรื่องกระจายเสียง จะรู้เรื่องเหรอครับ มีแต่นักวิชาการสายวิศวกรรมการสื่อสารทั้งนั้น เช่นเดียวกัน สายกระจายเสียงจะไปตัดสินสายโทรคมนาคม หนักแน่ๆ มันต้องความรู้เฉพาะด้าน เขาถึงแยกกันไว้แบบนี้ เพียงแต่งานที่ทำมันเกี่ยวพันกัน เขาเลยใส่ไว้ทีเดียวกัน คนคิดจะให้รวมต้องชี้แจงชัดๆ ว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นคืออะไรอย่างไร ถ้าให้บอร์ด 5 คนตัดสินเรื่องต่างๆ ถ้าบอกว่าเสียงไม่พอ ก็เพิ่มจำนวน กสท หรือ กทค ก็ได้นี่ครับ เป็น 7 หรือ 9 คนก็ได้ว่ากันไป
+1
บางครั้งบอร์ดก็ไม่ต้องเชี่ยวชาญเรื่องนั้นๆ ทุกๆคนก็ได้ เพื่อให้เกิดมุมมองที่หลากหลาย ถ้ามีแต่ความรู้เฉพาะด้านไปหมดก็จะคิดแบบตีกรอบหมด เพียงแต่ถ้าตัวเองไม่เชี่ยวชาญก็สามารถขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญได้ (ทำการบ้านไปก่อนได้) และบางเรื่องก็ต้องรับฟังบอร์ดที่เชี่ยวชาญเรื่องนั้นๆ มากหน่อย ผมว่าสายโทรคมนาคมกับการกระจายเสียงใกล้เคียงกันมากแล้วครับ บางที่บอร์ดเค้าจะไปเอาคนจากอุตสาหกรรมอื่นมาเลยครับ เพื่อให้เกิดความเห็นที่่แตกต่างมากๆ
ให้ไว้เป็นข้อมูลนะครับ ใน พ.ร.บ. กสทช. ฉบับปัจจุบัน มีกระบวนการคัดเลือกกรรมการตามนี้
ตำแหน่งที่ fixed กับบอร์ด 2 ฝั่งจริงๆ มีแค่ตำแหน่งข้อ (4) ด้านผู้บริโภคหรือสิทธิเสรีภาพเท่านั้น ส่วนตำแหน่งที่เหลือให้เข้าไปเป็น กสทช. ก่อน แล้วค่อยแยกว่าจะนั่งบอร์ดไหนอีกทีครับ
ถ้าใช้คำว่า "พ.ร.บ.ว่าด้วยการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์สเปซ" คงจะฟังดูเหมือนนิยายไซไฟดีครับ
พรบ คอมเอิ่ม... จะกลายเป็นกฏอัยคอมศึกไหมน้า
กระทรวงเชิงตัวเลขสินะ
ต้องเป็นกระทรวงดวงตาแห่งเซารอน ภาค2 แน่ๆเบย
น่ากลัวก็สองอันนี้
กฎหมายที่มีอยู่ตอนนี้ไม่เห็นจะมีใครบังคับใช้กันเลย เขียนมาก็เป็นแค่กระดาษ น่ากลัวตรงไหน
พรบ.คอมนี่ยังไม่ใช้อีกเหรอครับ ผมว่า มันใช้มากเกินไปด้วยซ้ำ
เรอะ....
ผมเห็นข่าวอะไรก็มี พ.ร.บ.คอม 555
ถ้าใช้จริงไม่ลดหย่อน ก็โดนกันครึ่งประเทศละฮะ ผมว่า
สมมุติ 1 ปีไม่เคยใช้ เราก็คิดว่าไม่น่ากลัว
พอปีต่อมา เอ้า หยิบมาใช้กันเป็นว่าเล่น แล้วเราจะอ้างได้มั้ยว่า อ้าวทำไมปีแรกไม่ใช้หละ งั้นปีที่สองก็ไม่ต้องใช้สิ
ศาลก็จะตอบกลับมาว่า ไหนๆ ปีแรกคดีไหนที่ไม่ได้ใช้บ้าง ว่ามาให้หมด
มันยังไม่หมดอายุความจับให้หมดเลยในทีเดียว
สรุปว่า
กฏหมายที่ไม่ค่อยได้ใช้ ก็ไม่ได้แปลว่ามันไม่มีอำนาจบังคับนะครับ
ตรรกะนี้น่ากลัวมากครับ กฏหมายคือกฏหมาย ถึงละเมิดกันจนเคยชินแล้วก็เถอะแต่ถ้าวันดีคืนดีผู้มีอำนาจในสมัยนั้นๆเกิดสั่งให้บังคับใช้จริงจังขึ้นมาเดือดร้อนกันเป็นแถบๆนะครับ
เหมือนกฏอัยการศึก เวลาบ้านเมืองปกติคนก็ไม่ค่อยได้สนใจอะไร พอบังคับใช้เท่านั้นแหละ ปัญหาตามเพียบเลยครับ!
พรบ.คอมตัวใหม่ๆนี่ตัวแรงเลยนะครับ ขนาดผมที่ผ่านๆมานี่ไม่ค่อยสนใจกับเรื่องพวกนี้มากนัก ลองอ่านข่าวเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ในช่วงหลังๆดูไม่กี่ข่าว ยังต้องรีบไปควานหากันเลยว่ามีการลงชื่อต่อต้านกันที่ไหนบ้าง
ต้องจับสลากออกไหม
ยังข้องใจไม่หายเลยครับ ว่า "ดิจิทัล" หรือ "ดิจิตอล" หรือใช้ได้เหมือนกัน
ดูจากแนวโน้มแล้ว น่าจะเดินตามจีนนะครับ
ซึ่งผมว่าเราต้องเตรียมรับสภาพ
ถ้าป็นแบบนั้นก็เตรียมรับสภาพเศรษฐกิจล่มสลาย และสภาวะประเทศถอยหลังเข้าคลองได้เลยครับ
แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่ไม่ชอบกฎหมายพวกนี้อยู่แล้ว หยุมหยิม จุกจิก ไม่ชัดเจน ฯลฯ
Get ready to work from now on.
ผมว่ารอดูก่อนดีกว่าไหม โดยส่วนตัวหม่อมอุ๋ย เป็นคนที่เก่งด้านนโยบายไอทีระดับมหภาค ระดับต้นๆ ของเมืองไทยนะ สมัยทำงานแบงค์ชาติเนี่ย เปลี่ยนให้ระบบงานของแบงค์ชาติมาเป็นดิจิทัลเกือบหมด และทำให้ข้อมูลของแบงค์ต่างๆ เชื่อมโยงกันได้โดยร่วมมือกัน ระหว่างแบงค์ชาติกับธนาคารพาณิชย์จนเป็นพื้นฐานของความสะดวกสบายที่เราได้รับในทุกวันนี้ ผมเชื่อว่าคนวางนโยบายระดับนี้ได้ คงไม่ได้คิดแค่มุมเดียวหรอก
หม่อมอุ๋ยร้อยจุด จำกันไม่ได้เหรอครับ? ตอนนั้นเรียกได้ว่าเปิดตำราทำเลย ไอ้มาตรการกันเงินสำรองนั่นน่ะ
ดูตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆที่เขาไม่ค่อยออกข่าวกันสิครับ ตอนนี้มันใกล้จะแตกกันแล้ว เศรษฐกิจตกต่ำ จัดเก็บภาษีได้ต่ำกว่าเป้าสองแสนล้าน แต่ดันจะขึ้นภาษี แถมเข้มงวดกีดกันต่างชาติ?!?!?!
ไม่จะขึ้นครับ จัดการขึ้นแล้ว 9% เมื่อวานก่อนโดนไปเรียบร้อย
ผลงานของเฮียไม่ได้สวยเลยนะครับ -_-"
ความมั่นใจของคุณพกมาจากไหนกันรึครับ?
อะแฮ่ม จงอ่านโค้ดด้านล่าง
for(int i=1;i<=100;i++)
printf(".");
และคำว่า "circuit breaker" ในตลาดหุ้นครับ
เห็นจุดเยอะๆ นี่มันเป็นรหัสเรียกเข้าตีดอท(เอ)ของพวกผมนะครับ :p
cen all qqqqqq
กระทรวงดิจิม่อน เอ้ย ดิจิทัล... ชื่อทันสมัยดีจริงๆ