นางทรงพร โกมลสุรเดช โฆษกกระทรวงไอซีทีแถลงว่าขณะนี้ทางกระทรวงกำลังจัดทำสติ๊กเกอร์ไลน์ "ค่านิยม 12 ประการ" ตามนโยบายของ คสช. และเตรียมปล่อยให้โหลดฟรี เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนในวันที่ 30 ธันวาคมนี้
การจัดทำสติ๊กเกอร์ครั้งนี้ กระทรวงไอซีทีได้ประสานกับสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรวบรวมข้อมูล รวมไปถึงว่าจ้างบริษัทเอกชน เพื่อออกแบบและจัดทำสติ๊กเกอร์ให้ออกมาถูกต้องและตรงตามวัตถุประสงค์ทีสุด
ที่มา - เดลินิวส์
อัพเดต 21:53 น. - mk
ข้อมูลราคากลางการจัดจ้าง จากเว็บกระทรวงไอซีที
หมายเหตุ: ราคากลางคือราคาที่กระทรวงฯ ตั้งงบประมาณไว้ ในการจัดซื้อจัดจ้างจริงอาจไม่ใช่ราคานี้ และขึ้นกับกระบวนการในการจัดจ้าง
Comments
ทำหนังสั้น ใส่ฮิตเลอร์แถมมา
ทำสติ้กเกอร์จะได้อะไรแถมน้อ...
+1 กำลังจะเมนข้อความนี้เลย
ขอให้สมราคา 7 ล้านละกัน ไม่ใช่เอาเด็กจบใหม่มาทำกราฟิกห่วยๆ
อย่าเหมารวมเด็กจบใหม่ทุกคนสิครับ
Blog: https://medium.com/@tanakritsai
ประโยคนี้แย่ไปหน่อยนะครับ
ดูถูกคนอื่นไม่ได้ทำให้ตัวเองดูดีขึ้นนะคะ
คือดีงาม
เอาภาษีมาผลาญเล่นอีก..
ถ้าไม่พอใจ อีก 4 ปี ก็ไม่ต้องเลือกให้มาบริหารประเทศครับ
อ้าว... ที่ผ่านมาไม่ได้เลือกเหรอ 555
ระวังโดนเรียกตัวไปปรับทัศนคติใหม่นะครับ อิอิ
อุ๊ตะ!
เอาเงินภาษีไปทำ แล้วเรียกว่าของขวัญปีใหม่ให้ปชช. มันไม่ทะแม่งๆเหรอ
+1
เหมือนคนเพิ่งได้สติเลยครับ นั้นสิของขวัญจากเงินของประชาชนให้ประชาชน...
หารภาษีออกมา ตกคนละ 0.1บาทเอง กำไรเห็นๆ 29.9บาท . . . . . .
เห้อไทยแลนด์
สติ๊กเกอร์ไลน์จากภาษีประชาชน
งานแรกหลังเปลี่ยนชื่อ ผลงานดีมาก ๆ ครับ มีความสุข
เราจะไม่เป็นเหมือนเกาหลีเหนือใช่ไหมครับ
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
รู้สึกอยากรู้งบประมาณที่ใช้จัง กลัวย้อนแย้ง
เอิ่ม ของเกาหลี ก็มีแจกฟรีแบบถาวร ก็สวยดี
เอาภาษีพวกเราไปสร้างผลงานตัวเอง อันนี้เรียกว่าคืนความสุขให้ใครกันแน่!?
http://www.mict.go.th/view/1/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%94/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%8B%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87/973
7,117,400 บาท
http://www.mict.go.th/assets/portals/1/files/download/571212_LINE.pdf
....ครับ....
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ถามสักคำหรือยัง........
ว่าจ้างบริษัทเอกชนในการดำเนินการและออกแบบ อยากรู้ตรงนี้ล่ะคงหวังว่าไม่ถึง 7หลักนะ
7,117,400 บาทครับ จากโพสบน
7 ล้าน ละเลงกันสนุกพะย่ะค่ะ
ปกติ Sticker Line ควรจะกี่บาทเหรอครับ?
ผมไม่รู้ว่ามันทำยังไง ยากหรือเปล่า เลยอยากถามเป็นความรู้ครับ
ปกติการวาดภาพสำหรับสติ๊กเกอร์ไลน์ก็ใช้โปรแกรมกราฟฟิคทั่วไปอย่างโฟโต้ช็อปหรือโปรแกรมในสายวาดรูปอย่าง SAI, Canvas, CLIP STUDIO PAINT และอื่น ๆ บางคนอาจวาดด้วยเมาส์ปากกา
ต่อให้ตีรวมค่าโปรแกรม ค่าไฟ ค่าจิปาถะและให้ทำสติ๊กเกอร์หนึ่งเดือนก็ไม่น่าเกินหนึ่งแสนหรอกครับ.....ถ้าจ้างคนอื่นทำก็อาจค่าไอเดียซึ่งผมมองว่ายังไงก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะแตะหลักล้านสำหรับงานระดับสติ๊กเกอร์ไลน์
แสนเดียวนี่ก็น้อยไปหน่อยนะครับ ลองอ่านคร่าวๆ ตามบทความนี้ก็ได้นะครับ
www.marketingoops.com/media-ads/line-marketing-1
ขอบคุณครับ เรื่องนี้เพิ่งทราบตัวเลข "><)
ขอบคุณมากครับ ผมขอยกข้อความจากในลิงค์มา เพื่อความสะดวกนะครับ
เข้าใจว่าสรุปเป็น การจะเอาขึ้นต้องให้เงิน Line 4-5M ซึ่งที่เหลือ (2-3M) คือค่าดำเนินการสร้างสติ๊กเกอร์ครับ คงต้องดูว่าจะได้ผลขนาดไหน
เท่าที่เคยทราบ ในกรณีของ Sticker Line ประเภทส่วนของบริษัท ประเภทแบบแจกฟรีเพื่อโปรโมต ไม่ว่าจะเป็น Add เพื่อนแล้วได้ฟรี หรืออะไรก็ตามทำนองนี้ที่พวกแบรนด์สินค้าทำกัน ราคาอยู่ที่หลักล้านอยู่แล้วครับ
โอ้ อันนี้เพิ่งทราบฮะ ขอบคุณมากครับ
.....เลิกทำได้ไหม เสียดายภาษี O<---<
เคยได้ยินว่า ตอนกสิกรทำ บราวน์กับโคนี่แจกตอนนู้นนี่ 3 ล้านนะ
ถ้ามีบราวน์กับโคนี่ ค่าตัวแพงกว่าญาญ่า+นเดชอีกมั้งครับ ถ้าราคายังไม่เปลี่ยนแปลง ค่าตัวตัวละ 12M ครับ
ตอนที่กสิกรทำอาจจะเพิ่งเริ่มเปิดตลาด ราคาอาจจะยังไม่สูงก็ได้ครับ
งานด้านดีไซน์อย่างเดียว ปกติควรมีตัวเลือกให้เราเลือกมากๆ วิธีที่จะได้ตัวเลือกมากในราคาประหยัดคือการจัดประกวดครับ ตั้งรางวัลสัก 5 แสน รับรองว่า ได้ตัวเลือกระดับหลายพันชิ้นแน่นอน รางวัลขนาดนี้ ไม่ต้องโปรโมตมาก ให้คนแชร์กันในเฟซบุ๊ค เดี๋ยวเดียวรู้กันทั้งเมือง
เปลี่ยนชื่อกลับไปเป็น กระทรวงอนาล็อก ดีกว่ามั๊ง
ถ้าทำได้แค่สติกเกอร์
ชอบครับ
บีเบี้ยวกับบีบึ้ง
7 ล้าน กับสติ๊กเกอไลน์ ดีครับดี
แค่ 7 ล้าน ถูกมากครับถ้าเทียบกับความสุขที่พวกเราชาวไทยได้รับ และความสงบสุขในอนาคต
สติ๊กเกอร์ฟรีจากภาษีประชาชน
คน 60 กว่าล้านมี Line Account ทุกคนสินะครับ
7 ล้านบาท มีคนไทยใช้ Line ประมาณ 18 ล้านคน
สมมุติทุกคนที่ใช้ Line โหลดก็ คนละ 30 สตางค์
ถูกมากๆๆ เลยครัฟแหม่
ถูกกว่าแบบทำฟรีเพื่อขายที่ต้องซื้อคนละ 30 บาทตั้ง 100 เท่าเลยนะครับ
ค่านิยม 12 ประการ
ประการที่ 1: โกงบ้านกินเมือง?
ทำไปทำไมครับ เสียดายงบจริงๆ
Get ready to work from now on.
เจ็ดล้านเข้าใจว่ารวมค่าเปิด line sticker ให้โหลดฟรีด้วยครับ.. อารมณ์เดียวกับพวก brand ต่างๆ ที่ทำ official account แล้วทำ sticker ให้โหลดฟรี นั่นคือ brand ต้องจ่ายเงินให้ line หลักล้านนะครับ (มากน้อยขึ้นกับว่าจะให้ใช้ได้นานแค่ไหนด้วย
หักค่า fee ของไลน์ออกแล้วค่าจ้างออกแบบแพงขนาดนั้นเลยรึเปล่าครับ หรือมี fee อะไรอย่างอื่นอีก
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
อืมจริงลืมคิดกันไปเลย ถ้าแค่ค่าออกแบบอย่างเดียว 7 ล้านนี้สุดยอดมาก
ตกเฉลี่ยประการละ 593,116.66 บาทเองครับ แพงตรงไหน
โหลดเลยดีออก!
เออ ข้อมูลนี้ประกาศ โดยกระทรวงอยู่แล้ว ครับ ไม่ต้องอ้างอิง ผมก็ได้ ครับ ขอบคุณครับ
จำได้ไหม ตายายยังจำได้ไหม
เคยได้ยินแว่วๆจากเจ้าของแบรนด์นึง ว่าทำstickerแบบอายุจำกัดเพื่อโปรโมทแบรนด์ ต้องจ่ายให้Line ราวๆ 2ล้านบาทกว่าๆนะ
แต่อาจมีเงื่อนไขอื่นๆที่ทำให้แพงกว่านี้ รวมถึงค่า"ออกแบบ"ด้วย?
...
สิบไม่ขาด พอเพียง เลี้ยงชีพได้
...
ผมอยากเห็นวันนั้นจริงๆ วันที่รัฐบาล(จะสมัยไหนก็ตาม)จะมีนโยบายที่เหล่า Geek (รวมผมด้วยนะ) พร้อมใจกันสนับสนุนแบบเปล่งประกายความหวังในการพัฒนาประเทศอย่างแท้จริง เอาแบบที่ยกเอาไปคุยกับใครๆ ก็ได้แบบมีความภาคภูมิใจที่ออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจจริง ๆ แบบนี้จะมีบ้างไหมหนอ ? (หรือมีแต่ผมไม่รู้เอง)
I remember only something like
discontinue OLPC tablet project (they said it's cheap, it must be lo quality, better buy the expensive one)
discontinue Opensource Supporting project (the said opensource has no quality)
ผมภูมิใจมากครับ ที่รัฐบาลไทยใส่ใจประชาชน ขนาดทำสติ้กเกอร์ไลน์แจกให้ใช้ฟรีๆ
ตอนแรกที่ผมอ่าน ก็รู้สึกเคืองเหมือนกันว่า เอาไปทำสติกเกอร์ 7ล้านบาทเชียวเหรอ ราคาสูงจัง แต่พอมามองอีกมุม ปกติแล้ว ถ้าต้องประชาสัมพันธ์มุ่งเป้าหมายประชาชน 20ล้านคน+ ค่าประชาสัมพันธ์ก็น่าจะต้องใช้มากกว่านี้ (บางรัฐบาลเห็นซัดไปเป็นพันล้าน - -")
แต่ก็นั่นแหละครับ คงอยู่ที่ผลลัพธ์ว่า สติกเกอร์ออกมาแล้ว คนสนใจเอาไปเล่นหรือเปล่า ถ้าเวิร์คใช้กันถ้วนหน้า ผมก็ว่าน่าสนใจทีเดียว
มองเป็นของเป็นต้นทุนเป็นเงิน ก็ดูมันแพง บางคนก็อาจจะติว่าไร้สาระ แต่ถ้ามองเป็น Value ที่จะได้รับ จากการนำไปประชาสัมพันธ์ที่มุ่งกลุ่มเด็ก มันก็น่าสนใจทีเดียว รอดูผลลัพธ์ว่าทำออกมาแล้วจะเกิดผลแค่ไหน
เห็นด้วยกะ คห นี้นะ ....
ประโยนช์แน่ๆ คือเอาไปสอนลูกสอนหลานอะไรงี้ (คือญาติๆ ผมก็มีเด็กๆ ก็อยู่ใน group line หลายคนอยู่นะ) .... เผื่อเด็กไม่สนดูทีวี ไม่สนใจว่าไอ้ค่านิยม 12 ประการ มีอะไรบ้าง ก็อาจจะยัดเยียดให้อ่าน ผ่านๆ ตาได้บ้าง (ผมยังไม่รู้เลย 555+ เอ๊ะ หรือเค้าน่าจะบรรจุอยู่ในหลักสูตรการศึกษาอยู่แล้วหว่า??) ผมมองว่า มันก็เหมือนกับการลงทุนผ่านสื่อชนิดอื่นล่ะครับ แล้วถ้าเผยแพร่ผ่าน TV ไปเรื่อยๆ มันจะแพงกว่า 7 ล้านไหม? อันนี้ผมก็ไม่รู้นะ ไม่ทราบทางด้านนั้นจริงๆ ส่วนผลจะเกิดไม่เกิดก็ว่ากันไปครับ ~
เราอ่านครบ 12 ข้อแล้ว คิดว่าไม่ควรเอาไปสอนเด็กอย่างยิ่ง เด็กยังไม่มีวุติภาวะมากพอ
ค่านิยม 12 ประการ ควรจัดเรทที่ อายุ 15+ พร้อมขึ้นคำเตือนว่า "เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน"
คนไทยใช้Lineกี่คนครับ ไม่นับaccountซ้ำ accountผีนะครับ
คุ้ม?
อิมเมจเปลี่ยน?
เงินเข้ากระเป่าต่างชาติ....เพื่อความสุขคนไทย?
ถ้าตั้งมาสิบสองข้อให้ทุกคนท่องได้แล้วมันได้ผลจริง วันหลังไม่ต้องหลายข้อหรอกข้อเดียวก็พอครับ "เป็นคนดี" จำง่ายด้วย ไม่ต้องมาท่องให้เสียเวลา
เดี๋ยวๆบางรบ.พันล้าน นี่กระทรวงเดียวหรือนับรวม?
เจ็ดล้านนี่แค่เริ่มต้นของก.เดียวนะครับ
อ้อค่านิยมฯ ไม่ต้องกลัวเด็กท่องไม่ได้ ตอนนี้โรงเรียนประถมทุกโรงเรียน"ต้อง"สอนให้เด็กท่องครับ มีการสอบเทียบ การแข่งขัน ฯลฯ ด้วยเป็นนโยบายจากกระทรวงลงมาโดยตรงเลย
ค่านิยมฯ เค้าคงไม่ได้คิดปลูกฝังแค่เด็กประถมมั้งครับ
เพราะปัญหาที่เละเทะกันทุกวันนี้เพราะละเลยมาได้ร่วมทศวรรษแล้ว Line น่าจะเหมาะที่จะเข้าถึงกลุ่มคน ระดับมัธยม นักศึกษาอุดมศึกษา และกลุ่มวัยทำงานที่เพิ่งจบใหม่ ถึงระดับกลุ่ม 30-40ปีได้เลยทีเดียว และกลุ่มผู้ใหญ่เดี๋ยวนี้ก็ถึอว่าใช้ Line กันมากขึ้นมาก ถ้าคิดเทียบกับทำเป็นแผ่นพับหรือหนังสือเพื่อการประชาสัมพันธ์ต้นทุนน่าจะสูงกว่านี้อีกหลายเท่าทีเดียวนะครับ
สิ่งที่ได้จากการอ่านกระทู้นี้ทำให้เห็นได้ชัดว่า คนส่วนใหญ่จะไม่รู้ข้อเท็จจริงว่าต้นทุนเพื่อการประชาสัมพันธ์ และต้นทุนในการทำสติกเกอร์ไลน์ การผลิตสติกเกอร์ที่รวมถึงลิขสิทธิ์ตัวละครและจำนวนที่ต้องออกแบบทั้งหมด นั้นควรมีต้นทุนเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะตีราคากันผิดเพี้ยนและคิดเองเออเองกันเละเทะ
การประชาสัมพันธ์เค้าคงไม่ได้มีจุดประสงค์แค่เพียงให้ท่องจำได้หรอกครับ ส่วนใหญ่จากที่อ่านคิดกันแค่ว่าให้คนท่องจำได้เท่านั้นก็จบเลย จริงๆแล้วมันน่าจะเป็นเพียงขั้นแรก จำได้ -> ตระหนัก -> รู้คิด -> เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
ที่ไม่รู้น่าจะเป็นคุณต่างหาก ว่าถ้าไม่กดโหลดไม่ใช้ก็แค่ขยะผ่านสายตาราคา 7 ล้าน
คุณก็ลองบอกมาสิว่าคุณ+เพื่อนๆคุณคิดราคาเท่าไหร่ ไม่ใช่มาว่าเขาคิดเองแต่คุณไม่รู้ราคา
เราคิดรูปละ 600 บาทค่ะ ตั้งแต่ออกแบบยันวาดเสร็จ ลิขสิทธิ์เป็นของคนซื้อ วาดด้วย surfece pro 1 ใช้โปรแกรม paint.net, gimp, opencanvas 1 ไม่มีโปรแกรมละเมิดลิขสิทธิ์
ผมไม่แน่ใจว่าคุณพูดประชด หรือคิดแบบนั้นจริงๆนะครับ?
ค่านิยมฯเนี่ย ถูกออกคำสั่งให้"ปลูกฝัง"ในโรงเรียนประถมทั่วประเทศครับ มีการแข่งขันท่องจำระดับเขต ฯลฯ
ถ้าคุณคิดว่าเป็นสิ่งที่เหมาะสมแล้ว และยังสนับสนุนให้มา"ปลูกฝัง"กับเด็กโตและผู้ใหญ่กว่านั้นอีกด้วย ผมก็ไม่รู้จะคุยต่อยังไงแล้วล่ะครับ อาจต้องไปคุยเรื่องว่า อะไรคือpropaganda หรืออะไรควรจะส่งเสริมจริงๆ?
ส่วนงบประชาสัมพันธ์ต้องมี(ในแง่เรื่องทั่วๆไป)แต่ที่ผมแย้งคือ คคห.บนนู้นบอกรบ.ก่อนใช้เป็นพันล้าน นี่แค่7ล้านนับว่าถูก ผมงงไงครับ ว่าตัวเลขนั้นจริงหรือไม่ และตัวเลขนับรวมทุกกระทรวงหรือนับแยก แล้วจะมาเปรียบเทียบสัดส่วนได้อย่างไร?
ผมอ่านคคห.ในนี้ก็พบว่าคนส่วนใหญ่รู้นะครับว่าsticker lineแบบsponsor ต้องจ่ายให้Naver หลักล้านครับ แต่ไม่คิดว่าจะแพงขนาด7ล้าน(อาจขึ้นกับoptionเงื่อนไข)และมองว่ามันเกินความจำเป็นไปมากกว่า
แต่ผมว่างานนี้ ROI ต่ำมาก จนถึงขั้น non-existance กันเลยทีเดียวกับเงิน 7 ล้าน
เพลงเด็กเอ๋ยเด็กดีต้องมีหน้าที่ 10 อย่างด้วยกันนี่ มันก็ไม่ได้ทำให้เกิดวงจรนี้นะครับ เห็นมีแต่คน ignore มัน เพราะสิ่งที่เอามาโฆษณา(ผมขอใช้คำนี้)มันเป็นนามธรรมจนจับต้องได้ยากซะเหลือเกิน
อีกทั้งการสร้างค่านิยมที่'ทำไม่ได้จริง'(จริงๆคือโครตอุดมคติ แถมใส่(ยัดเยียด?)ความเห็นส่วนตัวใส่ลงไป) แล้วเอามาบอกให้ทำตามนี่ ผมว่าใช้ไม่ได้กับคน Gen Y/very-Y ครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
เพลงเด็กเอ๋ยเด็กดีมี variation เยอะดี ช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ฮ่า ฮ่า
ชิจะ Edit นิดหน่อยแต่ป้ามาตอบก่อน TT
Another possible outcome:
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ขออธิบายนิดหนึ่ง
ผมไม่เห็นด้วยกับการที่ Blognone เอาเอกสารฉบับนี้เผยแพร่ เพราะ
มีรายชื่อ ข้าราชการ จำนวน 5 คน อยู่ในนั้น ซึ่งอ่านเอกสารจะพบว่า งบประมาณตั้งวงเงินเต็มบาท
บรรทัดถัดมา เป็นวงเงิน ที่อ้างอิงกับใบเสนอราคาของ Line Company (Thailand)
ซึ่งสรุปได้ว่า ข้าราชการ ทั้ง 5 คน ไม่ได้เป็นคน ตั้งราคาขึ้นเองในวงเงิน เจ็ดล้านกว่า
แต่เพียงเป็นคนเซ็นกำกับตามระเบียบ เข้าทำนองเนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รอง เอากระดูกแขวนคอ
ในข้อคิดเห็นข้อนี้ ผมเสนอลบเอกสารดังกล่าว แต่ให้เป็น Link อ้างอิงแทนได้หรือไม่
เพราะเวลา แชร์ใน fb ชื่อ 5 คนปรากฏเด่นมาก
ผมเห็นด้วยครับ เอาอ้างอิง ผมออก ด้วยก็ดีครับ เพราะข้อมูล เป็น สาธารณะ ครับ
ิตด่อคนเขียนไม่ได้เลยครับ
ผมเครียดเลย
เอาออกให้แล้วครับ
lewcpe.com, @wasonliw
ขอบคุณครับ
ข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลสาธารณะอยู่บน "เว็บสาธารณะของกระทรวงไอซีที" ที่ทุกคนเข้าถึงได้
ถ้ากรรมการเหล่านี้ไม่ได้ตัดสินใจจริงอย่างทีคุณว่า สามารถติดต่อขอใช้สิทธิถูกพาดพิง (right to reply) ชี้แจงกระบวนการได้มาซึ่งราคากลางนี้ได้เสมอ
lewcpe.com, @wasonliw
สิ่งที่ผมฟันธงได้เลยว่า กรรมการ 5 ท่านไม่ได้เป็นคนตัดสินใจคือ
งบประมาณ การของบประมาณนั้น ต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอน ซึ่งเป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า
งบประมาณ 2558 เสนอในสมัยของรัฐบาลชุดนี้ และกระบวนการตั้งงบประมาณคร่าวๆนั้น ขออธิบายดังนี้
เริ่มจาก มีเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินกิจกรรม A ซึ่งกิจกรรมดังกล่าว จะต้องค่าฝึกอบรม ค่าอาหาร
ของผู้เข้าร่วม ค่าวิทยากร ค่าเดินทางวิทยากร ค่าที่พัก ค่าเดินทางเจ้าหน้าที่ ค่า... ฯลฯ
ซึ่งอัตราการฝึกอบรมนั้นจะมีกรอบค่าใช้จ่ายตามระเบียบของ ก.การคลัง แต่ในกรณีที่เป็นการจัดซื้อจัดจ้าง
ซึ่งไม่ใช่การก่อสร้างซึ่งหน่วยงานราชการยังไม่ได้มีการกำหนดราคากลาง ที่เป็นมาตรฐานแต่อย่างใด
ไม่เหมือนราคากลางจัดซื้อคอมพิวเตอร์ที่ทุก กระทรวง ทบวง กรมต้องดำเนินการภายใต้ ราคากลาง ก.ไอซีที
เจ้าหน้าที่ที่ดำเนินการจึงได้ ขอค่าใช้จ่ายจาก LINE Company (Thailand) ซึ่งปรากฏในแหล่งที่มาของราคากลาง
(ราคาอ้างอิง) จากนั้น เจ้าหน้าที่ก็จะสรุปวงเงินงบประมาณทั้งหมด เสนอผ่านลำดับชั้น ผ่านปลัดกระทรวง
เข้ากรรมาธิการ เข้าสภา จนออกมาเป็น งบประมาณประจำปี 2558
ดังนั้น เอกสารฉบับนี้ ปรากฏว่า มีแหล่งงบประมาณ ใกล้เคียงกับ ใบเสนอราคาจาก LINE Company (Thailand) ซึ่งปรากฏในแหล่งที่มาของราคากลาง (ราคาอ้างอิง) จึงสรุปได้ว่า กรรมการทั้ง 5 ท่านนี้
ไม่ได้เป็นผู้กำหนดราคากลางแต่อย่างใด แต่เป็นกรรมการกำหนดราคากลาง จากการแต่งตั้ง
เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบพัสดุ ของ สำนักนายกฯ ครับ
ฉะนั้นแสดงว่าในรายชื่อ 5 คนนี่เป็นแค่ตรายาง หรือว่าแค่คนตรวจสอบเนื้องานเฉยๆ ไม่ได้กำหนดงบประมาณและจำนวนเงินใช่ป่ะครับ จากที่อ่านๆ มาน่ะครับ
ในเอกสารเองก็บอกนะครับว่าราคาตามใบเสนอราคาของ Line = =?
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
คำถามผมไม่ใช่หมายถึงเอกสารข้างบนครับ ผมกำลังถามในส่วนของขั้นตอนก่อนจะได้มาซึ่งเอกสารข้างบนครับ
คร่าว ๆ นะครับ
ถ้าเป็นกรณีที่มีผู้ขาย/ผู้รับจ้าง/ฯลฯ รายเดียวในไทย เช่น line กรรมการจะมีหน้าที่ คือ ติดต่อไปยัง line เพื่อขอราคากลางโดยตรง กรณีนี้ก็อาจจะคล้ายตรายางครับ เพราะไม่ได้พิจารณาอะไร
แต่หากเป็นกรณีที่มีหลายเจ้า เช่น จัดซื้อเครื่องสูบน้ำ กรรมการก็มีหน้าที่ไปตรวจสอบราคาเครื่องสูบน้ำในท้องตลาดว่าอยู่ที่เท่าไหร่เพื่อนำมากำหยดเป็นราคากลางครับ แต่ถ้าเป็นพัสดุที่หาไม่ได้ตามท้องตลาด ก็จะต้องติดต่อผู้ขายโดยตรง (หลาย ๆ เจ้า) เพื่อนำมาเปรียบเทียบกำหนดเป็นราคากลางครับ
ขั้นตอนนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการยื่น/เปิดซอง (ขอเรียกว่า ประมูล) แต่อย่างใด บริษัทที่ใช้อ้างอิงราคากลางอาจเข้าร่วมแต่ประมูลไม่ได้ หรือไม่ได้เข้าร่วมประมูลเลยก็ได้ครับ
A smooth sea never made a skillful sailor.
ตอบสั้นๆว่า คนที่ตรวจสอบเนื้องาน จะเป็นชุดกรรมการตรวจการจ้าง(ตรวจรับ) ซึ่งเป็นอีกชุดครับ
ตามระเบียบสำนักนายกว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ครับ
ตอบยาวๆคือ
ในเรื่องนี้คณะกรรมการกำหนดราคากลาง จะไม่ปรากฏใน ระเบียบสำนักนายกว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ครับ
แต่จะปรากฏใน มาตรา 103/7 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ
ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 ในการจัดซื้อ 7 ประเภท ไม่ว่าการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานของรัฐ จะเป็นการจัดซื้อจัดจ้างด้วยเงินงบประมาณ เงินกู้ เงินช่วยเหลือ เงินรายได้ หรือเงินอื่นใดของหน่วยงานของรัฐ
จะต้อง
เปิดเผยราคากลางและการคำนวนราคากลางการจัดซื้อจัดจ้างซึ่งมิใช้งานก่อสร้าง ซึ่งในกรณีนี้จะเห็นได้จากหัวเอกสารว่า จัดซื้อจัดจ้างที่มิใช่งานก่อสร้าง
ในประเด็นเราคือ เจ้าหน้าที่กำหนดราคากลาง (ราคาอ้างอิง)
ระเบียบให้กำหนดโดยให้ระบุชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เป็นผู้กำหนด TOR และรายละเอียดภารกิจของหน่วยงานของรัฐที่มีความประสงค์จะดำเนินการ ซึ่งแสดงถึงรายละเอียดที่ต้องการให้คู่สัญญาดำเนินการ รวมทั้งขอบเขตความรับผิดชอบอื่นๆ ของคู่สัญญาที่จะต้องดำเนินการตามหน้าที่และเป็นเอกสารที่มีความสำคัญต่อคุณภาพของผลงานและใช้เป็นเอกสารอ้างอิงที่เป็นเอกสารส่วนหนึ่งของสัญญารวมถึงกำหนดรายละเอียดของค่าใช้จ่ายและที่มาของการกำหนดค่าใช้จ่าย หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ได้ดำเนินการสืบหาหรือกำหนดราคา หรือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งเป็นผู้มีหน้าที่เกี่ยวกับการพัสดุและได้จัดทำรายการขอซื้อขอจ้างเสนอผู้มีอำนาจอนุมัติตามระเบียบฯ ประกาศ หรือกฏของหน่วยงาน โดยอาจะเป็นเจ้าหน้าที่ บุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือคณะบุคคคลแล้วแต่กรณี
แต่ในกรณีนี้ เอาเด็กระดับปฏิบัติการมา 2 คน ??
ก็ชี้แจงได้ครับ ว่าทำไมจึงได้ราคานี้มา ทำไมจึงเลือกเอกสารชิ้นนี้ ได้มาจากไหน ฯลฯ
ถ้าบอกว่ากรรมการไม่เกี่ยวเลย ผมคิดว่าหน้าที่จะต้องเอาชื่อออกจากเอกสารเป็นหน้าที่ของทางกระทรวงครับ
ถ้าจะยืนยันว่ากรรมการในการตั้งราคากลางไม่ได้ "เป็นคนตัดสินใจ" สามารถทำหนังสือบอกมาได้เสมอครับ ลงนามมา (แบบตัดสินใจแล้วว่าจะลงนาม) ผมจะเผยแพร่ให้
lewcpe.com, @wasonliw
รูปแบบของเอกสารที่ปรากฏเป็นไปตามแนวทางของ สนง.ปปช
http://supply.dusit.ac.th/manual/manual_procurement.pdf
ครับ ตามคู่มือระบุอย่างชัดเจนว่ารายชื่อกรรมการกำหนดราคาเป็นข้อมูลเปิดเผยตามหัวข้อ 3.1 เรื่องการเปิดเผยราคากลาง ข้อย่อย 6 ทำให้ไม่ได้มีเหตุผลที่ผมจะปิดบังชื่อออก
ถ้าคุณคิดว่ากฎข้อนี้ไม่เป็นธรรม ร้องเรียนไปที่ปปช. ได้เลยครับ
lewcpe.com, @wasonliw
ขอความรู้หน่อยครับ การที่ใครสักคนจะเซ็นเอกสาร (ในกรณีนี้เป็นข้าราชการ) เขา "ต้อง" เซ็นเท่านั้นโดยไม่มีอำนาจตรวจสอบเอกสารที่ต้องเซ็นเลยเหรอครับ?
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ถ้าเป็นกรรมการตรวจรับพัสดุ จะรอบคอบมากครับ (จนน่ารำคาญ) เพราะขานั้นรับผิดชอบเต็ม ๆ
แต่ในกรณีนี้ ผู้กำหนดราคากลาง 5 ท่าน เป็นกรรมการร่วมกัน เพื่อรับรองราคากลาง ซึ่งปกติก็จะมาจากราคาตลาด บริษัท Line เป็นผู้เสนอมาจากใบเสนอราคานี้ ซึ่งเป็นผู้บริการสติ๊กเกอร์เพียงผู้เดียวจึงเป็นราคากลางได้
ขอบคุณครับ
แต่ยังงงเรื่องรายละเอียดอยู่ เขาเขียนว่า "จ้างเหมาจัดทำ Line Sticker" ทำไมถึงมีแต่ Line ที่เป็นคนส่งราคากลางมา? ผมเข้าใจว่าค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายโดยตรงให้ Line มันก็ส่วนนึง (เห็นหลายความเห็นบอกว่า 2-3 ล้านบาท) แต่ค่าออกแบบ ค่าจ้าง ฯลฯ ทำไมไม่มีใครเสนอราคามาเลยเหรอครับ? ราคากลางที่ Line ส่งมาทำไมถึงไม่มีแต่ค่าใช้จ่ายส่วนของ Line หว่า? หรือว่าว่าจ้างให้ Line ทำเลย?
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ทีสุด => ที่สุด
มันเป็นตลอดการ หรือหมดอายุครับ
ใช้ได้จนกว่าจะเลือกตั้งใหม่ละมั้งครับ...
จัดประกวดแล้วให้รางวัลสัก 1 แสนก็ได้สติ๊กเกอร์คุณภาพแล้ว
ไปจ้างเทพเจ้าที่ไหนวาดตั้ง 2-3 ล้าน (เข้าใจว่าค่าเอาขึ้น 4-5 ล้าน) เห็นแล้วหมดแรงทำงานหาภาษีให้ประเทศจริงๆ
อันนี้เห็นด้วย จัดประกวดตามหัวข้อ แล้วจัดกรรมการเลือกเอา มือเทพๆทั้งนั้น ผมว่าเผลอๆถูกกว่า
ตอนแรกจะโพสต์แล้ว แต่เห็นโพสต์ท่านก่อน เลยสนับสนุนซะเลย อิ อิ
คงกลัวออกไม่ทันปีใหม่กระมังครับ
อยากเห็น TOR จัดทำสติ๊กเกอร์ไลน์ "ค่านิยม 12 ประการ" ของกระทรวงไอซีที คือไม่ใช่อะไร แค่อยากอ่าน "หลักการและเหตุผล"
คืนความสุข ทำให้เด็กรู้จักค่านิยมทุกประการ ชา ลา ล่า
แล้วแผ่นดินที่งดงาม จะคืนกลับมา
คิดว่าดีก็ทำต่อไปเถอะครับ จะเอากี่ล้านก็เอาไปเถอะ
รักนะคะคนดีของฉัน
คงไม่ต้องทำแล้วมั่ง เด็กท่องจำได้หมดแล้ว รู้สึกโชคดีที่โตแล้วไม่ต้องไปท่อง 1 + 1 = 3 จริงๆ
ถือเป็นสิ่งดี ๆ อีกอย่างหนึ่งที่ ไอซีทีสานต่อนโยบายของคสช. ทำเพื่อคืนความสุขคนไทยทั้งประเทศครับ
รู้สึกไม่เสียใจเลยที่เลือกท่านเข้ามาบริหารประเทศ
"เลือก" ท่านเข้ามาบริหารประเทศ?
Blog | Twitter
+1 เลยครับงี้
ไม่รู้อะครับ พิมพ์แบบอื่นได้ด้วยเหรอครับ รู้สึกไม่ปลอดภัย
เพื่อนผมทำสถาปัตยกรรมออกแบบภายในให้กับหน่วยงานราชการนี่แหละ ทำทั้งชั้น ราคากลางจัดจ้างยังแค่หลักแสนเลย แหมดีไซน์สติคเกอร์ไลน์นี่มันช่างล้ำลึกจริงๆ
---เพิ่มเติม หลังจากพูดคุยกับเพื่อนสายกราฟฟิค--
ในเอกสารอ้างอิงราคากลางจากตัวบริษัทผู้ผลิตแอพไลน์เอง เพราะไลน์จะมีการเรียกเก็บค่าการสร้างแอคเคาท์อย่างเป็นทางการ (เช่น เครื่องหมายการค้า บริษัท หรือในที่นี้คือหน่วยงานราชการ กระทรวง) ได้ข้อมูลมาว่าสำหรับบริษัทที่มีแบรนด์ดังระดับประเทศก็มีค่าใช้จ่ายราวๆ 5 ล้าน เพราะงั้นราคากลาง 7 ล้านก็ดูสมเหตุสมผลขึ้นมาระดับนึงครับ
รับทราบครับ
แสดงว่าราคานี้ รวมการสร้าง Official Account และ ค่าอัพ Sticker ด้วย ไม่ใช่แค่การออกแบบอย่างเดียว
ค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ ตามนโยบายของ คสช.
วันที่ 1 ก.ย. 2557
http://www.dbd.go.th/ewt_news.php?nid=9097
เผื่อจะมีคนสงสัยว่ามีอะไรบ้างครับ
Line ผูกขาด ฉะนั้นต่อให้ Line เรียกค่าทำ 10 ล้าน ก็ต้องจ่ายเพราะไม่มีคู่แข่ง
ค่าสติ๊กเกอร์ + ค่า Official Accountประมาณ 5 แสน
ค่า Official channel ส่งข้อความเหมาจ่าย เดือนละ ประมาณ 5 แสน
หรือถ้าคิดเป็นข้อความ โดยเฉลี่ยประมาณ 50 สตางค์ต่อข้อความ
ไลน์เก็บค่าบริการโหดนะครับ แต่มันจะคุ้มไหม กับเงินลงทุน 7 ล้าน
ผมมองว่าประชาชนได้อะไรจากสติกเกอร์มากกว่า
เด็กไทยจะได้เป็นคนดีกับเค้าสักที
มันติดอยู่ตรงนี้นี่เอง ทำไมคิดกันไม่ออก
7 ล้านยังน้อยเกินไปด้วยซ้ำ
ได้รับสติ๊กเกอร์ แล้วรีบ ท่อง ท่อง ท่อง นะครับ ทุกคน
นี่ขนาดไม่มีสิทธิ์มาใช้เงินภาษียังทำเพื่อเยาวชนขนาดนี้ ถ้าได้เลือกตั้งเข้ามาจะขนาดไหน
น้ำตาจะไหล T T
For What?
คนไทยนี้เล่นไลน์เยอะถึงขั้นต้องทำสติกเกอร์ให้เลยเหรอ ตลกมาก...
ใช้สติ๊กเกอร์นี้แล้วจะเป็นคนดี
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
จากที่อ่าน (และจากการเคยช่วยทำราคากลางให้หลายๆ หน่วยงาน) 7 ล้านนี่น่าจะเป็นราคารวมทุกอย่างไว้แล้ว (เพราะชื่อบอกว่าจ้างเหมา) คือจ่าย 7 ล้านแล้วสติกเกอร์พร้อมโหลดได้เลย (ค่าออกแบบ ค่าลิขสิทธิ์ตัวละคร(ถ้าใช้ของไลน์) ค่าเอาขึ้นบนไลน์ ฯลฯ) จริงๆผมว่าแค่นี้ก็ดีเท่าไหร่แล้วครับที่กระทรวงไม่หาพวกบริษัท(SI) มาคั่นกลางอีกที เพราะจะโดนกินจากบริษัทอีกทอด เผลอๆจะเกิน 10 ล้านเอา แต่โหลดแล้วได้กี่วันนี่ต้องว่ากันอีกที และเพราะมีแค่เจ้าเดียวที่ทำได้คือ line ราคาเท่าไหร่กรรมการก็ต้องเซ็นตามนั้นครับ ถ้าด้านบนให้นโยบายมาว่าจะใช้สติกเกอร์ไลน์แล้ว ซึ่งกรรมการก็ไม่ผิดอะไรตามพรบ.พัสดุ เพราะตามโครงการที่กำหนดมาสามารถหาราคากลางมาได้แค่เจ้าเดียวอยู่แล้ว(คือตั้งตามราคาตลาด)เรื่องเผยแพร่ชื่อก็ไม่มีปัญหาอะไรเพราะพรบ. ต้องการให้ชื่อกรรมการเผยแพร่อยู่แล้ว ใครมีคำถามจะได้ติดต่อที่กรรมการได้เลย ส่วนเรื่องทำแล้วประโยชน์จะเป็นยังไงนี่ไม่ออกความเห็น
บ.ทั่วๆไปใช้งบเท่าไหร่ครับ อยากทราบจริงๆ?
เข้ามารอคำตอบด้วยคนครับ
ผมคิดว่าต้องมีรูปคนยกมือไหว้แล้วบนหัวมีข้อความว่า "ทรงพระเจริญ" แน่ๆอันหนึ่งล่ะ...
เอาเป็นว่ากี่ล้านก็ดูไม่คุ้มกับแค่สติกเกอร์ไลน์ ค่านิยม 12 ประการ
สรุปว่า Line เสนอราคานี้มาหรือยังไง
แต่ผมว่าเงินตั้ง 7 ล้าน เอาไปทำอย่างอื่นจะดีกว่ามั้ย อยากรู้จริงๆว่าเวลาเราไม่เห็นด้วยอะไรแบบนี้ เค้าจะฟังเราไหม
..: เรื่อยไป
รัฐบาลที่เราเลือกมายังไม่เคยฟังเราเลยครับ รัฐบาลที่มาจากพรรคที่คนบอกว่าเป็นประชาธิปไตยมากที่สุด ก็แทบจะไม่ฟังเราเลย (ยกเว้นว่าเค้ามีธงอยู่แล้ว พอมีคนมาเรียกร้อง ก็ตามธงไป)
แล้วเราจะทำอะไรได้นอกเสียจากการมีความสุขล่ะครับ
ผมว่าเขาฟังนะ ถ้ามันดัง ออกสรยุทธ์ (แต่ช่วงนี้สรยุทธ์ คงไม่กล้าออก) ถ้าเป็นปกติ ออกไปแล้ว เชื่อผม จำเรื่องไมล์ ทองคำได้ป่าว
7 ล้าน!! กับสติ๊กเกอร์ 12 อันที่ไม่รู้จะมีใครเอาไปใช้หรือเปล่า