จากกรณีเครือกิจการโรงแรมขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกามีแผนบล็อค Wi-Fi ส่วนบุคคลในโรงแรมจนไมโครซอฟท์ต้องจับมือกูเกิลเพื่อสกัดแผนการนี้ ล่าสุด Marriott เครือกิจการโรงแรมขนาดใหญ่ที่อยู่ในแผนการนี้ได้ออกแถลงการณ์มาแล้วครับ
ทาง Marriott ได้กล่าวว่า "ทาง Marriott นั้นไม่เคยมี และจะไม่มีวันมีนโยบายในการจำกัดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของแขกด้วยช่องทางต่างๆ รวมถึง Mi-Fi ส่วนบุคคลและอุปกรณ์ Wi-Fi ในเขตห้องพักและห้องโถง" โดยเป้าหมายในการบล็อคสัญญาณในครั้งนี้มีเพื่อ "ป้องกันการโจมตีและการกวนสัญญาณของผู้เข้าร่วมการประชุมหรือสัมมนาเท่านั้น"
ทาง FCC เล็งเป้าว่าจะตัดสินคำร้องขอบล็อคสัญญาณนี้ภายในครึ่งปีแรกของปีนี้ครับ
การมีอุปกรณ์ที่ใช้เครือข่าย Wi-Fi จำนวนมากในพื้นที่เดียวกันจะก่อให้เกิดการแย่งช่องความถี่และรบกวนสัญญาณกันแม้จะใช้งานอยู่คนละเครือข่ายแม้ไม่มีความประสงค์ที่จะโจมตีก็ตาม โดยเฉพาะเครือข่ายที่ไม่ได้ออกแบบให้เหมาะสมกับพื้นที่มาอย่างดีดังเช่นอุปกรณ์ปล่อยสัญญาณ Wi-Fi ส่วนบุคคล โดยเราสามารถดูตัวอย่างการรบกวนกันของสัญญาณที่ออกแบบไม่ดีพอได้จากเหตุการณ์ที่ IETF จัดประชุมที่โรงแรมในปารีส พบ Wi-Fi มีปัญหาจนต้องปรับปรุงระบบกันใหม่
อ่านแถลงการณ์ฉบับเต็มจาก Marriott ได้ท้ายข่าวครับ
We understand there have been concerns regarding our position on the FCC petition filing, perhaps due to a lack of clarity about the issue. To set the record straight it has never been nor will it ever be Marriott's policy to limit our guests' ability to access the Internet by all available means, including through the use of personal Mi-Fi and/or Wi-Fi devices. As a matter of fact, we invite and encourage our guests to use these Internet connectivity devices in our hotels. To be clear, this matter does not involve in any way Wi-Fi access in hotel guestrooms or lobby spaces.
The question at hand is what measures a network operator can take to detect and contain rogue and imposter Wi-Fi hotspots used in our meeting and conference spaces that pose a security threat to meeting or conference attendees or cause interference to the conference guest wireless network.
In light of the increased use of wireless technology to launch cyber-attacks and purposefully disrupt hotel networks, Marriott along with the American Hotel & Lodging Association on behalf of the entire hotel industry is seeking clarity from the FCC regarding what lawful measures a network operator can take to prevent such attacks from occurring. We feel this is extremely important as we are increasingly being asked what measures we take to protect our conference and meeting guests and the conference groups that are using Wi-Fi technology in our hotels.
ที่มา - Marriott News Center ผ่าน Recode
Comments
แล้วจะทำยังไง ให้คนจำนวนมากที่มารวมกันใช้ได้ครับ งานหนึ่งก็ 100-200 คน
คนซัก 100-200 ช่วง 5GHz หลายตัวกระจายช่วงคลื่นไม่ให้ชนกันพอมั้งครับ ถ้าไม่มีคนอื่นมาปล่อยชน ถ้าคนเยอะเอาไม่อยู่อาจจะต้องลดความแรงของตัวที่ channel เดียวกันไม่ให้ทับกันแล้วเพิ่มจำนวนตัวเข้าไปด้วยมั้ง รอผู้มีประสบการณ์เจองานใหญ่ๆมาตอบอีกที
ช่วง 2.4 GHz ทำไงดีหว่า ฮ่าๆ
ทำกำแพงให้กันคลื่นไม่สามารถทะลุหรือลดสัญญานเวลาผ่านผนังหรือกำแพงให้มากที่สุดไงครับ คลื่น 5GHz ปกติมันก็ทะลุยากอยู่แล้วแถม ช่องสัญญานเยอะกว่า 2.4GHz เยอะ แล้วก็ไปได้ไม่ไกลอีกด้วย บริหารจัดการง่ายกว่าเห็นๆ ส่วน WIFI ประจำห้องประชุมก็เดินสายเจาะผนังออกมาเป็น 1 เครื่องต่อ 1 ห้องไปสำหรับเผื่อลูกค้าต้องการจะซื้อบริการใช้งาน โรงแรมพวกนี้รวยอยู่แล้วลงทุนหน่อยเถอะดีกว่าซื้อตัวทำลายสัญญานชาวบ้านเขาทำให้เขาด่าเลย แก้ปัญหาผิดจุดจริงๆเลยเชียว
ดูจากตัวอย่างที่ยกไว้ให้ในย่อหน้าที่สี่ในข่าวได้เลยครับ
แถลงการ =>แถลงการณ์
พิมพ์ถูกหนึ่งที่ ผิดหนึ่งที่ซะด้วย - -" ขอบคุณครับ
สวัสดีปีใหม่ครับ (^_^)
ถ้ามีเครื่อง block Wi-Fi
แล้ว Wi-Fi ของโรงแรมเอง มันไม่โดนไปด้วยเหลอครับ ?
เท่าที่ผมอ่านข้อมูลคือมันสแกนหาเครือข่ายแล้วก่อกวนให้ใช้งานไม่ได้เป็นรายตัวไปนะครับ แต่ยังไม่ได้หาข้อมูลเพิ่มเหมือนกันว่ามันใช้วิธีการไหนในการทำแบบนี้