ที่งาน 31C3 Tobias Engel แฮกเกอร์ขึ้นเวทีอธิบายกระบวนการติดตามเจ้าของหมายเลขจากที่ใดก็ได้ในโลก โดยต้องการเพียงหมายเลขโทรศัพท์เท่านั้น
Engel ระบุว่างานวิจัยนี้ได้แรงบัลดาลใจมาจากนักข่าวรายหนึ่งที่ถามว่า บริษัท Verint มีสินค้าเครื่องติดตามคนโดยอาศัยเพียงหมายเลขโทรศัพท์ได้อย่างไร ทำให้ Engel เข้าไปดูโปรโตคอล SS7 ที่เข้าสอบถามที่อยู่ของหมายเลขต่างๆ ได้ทั่วโลก โดยไม่ต้องยืนยันตัวตนของผู้ที่สอบถามข้อมูล
เครือข่าย SS7 นั้นแต่เดิมจะเปิดให้เฉพาะผู้ให้บริการโทรศัพท์ด้วยกันเท่านั้น แต่เครือข่ายทุกวันนี้มีส่วนที่เข้าถึงเครือข่าย SS7 ได้โดยมีค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก รวมไปถึง Femtocell ที่ใช้งานตามบ้านก็สามารถเข้าถึงเครือข่ายนี้ด้วยเช่นกัน แม้จะมีการป้องกันเอาไว้อีกชั้น
การที่แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงเครือข่าย SS7 ได้ทำให้สามารถส่งข้อมูลเข้าไปยังเซิร์ฟเวอร์ฐานข้อมูล VLR ที่ขอข้อมูลการโทรได้โดยตรง ทำให้ขอข้อมูลตำแหน่งล่าสุดของผู้ใช้ได้ และสามารถขอให้สายเรียกเข้าและ SMS ของเหยื่อเข้าไปที่เครื่องของแฮกเกอร์แทนได้ ทำให้แฮกเกอร์ดักฟังได้ทั้งการสนทนาและ SMS
กระบวนการนี้ได้รับการแก้ปัญหาไปหลายอย่างแล้วในโปรโตคอลของ LTE แต่ทุกวันนี้ LTE ก็ยังต้องเชื่อมต่อกับ GSM/UMTS อยู่ และกว่าการใช้งาน SS7 จะหมดไปคงอีกกว่า 20 ปี
ที่มา - ThreatPost
Comments
ติดตาม
The Dream hacker..
แรงบัลดาลใจ => แรงบันดาลใจ
นี่คือไม่สามารถป้องกันโดยการอัพเกรดระบบภายในได้ด้วยเหรอครับนี่?
hacker เมืองไทยใช้"ปืน"ในการดักฟังโทรศัพท์มือถือครับ
ไม่งงนะก็ คนสีเขียวถือปืนไปMSC เขาก็ต้องยอมหมดล่ะครับ(อันนี้เรื่องจริงนะ ฮา!)
กลับมาเรื่องข่าว เครือข่าย SS7 ปกติใช้ในการทำpaging call,หรือรับส่ง sms ถ้าแอบเข้าถึงและปลอมpacketได้ก็จบ
ใช้เงิน เส้นสายทางความสัมพันธ์หรืออำนาจก็ได้ครับ แถมมีสถานะไม่ระบุตัวตนได้ด้วย พวกที่เป็นเส้นทางมาสู่การจับกุมจะโดนทำให้หายไปจากโลกไม่ก็ถูกทำให้ตามตัวไม่ได้ มันโหดกว่าเยอะ พวกสีเทากับสีดำ โหดกว่าเขียวเยอะครับ แต่ยังไม่รู้สึกตัวกัน แถมระบุตัวตนไม่ได้ เขียวนี้มองหาง่ายสุดแล้วว่ากลุ่มใหน แนวคิดคุณเลยเป็นแบบนี้อ่ะครับ
ใช้เงินใช้เส้นสายสู่อำนาจ อย่างไรก็แพ้"ปืน"ครับ ดูรปห.สองหนล่าสุดสิครับ...
เส้นสายที่คุณว่ามา ก็มาจากอำนาจปลายกระบอกปืนทั้งนั้น
เนื้อข่าวก็ไม่เห็นมีตรงไหนเกี่ยวกับประเทศเราเลยนี่ อัดอั้นอะไรมาหรอครับหรือเสียผลประโยชน์ โยงกันได้ซะงั้น ข้อความยาวๆไปไหนหมดแล้ว แก้ทำไมหล่ะ ผมว่าคุณก็แสดงความคิดเห็นได้ดีนะ
คิดว่า บางครั้งพูดบางเรื่องไปมันมีผลเสียกับหลายคน โดยเฉพาะคน"วงใน" เพราะวงการนี้มันแคบ
เลยปล่อยให้เป็นเรื่องเล่าในความฝันต่อไปดีกว่าครับ :P
เงิน ก็ทำให้มีปืน ปืนก็ทำให้มีเงิน จะเงินจะปืนมันก็ดำก็เทาเหมือนกันนั้นละครับ เขียวจริงๆไม่มีหรอก
ร้อนแรงแล้วแล้วครับตอนนี้ ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ผมแค่เบื่อว่ามันจะอะไรกันนักหนา เอะอะก็แทง เอะอะก็แทง ผมก็เห็นว่าปัญหาระดับมหาภาคฝังลึกใหญ่ๆ เขาก็จัดการได้ดี แต่บางเรื่องก็จัดการแย่อยู่จริง ผมขอเรื่องลางบ้างคอรัปชั่นกับการวางรากฐานเศรษฐกิจเป็นหลักครับ ไม่งั้นได้ตายกันทั้งประเทศ ชนทั้งชั้นบน ชนชั้นกลางและชนชั้นล่าง ส่วนชนชั้นโกง มีบ้านอยู่ต่างประเทศสำรองกันหมดแล้วหล่ะ แถมรอเปลี่ยนสัญชาติกันด้วยถ้ามีอะไรผิดพลาดสบายเลย แล้วก็ชนชั้นบนกับชนชั้นกลางบางส่วนที่มีญาติอยู่ต่างประเทศก็รอดกันประปราย
พอแค่นี้แหล่ะ นึกถึงคำพูดของ พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ไว้ว่า "จะทำอะไรช่วยตัดคำว่าฉันออกไปได้มั้ย ไม่เอาว่าถ้าทำอันนี้ตรงนี้ฉันจะได้รับอะไรได้มั้ย" ให้เหลือแค่ประเทศกับคนอื่น คิดแบบนี้กันทุกคน ประเทศไทยจะพ้นภัยพิบัติ
เพราะคนอื่นของผมก็คือพวกคุณแล้วก็กลับไปกลับมาแบบนี้หน่ะแหล่ะ
เอาจริงถ้าคิดผลประโยชน์ประเทศชาติเป็นหลัก มันก็คิดตรงกันนานแล้ว แต่ที่แน่ๆต้องมีบุคคลนั่นแหล่ะที่เสียประโยชน์ให้ประเทศชาติ
ไม่คิดบ้างเหรอครับว่าเพราะว่าเขาห่วงบ้านเมือง (ไม่ใช่ฉัน) เขาจึงคิดต่างจากคุณ
555
เจอคำตอบแบบนี้ก็เลิกพูดต่อละครับ
ท่านคงไม่ทันรปห.49 สินะ ถึงได้หวังลมๆแล้งๆกับอัศวินสีเขียวไม่เลิก
แถมยกคำพูดของ... คงไม่ทันตอนแกทวิตว่า ฆ่าเวลาบาปกว่าฆ่าคน แต่ตอนหลังแอบมาสนับสนุนม๊อบปิดเมือง หุๆ สุดท้ายมันก็พวก"ฉัน"ทำอะไรก็ไม่ผิดตะหาก
บางเรื่องต้องอาศัยประสบการณ์ครับ ถ้าคุณยังมองไม่ออกว่า"ใคร"ทำ"อะไร" ก็คงวนลูปแบบนี้ไม่เลิก
ผมรู้สึกcontrastมากๆ เวลาเจอคนรู้จักที่เคยไปนั่งปิดสนามบิน ไปนั่งเป่านกหวีด แล้วมาบ่นเศรษฐกิจแย่ โรงงานต้องเลิกจ้าง บ.แม่ถอนการลงทุนจากไทยฯลฯ ก็ได้แต่คิดว่า สักวันเขาจะรู้สึกตัว ว่าทำเองกับมือแท้ๆ
เทากับดำโหดกว่าเขียว ?
ประเทศนี้สีเทากับดำที่ไม่เขียวจะทำอะไรได้แค่ไหนกันครับ ?
อยากทำได้มั่งจัง อิอิ