ถ้าจำกันได้ ในวันที่ Windows 10 เผยโฉมเป็นครั้งแรกนั้น ไมโครซอฟท์พยายามบอกให้บรรดาบริษัททั้งหลายได้เข้าใจว่า Windows 10 จะเป็นแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดสำหรับองค์กร ซึ่งในวันเปิดตัวจริงที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้เผยข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการใช้งานในองค์กรเกี่ยวกับการอัพเดตมาดังนี้
การอัพเดต Windows ที่เคยเป็นเรื่องน่าหงุดหงิดในบริษัทมาตลอด แต่หลังจากการเปลี่ยนผ่านไปสู่ Windows 10 จะทำให้บรรดาแอดมินฯ ทั้งหลายทำงานได้สะดวกขึ้น สามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมของการใช้งาน ตั้งแต่กลุ่มที่ใช้งานสำคัญในองค์กรสามารถอัพเดตเฉพาะแพตช์เพื่อความปลอดภัย และอัพเดตสำคัญเท่านั้น หรือกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไปในสำนักงานก็สามารถอัพเดตฟีเจอร์ใหม่ได้ทันที โดยไมโครซอฟท์จะปล่อยหลังจากที่ทดสอบในวงกว้างเสียก่อน ทั้งนี้ก็เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับฟีเจอร์ใหม่ๆ รวดเร็วขึ้น แต่ก็ยังปลอดภัยอยู่เสมอ แทนการอัพเดตแบบเดิมที่ใช้แบบเดียวกับทุกกลุ่มผู้ใช้งาน
สำหรับการอัพเดตแบบใหม่นี้สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการขององค์กร ซึ่งไมโครซอฟท์เองจะเดินหน้าพูดคุยเพื่อปรับปรุงให้เหมาะสมกับการทำงานแบบองค์กรต่อไป
ที่มา - Windows Blog
Comments
features ที่รอคอย ทุกวันนี้ปวดหัวมาก กับ WSUS ของ Windows จะดูว่า ดีกว่าเดิมหรือเปล่า?
แพชต์ => แพตช์
ประเด็นคือแจกฟรีปีแรกงี้ Microsoft เอาเงินจากไหน
ค่าการตลาดกับลด Maintenance Cost ที่ต้องดูแลรุ่นเก่าสำหรับ MS ผมว่าคุ้มออกนะ
... bing ไงครับ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
เงินในส่วนการจูงใจให้นักพัฒนามาพัฒนาแอพของ MS ไงครับ
ทั้งการโฆษณา จัด Campaign จัด Training หรือแม้กระทั่งเขียนเอง ก็ยังไม่เวิร์คขึ้นมาเลย
แต่จริง ๆ แล้ว สำหรับ Windows 10 นี้ สิ่งเหล่านี้อาจจะเท่ากับหรือมากกว่า Windows 8 แต่ผลมันน่าจะดีขึ้นกว่าเดิม
เพราะการแจกฟรีจะทำให้คนใช้เยอะขึ้น ปลดล็อกลูปอนันต์ แอพน้อย <-> คนใช้น้อย ได้สักที
ถ้าคนใช้เยอะ นักพัฒนาก็ต้องอยากจะทำแหละครับ
แต่ถ้าพูดจริง ๆ แล้ว MS มีรายได้ทางอ้อมอีกมาก ถ้าคนใช้งาน Windows เยอะ ก็จะมีคนพัฒนาแอพด้วยเครื่องมือของ MS เยอะ ก็น่าจะต้องซื้อพวกโปรแกรมอื่น ๆ เข้ามา
แล้วถ้าจะว่าไป Tablet เพื่อทำงานนั้นจริง ๆ ยังไม่มีใครยึดตลาดนี้ได้เด็ดขาด ถ้า MS ทำแบบนี้อาจจะครองตลาดนี้ได้ ต่อไปก็จะได้เงินมาเองแหละครับ (เงินมีอีกเยอะ ขาดทุน 2-3 ปี เพื่อครองตลาดผมว่าไม่น่ามีปัญหาอะไรนะครับ ตราบใดที่ยอดขายเพิ่มขึ้นแล้วได้ส่วนแบ่งการตลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ)
1.Bing เงินจากการลงโฆษณา
2.App Store ค่าสมัครทำแอพ กับการแบ่ง % หลังขายได้
3.Contana ค้นหาด้วยเสียงเชื่อมการทำงานกับ bing
4.Xbox live ค่าสมัครทำเกม กับการแบ่ง % หลังขายได้
5.Advertise in app ค่าโฆษณาในแอพ
รวมๆแล้วก็ทำตาม Google นั่นล่ะครับ
ค่าสมัครทำ แอพ อาจจะได้เพิ่มบ้างแต่ไม่มากนะครับ เพราะเก็บแค่แรกเข้าครั้งเดียว ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี
ผมว่ามันมีรายได้จากงานหลังบ้านอีกเยอะนะครับที่ Microsoft จะได้ประโยชน์จากงานนี้
Windows Server / Visual Studio / Visual Studio Online / Azure
คือมันอาจจะไม่มาก แต่คิดว่ามีส่วนเพิ่มยอดขายกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของ Microsoft แน่นอนครับ ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านั้นราคาประทับใจจริง ๆ (แพงจนจำแม่นเลย)
ที่สำคัญ ถ้าคนส่วนใหญ่ใช้ ผลิตภัณฑ์ของ MS นักพัฒนาก็ต้องพัฒนาตามสิ่งที่ MS กำหนดแนวทางไว้
เหมือนจะพัฒนาแอพ iPhone ก็ต้องไปซื้อเครื่อง Mac แหละครับ จริง ๆ อาจจะไม่ได้อยากใช้ แต่มันก็ต้องซื้อจริง ๆ
ระบบ คลาวด์ onedrive search engine มือถือlumiaขายได้มากขึ้น ระบบสำนักงานoffice skype video call ระดับองค์กรคงไม่แจกฟรี และที่คนอื่นกล่าวไป รวมทั้งเงินสิทธิบัตรจากการทำ มือถือแอนดรอยที่ไมโครซอฟถืออยู่ อิอิ เกี่ยวกันไหม
Microsoft ให่ฟรีปีเดียว ตามที่ผมคิดเค้าอยากให้มีคนใช้งาน Windows 10 เยอะๆจะได้ให้นักพัฒนาเห็นว่า Windows ก็มีคนใช้งานเยอะนะ แล้วทำตัวเดียวลงได้ทุกอย่างของ Windows 10 แบบนี้ นักพัฒนาเริ่มอยากลองมาทำแอพลง Windows 10 มั้ง
บริษัทผมจะยอมอัพป่าวเหอะ ถึงจะฟรีก็ตาม -*-