วันนี้ (29 ม.ค.) สำนักงาน กสทช. จัดเสวนา NBTC Public Forum 1/2558 หัวข้อ "ทรัพยากรคลื่นความถี่และทิศทางการสื่อสารภายใต้ร่างกฎหมายเศรษฐกิจดิจิทัล" โดยเชิญผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ "ร่างกฎหมายเศรษฐกิจดิจิทัล" ที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ตอนนี้มาร่วมเสวนา
ผมไปร่วมงานช่วงเช้า และได้ขอเอกสารนำเสนอของวิทยากรมาเผยแพร่ต่อ พร้อมสรุปประเด็นของวิทยากรแต่ละท่านนะครับ (คำเตือน: ภาพประกอบเยอะหน่อย)
เริ่มจากคุณสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) ที่รู้จักกันในชื่อย่อ สพธอ. หรือ ETDA ในภาษาอังกฤษ การร่างกฎหมายชุดนี้ สพธอ. ถือเป็นแกนหลัก และคุณสุรางคณาในฐานะผู้อำนวยการก็เป็นหัวหน้าทีมร่างกฎหมายทั้งหมด
เอกสารนำเสนอของคุณสุรางคณา แนะนำภาพรวมของกฎหมายดิจิทัลชุดนี้ โดยอธิบายว่าเศรษฐกิจดิจิทัล (digital economy หรือ DE ในสไลด์) มีความสำคัญอย่างไรบ้าง ทั้งในแง่บวกคือการเติบโตเชิงเศรษฐกิจ และในแง่ลบคือภัยคุกคามไซเบอร์สารพัดอย่าง
แนวคิดของร่างกฎหมายชุดเศรษฐกิจดิจิทัลเกิดจากหน่วยงานต่างๆ ในประเทศไทยยังไม่มี "นโยบายระดับชาติ" ด้านดิจิทัลเลย ที่ผ่านมาเป็นต่างคนต่างทำ ไม่ไปในทิศทางเดียวกัน
ดังนั้นกฎหมายจึงตั้งใจเปลี่ยนกระทรวงไอซีทีเป็น "กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม" เพื่อรับบทบาทนี้ และตั้งคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (รายละเอียดในบทความ รู้จัก "คณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ" มหาเทพชุดใหม่ของวงการไอทีไทย) มากำกับดูแลระดับนโยบาย
คุณสุรางคณาย้ำว่ายังไม่ต้องตื่นเต้นไปกับร่างกฎหมายชุดที่ผ่านมติคณะรัฐมนตรี เพราะยังมีกระบวนการทางกฎหมายอีกมาก สามารถแก้ไขได้ในระหว่างทาง (อย่างไรก็ตาม คุณสุรางคณาก็ตอบคำถามในช่วงหลัง ยอมรับว่ารัฐบาลชุดนี้อยู่ไม่นาน และต้องเร่งออกกฎหมายชุดนี้ให้ทันก่อนรัฐบาลหมดอายุ)
ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธาน TDRI ในฐานะวิทยากรร่วมเสวนา ได้ให้ความเห็นแย้งในประเด็นนี้ว่าจากการทำงานกับคณะกรรมการกฤษฎีกาในร่างกฎหมายหลายชุด พบว่าคณะกรรมการกฤษฎีกาจะทำหน้าที่แก้รายละเอียดทางเทคนิคกฎหมายเท่านั้น ไม่ได้แก้หลักใหญ่ใจความของกฎหมายแต่อย่างใด และถ้ารัฐบาลส่งร่างกฎหมายที่ยังไม่ "ตกผลึกทางความคิด" ให้กฤษฎีกาพิจารณา ก็เปรียบเสมือนการอุดรูรั่วในบ้านที่ออกแบบมาไม่ดีตั้งแต่ต้น
การจัดหมวดร่างกฎหมายดิจิทัล ในมุมของ สพธอ. แยกได้เป็น 3 กลุ่มคือ
ในอีกมิติ ร่างกฎหมายเศรษฐกิจดิจิทัลมีด้วยกันทั้งหมด 12 ฉบับ โดยอีก 2 ฉบับที่เพิ่มมา (คอลัมน์ซ้ายสุดในภาพ) ยังมี พ.ร.บ.อำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ.2558 ที่ผ่าน สนช. แล้ว และมีร่าง พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ฉบับใหม่ ที่กำลังอยู่ระหว่างพิจารณาของ สนช. ด้วย
รายละเอียดของกฎหมายกลุ่มที่ 1
รายละเอียดของกฎหมายกลุ่มที่ 2
ส่วนสาเหตุที่ สพธอ. เร่งรัดกฎหมายชุดนี้ คุณสุรางคณาอธิบายว่าตนเองเป็นผู้ผลักดันร่างกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมาเกือบ 20 ปีแล้วยังไม่สำเร็จ รอบนี้เลยใช้วิธี "ทำแบบเงียบๆ" เพื่อไม่ให้มีเสียงคัดค้าน เพื่อที่กฎหมายชุดนี้จะผ่านมติคณะรัฐมนตรีได้โดยเร็ว จากนั้นค่อยมารับฟังความคิดเห็นอีกทีหนึ่ง และออกตัวว่าถ้าทำให้ตื่นตระหนกก็ต้องขออภัยด้วย
รายละเอียดของกฎหมายกลุ่มที่ 3
ตัวแทนจาก Thai Netizen ถามคำถามว่าถ้า ร่าง พ.ร.บ.ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ เน้นความปลอดภัยของระบบ ไม่เกี่ยวกับความมั่นคงทางการทหาร ทำไมจึงมีตัวแทนจากหน่วยงานด้านความมั่นคงมาร่วมเป็นกรรมการหลายตำแหน่ง แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนนัก
ส่วนประเด็นว่าทำไมคณะกรรมการข้อมูลส่วนบุคคล ใช้สำนักงานร่วมกับคณะกรรมการความมั่นคงไซเบอร์ ทั้งที่ภารกิจงานดูไม่เกี่ยวข้องกัน คำตอบของคุณสุรางคณาคือ "ทรัพยากรบุคคลมีจำกัด" เลยต้องแชร์สำนักงานร่วมกัน
ประเด็นต่างๆ ที่ สพธอ. ได้รับเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ความมั่นคงไซเบอร์ ในสไลด์ลิสต์ประเด็นเหล่านี้ แต่ไม่ถูกพูดถึงอย่างละเอียดมากนักในงานสัมมนา
จุดที่น่าสนใจคือคุณสุรางคณายังให้ข้อมูลเรื่องแผนการออกกฎหมายและกฎระเบียบเกี่ยวกับเศรษฐกิจดิจิทัลในระยะยาว ว่ามีทั้งหมด 4 ช่วง ตอนนี้เราอยู่ในช่วงที่ 2 คือร่างกฎหมาย 10 ฉบับ เมื่อทำกฎหมายชุดนี้เสร็จแล้ว ช่วงถัดไปจะทำเรื่องกฎหมายรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ และกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ด้วย
เนื่องจากเป็นงานที่ กสทช. จัด คุณสุรางคณาเลยพูดประเด็นของร่าง พ.ร.บ. กสทช. ฉบับใหม่ด้วย ในประเด็นว่า กสทช. สูญเสียความเป็นอิสระจากร่างกฎหมายฉบับใหม่ คุณสุรางคณายืนยันว่า กสทช. ยังมีอิสระในการทำงาน แค่ต้องทำงานไปในทิศทางเดียวกับนโยบายของคณะกรรมการดิจิทัลแห่งชาติเท่านั้น
ประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับร่างกฎหมาย กสทช. ฉบับใหม่ ซึ่งเป็นแค่การลิสต์ประเด็นที่มีคนพูดถึง แต่ไม่ได้อธิบายคำตอบหรือที่มาที่ไปอย่างละเอียดนัก
ประเด็นอื่นๆ ของร่างกฎหมายชุดนี้
ความเห็นของวิทยากรท่านอื่นๆ จะตามมาในบทความต่อไปครับ
Comments
"เร่งออกกฎหมายชุดนี้ให้ทัน" มีสองประเด็นจะกล่าวคือ ไม่ว่าจะหมดอายุเร็วหรือไม่ก็เร่งครับ ปีนี้ไม่มีเลือกตั้งครับรองนายกฯพูดเอง จึงไม่สามารถสรุปได้ว่า พรบ. มั่งคงไซเบอร์ ไว้วางใจได้เลย เพราะทำก่อนแก้ทีหลังมีบทเรียนแล้วครับมันเป็นการล้มล้างการปกครอง?!?
ควาผิด => ความผิด
ขอบคุณครับ ที่เอาสาระดีๆมาให้พวกเราอ่าน
ผมยังงงอยู่ที่บอกว่า กสทช. ยังเป็นอิสระแต่ต้องอยู่ภายใต้ ndec
ndec คนตั้ง40คน กว่า กสทช. จะได้ทำอะไรทีคาดว่าคงลูกโต
แล้วมันอิสระยังไง...
แถมยังมีเรื่องการขายคลื่นไม่ต้องประมูลก็ได้อีก...
อิสระแบบไทย เสรีภาพแบบไทย
คล้ายกฎหมายจีนเข้าไปเรื่อยๆ เรียกว่าเป็น ประชาธิปไตย อย่างเต็มตัว ประชาธิปไตยประชาชน (ไทย)
ถถถถถถถ ถลอก...
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!