วันนี้เราเปลี่ยนบรรยากาศมารีวิวเครื่องใช้ไฟฟ้ากันบ้างครับ แต่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ธรรมดาเพราะมาจากแบรนด์ระดับโลกอย่าง Dyson ที่มีชื่อเสียงด้านนวัตกรรมและการออกแบบ โดยสินค้าที่ได้มารีวิวคราวนี้ก็แปลกใหม่เพราะมันคือ "พัดลม" ที่ไม่มี "ใบพัด"
ก่อนจะเข้าเรื่องสินค้า ขอใช้โอกาสนี้แนะนำแบรนด์ Dyson ก่อนเผื่อใครไม่รู้จัก
Dyson (อ่านว่า "ไดสัน") เป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าจากอังกฤษ มีชื่อเสียงเรื่องเครื่องดูดฝุ่น บริษัทก่อตั้งโดยนักออกแบบชาวอังกฤษ James Dyson ในปี 1993
James Dyson เป็นนักออกแบบเฟอร์นิเจอร์และตกแต่งภายในมาก่อน เขาจบการศึกษาจาก Royal College of Art ในกรุงลอนดอน จากนั้นหันมาสนใจงานด้านวิศวกรรมควบคู่ไปกับการออกแบบ
ตำนานการเกิดแบรนด์ Dyson เกิดจากปัญหาในชีวิตประจำวัน เมื่อ James พบว่าเครื่องดูดฝุ่นที่ใช้งานอยู่มีปัญหาฝุ่นติดในถุงดักฝุ่น (dust bag) จนอุดตันและทำให้เครื่องดูดฝุ่นใช้งานไม่ได้ (ส่วนหนึ่งมาจากยุทธศาสตร์การขายถุงดักฝุ่นของบริษัทเครื่องดูดฝุ่น) เขาจึงคิดค้นหาวิธีพัฒนา "เครื่องดูดฝุ่นที่ดีกว่าที่เป็นอยู่"
James Dyson ใช้เวลาถึง 5 ปี (1979-1984) พัฒนาเครื่องดูดฝุ่นต้นแบบถึง 5,127 รุ่นกว่าจะบรรลุผล จากนั้นเขาก็เร่ขายสิทธิบัตรการออกแบบ ซึ่งก็ไม่มีบริษัทเครื่องดูดฝุ่นให้ความสนใจมากนัก จนกระทั่งไปเจอบริษัทญี่ปุ่นชื่อ Apex สนใจซื้อสิทธินำไปผลิตเป็นสินค้าในชื่อ G-Force วางขายในปี 1986 และประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม
James นำเงินที่ได้จากค่าขายสิทธิมาตั้งบริษัท Dyson ในปี 1993 และหลังจากนั้นก็เน้นขายเครื่องดูดฝุ่น รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เกี่ยวข้องกับอากาศ เช่น เครื่องดูดฝุ่น พัดลม เครื่องเป่าลมให้มือแห้ง กลายเป็นบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ที่มีรายได้ปีละมากกว่า 6 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 3 แสนล้านบาท)
เกียรติประวัติของ James Dyson ทำให้เขาได้บรรดาศักดิ์เป็นท่านเซอร์ และได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดนักออกแบบชาวอังกฤษคนหนึ่ง (ภายหลังถึงเพิ่ม Jonathan Ive มาอีกคน)
ตัวของ Dyson เคยให้สัมภาษณ์ว่าบริษัทของเขาเป็นผู้นำเทร็นด์สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ตัวถังโปร่งใสก่อนแอปเปิล โดย Jonathan Ive มาซื้อเครื่องดูดฝุ่นโปร่งใสแล้วชอบ และขอให้ Dyson ส่งอีกเครื่องไปให้สตีฟ จ็อบส์ด้วย ซึ่งเขาก็ส่งให้ (แต่ Dyson ก็กล่าวแบบติดตลกว่าคนชอบคิดว่า Dyson ลอกแอปเปิลอยู่ดี)
ผลิตภัณฑ์ของ Dyson ที่ Blognone ได้มารีวิวรอบนี้เป็น "พัดลมไร้ใบพัด" หรือ bladeless fan ที่หลายคนอาจเคยเป็นตามห้าง สถานที่ท่องเที่ยว หรือในภาพยนตร์มาก่อน (ชื่อทางการค้าจริงๆ คือ Dyson Air Multiplier)
พัดลมไร้ใบพัดของ Dyson ชูจุดขายว่าเป็นพัดลมที่ปลอดภัย ไม่ต้องกลัวมือจะโดนใบพัดเหมือนพัดลมทั่วไป ในขณะเดียวกันก็ยังให้ลมแรงและทำงานเงียบ ถือเป็นพัดลมที่รวมจุดเด่นของพัดลมทุกประเภทเอาไว้
หลักการทำงานของพัดลม Dyson ต้องบอกว่าไม่ใช่ไร้ใบพัดซะทีเดียว แต่มันมีใบพัดเล็กๆ ซ่อนอยู่ในฐาน (ที่ออกแบบให้มีเสียงรบกวนน้อยมาก) ดูดลมจากฐานของพัดลมขึ้นมากระจายตามแนวโค้งของพัดลมอีกที
ตรงกรอบวงกลมจะมีช่องเล็กๆ สำหรับเป่าลมออก แต่เท่านั้นยังไม่พอ มันใช้หลักการความกดอากาศที่ไม่เท่ากัน (คล้ายกับการยกปีกเครื่องบิน) เพื่อดึงอากาศบริเวณรอบๆ กรอบวงกลมให้มาเป่าผู้ใช้งานอีกต่อหนึ่ง
อธิบายเป็นข้อความค่อนข้างยาก ดูวิดีโอกันดีกว่าครับ
คลิปที่สองเป็นภาพตัดขวางให้เห็นเส้นทางของลมแบบชัดๆ
อีกคลิปหนึ่งเป็น Sir James Dyson อธิบายหลักการทำงานเอง
จบภาคทฤษฎีแล้วมาดูรีวิวของจริงกันเลยนะครับ พัดลมของ Dyson มีด้วยกันหลายรุ่นตามขนาดเล็กใหญ่ในภาพข้างต้น รุ่นที่เราได้มาคือ Dyson AM08 พัดลมวางพื้นคอยาว รุ่นใหญ่ที่สุดของบริษัทที่มีขายในปัจจุบัน ใช้กรอบวงกลมขนาด 16"
หน้าตาแบบเต็มๆ ก็ประมาณนี้ เผอิญเราไม่ได้ถ่ายรูปเทียบกับพัดลมตั้งพื้นปกติ แต่ขนาดก็ใกล้เคียงกัน
หน้าตาของตัวกรอบวงกลม จะเห็นช่องเล็กๆ สำหรับให้ลมพุ่งออกมาหาเรา
ด้านข้างครับ ไม่มีอะไรเลยจริงๆ เป็นอุปกรณ์ที่เรียบง่ายมาก
ตัวพัดลม AM08 ตอนส่งมาในกล่องมีทั้งหมด 4 ชิ้นคือ กรอบวงกลม คอ ฐานใบพัดพร้อมปลั๊ก และฐานวางชั้นล่างสุด
การประกอบง่ายมากๆ คือเอาแต่ละชิ้นมาเสียบแล้วบิดเล็กน้อยให้ลงล็อก ตามสติ๊กเกอร์ที่แปะมาให้แล้ว เสียบไฟ เท่านั้นจบ
หน้าตาของตัวฐานใบพัดเป็นแบบนี้ เราทำอะไรกับมันไม่ได้เลย ประกอบมาสำเร็จรูปแล้วจากโรงงาน
ตรงฐานล่างสุดมีปุ่มสำหรับเปิด พร้อมแสดงความแรง (1-10) พัดลมของ Dyson มีรีโมทมาให้ด้วย จะเปิดเองที่ฐานก็ได้ เปิดด้วยรีโมทก็ได้
หน้าตาของรีโมทจะ minimal แบบเดียวกับรีโมทของแอปเปิล คือมีปุ่มเปิด ปรับความแรง หันทิศ ตั้งเวลา เท่านั้นจบ
วิธีการเก็บรีโมทสามารถวางบนหัวพัดลมได้เลย มีแม่เหล็กดูดให้พร้อม ตัวรีโมทโค้งเล็กน้อยรับกับกรอบพัดลมอยู่แล้ว (คิดมาให้ดีแล้ว)
จากการใช้งานจริงพบว่ามันก็เป็น "พัดลม" ครับ คือทำหน้าที่พัดลมเข้าหาตัวเรา ตรงนี้ตอบโจทย์ความเป็นพัดลม
ส่วนคุณสมบัติอื่นๆ คือเสียงค่อนข้างเงียบตามราคาคุย แต่ถ้าเปิดเบอร์ 10 แรงสุด เสียงก็ดังเหมือนกัน (เสียงจะคล้ายๆ พวกเครื่องเป่าผมมากกว่าเสียงพัดลม) การสั่งการด้วยรีโมทก็ใช้งานดีไม่มีปัญหาอะไร วิธีการเก็บรีโมทแบบนี้ช่วยให้หารีโมทง่าย ไม่ลืมว่ารีโมทอยู่ที่ไหน
ปัญหาที่พบมีข้อเดียวคือมันเป็นพัดลมเมืองฝรั่ง ทำให้เบอร์ 10 ที่แรงที่สุดยังสู้พัดลมใบพัดแบบดั้งเดิมไม่ได้ ดังนั้นถ้าใครคิดจะซื้อมาเป่าแก้ร้อนเดือนเมษาอาจไม่ค่อยเวิร์คเท่าไร แต่ถ้าเป้าหมายคือซื้อสินค้ามีดีไซน์ มีนวัตกรรม ตั้งโชว์แล้วเท่ พัดลม Dyson ตอบโจทย์แน่นอน
พัดลม Dyson มีตัวแทนจำหน่ายในไทยแล้ว หาซื้อได้ตาม Power Buy หรือ Power Mall รวมถึงห้างสรรพสินค้าทั่วไป รุ่น AM08 ตัวนี้ผมเช็คราคาในไทยขายอยู่ 21,900 บาทครับ
ข้อดี
ข้อเสีย
Comments
ผมเคยหาในพวกตระกูล Power ของเดอะมอลล์กะเซ็นทรัลแล้วไม่มีแฮะ - - มันเอายี่ห้ออื่นมาขายแทน
พวกนี้ความแรงคงหวังอะไรมากไม่ได้หรอกครับ ดีอยู่ 2 อย่างจริงๆ คือ 1.ทำความสะอาดง่าย กะ 2.ไม่อันตรายเพราะไม่มีใบพัดข้างนอก เหมาะกะคนมีลูกตัวเล็กๆ
ทำความสะอาดง่าย ... ผมว่าไม่ง่ายนะ ไช้ๆไปต้องแกะเครื่องออกมางัดฝุ่นข้างในทิ้ง
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
จริงมันง่ายนะครับ ง่ายกว่าพัดลมแบบมีใบพัดเยอะ
สิ่งที่ลำบากที่สุดสำหรับผมคือการล้างตะแกรงพัดลมครับ 555 ถ้าอันนี้ถอดชิ้นส่วนมาเช็ดๆ ขัดๆ ได้ผมไม่มีปัญหาเลยครับ (ใบเหมือนจะไม่มีซอกให้ล้างยาก + ตรงโคมปล่อยลมก็ไม่น่ามีปัญหาถ้าแยกชิ้นกันได้)
ง่ายกว่าพัดลมธรรมดาที่ต้องถอดทั้งตะแกรงและใบพัดมาล้างล่ะครับ อันนี้ดูโครงสร้างโดยรวมแล้วเหมือนฝุ่นจะไปกระจุกตรงรูๆ ดักฝุ่นข้างนอกที่เดียว แกะทำความสะอาดง่ายกว่า
ตอนที่บ้านจะซื้อเครื่องดูดฝุ่นก็ไปดูยี่ห้อนี่เหมือนกัน ออกแบบเท่มาก แต่ราคาทำให้ถอยกลับมาแบรนด์บ้านๆทั่วไป
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
ราคาน่ากลัวมาก
ขนาดหน้าป๋าทิม Apple ยังลอก Dyson มาเลย
/me ตกใจเล็กน้อยถึงปานกลาง
มันต้องประมาณนี้
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
จบที่ราคาเนี่ยหล่ะ ใช้ของเดิมต่อไป
ผมเคยคิดจะซื้อตอนมันวางขายในไทยใหม่ๆ
เจอราคา โปร 16,000 เข้าไป ผมเดินไปซื้อมิตซูทันที
จ่ายไป 2,100 บาท เสียงดังนิดหน่อยผมยอม..
รูปแบบใบพัดด้านในสวยนะ ผมเพิ่มข้อเสียให้อีกข้อ คือฝุ่นเข้าเครื่องแล้วทำความสะอาดยากครับ
ผมกังวลเรื่องเดียวกันเลยครับ ถ้าเอาลมจากข้างล่าง อาจมีแนวโน้มที่จะดูดฝุ่นเข้ามาเยอะด้วย และไม่รู้ว่าจะทำความสะอาดยากมั้ย
แต่ผมรู้สึกว่ามันเท่ห์ดี อีกหน่อยคงมีรุ่นเพิ่มไอน้ำ ดับกลิ่น หรือ เป่าหน้าเด้งเลยทีเดียว
ไม่คงแล้ว ตรับผม เขาจะทำออกมาขายในปีนี้แหล่ะ เป็นแบบฆ่าเชื่อโรคด้วยน้ำ แต่มีไอน้ำหรือเปล่าผมจำไม่ได้ครับ แล้วราคาก็ประมาณ 500 ถึง 600 เหรียญ ครับผม
มาเพิ่มเติม เขาทำเสร็จแล้วแฮะ เว็บของ Dyson อยากเห็นมากกว่านี้ต้องดูของอังกฤษครับ
อยากรู้ว่าลมที่พัดแบบ Breeze ที่ท่าน Sir Dyson บอกมันจะรู้สึกดีกว่าพัดลมธรรมดายังไง พอจะอธิบายได้มั้ยครับ
Review: Dyson Cool AM06 พัดลมตั้งโต๊ะไร้ใบ
สมเป็นเว็บข่าว IT จริงๆ ...
เอ้า IT บริษัทเตรียมซ่อมพัดลมกันได้ #ผิด
เคยไปเพ่งที่ bigc ข้องใจว่าลมมันมาจากไหนเพิ่งเก็ทวันนี้แหละ
เคยดูคลิปที่สองตอนเริ่มวางขายใหม่ๆ ชอบครับ แต่ความแรงมันไม่กระชากผิวหนังเลยจริงๆ
เคยเป็นตามห้าง => เคยเห็นตามห้าง
เคยลองใช้งานของจริง อึ้งที่เขาบอกว่าเสียงเงียบกว่ายุงนี่ล่ะ และเป็นแบบนั้นจริงด้วย มีลมออกมา แต่กลับไม่มีเสียงอะไรเลย
ปล.เห็นใน Ebay ราคาถูกกว่าในไทยมาก มากจนน่าตกใจด้วย...
เคยจะซื้อเครื่องดูดฟุ่นเขาแต่เห็นราคาแล้วรอลดดีกว่า พัดผมผมว่าใช้บ้านเราเสียง่ายแน่นอนเมืองไทยฟุนเยอะ
อยากได้เงียบๆ ลมแรงๆ ต้องพัดลมแนวตั้ง ไม่ก็พัดลมแอร์น่ะ
ลองซื้อมาสามตัวแล้วเอามาวางต่อกันเป็นแถวยาวสิ แรงแน่
เคยเห็นแล้วสนใจอยู่พักนึงเลยไปค้นๆดูว่าทำงานยังไง พอเห็นว่ามีพัดลมตัวเล็กๆอยู่ที่ฐานแล้ว+ราคาแพงแล้วเลิกสนใจไปเลย ราคาขนาดนี้ติดแอร์เลยดีกว่า
อีกอย่างส่วนตัวไม่ชอบยี่ห้อนี้เพราะไปเจอมาว่า Dyson พยายามทำเหมือนตัวเองเป็นต้นคิดแล้วอ้างสิทธิบัตร ไล่ฟ้องยี่ห้ออื่น แต่ที่จริงแล้วโตชิบาเป็นต้นคิดเมื่อปี 1981 แถมสิทธิบัตรก็หมดอายุไปแล้วด้วย
มีของไต้หวันก็ทนดี แต่เปิดสุด เสียงดังอยู่ ถ้าเปิตเบาก็ไม่สะใจ
คุ้นๆ ว่ายุคนึงพี่จีนแดงทำขายราคาไม่ถึงพันวางเกลื่อนตามห้างทั่วไป (มีแบบทำเป็นรูปหัวใจด้วย) หลังจากนั้นก็หายเห่อขายไม่ออก เพราะอากาศร้อนแบบบ้านเราใช้พัดลมปรกติมันพัดได้เย็นสะใจกว่า
ตัวที่บ้านไม่เงียบเลยแฮะ
เห็นขายที่พารากอนค้าบ
เคยดูคลิป ถอดชิ้นส่วนมาเทส สรุปมันเสียพลังงาน พัดลมตัวมันเองเป่าตรงๆ ได้แรงกว่า ได้สวยกับปลอดภัยฮะยอมรับ
Ton-Or
การทำงานของมันก็รูปแบบเดียวกับเครื่องเป่าผมอ่ะครับ ส่วนเรื่อง "เคยดูคลิป ถอดชิ้นส่วนมาเทส สรุปมันเสียพลังงาน" มันแรงลมไม่เท่ากันนะครับแต่ละเจ้าที่ถูกๆลมโครตเบาผมโดนมาแระ จะลมแรงหน่อยก็ของญี่ปุ่น
ผมก็ไม่รู้นะทำไมเขาไม่ออกแบบให้มีส่วนช่วยให้ลมแรงกว่านี้เช่นออกแบบตรงส่วนอุโมงด้านบนให้มันยาวขึ้น ผมนึกถึงหลักแรงลมของถ้ำที่มีทางเข้าทางออกอยู่ตรงข้ามกัน 2 ฝั่งพอดีหน่ะที่เป็แนวตรงๆ ถ้ามีลมแรงๆพัดเข้ามา แลเวใครอยู่ข้างในเจอแรงอัดของลมน่าจะตายได้เลยนะครับ
ไม่อยากบอกว่า น้องชายซื้อมาฝากจากจีนเมื่อ 2 ปีที่แล้ว
ราคาสามพันครับ
เพิ่วงรู้วันนี้ว่าก็อปมานี่เอง แต่ใช้มาสองปีก็ยังใช้ได้ดีอยู่เลย
แสดงว่าจีนก็ก็อปมาใช้ได้แฮะ
ผมคิดว่ามันแปลกเฉยๆ ไม่น่าจะ Work ในการใช้งาน
1. ถ้าฝุ่นเข้าระบบท่อลมและใบพัด มันอาจเป็นแหล่งเชื้อโรคได้เลย
2. การดูแลรักษา ทำความสะอาด อะไหล่
3. ผมเข้าใจว่าพัดลมแบบนี้จะได้ลมน้อยกว่าพลังงานที่เสียไป เมื่อเทียบกับพัดลมปกติ
เพราะมันมีการบิดตัวของทิศทางลม และมีระยะทางของท่อลมภายเครื่องซึ่งในพัดลมปกติแทบไม่มี
ผมเก็บตังค์อีกนิดซื้อ Air Inverter ก็น่าสนใจนะ มันเงียบด้วยนะ
ของมันไม่ได้ออกแบบมาเผื่อประเทศเมืองร้อนที่ฝุ่นเยอะๆ ไงครับ ผมเห็นดูดลมเข้าเครื่องก็เพลียละครับ ทุกวันนี้ต้องมาคอยดูดฝุ่นจาก filter แอร์ เครื่องฟอกอากาศก็เบื่อละ พัดลมแบบบ้านเราเหมาะกับบ้านเราสุดแล้ว ได้ลมแรง ไม่มีปัญหาเรื่องฝุ่นหมักหมม ถอดออกมาล้างก็ไม่เห็นลำบากตรงไหน 555
แต่ว่านะประเทศเราไม่ได้ทำอะไรแบบนี้เลย เน้นทำแต่กดราคาต้นทุนให้ต่ำ น่าอนาถใจชิบ
ช่างก็เคยบอกผมนะว่าพัดลมถูกๆใช้ลวดทองแดงชุบน้ำยาวานิชแบบกากๆ ใช้ไปไม่นานก็หมุนช้าหรือไหม้ไปเลย แกจับมาชุบวานิชเองอีกทีใช้ทนทานเป็นสิบๆปีไม่มีปัญหา
พัดลมหน้าบ้านผมอายุสามสิบปียังไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องหมุน แต่พัดลมรุ่นใหม่ๆ นี่ประจำเลยครับ -*- ใช้ๆ ไปก็เบา สักพักก็น็อค
เคยไปนั่งกินร้านอาหารอยู่ แอร์ไม่เปิด เปิดแต่พัดลมตัวนี้ รู้สึกได้เลย ว่ามีสายลมบางๆ ผ่าน แต่ไม่ได้ช่วยคลายร้อนเลย แถมยุงยังมาตอมเต็มๆ TT
อัตราการกินไฟ สู้พัดลมแบบปกติได้ไหม ผมว่าน่าจะกินมากกว่าเยอะเลย เพราะต้องได้รอบสูงกว่าจะได้ลมพอที่จะพุ่งถึงเรา
Texion Business Solutions
เอามาติดหัวพ่นละอองน้ำ
ลมไม่(ค่อย)ได้ แต่เท่...ครับ
แพงกว่าแอร์อีก