ตัวเลขล่าสุดจากสถาบันวิเคราะห์ข้อมูลให้แก่นักลงทุน Canaccord Genuity เผยว่าแอปเปิลมีส่วนแบ่งกำไรของตลาดมือถือทั้งหมดที่ 93% และได้บอกอีกว่ามีความเป็นไปได้ที่ตัวเลขผู้ใช้ไอโฟนจะสูงขึ้นถึง 650 ล้านคนภายในปี 2018
ข้อมูลที่มาได้ระบุว่าแอปเปิลมีส่วนแบ่งกำไรของตลาดมือถือในไตรมาสที่แล้ว 93% ส่วนซัมซุงมีส่วนแบ่งกำไรอยู่ที่ 9% ในส่วนของผู้ผลิตรายอื่นที่อยู่ในกลุ่มสำรวจ ได้แก่ BlackBerry, Lenovo, โซนี่, LG และ HTC มีส่วนแบ่งกำไร 0% (คือไม่ได้ทำกำไรและไม่ได้ขาดทุน) ส่วนไมโครซอฟท์มีส่วนแบ่งกำไรติดลบ 2% (เพราะขาดทุน)
ทั้งนี้ทาง Canaccord Genuity ยังได้ระบุอีกว่า iPhone 6 น่าจะขายดีต่อไปซักระยะ เนื่องจากจากฐานจำนวนผู้ใช้ไอโฟนทั้งหมด 404 ล้านเครื่องตอนนี้ มีเพียงแค่ 15% เท่านั้นที่ได้อัพเกรดมาใช้ iPhone 6 นอกจากนี้เชื่อว่าแอปเปิลน่าจะแย่งส่วนแบ่งจากมือถือ Android รุ่น Tier สูง ๆ ได้เนื่องจากไอโฟนมีจอภาพที่ใหญ่ขึ้น โดยภายในสิ้นปีนี้แอปเปิลน่าจะมีฐานจำนวนผู้ใช้ไอโฟนอยู่ที่ 487 ล้านเครื่อง
ที่มา - Barron’s ผ่านทาง MacRumors
ชี้แจง: รายงานจากแหล่งที่มาดังกล่าวไม่ได้รวมกำไรของผู้ผลิตมือถือ Android หน้าใหม่ แต่นับเฉพาะแบรนด์ที่ได้ระบุไว้ในเนื้อหาเท่านั้น
Comments
แถมปีนี้จะกลับมาออกจอ 4" อีก สำหรับสาวกที่ชอบไซส์จอเล็กแบบเดิม
ปล.แล้วแบบนี้สาวกจะไปไหนเสีย
อยากรู้ว่าวัดยังไง แล้วพวก 0%มันเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ ผมคุ้นๆว่า LG ได้กำไรอยู่นะ
SS จ่ายค่าการตลาดซะหมด ละครไทยทุกช่องถือปะติกก๊อปแก๊บยันคนใช้
หนังค่าย GTH ก็เริ่มใช้ SS กันแล้ว
ตัวเลขน่ากลัวจริงๆ ครับ เป็นแบบนี้ไปอีกหลายๆ ปีคงไม่ดีแน่ ชักอยากจะเห็นตัวเลขตอนรวมแบรนด์เกิดใหม่เข้าไปแล้วจริงๆ
แหม่ อุตส่าห์ทำมีมกันเลย
เจ้าของวลีนี้ คงนอนเสียวฟันปวดกรามอย่างไร้สาเหตุ
กำลังจะพิมพ์ดักพอดี
ขออนุญาติ ขรรม ครับ
แล้วเค้าจะขายกันไปทำเพื่อ
มันเป็นแนวการทำธุรกิจเอาเงินเชื่อมาแปลงเป็นเงินสดอยู่ครับ บริษัทผมโดนมาแล้ว คู่แข่งมันไปซื้อเชื่อจากผู้ผลิต แต่ขายเงินสดต่ำกว่าราคาทุน เพื่อเอาเงินสดเนี่ยแหล่ะ ถึงดูจะเป็นการฆ่าตัวตายแปลกๆ แต่ก็มีคนทำจริงๆ แล้วผลกระทบคือผู้ค้าเจ้าอื่นเขาลดราคาต่ำกว่าทุนไม่ได้ก็ขายไม่ออก รายได้ก็ไม่เข้า ก็ต้อง ทน อม เลือดกันไป ซึ่งจริงๆในกรณีนี้คนทำเขาแค่หวังจะได้เงินสดครับ ไม่ได้สนใจจะทำให้เจ้าอื่นตายเพี่ยงแต่มันเป็นผลกระทบ ธุรกิจเบื้องหลังมันดำมืดครับ ลูกค้าเห็นแค่เบื้องหน้า
แล้วบางทีก็มีเทคนิคเพื่อเป้าหมายบางอย่าง อาศัยทุนเยอะๆ โดยขายของไม่เอากำไรหรือยอมขาดทุนไปสักพักก่อนประมาณนี้ครับ รูปแบบในข่าวนี้เขาก็ใช้วิธีแนวๆนี้แหล่ะ แต่พลิกแพลงหน่อย
มองโลกในแง่ดีคือเค้าอาจจะยังไม่ถึงจุดคุ้มทุนก็ได้ครับ
เอาแบบเข้าใจง่ายคือ อยู่เฉยๆ แล้วขาดทุนครับ เลยขายเพื่อให้เท่าทุน
May the Force Close be with you. || @nuttyi
Note 4 S5 ราคาก็ไม่ใช่ถูกๆนะ หลัก 2 ทั้งนั้น ยอดขายก็หลักสิบล้านอัพเหมือนกัน ไหงมันน้อยขนาดนั้น เงินไปไหนหมด
น่าจะไปตกหนักที่ค่าการตลาดครับ นี่ถ้ารวมพวกเสี่ยวมี่เข้าไปด้วย % คงดูไม่จืดยิ่งกว่านี้จริงๆ
กำไรต่อหน่วยครับ มันเทียบกันไม่ได้เลยน่ะสิ อีกฝ่ายนี่แทบกำไรเท่าตัวของทุน
ได่แก่ => ได้แก่
สวัสดีครับ คิดถึงจัง เดี๋ยวจะไปแก้ไขครับ
@TonsTweetings
มองในแง่ผู้ใช้
ลดราคาบ้างก็ดีนะครัช
+1 ยิ่งรุ่นใหม่ ยิ่งแพงขึ้นไปอีก
นี่มันบ้าที่สุด !!!
ผู้ที่กินกำไรฝั่งแอนดรอยด์ของแท้อย่างอิ่มแปล้พุงกางจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Google
ปล. คาดว่าเดี๋ยวจะมีคอมเม้นท์ทำนองเสป็กง่อยกินกำไรเกินควรหลอกเอาตังสาวกตามมา
แค่ความจริงตรง "กำไรเท่าตัวของทุน" ก็พอแล้วครับ
เพราะมันเป็นเหตุผลที่ตรงสุดของข่าวนี้
ลดราคาหน่อย นี่เสียงจากสาวก
ได้ข่าว iOS 9 เขียนใหม่หมด เพิ่ม Perfocrmance คืนพื้นที่ให้ประชาชน
นี่เวิร์คมากๆ ทำให้ iPhone เก่าๆอยู่ไปได้อีกหน่อย ไม่ต้องล่องแพ . .
รออยู่นะครัช
ซื้อตัวล่าสุดเถอะ จะได้ใช้ได้เต็มประสิทธิภาพ #ทิมคุกไม่ได้กล่าว
แหงสิครับ ยอดขายอันดับสอง (อันดับแรกเน้นขายแต่สินค้าราคาต่ำ)
กำไรมากกว่าคู่แข่งที่ใกล้ที่สุด3-4เท่าได้ เห็ฯว่ากำไรต่ำสุดนี่ 45%ของราคาขายเลยทีเดียวไม่ใช่หรือครับ?
แถมปีก่อน ราคาสินค้าที่ขายได้ก็ดันเพิ่มซะอีก
นี่ยังไม่นับว่าไม่เอากลับมาเสียภาษีในบ้าน เก็บไว้ในพื้นที่เสียภาษีน้อย /ปลอดภาษีอีกนะครับ
รวยขิงๆครับ รวยขิงๆ
สักวันถ้าเห็นว่า "แอปเปิ้ลมีมูลค่ามากกว่าบริษัททั้งโลกรวมกัน"คงไม่แปลกแล้ว
เป็นคนนึงที่จะไม่ขอไปมีส่วนร่วมในกำไรตรงนี้เด็ดขาด
ขืนปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ตลาดพังหมดพอดี ให้เจ้าเดียวยึดครองขณะที่เจ้าอื่นล้มหมดคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ ให้อิทธิพลมากเกินไปกับบริษัทนึงมันมีความเสี่ยง ขอเป็นส่วนเล็กๆ ส่วนนึงที่ไม่ทำให้สถานการณ์มันแย่ไปกว่านี้แล้วกัน
จริงๆ สินค้าบริษัทอื่นๆ มันก็ดีทัดเทียมไม่ต่างกันแล้ว มันพัฒนามาในจุดที่ใช้งานได้ไม่ต่างกัน ผมก็ไม่รู้ว่าจะ me too ตามคนอื่นไปทำไม
แต่เขากำลังจะล่มสลายนะครับ และส่วนแบ่งก็น่าจะตกลงไปเรื่อยๆ
@TonsTweetings
555 ฮาจริงๆ ครับ
ไม่พังหรอกครับเพราะ Android ครองส่วนแบ่งการตลาดตั้ง 80 กว่าเปอร์เซนต์เลยนะครับ อีกอย่างคนใช้ Android ส่วนมากก็ซื้อ iOS ไม่ได้อยู่แล้วด้วย(พูดจริงไม่ต้องอ้างอิงอะไร) Android ถึงผู้ผลิตจะล้มลงไปก็มีเจ้าใหม่ขึ้นมาอยู่ดี เพราะใครก็เอาไปใช้ได้ อย่าไปดูว่าผู้ผลิตอยู่ได้ไม่ได้เลย ดูว่า OS จะตายหรือเปล่าดีกว่าครับ นั่นคือปัญหาใหญ่
การตลาดแบบสาวกและอีโคซิสเต็มนี่ดีจริงๆ ทำยังไงจะทำได้แบบจ๊อบบ้างนะ
ผมเคยดูงบการเงินของแอปเปิ้ล รายรับไม่ได้มากมาย แต่มีกำไรต่อรายรับที่ราวๆ 40% สูงปรี๊ดจนน่าตกใจ ซึ่งหมายความว่าถ้าขายไอโฟนราคา 100 บาท เป็นกำไรเพียวๆ 40 บาท
ต้นทุนทุกอย่าง(การตลาด ขนส่ง จ้างพนักงาน วัสดุ การคิดค้น การผลิต บลาๆ) 60 บาท
ยังไม่เคยเห็นสินค้าไหนที่ลูกค้าเต็มใจซื้อไม่ว่าราคาจะแพงขนาดไหนก็ตามแบบสินค้าตัวนี้เลย ผมว่าตั้งราคาเริ่มต้นที่ 30k ก็ยังมีคนซื้อถล่มทลายอยู่ดี
อีโคซิสเต็มนี่เป็นไปได้ครับ แต่การตลาดแบบสาวกผมว่ามันเชยไปแล้วนะ จะมีก็แต่คนเก่าๆที่มองว่ามีแต่สาวกที่ซื้อ
มันก็มีอีกกลุ่มที่เขาซื้อเพราะ ดูแลลูกค้าดีนะครับ แต่ไม่รวม iPhone นะ เหอๆ
ผมว่าแทนที่จะคิดแบบนั้นควรเปลี่ยนมุมมองใหม่เป็น ทำยังไงถึงจะทำสินค้าให้ออกมาได้สุดยอดดูตั้งใจทำ โฟกัสในส่วนที่สำคัญทำให้มันใช้งานได้ดีใช้งานได้จริง เรื่องรายได้และ Brand loyalty มันเป็นผลพลอยได้ที่ตามมาทีหลังเสียมากกว่า ซึ่งตรงนี้ผมว่ามันคือจุดเริ่มต้นของผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่นะครับ (ถึงแม้พักหลังๆ ไอ้ความรู้สึกนั้นมันจะไม่ทรงพลังเท่าแต่ก่อนก็ตามทีเถอะ)
ซัมซุงเขามีเงินขนาดนั้น ยังโดนด่าว่าสินค้าไม่ดีเลย มันเป็นโจทย์ที่ยากมากเลย ที่จะทำยังไงให้สุดยอดในราคาถูก
เพราะของดีแต่ขายแพงก็ขายไม่ออกอ่ะ โดนแบรนด์จีนราคาถูกกินหมด ถ้าแบรนด์ยังไม่ดังติดลมบนแบบแอปเปิ้ลอ่ะ T_T
เรื่องเงินทุนก็ส่วนหนึ่งครับแต่ไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการสื่อ ซัมซุงก็มีของที่ถือว่าเป็นจุดขายคนยอมรับอยู่เหมือนกันนะครับ ตระกูล Note ไง ดูมีความตั้งใจดี ที่พลาดก็เรื่องการใช้กลยุทธิ์ทำตลาดที่คนอื่นสามารถลอกเลียนแบบได้ง่าย(เน้นราคา เน้นเสป็ค อัดฟีเจอร์ที่ดูเหมือนทำแบบขอไปที) อย่างที่ผมเคยคาดการณ์ไว้ โดยเฉพาะความมั่นใจผิดๆ ในเรื่องดีไซน์ในตระกูล Galaxy ในการทำสินค้าออกมาหน้าตาพิมพ์เดียวกัน
จอใหญ่ มาทีหลังดังกว่าจริงๆ แฮะ
ตรงๆเลยคือ มันไม่ใช่เรื่องดีที่ มีอยุ่เจ้าเดียว ที่ครองตลาดกินกำไรเยอะขนาดนี้
ควรจะมีคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อ เพื่อให้ได้พัฒนาอยุ่ตลอดเวลาทั้งคู่ (ซัมซุงเกือบทำได้ ตกม้าตายเรื่องคุณภาพ)
สุดท้ายสาวกไอโฟนเองจะเป็นฝ่ายซวย เพราะ ไม่มีบริษัทไหนดีพอที่จะมาต่อกร ไอโฟนรุ่นใหม่ๆก็กั๊กสเปคไปเรื่อยๆ inno น้อยลง เพราะยังไงก็ขายได้
เขาผูกขาดตั้งแต่ iOS แล้วอ่ะครับ ถ้าจะกลัวคุณควรจะกลัว google ดีกว่าเพราะรายได้ google มั่นคงกว่าเยอะถึงจะขึ้นช้าแต่เวลาลดก็ไม่เร็วแน่นอนดูธุรกิจที่เขาทำดีๆสิ แต่ ของ Apple ถ้าพลาดเมื่อใหร่รายได้หดทันทีเลยนะครับ
ก็ถ้าถึงเวลานั้นก็ย้ายไปซื้อ Android ที่สเปคเทพราคาถูกแทนสิครับ งงว่าสาวกจะซวยทำไม?
คือแทนที่จะได้สเปคที่สมราคาเหมือนตอนมีเจ้าอื่นกดดันก็ไม่ได้ แล้วสาวกส่วนใหญ่ก็จมไม่ลง ถ้าไม่มีตราผลไม้แหว่งแล้วอวดชาวบ้านไม่ได้ก็ต้องก้มหน้าซื้อต่อไป (แต่ความจริงอาจจะไม่รู้สึกก็ได้เพราะไม่รู้ว่าโดนเอาเปรียบอยู่ Ignorance is bliss) จะมีส่วนน้อยที่มีความรู้ (และเชียร์จนตลาดพัง) ก็จะย้ายไปใช้ Android สเปคเทพราคาถูกอย่างที่ท่านว่า แล้วก็จะพบว่าเพราะบริษัทใหญ่ตายหมดต้องซื้อกับบริษัทเล็ก ๆ เค้าก็ใช้วิธีตีหัวเข้าบ้านไม่ดูแลเท่าไหร่ ต้องย้ายกลับมาเสียตังให้กับค่ายกั๊กอีก
สรุป ไม่เพียงสาวกที่ซวย ซวยทุกฝ่ายครับ
ปล. ที่เขียนมาทั้งหมดเป็นการมโนด้วยความกลัวว่าจะเกิดการผูกขาดตลาดมือถือฉลาดครับ ความน่ากลัวของการผูกขาดคือถ้ามันเกิดขึ้นไม่รู้ว่าอีกกี่ปีจึงจะมีคู่แข่งที่ทัดเทียมคนใหม่ แล้วเราจะได้ new Microsoft ที่ผูกขาดมากว่าสามสิบปีสี่สิบปีจนมี Android กับ iOS นี้แหละที่มาสั่นคลอนบัลลังก์
ถ้าซวยทุกฝ่ายผมเข้าใจครับ แต่ที่บอกว่าสาวกจะซวยเองนี่ผมไม่เข้าใจครับ คิดว่าคำว่า สาวก=ไร้สมองกันหรือครับ?
สาวกไม่ใช่ไร้สมองครับ แต่รักมากไปจนไม่สนใจที่จะมโนอนาคตว่าที่บริษัทที่คุณรักอาจจะหักหลังคุณได้ แถมด้วยลูกค้าตามแฟชั่นของ Apple เองก็ไม่แคร์อะไร ถ้าสาวกไม่รักษาผลประโยชน์ตัวเองก็ต้องซวยกันไปทั้งหมด
ผมอยากให้ตลาดมันยังอยู่ในสภาพไม่มีผู้ชนะและฟัดฟันกันอย่างนี้ต่อไปเรื่อย ๆ เพราะลูกค้าอย่างเราท่านได้ประโยชน์สูงสุดครับ
ผมคิดว่าคนที่มีเงินซื้อของในแต่ละชิ้นเค้ามีความคิดของเค้าเองครับ คุณค่าในแต่ละอย่างแต่ละคนให้ไม่เท่ากันหรอกครับ
ปากกาด้ามละหมื่นยังมีคนซื้อ ปากกาด้ามละสามบาทก็มีคนซื้อครับ
สนับสนุนความคิดนี้ครับ จริงๆมันก็ไม่ได้หาคำตอบยากอะไร มันอยู่รอบตัวอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น ของกิน ของใช้ จริงๆมันทดแทนกันได้แล้ว เหตุใดต้องซื้อของพี่แพงกว่าทั้งที่ใช้ได้เหมือนๆกัน ดูของใช้แต่ละคนรอบๆตัวเอาครับ บางคนชอบความแตกต่าง บางคนชอบรูปลักษณ์ บางคนชอบฟังก์ชั่นที่ถูกใจ และอื่นๆอีกมากมาย บังเอิญแค่ว่า Apple มันเด่นไปหน่อย ทั้งที่จริงๆแล้วสิ่งของอื่นๆก็เป็น ทั้งรถยนต์ที่แพงกว่าบ้าน กระเป๋าหลุยส์ ภาพวาดศิลปะ(อันนี้จิตวิญญานผมเข้าไม่ถึงจริงๆ) ลองดูราคาพวกนี้สิครับ อย่างผมก็บ้าหม้อข้าวหม้อแกงลิง กับ บอนไซ
ตอบคุณ errin ครับ ถูกต้องครับคุณค่าของแต่ละอย่างแต่ละคนไม่เท่ากัน ถูกต้องครับถ้าเก็บไว้แค่กับตัวเองครับ แต่พอรู้สึกว่าคุณค่าเยอะมากกว่าคนอื่นแล้วก็พยายามไปลดคุณค่าคนอื่นเพื่อให้ตัวเองสูงส่งยิ่งขึ้นนี้ไม่ดีครับ ผมไม่ได้เหมารวมว่าสาวกทุกคนเป็นอย่างนั้น แต่ความเห็นส่วนใหญ่ที่เป็นสาวกจะไปทางนั้นครับ ผมก็เลยอยากบอกว่ารู้มั้ยว่ามันเป็นหนทางแห่งการล่มสลาย ไม่ใช่ของ Apple ครับ เป็นของลูกค้า Apple ต่างหาก ที่ซื้อสินค้า Apple แล้วได้สินค้า new Microsoft แทน
ย้ำว่าไม่อยากให้เกิดการแพ้ชนะ ยิ่งฟัดฟันกันเทคโนโลยียิ่งเดินหน้าเร็ว ผู้บริโภคกำไรครับ
Android นั้น Google เป็นผู้สร้างมาครับไม่ต้องกลัวมันตาย ถ้าวิกฤติจริงๆ Google ก็มาอุ้มอยู่ดีเพราะเป็นรายได้เขาด้วย แต่ตอนนี้เขาไม่จำเป็นต้องออกตัวมาก เนื่องจากค่ายผู้ผลิตยังมาเรื่อยๆ
อ่านไม่เคลียร์ป่าว ที่ว่าซวยก็คือแทนที่ไอโฟนใหม่ๆจะมีอะไรแจ่มๆมากขึ้น ก็มีน้อยลง ไงครับ เพราะคู่แข่งไม่เก่งพอที่จะมาแย่งตลาด แอปเปิ้ลเลยไม่ต้องดิ้นรนใส่สเปค ใส่นวัตกรรม มากนัก
ผมเป็นก็สาวกนะ เบื่อเรื่องนี้มานาน ก็แค่นั้น
ต่อให้เป็น Apple ที่ชอบอวดตัวเลขก็คงกล้าพูดเลขนี้แค่กับผู้ถือหุ้น ไม่มานั่งอวดให้ลูกค้ารู้สึกว่าตัวเองโดนฟัน margin กระจายหรอกครับ
ดังนั้นเขาคงไม่เอายอดกำไรตัวเองเทียบกับตลาดไปเป็น factor เดียวในการตัดสินใจทำผลิตภัณฑ์ใหม่หรอกครับ ยังไงตัวเลขที่อิงฝั่งผู้ใช้ก็น่าอวดกว่าเยอะ
แต่ Apple เขาก็ทำของคุณภาพดีจริงๆ นะ ผมยังใช้ไอแผดสองได้ดีอยู่เลย
แต่ของ Apple ดีจริงๆนะ
Ipad 2 ผมยังใช้ได้ดีถึงทุกวันนี้ ไม่เคยเสีย ไม่เคยซ่อม ยังใช้ได้ดีอยู่เลย แถมยังได้อัพ iOS ใหม่ๆอยู่
ส่วน Galaxy SIII ที่ซื้อมาทีหลัง ตอนนี้เป็นวุ้นไปแล้ว -_-"
ดารา,ศิลปินนักร้อง,นักกีฬาที่ผมรู้จักชื่อ ใช้แต่ iPhone (มีคนดังคนไหนใช้ของซัมซุงบ้าง)
ดังนั้นเวลาเราใช้ผลิตภัณฑ์ของแอปเปิ้ลจะรู้สึกถึงความไฮโซทันที รู้สึกเหมือนได้ขับรถปอเช่ยังไงยั่งงั้น
ผมคิดไปเอง :P
ทำไมใครๆ มองว่าแอปเปิลคือสินค้าผูกขาด ทั้งๆที่สมาร์ตโฟนไม่ได้มีแบรนด์เดียว ทางเลือกเยอะแยะ
และทำไมมองว่าคนใช้ไอโฟนมีไว้เพื่ออวดทั้งที่แฟลกชิปยี่ห้ออื่นราคาก็ไม่ต่างกัน
ผมก็ยอมรับนะว่าไอโฟนมันแพงมาก แต่ในเมื่อมันขายดีจนยอดขายถล่มทลายแบบนี้ จะให้เค้าลดราคา เพื่อให้ตัวเองกำไรลดลงทำไมหล่ะครับ