ทิม คุก ขึ้นพูดสุนทรพจน์ในงาน "White House Summit on Cybersecurity and Consumer Protection" (ที่ซีอีโอบริษัทอื่นหลายบริษัทไม่ยอมไป) สุนทรพจน์ของทิม คุก เน้นยำถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนตัว
สุนทรพจน์ของเขาระบุว่า บริษัทจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีที่ดีที่สุดเพื่อรักษาทั้งความมั่นคงปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของลูกค้า การไม่สนใจความเป็นส่วนตัวสร้างผลกระทบที่เป็นหายนะได้ เพราะคนจำนวนมากไม่ได้รับการปฎิบัติอย่างเท่าเทียม ไม่สามารถเลือกนับถือศาสนา ไม่สามารถแสดงความคิดเห็น หรือไม่สามารถเลือกรักคนที่ต้องการได้ ข้อมูลเหล่านี้ตัดสินความเป็นความตายของคนได้ หากบริษัทล้มเหลวที่จะรักษาความเป็นส่วนตัว ความเสียหายไม่ใช่แค่เงินที่บริษัทจะได้รับ แต่เป็นวิถีชีวิตที่จะเสียไป
เขาแสดงความมั่นใจว่าเทคโนโลยีให้ทางออกสำหรับการรักษาความเป็นส่วนตัวได้
ทิม คุกยกตัวอย่างบริการ Apple Pay ที่แอปเปิลทำทุกอย่างเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของลูกค้า เขายืนยันว่าแอปเปิลไม่เก็บข้อมูลบนบัตรเอาไว้ในเซิร์ฟเวอร์หรือแม้แต่ตัวโทรศัพท์ รายการซื้อขายเองก็ไม่ได้อยู่บนเซิร์ฟเวอร์แอปเปิล แต่อยู่กับร้านค้าและธนาคารออกบัตรเท่านั้น นอกจากนี้ Apple Pay ยังช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวของลูกค้าด้วยการสร้างเลขโทเค็นสำหรับการจ่ายเงินแต่ละครั้งแทนที่จะให้ข้อมูลหน้าบัตรเพื่อจ่ายเงิน
ในสุนทรพจน์เขาย้ำหลายครั้งว่าความเป็นส่วนตัว และความมั่นคงปลอดภัยของระบบต้องไปด้วยกัน
ผมเห็นที่เดียวในโลกที่รู้สึกว่าต้อง "แลกเปลี่ยน" ระหว่างความเป็นส่วนตัวและความมั่นคงปลอดภัย ก็มีสพธอ. ประเทศไทยนี่ล่ะครับ ที่ย้ำทุกวันว่าต้องหาความสมดุลระหว่างทั้งสองเรื่อง
Comments
เป็นเสียงที่พัน....ไม่ได้ยิน:P
เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยครับ
แต่คนรอบตัวผมกลับไม่ค่อยใส่ใจกัน ดูอย่างง่ายๆก็คือเฟซบุ๊คนี่เอง
เดี๋ยวนี้บริการอะไรก็จะให้เชื่อมต่อกับเฟซบุ๊คทั้งหมด หรือกรอกข้อมูลก่อนถึงจะเข้าถึงเนื้อหานั้นๆได้
มองด้านหนึ่งคือสะดวก แต่อีกด้านคือ บางบริการขอข้อมูลเยอะมากจนเกินไป
หรือที่น่ากลัวกว่าคือพี่กูเกิ้ล ที่เวลาไปค้นหาอะไรซักยอ่าง คราวนี้โฆษณาด้านนี้มารัวๆให้เห็นตลอดเลย
แต่อย่างของ โฆษณาของ Google นี่นานาจิตตังนะ ส่วนตัวผมกลับชอบเพราะมีข้อมูลในการตัดสินใจเลือกซื้อสะดวกดี ...
ไม่ได้ทำผิดแล้วจะต้องกลัวอะไรหละ
กลัวคนที่ตัดสินผิดถูกครับ
หลายๆ ครั้ง คนที่ไม่ได้ทำผิด แต่อยู่ๆก็มีความผิดเข้ามาเฉยเลย หันหน้าไปหาใครก็ช่วยไม่ได้ หลักฐานแน่น ทั้งๆที่ไม่ได้ทำ (ผลรู้ว่าคุณมุข)
"เพราะคนจำนวนมากไม่ได้รับการปฎิบัติอย่างเท่าเทียม ไม่สามารถเลือกนับถือศาสนา ไม่สามารถแสดงความคิดเห็น หรือไม่สามารถเลือกรักคนที่ต้องการได้" เดี๋ยวนะ ประโยชน์หลังนี้ชัดเลย
ชัดอะไรล่ะครับ เขาก็ประกาศตั้งนานแล้วว่าเขาเป็น - -"
เขาเองก็พูดตอนที่ยอมรับว่าเป็นเกย์เอาไว้ว่า เขาหวังให้สิ่งที่เขาเป็นและสิ่งที่เขาทำ (คือการที่ออกมายอมรับครั้งนั้น) จะเป็นกำลังใจให้คนอื่นๆต่อไป
ผมว่าหลังจากนี้เขาไม่ได้ออกมาเรียกร้องเรื่องพวกนี้เพื่อตัวเองแล้วครับ (ก็เปิดเผยไปแล้ว) แต่เพื่อสังคมในภาพรวมมากกว่า (เพราะยังมีผู้คนในอีกหลายสังคมที่ไม่สามารถออกมาเปิดเผยตัวตนได้แบบเขา)
.....
คุณ hydrojen เค้าหมายถึงว่า ชัดเจน ประเทศไทยหรือเปล่าครับ
.....
ไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกับรสนิยมทางเพศของทิม คุก...
ตอนแรกผมคิดแบบนี้ครับ แต่บริบทเรื่อง "ศาสนา" ทำให้ผมตัดออกไป (ไทยไม่มีปัญหาเรื่องสิทธิในการนับถือศาสนา) เลยคิดว่าสิ่งที่ทิม คุกพูดเอามาเทียบกับสถานการณ์ในไทยไม่ได้ หรือถ้าจะพยายามเอามาเทียบกันก็รู้สึกว่าไม่ค่อยจะยุติธรรมเท่าไร
(ถ้าจะเทียบกับประเทศไทย พิมพ์ว่า "ประโยคสุดท้ายนั้นฟังดูคุ้นๆนะครับ" หรือ "ประโยคสุดท้ายฟังดูคล้ายๆประเทศแถวนี้นะ" น่าจะสื่อความมากกว่าด้วยซ้ำ)
เพราะฉะนั้น จนถึงตอนนี้ผมก็ยังเข้าใจว่าสิ่งที่คุณ hydrojen สื่อคือแบบเดิมครับ
แต่อย่างไรก็ดี ถ้าผมเข้าใจผิดก็ต้องขออภัยคุณ hydrojen จริงๆครับ และขอบคุณคุณ pepporony ที่ช่วยแก้ให้ครับ...
ผมอ่านข้อความของคุณ hydrojen แล้วก็คิดแบบคุณ 12ans นะครับ ประโยคหลัง "ไม่สามารถเลือกคนที่ต้องการได้" มันให้ความรู้สึกถึงความรักของเพศที่สามที่โดนกรอบทางสังคมปิดกั้น ซึ่งคุณ hydrojen ก็พูดคำว่าประโยคหลังออกมา ถ้าหมายถึงข้อความทั้งย่อหน้าล่ะก็ ไม่น่าใช้คำว่าประโยคหลัง เพราะข้อความนี้ถูกกล่าวไว้ในตอนกลางๆของบทความครับ
ตกลงว่าได้กินหนมชั้นรึยังล่ะพ่อ?
เจออีกละ คนอ่านหนังสือไม่แตก
By: i2ans
คุณ MacOS ครับ ตลอดเวลาที่ผมอ่าน blognone มา ผมเจอข้อความที่ "ไม่ควรเสียเวลาอ่าน" ของคุณหลายครั้งมากนะครับ
(ส่วนใหญ่จะเจอคุณได้ในข่าวที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์แอปเปิ้ล)
จำได้ว่าเคยจะ log in มาตอบอยู่ครั้งนึง แต่ก็ไม่ได้ทำเพราะรู้สึกว่าเสียดายเวลาจริงๆ
อย่างไรก็ดี ยินดีด้วยครับถ้าคิดว่าตัวเองเป็นคนที่อ่านหนังสือได้แตกฉาน มันดีสำหรับคุณแล้วครับ :))))
กำ ใส่ชื่อผิด จริงๆ มันต้อง By: hydrojen
ขออภัยคุณ i2ans ด้วยครับ
ปล.มานั่งไล่อ่านใหม่ก็ว่าแปลกๆ ทำไมมาดราม่าใส่ซะงั้น
ปล2.ระบบ reply งงดีแท้ ไม่รู้ใครตอบใคร
ผมต้องขอโทษคุณ MacOS เช่นกันครับ ขอบคุณมากนะครับ
ไม่เป็นไรครับ ผมผิดเอง ต้องขอโทษ สังคมจะได้น่าอยู่
ถ้ายังโพสต์ความเห็นที่ว่าร้ายคนอื่นแบบนี้ แบนแล้วนะครับ
ตามสบายครับ (ขอบคุณที่แจ้งให้ทราบก่อน)
แต่ก่อนจะแบน ผมขอฝากคำถามนิดนึงครับว่าเกณฑ์ในการตัดสินคืออะไร จะได้เข้าใจตรงกัน
ผมอ่านข้อความของคุณ hydrojen และตีความได้แบบนั้น และพิมพ์สิ่งที่เป็นความคิดของตัวเองลงไป (ซึ่งมันอาจจะผิดก็ได้)
ในขณะที่คุณ MacOS อ่านข้อความของผม และกล่าวว่าผม "เป็นพวกอ่านหนังสือไม่แตก" (?)
คำถามของผมคือ 1) แบบนี้เป็นการว่าร้ายหรือไม่? หรือเป็นแค่คำพูดธรรมดาที่เราสามารถพูดใส่กันได้ทั่วไปใน blognone?
2) ถ้าผมแค่เห็นว่าสิ่งที่คุณ mk พิมพ์มันขัดกับการตีความของผม ผมสามารถพูดกับคุณได้หรือไม่ว่า "คุณนี่เป็นพวกอ่านหนังสือไม่แตกเลย?" (โดยที่คุณจะไม่รู้สึกเลยว่าตัวเองกำลังโดนว่าร้ายอยู่)
ถามจริงๆ ไม่ได้คิดว่า "ทำไมคนอื่นทำได้ ฉันทำไม่ได้" อะไรแบบนั้น แค่ต้องการความชัดเจนในการตัดสิน (และต้องการคำตอบที่ชัดเจนว่า "ได้/ไม่ได้" รวมถึง "เป็น/ไม่เป็นการว่าร้าย" ใน bn )
ส่วนเรื่องแบน ถ้าเห็นว่าสมควร ผมไม่มีปัญหา เพราะที่ผมพิมพ์ตอบคุณ MacOS ไป ชัดเจนอยู่แล้วว่าผมรู้สึกอย่างไร
ในเย็นๆ ครับ อ่านดีๆ ว่าเขา reply ใคร
lewcpe.com, @wasonliw
ทำไมการบอกว่าอ่านหนังสือไม่แตก ถึงเป็นการว่าร้ายล่ะครับ แต่การบอกให้ไปอ่านดีๆ นี่ไม่ผิด
ทั้งๆที่จริงๆแล้วคุณ i2ans ก็อ่านผิดจริงๆ(ในเม้นท์ล่าง ในเม้นท์บนไม่รู้)
ถ้าผมบอกว่าเม้นท์ล่างนี้คุณ i2ans อ่านหนังสือไม่แตก อ่านผิดชัดๆเลยนี่ครับ ผมจะโดนแบนด้วยมั้ย
ป.ล.จริงๆผมก็ไม่ชอบนะ คนที่ไม่รู้จะเถียงอะไรก็ไล่คนอื่นกลับไปอ่านใหม่ ว่าอ่านไม่แตก แต่ผมไม่คิดว่ามันเป็นการว่าร้าย และเค้ามีสิทธิที่จะแสดงความเห็น
แย่เลยครับ ผมพลาดเอง
ผมอ่านในแอพมือถือ ซึ่งมีเส้นแบ่ง reply แค่ระดับเดียวเท่านั้น (คือจาก คห หลักแล้วจะแบ่งเส้น reply อีกแค่ระดับเดียว ต่อให้ reply ซ้อนกัน แอพก็จะเรียงเป็นระดับเดียวกันหมด ทำให้ดูยากมากๆครับว่าใคร reply ใคร แล้วตอนที่เข้ามาตอนแรก เห็นเม้นของคุณ mk ต่อจากผม เลยเข้าใจผิดไปครับ - เสียใจมากครับที่ไม่ได้เช็คให้ดีกว่านี้)
กราบขออภัยคุณ mk เป็นอย่างสูงมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
และขอบคุณคุณ lew ที่ช่วยชี้แจงครับ
ผมพลาดเองครับ ขออภัยทุกท่านที่ทำให้เสียบรรยากาศ คราวหน้าจะระวังให้มากกว่านี้ ขอบคุณครับ _/|_
ไม่ว่ากันครับ :D แต่ต้องแจ้งนิดนึงว่านโยบายของ Blognone คือไม่มี official app (ถึงแม้เราจะยินดีให้ทุกคนทำแอพ Blognone ได้) ดังนั้นถ้าต้องอ้างอิง ขอให้ยึดตามหน้าเว็บเป็นหลักนะครับ
ใจเย็นครับ comment ของคุณ mk เขียนว่าเป็น Reply to:791480 ตอบกลับไปที่คุณ MacOS ครับ
onedd.net
ครับ ต้องขออภัยจริงๆครับ _/l_
เอาที่ชอบเลยครับ
ส่วนถ้าเห็นว่าผมควรแบนก็แบนเลย แต่ผมก็ตามอ่านอยู่ดี เพราะที่นี่เขียนข่าวได้ดีมากๆ และคนอ่านค่อนข้างมีคุณภาพ ไม่ค่อยเกรียน
เจออีกละ -> เจออีกสองคนละ
พอดีอ่านแล้วคิดแบบคุณ i2ans นับผมเข้าไปด้วยยย
ยาวเลย - -"
ประโยชน์หลังนี้ชัดเลย ----> ประโยคหลังนี้ชัดเลย
" หรือไม่สามารถเลือกรักคนที่ต้องการได้" ผมหมายถึงเรื่องการเมืองเลยครับ
อย่างการเลือกตั้งที่ผ่านมา ก็ไม่เลือกคนที่รักพรรคที่ชอบ
การแบนนักการเมือง ที่ชอบ อะไรเทือกนั้น
รสนิยมทางเพศเป็นเรื่องปัจเจคชน ไม่ก้าวล่วงครับ
เห็นด้วยอย่างมากครับ
ขอหมื่นไลค์ให้ย่อหน้าสุดท้าย
"ความเสียหายไม่ใช่แค่เงินที่บริษัทจะได้รับ" เกือบหล่อละครับ =_=" ขายดีจนรวยนาดนี้ออกมากล่าวสุนทรพจน์ทั้งทียังจะห่วงกำไรบริษัทอีก
ผมว่ามันไม่แปลกนิครับ
ผมว่าดูจริงใจดีมากกว่านะครับเป็นผู้บริหารบริษัทที่เขาจ้างมาเพื่อให้หาเงินแต่บอกว่าไม่ได้บริหารเพื่อหากำไรมันดูลักลั่นย้อนแย้งซะอีก
ดีกว่ามาตอแหลโลกสวยว่าทุกคนมีความสุขนะผมว่า
ทำธุรกิจแล้วหวังผลกำไรมันแปลกตรงไหนครับ
คมมาก
แรกๆฟังกำลังเคลิ้ม ตัดเข้าโฆษณาขายของซะงั้น โห่ เกือบหล่อละ
เขาถึงได้เป็น CEO ไงครับ :p
เป็นคุณจะให้ยกตัวอย่างสินค้าของคนอื่นหรอครับ ในเมื่อเค้าออกมาพูดในนาม CEO APPLE เค้าต้องยกตัวอย่างในสิ่งที่บริษัททำอยู่เพื่อสนับสนุนกับความคิดของเค้ามันก็ถูกแล้วนิครับ
แม้จะยังทำได้ไม่ค่อยดีเท่าที่ควร แต่ชอบนโยบายนี้มากยังไงก็มั่นใจใช้ ISO ต่อไป 555
ไอโซ่เลยรึครับ
... ข่าวนี้คอมเมนท์ดราม่า
รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์
...เพราะไม่มี "พีระมิด"
/Me เคยทันเห็น พีระมิด ก่อนที่จะโดนเอาออก เพราะสมาชิกสนุกสนานเกินไป T_T
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
ยิ่งไม่มีความเป็นส่วนตัวยิ่งไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน คุณทิม คุก พูดได้ดีมาก ตอนแรกนึกว่าไปงานนี้เพราะกลัวเสียผลประโยชน์ แต่กล้าไปพูดสั่งสอนอย่างนี้กลางงาน นับถือเลยครับ