คนที่ติดตามข่าวสารวงการมือถือก็น่าจะพอทราบกันมาบ้างว่า Samsung Galaxy S คือสมาร์ทโฟนในกลุ่ม High-end ช่วงต้นปีที่ได้รับความนิยมอย่างสูงทั่วโลก ด้วยการการันตียอดขายกว่าหลายล้านเครื่องภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์หลังจากวางจำหน่าย
และสิ่งที่ดึงดูดให้ผู้คนสนใจ Samsung Galaxy S มากที่สุด คือเรื่องการออกแบบชนิดที่ว่าใส่ใจในทุกขั้นตอน แถมยังมีเอกลักษณ์อันโดดเด่นแบบตัวของตัวเอง ในวันนี้เราก็จะมาย้อนรอยกันว่า นับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ งานออกแบบของ Samsung Galaxy S มีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางไหนกันบ้างครับ
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2009 ซัมซุงเริ่มก้าวเข้าสู่ตลาด Android จากการเปิดตัว Samsung Galaxy i7500 สมาร์ทโฟน Android เครื่องแรกของซัมซุง ก่อนจะเริ่มขยายตลาดอย่างรวดเร็วด้วยการเปิดตัวรุ่นใหม่ๆ อีกมากมาย จนกระทั่งมาถึงจุดสูงสุด คือ Samsung Galaxy S ที่เปิดตัวพร้อมกับคอนเซปท์ “ถึงตาของคุณ เปิดเข้าสู่ชีวิตสุดสมาร์ท” (It’s your turn. Turn on Smart Life) และก็ทำให้ซัมซุงกลายเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟน Android รายสำคัญตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ในปี 2010 ซัมซุงเปิดตัว Samsung Galaxy S รุ่นต่อยอดของ Samsung Galaxy ซึ่งนับได้ว่า Samsung Galaxy S เป็นสมาร์ทโฟนที่ถูกออกแบบอย่างพิถีพิถัน พร้อมด้วยสเปคเครื่องสุดแรง (ในขณะนั้น) และหน้าจอ Super AMOLED ที่สวยงาม
การออกแบบตัวเครื่องของ Samsung Galaxy S นั้น เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่หลายคนคาดไม่ถึง เพราะมาพร้อมกับดีไซน์อันโฉบเฉี่ยวที่ไม่ว่าใครผ่านไปผ่านมาก็ต้องเป็นอันเหลียวมอง และยังเป็นดีไซน์ที่เรียกได้ว่าเหนือกว่าสมาร์ทโฟน Android หลายๆ รุ่นในขณะนั้นอีกด้วย
หลังจากเปิดตัว Samsung Galaxy S ได้ไม่กี่เดือน ซัมซุงเริ่มเห็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่จากกระแสตอบรับของ Samsung Galaxy S ที่มีเสียงตอบรับอย่างท่วมท้น ในเดือนพฤษภาคม 2011 ซัมซุงก็สานต่อความสำเร็จนี้กับ Samsung Galaxy S II ที่มาพร้อมกับดีไซน์ตัวเครื่องที่บางลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังคงความเป็น Galaxy S อยู่อย่างครบถ้วนและชัดเจน และประกอบกับสเปคที่แรงกว่าเดิมถึงสองเท่า ก็เลยทำให้ Galaxy S II กลายเป็นสมาร์ทโฟนที่ขายดีที่สุดนับแต่นั้นเป็นต้นมา
ด้วยความสำเร็จของ Samsung Galaxy S II ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ซัมซุงเห็นถึงโอกาสและความสำเร็จที่เพิ่มพูน แต่ด้วยข้อครหา และคดีความชุดใหญ่ในขณะนั้น ซัมซุงจึงเปลี่ยนแนวคิดและวิธีการออกแบบใหม่ทั้งหมดในปี 2012 กับ Samsung Galaxy S III ที่ปรับลุคใหม่หมดจด และทิ้งคราบความเป็น Samsung Galaxy S รุ่นแรกออกไปเกือบหมด
ในการหาวิธีการออกแบบของ Galaxy S III ทีมดีไซน์ของซัมซุงต้องเดินทางออกต่างประเทศเพื่อหาแรงบันดาลใจในการออกแบบอยู่บ่อยครั้ง เช่นครั้งที่เดินทางออกไปยังสิงคโปร์ สิ่งที่เห็นคือความสามัคคีของท้องฟ้า มุมมองของเมืองที่มีชีวิต และสายน้ำที่ไหลรินอย่างสวยงาม และวินาทีนั้นความเป็น Galaxy S III ก็เกิดขึ้น ซึ่งทีมดีไซน์ของซัมซุงต้องใช้เวลาอยู่ค่อนข้างนาน กว่าจะหาวิธีการที่จะทำให้สิ่งที่เป็นธรรมชาติเหล่านี้ เข้าไปเป็นงานออกแบบชิ้นเอกของซัมซุงให้ได้
หลังจากผ่าน Samsung Galaxy S III ไป ทีมดีไซน์ของซัมซุงก็ยังไม่หยุดที่จะค้นหาสิ่งใหม่ๆ มาให้กับ Galaxy S ที่พวกเขาภูมิใจ จนกระทั่งในคืนหนึ่งที่เห็นดวงดาวรายล้อมอยู่เต็มท้องฟ้า และนั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของ Galaxy S4 หนึ่งในสมาร์ทโฟนที่ซัมซุงตั้งใจทำออกมาให้เป็นงานดีไซน์ชั้นยอดในปี 2013
ดีไซน์ของ Galaxy S4 ทีมดีไซน์คัดเลือกวิธีการใช้สี ชิ้นส่วน และวัตถุดิบ อยู่นานมาก เพื่อให้ได้ความรู้สึกเหมือนกับว่า Galaxy S4 นั้นเป็นส่วนหนึ่งของดวงดาวบนท้องฟ้าในยามค่ำคืน และให้กลายเป็นสิ่งที่น่าค้นหาในยามที่แสงนั้นมืดมิด และเพิ่มลูกเล่นด้วยการทำให้เกิดเป็นประกายดาวขึ้นมาเมื่อมันไปถูกกระทบกับแสงไฟ
เส้นสายของตัวเครื่องก็เช่นกัน ทีมดีไซน์ของซัมซุงได้ใช้ความละเอียดอ่อนเป็นอย่างมาก เพื่อให้ได้เส้นที่บางเท่ากันในทุกๆ เส้น และไม่ทำให้เสียสัมผัสในทุกๆ จุดของตัวเครื่องอีกด้วย
ในการออกแบบสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดของปี 2014 อย่าง Samsung Galaxy S5 ทีมออกแบบได้เปลี่ยนวิถีและแนวคิดการออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยมาพร้อมกับแนวความคิดที่ว่า “อยู่กับความเป็นตัวคุณ” (Live Your Passion) ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างความมีชีวิตชีวา ความทันสมัย และความพิเศษให้ลงตัวอยู่ในสิ่งของสิ่งเดียว
สิ่งที่ทีมดีไซน์ใช้เป็นเรื่องราวหลักของการออกแบบ Galaxy S5 คือการใช้ Modern Flash มาผสมกับ Dot Design ซึ่งสิ่งที่ได้ออกมาก็คือรูปลักษณ์ของตัวเครื่องที่จับได้กระชับ ไม่ลื่นไหล และไม่สร้างผลเสียมากเมื่อตัวเครื่องได้รับความเสียหายจากภายนอก
อีกสิ่งหนึ่งที่ทีมดีไซน์นำมาใช้กับ Galaxy S5 คือการออกแบบฝาหลังในรูปแบบ Leather-like เหมือน Galaxy Note 3 ดังนั้นทีมดีไซน์จึงเลือกการออกแบบสีของตัวเครื่องให้เหมือนกับสินค้าหนังทั้งหมด 4 ชนิด อันได้แก่ เสื้อแจ็คเก็ต กระเป๋าหนัง เสื้อหนัง และรองเท้าหนัง ตามแบบที่นิยมกันในหัวเมืองใหญ่นั่นเอง
สิ่งที่เราได้เห็นกันมาตลอดการทำรุ่นเรือธงของซัมซุงคือการใส่ใจในงานออกแบบทุกกระเบียดนิ้ว และความทุ่มเทในทุกจุดของการออกแบบ และหลังจากนี้งานออกแบบของซัมซุงจะเป็นอย่างไรต่อไป คงต้องติดตามกันต่อไปในเร็วๆ นี้ครับ
ที่มา - CNET, The Verge, Samsung Design Story - Galaxy S4, Samsung Design Story - Galaxy S5
Comments
เป็น Adver ที่อ่านแล้วเลี่ยนจริงๆ โดยเฉพาะช่วง S3-S4 ที่มันคือดีไซน์เดียวกันไม่ใช่เรอะ
เห็นด้วยอย่างเเรงครับ
ผมนี่อ่าน s3 พอเลื่อนมาถึง s4 ต้องย้อนกลับไปดู รูปเดียวกันป่าวว่ะ
มานั่งหาจุดต่างอยู่ตั้งนาน หยั่งกะเล่นเกมจับผิดภาพ
+100
ชอบ Samsung Galaxy S II สุดแล้ว ฝาหลังดูพรีเมี่ยมกว่าสมัยนี้อีก ถึงจะไปลอกทรงไอโฟนบ้างก็เถอะ
แต่พออ่านคอนเซบแล้ว เหมือนดูเด็กมหาลัยตอนมาส่งงานอาจารย์ แล้วแถเรื่องคอนเซบอย่างนู้นอย่างนี้ แต่จริงๆ แล้ว ทำไม่เสร็จทำทัน เสร็จแค่ 70% อะไรประมาณนี้
ปล.ไม่ได้ว่าเด็กนะ เพราะสมัยเรียนก็เคยเป็น อิอิ
ถูกใจ
ห๊ะ?
เหมือน avartar กำลังพูดออกมาเลย
พัฒนาตรงไหนครับ ผมไม่ชอบขอบเครื่องสีเงินเลย ซึ่งมันติดมาจาก s3 ยัน s6 ก็ยังขอบเงินอยู่นั่นแหละ
Sorry Sir., But I can't see the Difference
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
เคยใช้แค่ S1, 2 แต่ชอบ 2 กับ 4 นะ
แต่อ่านแล้วรู้สึกว่ามันเพ้อ...ไปหน่อย
ปะติกฝาหลังดังก๊อปแก็บ, งานปะติกชุบโครเมี่ยมถูกๆ
, งานประกอบสอดบัตรได้
ถถถถถถ.. ละเมียดทุกระเบียบนิ้ว.... คลื่นไส้จริงๆ
ชอบ S2 ที่ดูพรีเมี่ยม(กว่า S4,5 ซะอีก)
ชอบ S3 ที่เครื่องโค้งมนไม่มีส่วนไหนที่มาขัดอารมณ์(Seamless)
พอลองนึกว่าจะเอา 2 อย่างนี้มารวมกันแล้วเปลี่ยนวัสดุเป็นอะลูมิเนียม.... บู้ม ออกมาเป็นไอโฟน6
อ่านแล้วอารมณ์เหมือนกำลังดูทีวีไดเรคอ่ะ
+1
แนวคิดการนำเสนอ และ concept ก็พอไปไหวนะครับ
แต่ผลิตภัณฑ์ที่ออกมาจริง เหมือนมันจะไม่ได้ไปด้วยกันกับ concept ที่นำเสนอเลยซักนิด -*-
บอกตรงๆว่า 3>4>5 นี่ผมมองความต่างระหว่างรุ่นไม่ค่อยออกจริงๆ ด้านการออกแบบ เหมือนก๊อปปี้เพสรุ่นก่อนหน้าแล้วเอามาขัดให้มันเหลี่ยมๆขึ้นหรือมนๆขึ้นเท่านั้นเอง
เห็นด้วยกับหลายท่านว่า S2 ดูดีสุด ถ้าไม่นับด้านหน้าที่ดูละม้ายคล้าย iPhone ด้านหลังผมว่าก็ดูดี
นี่ดีนะว่าไม่มีบทควาามย้อนรอย Touchwiz ไม่งั้นมีด่ากันแหงๆ lol
This post gave me cancer....
การตลาดซัมซุงจะตายด้วยบริการหลังการขายมากกว่า
1. อัพเดตแอนดรอยด์ช้า หรือน้อยเกินไป ทำให้ตกรุ่นเร็ว ราคาดิ่ง ขายต่อไม่ได้
2. การซ่อมที่ไม่มีมาตรฐานที่ดีพอ เป็นข่าว เป็นประเด็นในเวบพันทิปบ่อนมาก
3. การคงราคา หรือการยืนราคาให้เหมือนไอโฟน ทำไม่ได้ ทำให้คนซื้อก่อนปวดใจกับการตลาดของซัมซุง และไม่เคยแก้ไขจุดนี้เลย
จริงครับ ตั้งราคาสูงๆสักพักก็ลดราคา แถมพวกร้านออนไลน์เอามาลดอีก
ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น ถ้า "การใส่ใจในงานออกแบบทุกกระเบียดนิ้ว" ใช้กับ Galaxy เพียงรุ่นเดียว แต่นี่....
ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด คนที่เขียนบทความนี้คือทางเว็บเองใช่ไหมครับ ?
สิ่งที่ดึงดูดให้ผู้คนสนใจ Samsung Galaxy S มากที่สุด คือเรื่องการออกแบบชนิดที่ว่าใส่ใจในทุกขั้นตอน แถมยังมีเอกลักษณ์อันโดดเด่นแบบตัวของตัวเอง#
ช่างกล้า ขรรมกร๊าก ลอกเค้ามาชนิดที่ว่า....
อวยอย่างสุดคม
ผวนเผลอ -"-
คุณพระช่วย!!!! ขอนำไปใช้....
พรรณนา พาเลี่ยน
ยาวมั้ย?
อ่านแล้วรู้สึกเหมือนประชดมากกว่าอวยอีกนะ 55555
ถึงขั้นต้องออก adver มาต้านข่าวเลยทีเดียว 5555
มันเป็นวัฒนธรรมการทำงานแบบตะวันออกนั่นแหล่ะ แบบที่ออกมาจาก Designer อาจสวยงามพร้อม Concept ที่เริ่ดหรู แต่ด้วยวัฒธรรมตะวันออก ซึ่งส่วนใหญ่ฝ่ายวิศวกรรมจะมีเสียงดังกว่า ทำให้แบบอาจถูกปรับให้ผลิตได้ง่ายขึ้นทำให้สูญเสียความเป็นเอกลักษณ์ (Identity) ที่ทาง Designer ใส่เอาไว้ แล้วพอเอาการตลาดเอามา Mix รวมกันระหว่าง Concept กับเริ่ดหรู กับ Design ที่มาแบบกลางๆ เพราะถูกฝ่ายต่างๆ ปรับจนเรียบร้อยแล้ว มันก็เลยเป็นอย่างที่เห็น คือมันขัดแย้งกันจนบางครั้งก็ อืมนะ
อันนี้อ่านมาจากหนังสือชีวประวัติของ Jonathan Ive คิดว่าปัญหาของ Samsung ก็น่าจะปัญหาเดียวกัน
เหตุการณ์สมมติ : หลังจากเจ้าสัวมาเห็นตัวต้นแบบที่ดีไซเนอร์บรรจงปั้นด้วยรูปแบบโฉบเฉี่ยว มินิมอลลิสต์ เจ้าสัวก็เริ่มไม่พอใจ โลโก้อยู่ไหน เอามาใส่เลยจะได้เห็นชัดๆ ใหญ่กว่านี้ๆ เอ๊ะใส่แค่ด้านหลังเหรอ ด้านหน้าก็ยังมีพื้นที่ว่างนะ นั่นแหละๆ โลโก้ใหญ่กว่านี้ได้มั้ยเอาให้ชิดขอบไปเลย อย่าปล่อยให้เสียพื้นที่โดยเปล่าประโยชน์ เห็นมั้ยเพอเฟกต์ เอาแบบนี้แหละ ออกแบบง่ายๆ เองทำไมทำตั้งนานไม่เข้าใจเลยจริงๆ
ม... มันผ่านการออกแบบจริงๆ เหรอครับ
ผมนี้ถึงกับ ฮานาก้า เลยทีเดียว
เป็น advertorial ที่อวยอ๊วยอวย...
อ่านแล้วแทบอ้วกเป็นสายรุ้ง...
ภาษาที่เขียนนี่ก็อลังซะจนคิดว่าเขียนประชดเลย
คือคอนเซ็ปมันเริศมาก แต่ Product ออกมาไม่ค่อยเห็นความโดดเด่นตามที่ Advertorial เขียน
ส่วนตัวผมว่า 3 - 4 - 5 ไม่ค่อยหนีกันเท่าไหร่
ขอบคุณสำหรับรูปภาพประกอบครับ ฮ่าๆ
คือโฆษณาก็เข้าใจ แต่ถ้าอวยมากเกินมันก็เกินไปอ่า =_=
#อวยอย่างสุดคม
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
อยากให้ s6 ดูดีกว่า note4 ครับ
ดวงดาวบนท้องฟ้า
เครื่องแรกผมเป็น s2 แล้วก็ s3 ล่าสุดได้ s5 มาใช้ แฟนซื้อให้
แต่อ่านบนความนี้แล้วแบบว่า เลี่ยนจริงๆ ครับ
ท้องฟ้ายังไง ดวงดาวยังไงครับ ดูไม่ออก
แต่ละดาราจักร เราออกแบบอย่างตั้งใจ...
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
และสิ่งที่ดึงดูดให้ผู้คนสนใจ Samsung Galaxy S มากที่สุด คือเรื่องการออกแบบชนิดที่ว่าใส่ใจในทุกขั้นตอน แถมยังมีเอกลักษณ์อันโดดเด่นแบบตัวของตัวเอง
ดึงดูดมาก Samsung E700 ยังสวยเลย
เอาจริงๆ S ตัวจริงมันก็สวยนะครับในสมัยนั้น ถ้าไม่ติดว่ามันบังเอิ้ญ บังเอิญคล้ายกับ iPhone ที่ออกมาก่อนละก็นะ
เป็นบทความที่ทำให้คนเชื่อได้ยากที่สุดและต่อต้านมากที่สุด ยินดีด้วยกับความสำเร็จในการเขียนบทความนี้
“ดีไซน์ของ Galaxy S4 ทีมดีไซน์คัดเลือกวิธีการใช้สี ชิ้นส่วน และวัตถุดิบอยู่นานมาก
เพื่อให้ได้ความรู้สึกเหมือนกับว่า Galaxy S4 นั้น เป็นส่วนหนึ่งของดวงดาวบนท้องฟ้า
ในยามค่ำคืน และ ให้กลายเป็นสิ่งที่น่าค้นหาในยามที่แสงนั้นมืดมิด และเพิ่มลูกเล่นด้วย
การทำให้เกิดเป็นประกายดาวขึ้นมา เมื่อมันไปถูกกระทบกับแสงไฟ”
เรอะ…?
S4 สีทองที่ออกมาทีหลังนี่คือ?
ทีมงานคัดเลือกวิธีการใช้สี ชิ้นส่วน และวัตถุดิบอยู่นาน
เลยใช้เวลานานมาก ออกมาทีหลัง หรือเพิ่งค้นพบดาวสีทอง?
อ่อ ลืมไป… เขาเคยออกมือถือสีทองมาก่อนหน้านั้นแล้ว
เป็น feature phone อืม…
แล้วสีชมพูล่ะ? ดาวบนท้องฟ้าดวงไหนเอ่ย?
เคยเป็นเจ้าของ galaxy s ไม่เคยประทับใจอะไรเลยสักอย่าง ตั้งแต่ได้เครื่องมาก็รีบไปหา launcher มาใส่แล้ว, bloatware ที่มีเป็นสิบๆ + ปัญหา gps สุดท้ายขายทิ้งเพราะโดนแพทั้งๆที่ประสิทธิภาพของเครื่องยังไปได้ไกล
ท้ายสุดเลยเข้าใจว่า ซื้อมือถือ เลือกที่เค้าซัพพอร์ทระบบปฏิบัติการยาวๆดีกว่า ไปใช้พวก nexus หรือ apple อย่างน้อยก็ยังพอใด้ฟีเจอร์ใหม่ๆตามรอบอัพเดทอยู่บ้าง
+1
"With the first link, the chain is forged. The first speech censured, the first thought forbidden, the first freedom denied, chains us all irrevocably."
โมโตอีกตัวครับซัพพอร์ทยาวนาน+xdaรัก ใช้ได้นานไม่ตกรุ่นแม้ บ.ปล่อยแพ
อวยซะ
เป็นบทความที่ยอดเยี่ยมมากครับ
ผมอ่านแล้วได้ยินเสียงลอยมาเลย
เป็นเสียงที่คุ้นหู แต่จำที่มาไม่ได้
แล้วตามด้วยเสียงหัวเราะของผมเอง
55555555555
พี่ประชดใช่ม้าย ประชดแน่ๆ เลย
edit:
เสียงพากษ์ รายการแข่งดัดแปลงบ้านของญี่ปุ่น
มันใช่อะ
ทำไมรู้สึกเหมือนmakeเรื่องราวเพื่อมาอวยแปลกๆ...
อ่านแล้วทำให้รู้สึกไม่อยากใช้มากขึ้นไปอีก จากที่เลิกใช้ไปนานแล้ว
ไม่มีลายเซ็น
เป็นตัวอย่างการออกแบบที่ไม่ควรทำ
เด็กรุ่นใหม่ควรอ่านไว้จะได้ไม่ทำพลาดแบบ Samsung อีก
ใครเป็นคนเขียน adver นี้ครับเนี่ย แล้วได้เท่าไหร่?
ลืมให้ "แสดงความรู้สึกกับข่าวนี้"
pote2639 สยอง
S1 กับ S2 ยังพอรับได้ แต่หลังๆ นี่ ไม่ไหวจริงๆ ครับ เลี่ยนเกิน