และแล้วก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับ MacBook โฉมใหม่ที่มาในทรงเดียวกับที่แฟนๆ เรนเดอร์ไว้เมื่อไม่กี่เดือนก่อนเป๊ะๆ ซึ่งในรุ่นนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมาก ค่อยๆ พูดถึงทีละอย่างได้ดังนี้
เริ่มต้นด้วยความบาง MacBook รุ่นใหม่บางลงเหลือ 13.3 มม. บางลงกว่า MacBook Air 11" ถึง 24% และหนักเพียง 900 กรัมเท่านั้น และแม้ว่าตัวเครื่องจะเล็กลง แต่ก็ยังใช้คีย์บอร์ดขนาดเต็ม ที่ปรับเมคานิคคีย์เป็นแบบปีกผีเสื้อ (ดูภาพท้ายข่าว) ซึ่งทำให้บางลงถึง 40% และแม่นยำกว่า (?) รวมถึงมี LED แยกตามแต่ละคีย์ ทัชแพดปรับไปใช้แบบรับน้ำหนักได้จากเซนเซอร์สี่จุด เรียกว่า Force Touch trackpad
เครื่องเล็ก แต่คีย์บอร์ดเท่าเดิม มีไฟในตัวทุกคีย์
Force Touch trackpad ไม่ต้องคลิกอีกต่อไป
ด้านหน้าจอ MacBook โฉมใหม่มาพร้อมกับหน้าจอ ขนาด 12" Retina Display ความละเอียด 2304 x 1440 พิกเซล แต่กินไฟน้อยลงกว่าหน้าจอแบบเดิมถึง 30%
หน้าจอ Retina Display
บางยิ่งกว่า MacBook Air 11"
สำหรับสเปคของ MacBook รุ่นใหม่ใช้ Intel Core M ความถี่สูงสุด 1.3GHz (Turbo Boost 2.9GHz) แน่นอนว่าไม่มีพัดลม ด้วยบอร์ดที่ขนาดเล็กลงถึง 67% และการออกแบบแบตเตอรี่ใหม่ทำให้เพิ่มความจุแบตเตอรี่มากขึ้นอีก 35% ใช้งานได้ยาวนาน 9-10 ชั่วโมง
วิธีวางแบตเตอรี่แบบใหม่ ใช้ได้นานขึ้นในขนาดบางลง
ที่น่าตกใจคือ MacBook รุ่นใหม่มาพร้อมกับพอร์ต USB 3.1 Type-C เพียงพอร์ตเดียวตามข่าวที่ออกมา (แอปเปิลเรียกว่า USB-C) ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งเป็น USB, DisplayPort, HDMI, VGA หรือแม้แต่ชาร์จไฟ
USB-C พอร์ตเดียวครองพิภพ
สำหรับ MacBook รุ่นใหม่มีทั้งหมดสามสีคือทอง เงิน และเทาเข้ม ราคาเริ่มต้นที่ 1,299 เหรียญสำหรับรุ่นความจุ 256GB และ 1,599 เหรียญสำหรับรุ่นความจุ 512GB ทุกรุ่นแรมเท่ากันที่ 8GB เริ่มขาย 10 เมษายนนี้ครับ
อัพเดต - ราคาประเทศไทยเริ่มต้นที่ 43,900 บาท และ 54,900 บาทครับ
ที่มา - Apple
ราคา!
หนึ่งสีเดิม สองสีใหม่
Comments
ช็อค เรื่อง 1Port - -" โอ้ว กรี้ด #ร้องไห้หนักมาก บ้าไปแล้ว ซื้อฮับรัวๆ
เอิ่ม... ซื้อฮับอันเดียวก็น่าจะพอนะครับ คงไม่ต้องถึงกับซื้อ รัวๆ ^^
ที่ซื้อไม่ได้รัวๆเพราะถึงมีเยอะก็เสียบได้รูเดียวอยู่ดี คิดให้ถี่ถ้วนขึ้นคือ เงินหมด 555
แต่ถึงจะสะท้านวงการแค่ไหน Apple ก็ไม่ทอดทิ้งเรา ส่งเจ้านี้มาช่วยเหลือ เราเรียบเรียบร้อย #เหร๋อ? = ="
Edit : ปรับลิ้งเป็น Store thai
ไม่จบครับ ซื้อไอ้ที่ว่านั่นแล้วต้องซื้อ hub แบบปกติเพิ่มอีก 555
ขอช็อคกับราคาแปบบบ
เรื่อง Design กับ Architect ถือว่าทำการบ้านมาดีรอบนี้ แต่เรื่อง USB-C port เดียวนี้มัน....
ชาร์ตไฟอยู่จะเสียบ usb ยังไง
ตอนลง os ไม่ต้องเสียบไฟแล้วใช่เปล่า mini เกินไป มันก็ไม่พอดีนะ "หลักพอเพียง" ใช้ได้ดีกว่าอีก
ตอนลง OS จะเสียบ USB ไปทำไมล่ะครับ =.=
Mac ลง OS ผ่าน AppStore (upgrade)/Internet Recovery (clean) ไม่ต้องใช้ flashdrive ครับ
ตอนลงวินโดวส์ครับ :p
สงสัยจะเป็นการกีดกันWindowsแบบเนียนๆ
ในที่สุดก็มีสี space gray ซะที
อภินิหาร 1 port ครองพิภพ!
มันบางกว่า MacBook Air แล้ว MBA ยังจะเป็น MBA ได้อย่างไร
Air ราคาครับ 55555 ยังถูกกว่าอยู่ ณ ตอนนี้
unwelcome evolution
ตัดไลน์ air แหงมๆ
ทำตลาดพร้อมกัน 3 line ครับ macbook, macbook air, macbook pro อย่าลืมว่า air ยังมี port เยอะกว่า ครับ
ราคาไม่แพงอย่างที่คิดแฮะ SSD 256 GB ราคาไม่เกิน 4 หมื่น ถือว่าราคาไม่ต่างจาก air ธรรมดาที่ขายอยู่เลย แต่ช็อคอยู่อย่างเดียวคือเรื่อง usb เนี้ยแหละ
จะขายไม่ได้ก็ตรงนี้แหละครับ
เกินหนิครับ
256GBราคาเท่า rMBP13 ตัวล่างสุดเลย
43900
ราคานี้ได้แค่ 128Gb นิครับ https://www.apple.com/th/macbook-pro/specs-retina/
ใช้ intel broadwell เปล่า
Processor
Inside the new MacBook you’ll find the fifth-generation Intel Core M “Broadwell” processor — the first chip designed with 14-nanometer process technology. This means that the chip is packed with more transistors than the previous generation for higher density and more efficient performance. The Core M processor is the perfect fit for the new MacBook, combining energy efficiency with the performance needed to handle everyday tasks.
Fanless architecture
The new MacBook is the first Mac notebook ever without a fan. Since the Intel Core M chip draws only 5 watts of power and therefore generates less heat, no fan or heat pipe is required. Instead, the logic board is seated on top of an anisotropic graphite sheet, which helps disperse any heat that is generated out to the sides, all while your Mac stays virtually silent. The new MacBook is made even more efficient by OS X features like Timer Coalescing, App Nap, and Safari Power Saver, which ensure that every task is performed using just the right amount of power. No more, no less.
จากเว็บ apple
อินเทลเปิดตัวชิปประหยัดพลังงาน Core M, SoFIA ขายปลายปี, Core i7 รุ่นใหม่
อินเทลเปิดตัว Core M อย่างเป็นทางการ
งามสุดๆ
Macbook Air 11 กับ Air 13 ก็ยังมีอัดเดทเป็นตัวใหม่นะครับ สรุปคือ เพิ่ม Line มาเฉยๆ CPU น่าจะกากกว่า พัดลมไม่มี นี่น่าจะถึงขั้นทำงานหนักๆ ไม่ได้เลย ผมมี MBA 11 นิ้ว แค่เปิด Hero of Storm เล่นพัดลมก็ลั่นแล้ว...(แต่ก็เล่นได้นะ) แต่ถึงขนาดไม่มีพัดลมนี่ ผมว่าน่าจะเรียกว่ามันเป็น iPad ที่มีคีบ์บอร์ดมาให้น่าจะเหมาะกว่า อาจจะเหมาะแค่เล่นเน็ต เปิดเว็บ ทำงานเบาๆ เฉยๆ เลยทีเดียว....
สรุป คือใครอยากได้เครื่อง CPU แรงหน่อย แต่เบา ไปซื้อ MBA ใครอยากได้เครื่องสำหรับเล่นเน็ต จอชัดๆ ทำงานเบาๆ ไม่ต่อพอร์ตอะไรนัก ก็เลือก New macbook Retina 12 นิ้ว
แต่อันนี้ CPU คนละไลน์นะครับ มันออกแบบมาให้ใช้กับ fanless ไม่น่าจะแย่ขนาดนั้น (มั้ง) คงต้องรอรีวิว
Air 12" CPU มันเร็วกว่าตัว Air เก่านิดนึงนะ
ราคาเท่ากับ rMBP 13" เลย
My Twitter
อ้าวนี่มันไม่ใช่ iPad Pro ที่ขายพร้อม keyboard หรอกเหรอ
แล้ว สรุป The new Macbook เทียบกับ Mac Air แล้วใครใหญ่ใครเล็กกว่ากันครับนี้ งง เท่าๆๆที่ดูแล้วตัวนี้น่าจะชื่อ Air มากกว่า Air ตัวปกติอีก
ดูเหมือนโลโล้จะมืดๆเนอะว่าป่ะ ยังเรืองแสงอยู่ป่ะเนี่ย
เห็นว่าตัดไฟออกแล้วนะฮะ ตามมาจาก #AppleLive
เอามา Render Video ซักชั่วโมงเครื่องคงไหม้
ระหว่างเรนเดอร์ก็ปิ้งบาร์บีคิวพลางๆ 555
ใช้ประโยชน์จากความร้อนของเครื่อง :P
port คงย้ายไปอยู่ที่ adapter หมดแหง ไปใหญ่ตรงนี้แทน ดีไม่ดีไม่มีให้สักรูแล้วขายแยก
แถมช่องเสียบหูฟังก็ไม่มี ???
ช่องหูฟังอยู่อีกด้านครับ
ตายตรง 1 port จริงด้วย //เสียบชาร์จทีต่ออะไรพ่วงไม่ได้เลย
แต่งามมากครับ ติดแค่เพิ่งซื้อ MBP ตัวใหม่ไปต้นปี -3-
สงสัยทำมาเผื่ออนาคต อีกหน่อยจอมอนิเตอร์คงจ่ายไฟให้โน้ตบุ๊กพร้อมรับภาพไปด้วยได้
คงเป็นแบบ android OTG Y cable มั้งครับรับไฟเข้าเครื่องและต่ออุปกรณ์แบบนอกได้พร้อมกัน
เป็นรุ่นแปลงร่างจาก ipad กับ air ต่อกร surface
ทำไมมันทับไลน์กับ Mac Air ไงไม่รู้ สงสัยจะได้ถอด Air ออกแน่เลย
แล้วก็ใช้ Macbook Pro ต่อไปสบายใจ
อุต่ะ เข้ามาช็อคพอร์ทเดียวด้วยคน
เท่าที่อ่านดู รวมถึง Comment เป็นตัวเบากว่า MBA อีกแฮะ
air ยังมีพัดลมและเป็น Core i ส่วนตัวนี้ Core M เลย (กึ่งกลางระหว่าง Atom, Core i)
ใช้ทั่วไป งานไม่หนัก เกมไม่เน้นภาพ คงได้อยู่
มีพอร์ตเดียว คงต้องมั่นใจว่าใช้ได้นานจนไม่ต้องชาร์จพร้อมใช้งานเลยมั้งนี่ (น่าจะพ่วงจากที่ชาร์จได้อีกที ?)
"M" from Pentiu"M"
ขอบคุณครับ พอดีผมจำมาจากข่าวนี้
https://www.blognone.com/node/66104
เอ้ย อันนี้ผมล้อเล่นครับ ตายละ น่าจะ /มุก ไว้ด้วย
ขออภัยครับ T_T
โอเคครับ ผมนึกว่ามาเสริมให้
เพราะผมก็เข้าใจตามข่าวข้างบนจริงๆ ฮ่าๆๆ
อันนี้มีแหล่งอ้างอิงไหมครับ ผมเข้าใจว่า Core M คือสาย Y/ULX เก่ามากกว่านะครับ
Pentium ในยุคปัจจุบันในสายที่ไม่ใช่ Atom นี่น่าจะใช้เรียกพวก non-Turbo-Boost/no-Hyper-Threading มากกว่า
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ผมว่าน่าจะเป็นตัว Core M-5Y51 มากกว่าครับ ถือว่าแรงกว่า MBA เก่าตัว i5-4260U อยู่นิดหน่อยนะ ที่ใช้ชื่อ Core M เพราะเป็นรุ่นประหยัดไฟ
Core M-5Y51
i5-4260U
http://en.wikipedia.org/wiki/Broadwell_%28microarchitecture%29
ผู้บริหารน่าจะชอบ
ดู LIVE Event Video แล้วอึ้ง ออกแบบได้น่าทึ่งมาก
ตอนเปิดตัว พยายามมองหลายรอบมากว่ามันมีแค่ Port เดียวเองเหรอ สงสัยต้องยกระบบอุปกรณ์ใหม่ เป็นพวกไร้สายให้หมดหล่ะทีนี้
ส่วน Air ถ้าบางกว่า เบากว่า ตัวนี้ มันจะเหลือแค่ไหนหล่ะเนี่ย หรือ ถ้าทำไม่ได้คือยกเลิกไปเลย แล้วใช้ตัวนี้จับตลาดแทนเพื่อลดไลน์สินค้า
น่าสนใจเรื่อง CPU Max 1.3 Boost 2.9 นี่มันตัวไหน? หรือ Apple จะได้ตัวพิเศษไปใช้อีกแล้ว?
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
Intel Core M 5Y71
71 มัน 1.2/2.9 นี่สิครับ
เอาจริงๆผมแปลกใจมันทุกตัวกับ config ของ Apple นี่แหละครับ จากอันนี้ เราจะพบว่ามันมี CPU 3 รุ่น
1.1/2.4 , 1.2/2.6 , 1.3/2.9
ซึ่งไม่มีรุ่นไหนตรงกับ 3 config นี่ซักรุ่นเลยครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
รุ่น Top ผมคิดว่าน่าจะเป็นตัว 71 เพราะมันเป็นตัวเดียวที่ปรับ Turbo ได้ถึง 2.9 โดยไม่ต้อง Overclock แล้วตาม Spec ของ 71 มันสามารถปรับ Clock ปกติได้ตั้งแต่ 0.6-1.4 ส่วน Turbo ก็น่าจะปรับได้เหมือนกันแต่ไม่เกิน 2.9 จึงน่าจะปรับให้เป็นได้ทั้ง 1.2/2.6 และ 1.3/2.9
ส่วนรุ่นรอง น่าจะเป็นตัว 51 ที่ปรับแต่ง Clock เป็น 1.1/2.4 แล้วเลือกอัพเกรดเป็น 71 ที่ 1.3/2.9 ได้
งงกับ Apple จริงๆ ถ้าเป็นตัวที่ Intel ผลิตให้เป็นพิเศษ ก็น่าจะเอามาเป็นจุดขายซักหน่อย
เรื่อง Port บีบให้ซื้อ USB-C Digital AV Multiport Adapter 79$ อีกตัวชัดๆ - -")
1 Port บ้าไปแล้ว ทำไมขี้เหนียวจัง
สมมุติถ้าต้องก็อบปี้ไฟล์จาก External HDD ไปยัง thumb drive จะทำไงละทีนี้
Hub สิท่าน ไม่อยากบอกว่าทุกวันนี้มีสองรูผมยังรู้สึกไม่พอใช้เลยในบางครั้ง
ลำบากผู้ใช้ต้องไปหาอุปกรณ์เสริมอีกละ = ="
เหอๆๆๆ บางขนาดนี้ แมคบุ๊คแอร์ตัวต่อไปคงจะแค่มิลเดียวมั๊งครับเนี่ย
1 Port = Real Evil
ในที่สุดก็ออกมาจนได้
ผมยิ่งเป็นคนชอบเสียบ
พอร์ตเดียว!!! #ร้องไห้หนักมาก
มีอุปกรณ์เสริมขายแยกแน่นอน และอุปกรณ์นั้นควรจะใส่มาให้ครบเลย ทั้ง HDMI,mini display port,USB3 etc.
edit : เพิ่งเห็นว่ามีคนพูดถึงแล้ว มีขายจริงๆ ด้วย ราคา 79$
เฮือกตรงราคานี่แหละ
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
แหม่.. ระดับนี้แล้วนะครัช :3
เงินทองเป็นของมีค่า เก็บเอาไว้ใช้ยามจำเป็นก็ไม่เสียหายนะครับ
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
สวยนะแต่ใช้การทำงานของผมได้ไม่ครบปกติต้องต่อ Lan ตลอดแถมด้วยจออีกและต้องมี USB อีกช่องอย่างต่ำจบเลยงั้น
ช้าก่อน!! ถ้าคุณกดซื้อ Multi port ภายใน 10 นาทีนี้... เสียบจึ๊กเดียว จบทันทีครัช 555
ข่าวนี้ตอกย้ำว่า ipad pro มีusbขนาดปกติ เป็นเรื่องตลก
อยากได้ง่าาาาาาาา จัดเต็มด้าน Architecture จริงๆ
คือนั่งดูไป จะน้ำตาไหลด้วยความปลาบปลื้มแล้วอะ ( T____T
คงเหมาะกับผู้บริหาร ที่ไม่ได้ใช้งานหนักๆ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
มาแล้ว ขายพร้อม multi adaptor
Educational Technician
1 พอร์ตรวมชาร์จไฟด้วยนี่คิดได้ไงอ่ะ ทำไมคุณพี่ไม่ทำชาร์จไร้สายมาด้วยซะเลยอ่ะ
ดีนะอีกข้างยังมีรูหูฟังอยู่ ไม่ได้บังคับบลูทูธอย่างเดียว
สุดท้ายก็เหลือแค่พอร์ตเดียว #ความรักก็เช่นกัน
มันอาจจะเหมาะกับงาน Remote Desktop แบบผมล่ะมั๊ง เพราะปกติก็เขียนโปรแกรมให้ Server ทำงานอยู่แล้ว
หลังจากดูวิดีโองานเปิดตัวเสร็จ ความคิดแรกคือ "นี่มันคือการสะกดจิตหมู่ชัดๆ" วิธีพูด จังหวะ คำพูด มันใช่หมดเลย
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
1 Port!!!! ผมนี่นำตาไหลเลยครับ
สาย business น่าจะชอบ
แต่สายไอที bye ~
Macbook ตัวใหม่ยังบางขนาดนี้ แล้ว Macbook Air ตัวต่อไปคงจะบางพอๆกับผ้าอนามัยโซฟีละมั๊ง ซึมซับมั่นใจเคลื่อนไหวคล่องตัว =.="
กดดันหนักเลยบางขนาดนี้ยังไม่แอร์แล้วแอร์มันจะขนาดไหน แต่ไม่มีพัดลมนี่ชอบมากฟังเพลงสบายไร้เสียงรบกวน
นึกถึงตอนเปิดตัว Air แรก ๆ ที่ไม่มี DVD Drive อยากได้ อยากใช้ก็จงซื้อมาต่อเอง เรามีขายเสริม
พอได้มาใช้จริง (retina MacbookPro) ก็พบว่า ไม่ได้ต้องใช้ DVD บ่อยขนาดนั้นแฮะ นาน ๆ เสียบที
พอมาตัวนี้ เลยเห็นเลยว่า Apple พยายามจะบังคับให้โลกหมุนไป wireless ทุกอย่างสิ่ง แล้วเนียนให้คนมาเข้า
Ecosystem ของตัวเอง เพื่อความสะดวกสบาย
USB Thumb–drive — จะก็อปไฟล์ให้กันเรอะ? ใช้ OSX สิ จะได้ Airdrop ให้กัน
USB Thumb–drive — จะเซฟไฟล์เรอะ? iCloud ไง พื้นที่ไม่พอก็ซื้อสิเธอ ไม่งั้นก็ Dropbox, skydrive อะไรว่าไป
HDD External — จะแบคอัพไฟล์สำคัญ ๆ (หนัง xxx) เรอะ? ใช้ Time machine สิ อัพ wireless ไม่ต้องเสียบสาย
Display, Presentation, Projector — เปลี่ยนมาใช้ Apple TV สิ จะทีวีจอไหนก็ได้ Airplay ใส่ไป โชว์งานได้ด้วย
แล้วถ้าไม่มี wireless ล่ะ? — ใช้ iPhone ปล่อย Hotspot สิจ๊ะ
ดังนั้น เครื่องใหม่จึงให้มาแค่รูเดียว ไว้เสียบไฟ ที่เหลือก็มีขายตัวแปลง อยากได้ อยากใช้ก็จงซื้อมาต่อเอง เรามีขายเสริม
แต่เราแก้ปัญหาให้ท่านแล้ว ด้วย wireless และ ecosystem ของเรา จงมาเป็นสาวกเพื่อความสะดวกสบายซะ
ไอเดียเด็ดมากครับ... ชำเลืองมอง HDD docking กับ Internal HDD 6ลูก แล้วถอนหายใจ เฮือกกกก
น่ากลัวว่าโน๊ตบุ๊คพอร์ตเดียวเนี่ยจะเป็นเทรนด์สำหรับเครื่องใหม่ๆ ของเจ้าอื่นที่จะออกมาในอนาคตอันใกล้นี้
ลืมไปอย่าง
สั่งปริ้นท์งานผ่าน wireless ได้ด้วยนะเนี่ย…
หากPrinterคุณไม่ใช่Wireless
ก็จงซื้อAirport Expressมาต่อซ่ะ
จะว่าไปก็จริงอยู่นะครับ ทุกวันนี้ผมแทบจะเสียบแต่ปลั๊กไฟกับสายแลน
ผมก็เสียบแค่นั้นครับ ผมกำลังสงสัยตอนนี้ ถ้าทำกันกันขนาดนี้ ทำไมไม่ไปยุ่งกับมาตรฐาน IEEE 802.3 แบบเปลี่ยนให้หัวมันบางลง เหอๆ ผมคิดแบบนี้จริงๆนะครับ เพราะการตั้งค่าจริงๆ ต้องใช้ระบบสายไว้ก่อนอยู่แล้ว มันมั่นใจว่าต่อได้แน่ๆ ยกเว้น port พัง
ทุกวันนี้ พอถึงออฟฟิศผมก็หยิบโน๊ตบุ๊กจากเป้เสียบกับ Docking ที่มี Keyboard กับจอเสียบอยู่ แล้วก็หยิบ Wireless mouse จากเป้มานั่งทำงาน แทบไม่เคยใช้อุปกรณ์ต่อพ่วงอื่นเลย นอกจากชาร์จมือถือผ่าน USB กับต่อ Projector ในห้องประชุม (ซึ่งต่อแบบ Wireless เอาก็ได้ แต่ภาพมันดีเลย์นิดนึงเลยชอบต่อตรงมากกว่า)
ตามนั้นเป๊ะๆเลยครับ
http://www.apple.com/th/macbook/wireless/
อ่านอันนี้แล้วรู้สึก...
http://microsoft-news.com/apple-macbook-vs-microsoft-surface-pro-3-spec-comparison/
หลงตื่นเต้นอยู่ตั้งนาน ลืมไปว่า Surface Pro 3 มันก็ไม่ได้ดอ้นกว่าเลย แถมพอร์ตก็มีมาเยอะกว่าด้วยแงะ
เหมือนกันครับ ตอนแรกผมก็ตื่นเต้น จนไปเจอบทความที่ว่า - -" รู้สึกพลาดยังไงชอบกล
ต้องอย่าลืมนะว่า MacBook เฉย ๆ เป็น book ตัวด้อยสุดในไลน์ (นึกถึง Macbook สีขาวเข้าไว้)
ถ้าฝั่ง Apple จัดมาสู้จริง เราอาจจะได้เห็น Air ไม่ก็ Pro แบบขั้นเทพก็ได้
แต่… คงจะกั๊กไว้ก่อนตามเคย จนเจ้าอื่นออกตัวใหม่กันหมดแล้ว ค่อยออกตาม
ผมนั่งขำตั้งแต่ตอนดูถ่ายทอดสด แต่ไม่อยากเม้นอะไรมากยังไม่อยากโดนถล่ม
เรื่อง port เดียวนั่นน่าจะเป็นข้อจำกัดของทาง intel เหมือนพวก tablet 8 นิ้วสาย windows นั่นแหละ
ถ้าพูดเรื่องไร้สาย ผมมองว่า icloud ยังไม่พร้อม
ส่วนอย่างอื่น miracast, wireless print, อะไรพวกนี้ฝั่ง windows ก็มีเหมือน ๆ กันหมด
ราคาพอกัน ประสิทธิภาพดีกว่ากันมาก แต่นั่นแหละ หลาย ๆ คนก็จะบอกว่า Tablet ราคา 3 หมื่นกว่าแพงจะตายซื้อ Macbook ดีกว่าราคานี้
อะไรที่มัน Touch Screen ได้ ก็เอาไปเทียบ iPad ทันที
แต่อะไรที่มีคำว่า Windows ก็จะโดนถามว่า Run EXE ได้มั้ยทันที (ขนาด Windows Phone ยังโดน)
แต่ทีเทียบมา ผมว่าลืมเทียบ การใช้ Touchpad ไปนิดนะครับ ผมว่า Apple เนี่ยทำ Touchpad มาดีมากใช้งานได้สะดวกดี
ต่างกันหลายครับ ไหนจะเสียงพัดลม ไหนจะใช้งานในพื้นที่แคบได้แย่กว่าอีก (อย่างบนตัก) แต่เรื่องทัชแพดนี่พอจะชดเชยได้ด้วยจอสัมผัส (แม้จะไม่สะดวกเท่า)
ก็พอได้ยิ้ม Macbook Meh
ป.ล. MS Thai ช่วงนี้ไม่คิดจะเทกระจาด SP3 บางเหรอ
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
5555
เห็นด้วยมากครับ ติดอย่างเดียวจริงๆคือ Surface Pro มัน Service Battery ไม่ได้แบบไม่ได้เลย ขนาด rMBP ที่ว่าแย่ยังดูดีกว่า
อันนี้ผมคุยกับเพื่อนเมื่อวานเลย ว่าไปๆ มาๆ มันทำแนวคล้ายๆ Surface นะ
แต่ Surface ทุกอย่างอยู่ในเครื่องหมด ถอดคีย์บอร์ดได้
ส่วน new MacBook ได้คีย์บอร์ดแบบใหม่แทน
ส่วน Spec นี่ Surface ไปได้ถึง i3 i5 i7 เลย ดีกว่า new MacBook
ตัว core m อยู่ระดับไหนของตระกูล core i ครับ เร็วมากไหมครับ พอจะเล่นอะไรหนักได้ไหมครับ
คือรหัส Y น่ะครับ แรงกว่า Atom เยอะ แต่สู้พวก i3 i5 รหัส U ไม่ได้ ใช้งานทั่วไป เล่นเน็ท ดูหนัง ฟังเพลง เกมเบาๆ
ตั้งชื่อได้งงดี เอาชื่อ Macbook มารียูส แต่ทำตัวเป็น Macbook Air Air
May the Force Close be with you. || @nuttyi
MacBook Air²
Jusci - Google Plus - Twitter
คงเป็น iPad (Pro) มี keyboard ใช้ osx มากกว่านะครับ
edit ดูผิดครับ
ราคาทับซ้อนกับ rMB 13" ซึ่งก็เป็นเรติน่าเหมือนกัน แต่ตัวตัวใหม่จอเล็กกว่า สเป็คต่ำกว่า ทำงานหลากหลายได้น้อยกว่า พอร์ตเชื่อมต่อก็น้อยกว่า ผมยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้เลยว่าทำไมถึงต้องซื้อ ?? เพราะบางกว่า เบากว่า สีเยอะกว่า ??
กรณีผมว่า ควรจะตั้งราคาไปอยู่ระดับเดียวกับ MB air 13"
ถ้าคนซื้ออยากใช้งานแบบยืดหยุ่นก็เลือก Air 13" ได้จอใหญ่กว่า สเป็คดีกว่า
ถ้าคนซื้อเล่นเน็ต แต่งรูปเบาๆ ก็ซื้อ MB ตัวใหม่ ถึงแม้สเป็คต่ำ แต่เพื่อแลกกับจอ เรติน่า 12"
ผมคิดว่าไม่นาน จะต้องปรับราคาลงมาอย่างแน่นอน เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับ rMB สมัยเปิดตัวตอนแรกมาแล้ว