หลังจากที่เราได้เห็นผลการเปรียบเทียบการทำงานในส่วนของระบบกันสั่นหรือ optical image stabilization (OIS) ของ Galaxy S6 กับ iPhone6 และ Galaxy S6 Edge กับ iPhone 6 Plus ที่ซัมซุงเป็นฝ่ายเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัดมาแล้ว แต่หลายคนก็ยังสงสัยว่าหากไปทดสอบเปรียบเทียบกับ Lumia ที่ขึ้นชื่อเรื่องกล้องมายาวนานจะได้ผลอย่างไร
ในงานเดียวกันนั้นเอง Sam Pullen นักรีวิวรายหนึ่งได้นำ Lumia 930 ไปติดตั้งกับแท่นทดสอบของทางซัมซุงและเก็บคลิปวิดีโอมาให้เราชมกันครับ ซึ่งจากคลิปเราจะเห็นว่าแม้ Lumia 930 จะได้ภาพออกมานิ่งกว่า แต่ Galaxy S6 Edge เองก็ทำได้ดีพอสมควรเลยทีเดียว แม้ว่าตอนท้ายแอพกล้องของ Galaxy S6 Edge จะแครชและปิดตัวเองไปก็ตาม แก้ไข: แอพกล้องของซัมซุงจะปิดตัวเองหลังเปิดไว้เฉยๆ 1 นาทีครับ ขออภัยด้วยครับ
Optical Image Stabilization Shoot Out! #GalaxyS6 vs #Lumia930 = MUST WATCH!. http://t.co/R2BQ4ZWBES
— Sam Pullen (@samjpullen) March 7, 2015
หมายเหตุ
ในเว็บพันทิปมีการตั้งข้อสังเกตว่าโทรศัพท์ทั้งสองอยู่ในโหมดที่แตกต่างกัน โดย Lumia 930 นั้นอยู่ในโหมดถ่ายวิดีโอ ส่วน Galaxy S6 Edge นั้นอยู่ในโหมดถ่ายภาพ แต่ผมลองเปรียบเทียบภาพของ Galaxy S6 Edge ในข่าวนี้ เทียบกับภาพในคลิปจากข่าวก่อนหน้าแล้วพบว่าระดับของการสั่นไม่แตกต่างกันนัก จึงคาดว่าตัว Galaxy S6 Edge นั้นเปิดการทำงานของระบบกันสั่นในหน้าเล็งภาพของโหมดกล้องด้วยครับ
สาเหตุที่ Lumia 930 ต้องเปิดโหมดวิดีโอ เป็นผลจากในโหมดกล้องของ Lumia Camera ระบบกันสั่นจะไม่ทำงานครับ เนื่องจากเคยพบปัญหามากับตัวเองเกี่ยวกับเรื่องนี้ผมจึงขอเพิ่มข้อมูลไว้สักนิดครับ ย้อนไปในสมัย Lumia 920 เปิดตัวมาพร้อมแอพกล้อง Nokia Camera ระบบก็เป็นแบบในปัจจุบันนี้แหละครับ คือเมื่อเปิดโหมดวิดีโอ ระบบกันสั่นจะทำงานทันทีแม้ยังไม่ถ่ายภาพ ส่วนในโหมดกล้องนั้นระบบกันสั่นจะยังไม่ทำงานในช่วงเล็งภาพ แต่จะทำงานเฉพาะเมื่อสั่งถ่ายภาพเท่านั้น
ต่อมา (ผมจำไม่ได้ว่าช่วงไหน) มีการอัพเดตให้ระบบกันสั่นทำงานในหน้าเล็งภาพของโหมดกล้องด้วยครับ ผลที่ได้คือภาพดูนิ่งตั้งแต่การเล็งภาพ ซึ่งเหมือนจะดูดี แต่ในการใช้งานจริงก็ประสบปัญหา เนื่องจากโหมดกันสั่นนั้นเมื่อมีการเลื่อนหรือหมุนกล้องก็จะพยายามทำให้ภาพที่ได้ออกมานิ่ง ผลคือเมื่อเราเปลี่ยนมุมกล้องก็จะต้องรอระบบกันสั่นเลื่อนภาพตามซึ่งใช้เวลาไม่น้อยทีเดียวครับ บางครั้งตอนเล็งได้มุมนึง แต่ถ่ายออกมาจริงกลับได้ภาพที่เลื่อนไปอีกจนส่วนที่เราตั้งใจให้อยู่ขอบภาพก็ตกขอบไปแล้ว ยิ่งในกรณีการถ่ายภาพแบบเปิดหน้ากล้องนาน ผมติดตั้งโทรศัพท์ไว้บนขาตั้งเป็นอย่างดี เลื่อนมุมกล้องปุ๊บ กดถ่าย ภาพที่ออกมาก็เละครับ เนื่องจากระบบกันสั่นยังค่อยๆ กวาดเลนส์มายังมุมมองปัจจุบันอยู่
ผลสุดท้ายก็มีการอัพเดตแอพเพื่อปิดการทำงานของระบบกันสั่นในหน้าเล็งภาพของโหมดกล้องครับ ซึ่งช่วยให้การเล็งภาพได้มุมใกล้เคียงกับภาพจริง ทั้งนี้ผมไม่แน่ใจว่า Galaxy S6 มีการจัดการในเรื่องนี้อย่างไรนะครับ อาจไม่มีปัญหาเดียวกันนี้ก็ได้
เมื่อครั้งผลการเปรียบเทียบ Galaxy S6 Edge กับ iPhone 6 Plus ออก ในเว็บนี้เองก็มีคนตั้งข้อสังเกตว่า Galaxy S6 Edge ออกมาทีหลัง iPhone 6 Plus ค่อนข้างนาน หากจะทำได้ดีกว่าก็ไม่แปลก ในส่วนของ Lumia 930 นั้นใช้ซอฟต์แวร์และโมดูลกล้องเหมือนกับ Lumia 1520 ทุกประการ (เวลาถ่ายภาพก็ได้ออกมาเหมือนกัน) ซึ่ง Lumia 1520 นั้นเปิดตัวเมื่อเดือนตุลาคม 2556 ครับ
ที่มา - @samjpullen, Pantip
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
ผมลองไปอ่านคอมเม้นหลายๆ ที่มา ดูเหมือนว่า ตัวแอพกล้องซัมซุงมันจะปิดตัวเอง เมื่อ stand by ไปซักระยะหนึ่งนะครับ ไม่ใช่การแครช อันนี้รอผู้ใช้ซัมซุงมายืนยันอีกที
โอ้ ขอบคุณครับ ขอรอคำตอบด้วยคนครับ แต่ปกติเห็นจะใช้เวลาปิดหน้าจอในการปิดกล้องไปด้วยอยู่แล้ว - -" แต่สำหรับคนชอบตั้งเวลาปิดหน้าจอนานๆ ก็น่าจะเหมาะดีครับ
ถ้าไม่ได้ REC อยู่แล้วปิด อันนี้เข้าใจ
แต่ถ้ากด REC แล้วนานๆ เข้าหน้า Home ให้อันนี้ ร้องไห้กันเลยทีเดียว 55+
ผมมั่นใจว่า เปิดกล้องนานๆแล้ว แครช ครับ
ผมเคยใช้สมัย SSG V คือ มันไม่ค้างก็ Restart เลยครับ ไม่ใช่แค่กลับมาหน้า HOME เฉยๆ
เป็นกับ SSG ตอนออกใหม่ๆแทบทุกรุ่นเลยครับ
พูดเรื่องความใหม่เก่า ระหว่าง samsung vs nokia แล้วทำไมไม่พูดว่า iphone ก็หลัง nokia นานเหมือนกัน รำคาญมากเลย พูดไม่หมดแบบนี่
ผมว่าผมให้ข้อมูลครบแล้วนะครับ อยากให้พูดถึงเรื่องไหนอีกครับ???
เขาพูดไม่หมดหรือคุณอ่านไม่หมดครับ
ึรับซัมซุง ถ้าเราเข้ากล้องแล้วไม่ถ่ายรูปถ่ายวีดีโอ สักระยะจะเด้งออกเองครับ
พอมาอันนี้ เงียบกันหมดเลยนะครับ 5555 อันก่อน วิจารณ์กันยาวดี
ผมว่านะ รอตัวเครื่องจริงๆออกอนดีกว่านะครับ มีคนเอาไปใช้งานจริงๆเลย น่าจะมีคนเอาไปทดสอบเยอะกว่านี้มากๆ
ทั้งคนทัวๆไป ทังคนที่ชำนาญ
คิดไปคิดมาผมว่าจะมีสักกี่คนที่เอาเรื่องกันสั่นมาเป็นประเด็นหลักในการเลือกมือถือ เพราะการใช้งานในชีวิตจริงนั้นแทบจะไม่มีใครมานึกถึงตรงนี้เลยเวลาถ่ายรูปมันแค่อืมรูปนี้โอเคแล้วกับรูปนี้ไม่ค่อยดีเลยถ่ายใหม่ๆ สำหรับ edge ผมว่าด้วยภาพรวมมันก็ดูดีจนน่าจะขายได้ดีอยู่แล้ว
จะเห็นความต่างตอนถ่ายรูปในที่แสงน้อยๆนั่นแหละครับ กับตอนเดินถ่ายวีดีโอ
ผมว่าคนใช้มือถือส่วนใหญ่ไม่ได้ซีเรียสเรื่องรูปภาพแล้วก็นึกถึงเรื่องกันสั่นขนาดนั้น มันยากมากที่จะเจอโอกาสที่จะได้เปรียบเทียบแบบจะๆ อะไรแบบนั้นครับ(โดยเฉพาะยากมากที่จะเจอใครใช้ Lumia ตามรุ่นที่หลายๆ ท่านพูดถึง) ผมว่าโดยปกติเวลาคนจะเลือกซื้อมือถือก็จะดูแค่ รูปลักษณ์ ขนาด ถ่ายรูปทั่วไปสวยหรือเปล่า ซึ่งเรื่องกันสั่นของกล้องผมว่ามันยังไม่ได้พัฒนาจนเห็นความแตกต่างแบบชัดเจน แค่บอกว่ามีกันสั่นคนก็จะเข้าใจแค่ว่ามีกันสั่น ซึ่งไม่ว่ามันจะมีเทคโนโลยีอะไรดีขนาดไหนผมว่ามันก็ไม่น่าจะหนีกันมากในตอนนี้ ขนาดบนกล้อง DSLR กันสั่นแบบดีๆ มันก็ยังช่วยได้ไม่กี่ stop
ทั้งนี้ทั้งนั้นผมเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผมนะครับ ไม่ได้มีอะไรอ้างอิง
ต้องลองถ่ายวีดีโอเดินไปมาขี่มอไซต์ แล้วใช้ตัวแบบไม่มีกันสั่นแล้วใน VR มองครับไม่อ้วกนี้เก่งมากครับ มองปกติยังนั่งมึนเลยผม ฟีเจอร์เล็กๆที่คนไม่ใช้ไม่สนใจแต่คนต้องใช้แล้วไม่มีมันเจ็บปวดครับ
ตามนั้นครับเพราะผมก็ใช้เลนส์ที่มี VR อยู่ ยินดีที่ได้รู้จักคนใช้ Nikon เหมือนกันนะครับ คือผมมองว่าต้องคนที่จริงจังกับเรื่องนี้มากถึงจะมาจี้ว่าอันไหนดีสุดในตลาดซึ่งน่าจะมีน้อยมากๆ (อันนี้ผมพูดถึงมือถือนะครับ) โอกาสที่จะใช้งานแบบนั้นมันน้อยครับ ตามความเห็นส่วนตัวคือเวลาคนที่เห็นรูปหรือวิดีโอที่ถ่ายมาก็จะคิดแค่ อืมโอเคนะ เอ๊ะอันนี้ทำไมภาพมันสั่นจัง ไม่ได้ซีเรียสอะไรมาก มันเหมือนเป็นฟีเจอร์ที่ปิดทองหลังพระน่ะครับอธิบายไม่ถูก คนใช้งานทั่วไปแทบจะไม่รับรู้ถึงการมีอยู่ของมัน ซึ่งตรงนี้ผมว่ามันไม่ได้เป็นตัววัดชี้เป็นชี้ตายว่ามือถือเครื่องนั้นๆ จะขายดีหรือไม่
ผมว่ามีส่วนเยอะอยู่ครับ ผมเคยเดินเข้าไปคุยกับพนง. ใน Nokia Shop เรื่อง OIS พนักงานยังไม่รู้เลยว่า OIS คืออะไร แล้ว Lumia รุ่นไหนมีหรือไม่มีบ้าง
แชร์ความเห็นส่วนตัวบ้าง คือก่อนใช้ผมก็คิดว่าไม่ซีเรียสนะแต่พอเปลี่ยนโทรศัพท์จาก note1 มา note4 ส่วนตัวผมว่าผมชอบนะครับการที่โทรศัพท์มี OIS มันช่วยเยอะเหมือนกัน ถ่ายภาพกลางคืนนี่ถ้าไม่ประมาทจริงๆแทบไม่มีภาพเบลอเลย ด้วยความที่กล้อง note4 มันเทียบกับเลนส์ไวด์ของ FF ประมาณ 31mm ก็เลยยิ่งเห็นผลว่า OIS มันช่วยได้เยอะ กว่ากล้องใหญ่ที่เรามักจะสนใจทดสอบกันสั่นในช่วงเทเลซะมากกว่า แต่ส่วนใหญ่คนดูรูปทาง FB เขาไม่สังเกตเท่าไหร่ว่าเฮ้ยภาพกลางคืนนี้เราใช้มือถือถ่ายชัดได้ไง ส่วนใหญ่เค้าคิดว่าผมใช้กล้องใหญ่ถ่าย เว้นแต่ถ้าไปด้วยกันถ่ายพร้อมกันด้วยมือถือเทียบกันนี่แหล่ะถึงมีการข่มกันเล็กๆระหว่างสาวกสองค่าย
อาจจะจริงที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้เข้าใจว่า กันสั่นมันดียังงัย นั่นเพราะคนส่วนใหญ่ยังไม่เคยได้ใช้ กันสั่นจริงๆมากกว่า คือสัดส่วนคนที่ใช้โทรศัพท์ตัว top(ที่มีกันสั่น) ผมว่าก็ยังน้อยนะครับ แต่ผมเชื่อกันสั่นจะมีความสำคัญกับคนทั่วไปเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่มันต้องใช้เวลา ก็เหมือนตอนสมัยแรกๆที่ canon มี IS ตอนแรกๆก็มีแต่คนคิดว่าแพงเกิ้น ทำไปทำมากลายเป็นสิ่งจำเป็นไปแล้ว
อันนี้พูดในฐานะที่ปกติผมก็ถ่ายภาพนิดหน่อยครับใช้ IS VR OSS อยู่เป็น คหสต ครับ
ถ้าเอาถ่ายภาพในที่มืดนี่รูรับแสงช่วยได้เยอะเลยครับ ชนิดที่ Lumia 920 ถ่ายวิดีโอออกมาสว่างชัดเจนดีแต่ Lumia 930 มองไม่เห็นอะไรเลยนอกจากแสงแฟลชสะท้อนลูกตาผมเลยทีเดียว (ตอนไปถ่ายราดน้ำแข็ง) ผมถึงกับเซ็งเลยครับ มาหดรูรับแสงทำไม (T^T)
แต่แน่นอนครับ ถ้ารูรับแสงกว้างแล้วมี OIS ดีๆ ช่วยย่อมดีกว่าในสถานการณ์ส่วนมาก
Lumia Camera 5 น่าจะช่วยได้เยอะนะครับ Lumia 1520 ผมเมื่อก่อนถ่ายวิดีโอกลางคืน noise กระจาย ตอนนี้เหมือนคนละโลก ไม่รู้ว่าทำไมไม่เข็นออกมาตั้งนานแล้ว ใช้มาตั้งปีกว่าเพิ่งจะถ่ายวิดีโอแบบชัดๆตอนกลางคืนได้
คนไม่เคยใช้ไม่รู้ครับ ผมพึ่งเปลี่ยนจาก 920 มา galaxy A5 ผมคิดถึง OIS มากๆเลยครับ
คงประมาณนั้นครับ จะรู้สึกว่ามันสำคัญยังไงก็ต่อเมื่อได้สูญเสียมันไปแล้ว ส่วนตัวผมเองถ้าให้กลับไปใช้มือถือที่ไม่มีระบบกันสั่นก็คงรุ้สึกหงุดหงิดไม่ใช่น้อย
มันจะเป็นปัญหาใหญ่ทันทีแม้แต่เรื่องไม่เป็นเรื่องหากซัมซุงแย่กว่า iphone แต่พอไอแย่กว่า เรื่องใหญ่ๆก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไป
ควรจะตอบอย่างไรให้ถูกใจคุณดีครับ คือผมไม่ได้คิดไปถึงไอโฟนอะไรเลย แค่ประเมินจากคลิบของ topic นี้ซึ่งเท่าที่ดูจากทั้งสองเครื่องก็ทำได้ดีเท่าๆ กันแล้วก็ตอบไปตามความรู้สึกที่ว่า Lumia ที่ทำเรื่องกล้องเรื่องภาพได้ดีมานานแล้ว ก็ไม่ได้เป็นตัวแปรหลักที่จะทำให้คนส่วนใหญ่หันมาเลือกใช้ได้ เรื่อง Image Stabilization มันก็แล้วแต่คนจะให้ความสำคัญครับ สำหรับหลายๆ คนมันมีเรื่องอื่นๆ ที่เค้าให้ความสำคัญมากกว่า แล้วผมก็ไม่ได้ว่า Samsung ทำได้ไม่ดีนะ โดยรวมทำได้ดีจนน่าจะขายได้ดีกว่าเดิม
ทำไมเขาไม่เอาตัวเทพอย่าง 1020 มาเทียบกับ S6 น้อ?
หรือว่า 1020 ระบบกล้องไม่ดีเท่า 930 ???
คือผมเห็นมีคนบอกว่า ไม่มีโทรศัพท์มือถือเครื่องไหนในโลก ที่จะกล้าเอามาเทียบชั้นกับ 808 PureView กับ Lumia 1020 ได้อีกแล้ว ประมาณว่า มีแต่คนเอารุ่นั้นรุ่นนี้ยกมาเทียบชั้นกันว่าใครแน่กว่าใคร แต่ดันมีวงเล็บเล็กๆ มาด้วยว่า ยกเว้น Lumia 1020 (ซะงั้นอ่ะ) ดังนั้นผมจึงอยากทราบไงครับว่า ในบรรดา Lumia ทั้งหมด 1020 เจ๋งที่สุดและไม่มีวันตายใช่ไหมครับ? และเป็นดังที่เขาว่ากันใช่หรือไม่?
คือไม่ใช่อะไร ผมจะได้ไปหามือ 2 มาเก็บไว้ใช้ซักเครื่อง ไหนๆ ก็ได้ไปต่อ Windows 10 อยู่และ
รอ 1030 เลยดีกว่าครับผมว่าผลงานไมโครซอฟท์ราคากับคุณภาพค่อนข้างดี อาจจะได้อะไรที่มากกว่าเดิม
Lumia 1020 ภาพที่ได้เจ๋งจริงครับ แต่ให้ผมเลือกตอนนี้ก็คงไม่เอาแล้ว ด้วยข้อจำกัดของมันจนทำให้ใช้ Lumia Camera v5 ไม่ได้นี่ก็ลำบากไปเยอะแล้วครับ
แค่ 930 ก็สู้ไม่ได้แล้วไม่ต้องถึงพี่ใหญ่หรอก
ตัวหน่วยประมวลผลมันช้ามากเลยครับ ถ่ายทีรอไปสี่อึดใจกว่าจะถ่ายได้อีกทีนึง
ไม่มีคนบอกว่า S6 วางเอียงบ้างเหลอครับ
อยากเห็นเทียบกับ LG G3 แฮะ
"With the first link, the chain is forged. The first speech censured, the first thought forbidden, the first freedom denied, chains us all irrevocably."