จากข่าว กูเกิลเปิดศึกกับโฆษณาฝังเว็บเพจ (Ad Injector) โดยแบนส่วนเสริมบางตัวของ Chrome วันนี้กูเกิลออกมาเผยผลการศึกษาเรื่องวงการ Ad Injector ที่ร่วมกับมหาวิทยาลัย University of California, Berkeley และ Santa Barbara
วิธีเก็บสถิติของกูเกิลคือฝังโค้ดตรวจจับว่าผู้ใช้โดน Ad Injector หรือไม่ลงในเว็บเพจของกูเกิลเอง และได้ข้อมูลของ Ad Injector เป็นหลักสิบล้านรายไปวิเคราะห์ ผลออกมาว่าผู้ใช้เน็ตกลุ่มตัวอย่าง 5.5% โดน Ad Injector เข้าแล้ว (ถ้าแยกตามระบบปฏิบัติการคือ 5.1% ของเพจวิวจากผู้ใช้ Windows และ 3.4% จากแมค โดนฝังโฆษณา)
กูเกิลบอกว่าพบส่วนเสริมของเบราว์เซอร์กว่า 50,000 ตัวที่แอบฝังโฆษณาลงหน้าเว็บ และมีแอพกว่า 34,000 ตัวที่เข้าไปเปลี่ยนเนื้อหาบนเบราว์เซอร์ วิธีการทำงานของวงการนี้คือ สร้างซอฟต์แวร์ฝังโฆษณาด้วยไลบรารีเฉพาะทาง (เช่น Superfish) แล้วหลอกล่อให้ผู้ใช้ติดตั้งซอฟต์แวร์เหล่านี้ลงไปด้วยวิธีการต่างๆ เช่น ผนวกไปกับซอฟต์แวร์ชื่อดังที่ให้ดาวน์โหลดฟรี หรือทำตลาดผ่านโซเชียล
ที่ผ่านมากูเกิลใช้มาตรการหลายอย่างเพื่อคุมเข้มปัญหานี้ ทั้งการแบนส่วนเสริมของ Chrome และเตือนให้ผู้ลงโฆษณาผ่านเครือข่ายของกูเกิลรับทราบว่าโฆษณาอาจถูก Ad Injector นำไปใช้เพื่อหารายได้
ที่มา - Google Online Security Blog
Comments
ในไทยนี้โดนกันเยอะ จนขี้เกียจตอบกันละ
Mekokung's Story บล็อกส่วนตัวที่ย้ายไป Blogger แล้วนะ
เยอะมาก เวลาไปยืมคอมพ์ใครใช้แป๊บเดียว ต้องไปแก้ให้ตลอด รู้สึกอึดอัดแทนปล่อยไว้แล้วเหมือนมีอะไรมาจุกที่อก บางอันแก้ไม่ได้นี่รู้สึกสยิวๆยังไงก็ไม่รู้
เจอแบบว่ามันมาตาม ip โมเดมอะไรเนีย เรียกไม่ถูก
ต้องแก้เป็น 8.8.8.8 ตลอดเลย ไม่งั้นไม่หาย
ผมใช้ 8.8.8.8 ยังเคยโดนเลยครับ
ขนาดผมเป็นคนที่ค่อนข้างระวังเรื่องการคลิกมั่วซั่ว เรื่องโหลดโปรแกรม ยังโดนไป 1 ดอกเลย
ใช้อะไรสแกนได้ครับ
พวกนี้พอใช้โปรแกรมแสกนตามคำแนะนำบนเว็บ มันก็ให้ซื้อโปรแกรมอีกถึงจะลบได้