ปีนี้ประเด็นสำคัญของโลกออนไลน์ไทยคงเป็นประเด็นกฎหมายเศรษฐกิจดิจิตอลที่ออกมารวดเดียวสิบฉบับ ขณะที่แรงสนับสนุนกฎหมายเหล่านี้มาจากฝั่งทหาร ที่ระบุว่า "ไม่ได้ทำผิดก็ไม่ต้องกลัวการตรวจสอบ" เมื่อปี 2555 คณะกรรมมาธิการทหาร วุฒิสภา ได้ทำรายงาน "สื่อสังคมออนไลน์กับภัยคุกคามความมั่นคงของชาติ" (PDF จากเว็บวุฒิสภา) เนื้อหาของรายงานฉบับนี้น่าจะทำให้เราได้เข้าใจมุมมองของการผลักดันกฎหมายและนโยบายหลายอย่างในปีที่ผ่านมา วันนี้ผมจึงยกประเด็นหลายประเด็นจากรายงานนี้มาสรุปไว้
กระทรวงไอซีทีพยายามปิดเนื้อหาจาก YouTube อย่างหนัก แต่ปรากฎว่าไม่สามารถปิดได้เนื่องจากมี URL หลากหลาย และไม่สามารถปิดกั้นบน iOS ได้ (เข้าใจว่าเพราะเข้ารหัส) กระทรวงไอซีทีพยายามเจรจากับกูเกิลและเฟซบุ๊ก แต่ได้รับความร่วมมือจำกัดเฉพาะเว็บลามกอนาจาร, ยาเสพติด, หรือการเรียกค่าไถ่ แต่เรื่องหมิ่นสถาบันรับไว้พิจารณา นอกจากนี้กระทรวงไอซีทีเสนอว่าปัญหาของการปิดกั้นเว็บไซต์อยู่ที่ดาวเทียมไม่ได้อยู่ในกำกับของรัฐบาล ถ้าดาวเทียมอยู่ในกำกับก็จะปิดกั้นได้เลย สอดคล้องกับกระทรวงไอซีทีพยายามเสนอให้สร้างดาวเทียมใช้เองเมื่อปลายปีที่ผ่านมา
ทางอนุกรรมาธิการเสนอต่อกระทรวงไอซีทีให้ ISP เก็บล็อกการอัพโหลดวิดีโอ เพราะระหว่างอัพโหลดจะมีค่า ID ของวิดีโออยู่แล้ว ถ้ารู้ค่าเหล่านี้พร้อมค่าไอพีก็จะจับกุมได้
รายงานยังระบุถึงความจำเป็นของการลงทะเบียนซิม โดยอนุกรรมาธิการให้ความเห็นเพิ่มเติมหลายครั้งว่าการลงทะเบียนซิมเป็นปัญหาทำให้ไม่สามารถระบุเจ้าของได้ แต่ก็ยอมรับว่าหากบังคับลงทะเบียนก็จะเกิดปัญหาการใช้บัตรประชาชนคนอื่นมาลงทะเบียน ทางอนุกรรมาธิการเสนอว่าอนาคตอาจจะใช้ข้อมูลพันธุกรรมมาระบุตัวตนเจ้าของซิม
สำนักงานตำรวจแห่งชาตินำเสนอแนวคิด Lawful Interception เพราะไม่สามารถหาตัวตนผู้โพสได้ โดยยกตัวอย่างการโพสเฟซบุ๊กที่ ISP เคยปฎิเสธว่าไม่มีอุปกรณ์ตรวจสอบและต้องใช้หมายศาลเพื่อขอข้อมูล ทางตำรวจจึงต้องไปขอหมายศาลก่อนจะเข้าตรวจสอบและจับกุมภายหลัง
ทางกระทรวงกลาโหมระบุว่ามีความพร้อมในหลายด้านโดยสามารป้องกันเครือข่ายของทหารเองได้ (Computer Network Defense - CND) และสามารถเจาะระบบอื่นๆ (Computer Network Exploitation - CNE) แต่ใช้เฉพาะความมั่นของประเทศและสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยมีข้อจำกัดห้ามใช้เครื่องมือของราชการ
ทางกองทัพบกได้แสดงตัวเลขการทำเดินงานเผยแพร่ข้อมูลตอบโต้กลุ่มต่อต้านสถาบัน และชี้แจงข้อเท็จจริงในการปฎิบัติภารกิจของกองทัพบก ในปี 2554 สามารถโพสได้เฉลี่ยวันละ 11,393 ข้อความ รวมทั้งปีมากกว่าสี่ล้านข้อความ
รายงานทัั้งหมด 156 หน้า รวบรวมความเห็นจากหน่วยงานจำนวนมากกว่าที่ผมยกขึ้นมา ผู้สนใจว่านโยบายไอทีปัจจุบันที่หลายครั้งไม่เข้าใจว่าทำไมจึงทำเช่นนี้ การอ่านรายงานฉบับนี้ก็น่าจะทำให้เข้าใจได้ดีขึ้น
Comments
ตรวจสอบอย่างไรว่าโพสต์ไปแล้วกี่ข้อความครับ
ปกติคณะกรรมการตรวจรับงาน ต้องเข้าไปตรวจสอบว่าทำงานครบอย่างไร ในกรณีนี้ ก็ต้องเข้าไปดูได้ว่าทำงานอย่างไรครบหรือไม่
ไม่อย่างนั้นบอกโพสต์ไปแสนข้อความล้านข้อความ แต่จริงๆแล้วโพสต์สักหลักสิบก็เป็นไปได้
3 ล้านกว่าข้อความ เฉลี่ยวันละ หมื่น กว่าข้อความ "ทรงพระเจริญ"
ไม่อยากจะนึกเลยว่า ปีๆหนึ่งต้องลงทุนเท่าไหร่ เฉพาะเผยแพร่ข้อความ 3ล้านกว่า คงใช้เงินเยอะอยู่
ไม่รวมอย่างอื่น ที่เห็นตามท้องถนน ก็มากมาย
เผยแพร่ข้อความเทิดทูน... ใครก็ตามที่คิดวิธีนี้ขึ้นมา ขอร้องเถอะครับ นี่มันบ่อนทำลายทางอ้อมชัด ๆ ผมรักในหลวงอยู่แล้วอย่ามาอวยจนเกินงาม ส่วนคนที่ไม่รัก อวยไปมันก็ไม่หันกลับมามอง แต่จะได้ผลตรงข้าม เกลียดหนักเข้าไปอีก
แทนที่จะสั่งให้โพสท์ข้อความโง่ ๆ สั้น ๆ ผมสนับสนุนให้โพสท์ "ชีวิตจริง" ของใครหลาย ๆ คนที่น้อมนำแนวทางของพระองค์ท่านไปใช้ แล้วได้ผลจริง มีชีวิตดีขึ้นจริง แบบนี้ดีกว่าโขครับ คนพร้อมจะไลค์และแชร์กันมากกว่าเยอะ
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
+1
สถาบันฯระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท ก็เพราะพวกอวยพวกคลั่ง กับ ม.112 นี่แหละ (ความเห็นเกินเลยไปป่าวหว่า)
ก็ต้องเข้าใจอะคับ ว่าประเทศไทยมีลักษณะพิเศษ คืออยู่ตรงกลางระหว่างหลายๆประเทศ
ประเทศรอบข้างก็มีสงครามเกิดขึ้นเพิ่งจะจบไปไม่กี่สิบปี มีการใหลบ่าของคนจากถิ่นอื่นๆ อยู่มาก
คนจากประเทศรอบข้างก็มีสถานะที่ต้องพึ่งพิงเศรษฐกิจของไทย และคนที่พูดภาษาไทยได้ก็มีจำนวนมาก
พรมแดนประเทศก็ไม่มีการกั้นกำแพงแบบที่เราเห็นใน google map
ดังนั้นเราจึงไม่สามารถทราบได้เลยว่า คนกลุ่มต่างๆที่กระทำการต่างๆ เป็นคนไทยจริงๆ หรือเป็นการแฝงตัวของต่างชาติ
หรือเป็นการสนับสนุนจากชาติอื่นๆ ถึงจะใช้ภาษาไทย ก็เถอะ หน้าตาสำเนียงก็ไม่ต่างจากคนไทย ที่เป็นพหุสังคมมาหลายร้อยปี
หน่วยพิเศษของทุกประเทศในโลก จะเป็น devgru , seal , กรีนเบเร่ หรือ อรินทราช ของไทย และประเทศอื่นๆในเอเชียเอง
ก็ล้วนแต่ได้รับการฝึกหลักสูตร Asymmetric warfare ลักษณะการปฎิบัติการทางจิตวิทยา อย่างที่อเมริกาทำก็มี เช่นแฝงตัวไปในหมู่บ้านหนึ่ง ดำรงชีวิตอยู่ระยะหนึ่ง และหว่านล้อม สร้างข่าวสาร ให้คนในชาตินั้นๆ ปฎิบัติการในทิศทางที่ตนวางเอาไว้
ซึ่งปลอดภัยจากการถูกจับว่าประเทศ B แทรกแซก ประเทศ A (เพราะคนในประเทศ A เป็นผู้กระทำเอง) และสามารถอ้างอิงหลักการมวลชนได้
เหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดซ้ำๆ มาแล้วในทุกประเทศ โดยเฉพาะกรณีที่มีผลประโยชน์เป็นที่ตั้ง
เราไม่สามารถรู้ได้หรอกคับว่าใครได้ประโยชน์สูงสุดจากความขัดแย้งหลายปีที่ผ่านมา แต่ที่แน่ๆชาติเสีย
ลัทธิ Masons ในไทยก็มีกลุ่มแล้วนะ เป็นกลุ่มทุนที่ว่ากันว่าเป็นเจ้าของโลกในปัจจุบันที่แท้จริง ควบคุมข่าวสารได้ทุกอย่าง
ที่บิลเกต เป็นคนรวยสุดในโลกก็เป็นแค่การ สร้างข่าวสาร ของกลุ่ม Rothschild
ผมสังเกตมาตั้งแต่หลายปีที่แล้วนะ ว่าตอน Forbes จัดอันดับโมนาชที่รวยสุดในโลก กลับไม่มีควีน Elizabeth ทั้งที่เป็นเจ้าอาณานิคม
ของสหราชอาณาจักร (อาณาจักรที่มีหลายแผ่นดินหลายทวีป) และเหมืองทองที่ผลิตทองได้เยอะอันดับรองๆของโลก ก็อยู่ที่ออสเตรเลีย (ใครเล่นทองจะรู้จักทองยี่ห้อ Perth Mint ดี) ออสเตรเลียก็มีควีนคนเดียวกับอังกฤษ และยังไม่รวมผลประโยชน์มหาศาลจากประเทศอินเดีย พม่า แอฟริกา
แต่กลับยกให้ไทยเป็นตัวแทน ทั้งที่เป็นการนับทรัพย์สินของราชวงศ์จักรี (ไม่สามารถนำไปใช้จ่ายได้เป็นการส่วนตัว) - -")
ผมมองว่า ข่าวสารทั้งหลาย รวมถึงการเดินเกม Asymmetric warfare
มันเป็นเกมที่ฝ่ายทุนนิยม ทางนั้นเริ่ม "เดินเกม" อะไรซักอย่าง เพราะผลประโยชน์มันสอดคล้องกับการเกิดของ AEC ,
การเปิดประเทศของพม่า , การขยายเศรษฐกิจของจีน
และไทยมีสถานะเหมือนสวิสเซอร์แลนด์ คืออยู่ตรงกลางจุดยุทธศาสตร์ ภูมิภาคทางบก พอดี
ปัจจุบันการถือครองที่ดินในไทยนั้นมีข้อจำกัดหลายเรื่อง
การแทรกแซงของกลุ่มทุนต่างชาติ (เหมือนที่เคยเกิดตอน ปรส) ก็มีข้อจำกัดหลายอย่าง
และวิธีปลดล๊อกนี่ก็มีหลายวิธี
สนุกมากๆค่ะ
//me รู้สึกระทึก
แหะๆประเทศเขากษัตริย์จ่ายภาษี สภาสูงเรียกพบได้ ราชวงศ์ติดคุกได้นะครับ...
เขาถึงบอกไงคับว่าตระกูล Rothschild เป็นตัวจริง - -"
จริงๆควีน Elizabeth บิดาท่านเป็นเยอรมันนะคับ (ตระกูล Wettin)
ส่วนภาษีก็นั่นละคับ ที่ไม่มีการติดอันดับ top 10 แถมระบุว่ามีรายได้น้อย (อย่างผิดปรกติ) เพื่อลดภาษี
ผมเน้น ถึงเรื่องปัญหาข้อเท็จจริงของการจัดอันดับทรัพย์สินคับ
เอาจริงๆแค่วังวินเซอร์ที่เดียวก็อุดมไปด้วยสมบัติจากอาณานิคมทั้งเก่า ใหม่ ปัจจุบัน นับมูลค่าไม่ได้แล้ว
ที่น่าคิดคือความสามารถในการควบคุมข่าวสารระดับที่ไม่ปรกตินี่แหละคับ
กฎหมายจะตราว่าอะไร อำนาจที่เยอะขนาดควบคุมข่าวสาร ได้ขนาดนี้
ย่อมลบล้างกฎหมายได้ไม่ยากคับ ไปลบล้างที่เบื้องหลังเอา
เออ ผมว่าไม่นะครับ
ข้องใจอะไรเกี่ยวกับฐานะทางการเงินของ ราชวงศ์อังกฤษ เชิญที่นี้เลยครับ http://www.thecrownestate.co.uk/ เค้าว่าโปร่งใสม๊ากมาก
อังกฤษเขาแยกสถาบันมาชัดเจนครับ แยกทรัพย์สินของรัฐออกจากของราชวงศ์หมดแล้ว ปีก่อนๆสมัยharry potter กำลังดัง คนเขียนได้ชื่อว่ามีทรัพย์สินมากกว่าqueenอังกฤษอีก
ลองตั้งคำถามนะ
-อังกฤษเป็นประเทศแรกที่ปฎิวัติอุตสาหกรรม
-การปฎิวัติอุตสาหกรรม เกิดในยุคสมัย Queen Victoria
- การวิจัยใช้เงินทุน นักลงทุนยุคแรกของโลกก็คือตระกูลขุนนางทั้งหลาย
- Queen Victoria สนับสนุนการปฎิวัติอุตสาหกรรม
- Queen Victoria อยู่ในสมัยเริ่มล่าอาณานิคม (ตอนนั้นได้อินเดีย พม่า มลายูไปหมด แล้ว)
- Queen Victoria มีลูกคือ Edward 7
- Edward 7 มีลูกคือ George 5
- George 5 มีลูกคือ George 6
- George 6 มีลูกคือ Queen Elizabeth 2
ทรัพย์สินจำนวนมากเท่านั้น ในช่วงเวลา 200 ปีจะเพิ่มเป็นกี่เท่า ลองคิดดิคับ
และมูลค่าของทรัพย์สินเหล่านั้นที่หมุนเวียนในระบบลงทุนปัจจุบัน จะปันผลเท่าใหร่
ความเห็นนี้ทำให้ฉุกคิดขึ้นมาได้
น่าแปลกน่ะคะ "พลเมือง" อังกฤษหรือคนทั่วไปที่ไม่ใช่คนอังกฤษ
สามารถตั้งคำถาม/วิพากษ์วิจารณ์/ตรวจสอบ ราชวงศ์อังกฤษได้
เสนอข่าวในด้านเสียๆหายๆได้ ปาปารัซซี่ไปตามเก็บภาพส่วนตัวได้
//me Long live Queen Elizabeth II
ระบบการปกครองของอังกฤษกับเราไม่ได้ตรงกันเสียทีเดียวนะครับ พื้นฐานของเขาเป็น Feudal ที่ขุนนางมีอำนาจมาก แต่ละคนก็ถือครองทรัพย์สินของตัวเอง ส่วนของเรานี่ เปลี่ยนมาเป็นAbsolute Monarchy ที่รวบอำนาจจากขุนนางมาหมดเรียบร้อยแล้ว
ถึงมองข้างนอกจะเหมือนกัน เพราะสุดท้ายก็กลายเป็นระบบที่เป็นประชาธิปไตย โดยยังไม่ล้มเลิกระบบกษัตริย์ แต่จุดเปลี่ยนแปลงของเรากับเขาก็ต่างกัน โครงสร้างอำนาจเราไม่ได้กระจายเท่าของเขา ของเรา อำนาจยังวิ่งอยู่ในกลุ่มกษัตริย์-ทหารอยู่เลย และเป็นมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกแล้วด้วย
พูดถึงอังกฤษ นี่การส่งเสริมความรู้ทางวิทยาศาสตร์ของพวกเขาในยุคอาณานิคมนี่น่าทึ่งมากเลยครับ
การที่ยางแพร่ไปทั่วโลกได้ เพราะอังกฤษประเทศเดียวเลย เขาไปที่พื้นที่ไหน ก็มองของที่นั่นเป็นทรัพยากรที่สามารถหาประโยชน์ได้หมด แล้วนักวิชาการที่ติดตามไปก็จะนำตัวอย่างไปทำวิจัย ถึงกับแข่งกันทำวิจัยเพื่อเป็นหน้าเป็นตาด้วย
จำได้ว่า ยางนี่ไปรุ่งในพื้นที่ที่ไม่ใช่ถิ่นกำเนิดของตัวเองเพราะ อังกฤษขยาดแหล่งพื้นที่อะเมซอนที่เต็มไปด้วยมาลาเรียครับ เลยพยายามย้ายของพวกนี้ออกมา
การปกครองเป็น ลาภ เป็นทรัพย์ นั่นคือมุมมองในแบบตะวันตกนะคับ - - ตั้งแต่สมัยโบราณมาแล้วประเทศไทยดำรงอธิปไตยได้ก็เพราะการป้องกันประเทศ สมัย ร.3 เรายังรบกับพม่าอยู่เลย 30 กว่าปีที่แล้วก็เกิดวิกฤติคอมมิวนิสต์ ที่ผ่านมาไทยมีแต่เสียดินแดนซ้ำซาก แต่ไม่เคยได้ผลประโยชน์อะไรเพิ่ม ตอน ร.6 เกิดวิกฤติข้าวยากหมากแพง ร.6 ก็ยังสั่ง "เก็บภาษี" ที่ดินของท่านเอง (เดิมทีที่ดินของขุนนางยกเว้นทั้งหมด) ทั้งที่พระคลังก็หมดไปกับเงินถุงแดงค่าปฎิกรณ์สงครามสมัย ร.4 แล้ว
การรวบอำนาจเนี่ย ก็เรื่องเดียวกับที่ไทยรอดจาก อาณานิคม มาได้ไงคับ
ตอน ร.4 การปกครองยังเป็นหัวเมืองแยก ที่เรียกว่าระบบ mandala
แต่โลกตะวันตกมันเป็น การรวมอำนาจทหารมาที่ศูนย์กลาง เป็น nation state
ไทยเราเป็นประเทศเดียวแถวนี้ที่ริเริ่มพัฒนา nation state
ถึงจะสู้ตะวันตกไม่ได้แต่ก็ทำให้เกิดพลังทางการทหารในระดับหนึ่ง แม้จะไม่ถึงกับสู้แล้ววิน
แต่ก็เกิดพลังในการต่อรอง และป้องกันการแทรกแซง (กินทีละหัวเมือง) ของอังกฤษ
ประเทศจริงๆก็เหมือนอะมีบาแหละคับ อยู่ได้เพราะ cell membrane ที่เรียกว่าทหาร
แตะโพละก็เป็นปอลิ่งเมื่อนั้น
เรื่องกระจายอำนาจเนี่ยมันเป็นได้เฉพาะในจินตภาพเท่านั้นแหละคับ ในทางปฎิบัติไม่เคยมีจริงซักที่
ลาวก็บอกว่าเขาเป็น ปชต , อังกฤษก็ทุนนิยม สามเหลี่ยมเหมือนเดิม , เท่าเทียมกันสุดๆแบบเขมรแดง ถือจอบหมดทุกคน ก็ตายไปสองล้าน
นัยของคำว่ากระจายอำนาจก็คือ divide & conquer ก็คือแบ่งหลายพาร์ท ให้ถูกแทรกแซงกลืนไปทีละ part ได้ง่าย
ก็คือการโรลแบคกลับไปเป็น mandala system เหมือนสมัยก่อน ร.4 ที่ตอนนั้นแต่ละประเทศรอบๆล้วนแต่แตกโพละเป็นปอลิ่งนี่แหละคับ
ทุกวันนี้คนไทยมีอิสระเสรีภาพมหาศาลมาก การแทรกแซงจากต่างชาติก็ง่าย ขนาดแก๊งมาเฟีย usa มายึดเกาะสมุยฟอกเงินทั้งเกาะหน้าตาเฉย
สมัยสงครามโลก ตอนนั่นอำนาจก็อยู่ในมือคณะราษฐ นี่แหละครับ
ที่จับบัณทิตไปขังตาย ในคุกที่ตะรุเตา และก็ยังยกเลิกทุน scholar ship ที่มีมาตั้งแต่สมัย ร5
( ทุนคิงเพิ่งมารื้อฟื้นเอาสมัย ร 9 นี่เอง) แถมยังเปลี่ยนชื่อประเทศ อีก - -" )
ตอนนี้ผมว่าที่มีคนพยายามออกวาทกรรม "กระจายอำนาจ"
จริงๆเป็นแนวคิด "การกระจายทรัพย์ (สู่มือคนเฉพาะกลุ่ม)" มากกว่าจะเป็นเรื่องการปกครองคับ
เอาง่ายๆนะเหมืองโปแตชดีสุดในโลกอยู่ที่ไทยนี่แหละคับ เจอมาเป็นสิบปี
แต่ยังขุดไม่ได้คับ เพราะมีประเทศเกรียนไปจ้าง NGO มาเบรคไว้คับ
ส่วนประเทศที่สำรวจก่อน และมีผลประโยชน์ร่วมกับไทยนานแล้ว ก็รอเก้อทั้งคู่คับ
ถ้าประเทศที่มาก่อนถอนตัวกลับไป ประเทศเกรียนก็รอเข้ามาเสียบแทนคับ
ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นได้อย่างเดียวประเทศนี้ นายกยังทำอะไรไม่ได้โดนเอาปืนขู่ ประชาชนธรรมดาจะทำอะไรได้
พลังมโนสูงล้ำเลยครับ
คำว่า"ทฤษฏีสมคบคิด" ลอยมาในหัวเวลาอ่านเลยทีเดียว
อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะผมมองว่าทั้งทหารบางคนและพวกที่โหนสถาบันพวกนี้นี่แหละทำลายสถาบันของแท้เลยล่ะ (คนที่เขารักและเทิดทูนจริงๆเขาไม่ทำแบบนี้ครับ)
เพราะวิธีการที่ใช้ผมก็มองแบบที่คุณคิดเลย ถ้ารักสถาบันกันจริงๆเขาไม่เอาสถาบันมาอ้างเพื่อทำลายคนที่ไม่ชอบนะครับ จนผมสงสัยว่าพวกนี้นี่รักสถาบันจริงๆหรือจงใจใช้เป็นข้ออ้างเพื่อทำลายทางอ้อมกันแน่
หลายครั้งมากๆ เช่น ดารา เวลาทำผิดชอบเอาสถาบันมาอ้าง แล้วจนเองเนียนตีกินกลบเกลื่อนความผิด ทำแบบนี้มีแต่ทำให้คนมองสถาบันในทางที่ไม่ดี
ตอนนี้การตีความ 112 ก็เริ่มมีทิศทางในการเชือดพวกโหน แล้วนะคับ - -"
หลังจากใช้เป็นกับดัก หลอกล่อให้ฝ่ายตรงข้ามติดคุก (ยั่วให้กระทำผิด) มาระยะนึง
จริงๆควรตีความต้นเหตุด้วยว่ากระทำเพราะฝ่ายหนึ่งแอบอ้าง
แน่ใจเหรอครับ สำหรับผมๆว่าสถาบันพังเพราะคนพวกนี้ไปแล้วครับ เอากลับคืนไม่ได้แล้วด้วย
ที่สำคัญเป้าหมายของคนที่แอบอ้างเท่าที่เคยสัมผัสใจจริงของคนเหล่านี้ก็คือตั้งใจทำลายนั่นแหละ
จะมาทำตอนนี้ก็สายไปเสียแล้วครับผมเคยพูดไว้ห้าปีก่อนกับอาจารย์ของผมว่าถ้าปล่อยไว้แบบนี้เป็นเหมือนฝรั่งเศสแน่ๆคือพัง แล้วเตือนก็ไม่ค่อยจะฟังกันหรอกหน้ามืดตามัวกันหมด คิดดูว่าทำให้คนที่ผมรู้จักรักมากกลายเป็นออกห่างแล้วหายไปเลย คือมันเสียความรู้สึกครับ คนเรารักมากพอเจอเข้ากับตัวนี่พูดไม่ออก
ส่วนผมนั้นปล่อยไปตามบุญตามกรรมทำอะไรก็ย่อมได้แบบนั้น
อารมณ์เดียวกับเกลียดพวกแฟนบอยนี่แหละครับ ;)
ก็จับได้ยกแก๊งแล้วนิคับ ไผเป็นไผรู้หมดแล้ว หมดอนาคตการเมืองกันไปหมด
เป็นการล่อให้ปลิงออกมารวมกันนะคับ หลังจากนี้ก็บลัสทีละตัว ปลิงจับยากกว่ากบคับ เพราะมันเกาะหลัง มองยาก
ดีกว่าปล่อยให้ปลิงอวบขึ้นและเพิ่มจำนวนคับ
ถ้าพวกแอบอ้างที่คุณอ้างถึงน่ะ นั่นมันแค่ส่วนหนึ่งเองนะแล้วไม่ใช่ส่วนที่ผมสื่อถึงด้วย ตัวเป้งๆที่ผมรู้ผมเห็นอีกเพียบบางคนเดินหน้าตาเฉยไม่โดนอะไร
ผมว่าอ่านๆดูแล้วคุณไม่เข้าใจที่ผมสื่อสินะคงจะอ่านข่าวตามทีวีทั่วไปที่ผมพูดคือของจริงที่ไม่มีในข่าวครับมันมีเยอะกว่านั้นพวกที่เห็นโดนจับบอกได้เลยว่าส่วนน้อย จะบอกว่ารู้หมดแล้วบางคนนี่ใกล้ตัวสุดๆไม่เห็นจับเห็นอยู่ดีมีสุขปกติ
ที่ออกข่าวน่ะแค่เปลือกครับของจริงมีอีกเยอะที่ไม่จับ
ที่ผมพูดว่าแอบอ้างนี่ไม่ได้หมายถึงพวกที่โดนจับกลุ่มนั้นนะแต่ผมหมายถึงพวกที่แอบอ้างว่ารักสถาบันแต่เอาสถาบันเป็นเครื่องมือทำลายคนอื่นพวกนี้ผมยังเห็นอีกเพียบไม่เห็นโดนจับสักคนบางคนเข้าไปมีชื่อในสนช.เฉยเลย
อ้าว คุณรู้ แล้วทำไมคุณไม่แจ้งให้เค้าจับอ่ะ ผมงง - -")
เค้าไม่ได้จับด้วยไซโคเมทรี่นะ คุณรู้นู่นนี่เยอะ แล้วไม่แจ้งหมายความว่าไง ?
ที่ไม่จับก็เพราะเป็นคนของตัวเองไงครับ สั้นๆง่ายๆ ประเทศพังอยู่ทุกวันเพราะแบบนี้แหละ
เรื่องแจ้งความคนอื่นเขาแจ้งนานแล้ว
จริงๆไม่ใช่เรื่องนี้เรื่องเดียวอย่างแถวบ้านผมเรื่องพวกค้ายาบ้าชาวบ้านเขาก็แจ้งความทุกวันแต่ทำอะไรไม่ได้มองโลกแห่งความเป็นจริงบ้างเถอะครับมันไม่ได้สวยหรูแบบที่คุณอ่านในข่าวหรอกครับ
ผมเห็นที่คุณตอบมามันเป็นส่วนของปลายภูเขาน้ำแข็งที่โผล่ขึ้นมาให้เห็นแค่นั้นเองครับ
ทุกคนที่ผมเล่าเรื่องนี้ให้ฟังก็ชอบอ้างแบบคุณนี่แหละแต่ถ้าเป็นคนที่อยู่ในพื้นที่เดียวกันหรือใกล้ๆเคียงเขาไม่ถามแบบคุณเพราะเขาเข้าใจว่าจริงๆมันคืออะไรเหตุผลอะไรที่ทำให้มันเป็นแบบนี้ ประเทศเราตอนนี้กลายเป็นแก้วร้าวแล้วเอากาวมาต่อแล้วครับ ผมถึงได้บอกว่าปล่อยตามบุญตามกรรมเพราะมันสายเกินไปเสียแล้ว
แจ้งแล้วคุณก็แจ้งซ้ำได้นิ - -"
เขาแจ้งกันหลายรอบแล้วครับแต่เจ้าหน้าที่เมินเฉย
บอกว่าแจ้งแล้วแจ้งอีกได้นี่ท่านได้ลงไปดูรึเปล่าครับ
แจ้งแล้วแต่เจ้าหน้าที่นิ่งเงียบ
เห็นหลายคนทึ่พูดแบบคุณคือไม่ได้รู้ว่าเรืีองจริงๆมันเป็นอย่างไร
โลกนี้มันโหดร้ายครับ
มีเอกสารมั้ยคับ
ถ้าไปแจ้งความแล้วเจ้าหน้าที่บอกว่าไม่รับแจ้งความ คิดว่าเขาจะลงในบันทึกประจำวันไหมครับ
เขาคงจะลงบันทึกให้ตนเองโดน 157 เล่นๆกระมัง
แล้วทำไมชาวบ้านเขาถึงได้บอกว่าคุกมีไว้ขังคนจนก็เพราะเจ้าหน้าที่ทำตัวแบบนี้
อยากให้มองโลกในแง่ความเป็นจริงครับ
ก็ไม่ต่างจากการทุริตที่เวลาถามว่ามีเอกสารไหมนั่นแหละ
ขนาดแบนเว็บผิดผมถามหาเอกสารว่าใครแจ้งเขายังไม่ตอบผมเลยครับ
ปัจจุบันนี่แตกแยกกันจนเละแล้วมาอ้างว่าจับพวกแอบอ้างแล้ว แล้วที่ทำๆกันทุกวันนี่อะไร
หลักฐานไม่ต้องหายากหรอกครับโจ่งครึ่มกันขนาดนั้นลองเองแจ้งเลยครับ
ขนาดแจ้งจับพวกขายยายังเงียบยังเฉย โลกนี้มันไม่ได้ง่ายดายแบบที่คุณคิดครับ
ผมเจอคนพูดแบบคุณเยอะครับได้ถอนหายใจพูดน่ะง่ายทำน่ะยาก
พูดถึงเรื่องในข่าวนี้มีหลายครั้งที่ผมเจอและต้องแบนเพราะบอร์ดเขาคุยกันเรื่องอื่นอยู่มาตั้งกระทู้เทิดทูนแบบไม่ดูบริบทของบอร์ดเลย ผมว่างบพวกนี้เอามาทุจริตกันเองในองค์กรมากกว่า เอาไปทำสาธารณประโยชน์อย่างอื่นหรือทำโครงการอื่นๆที่เป็นประโยชน์กับประชาชน โดยอ้างว่าเอามาจากงบส่วนนี้ยังดูดีกว่าสิ่งที่เขาทำกันทุกวันยังกับสแปมข้อความ
อะไรหว่า ฝากเว็บบนดาวเทียมกันแล้วหรอเนี่ย ฮ่าๆ จะสกัดเว็บบนดาวเทียมกันเลย
ก็พิมพ์ได้พูดได้อยู่คำเดียวนิค่ะ
//me ร้องเพลง : ความรู้สึกมันห้ามกันไม่ได้, คงอีกไม่นานเกินรอ, ฟ้าเปลี่ยนสี, ลมเปลี่ยนทิศ
//me เอาชื่อเพลงไป search แปบ รู้สึกหลังเขามากที่รู้จักแต่เพลงหลังสุด
ปล.เพลงที่ 2 เสิร์ช youtube ไม่เจอครับ
เธอลำเอียง อีกสักเพลงละกัน
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
เรื่องโพสเทิดทูนนี่เจอมาเหมือนกันครับ เคยทำเว็บบอร์ดกับพวกกลุ่มบนเฟสบุ๊ค ก็จะมีพวกก๊อปแปะบทความเทิดทูนพวกนี้มาสแปมแปะไปทั่ว โดยไม่ได้ดูบริบทแวดล้อมเลยว่าเขาคุยเรื่องอะไรกัน เกี่ยวข้องมั้ย ใช่ที่ที่ควรมาโพสแบบนี้หรือเปล่า พอเราจะลบจะย้ายก็กลัวจะมีปัญหาว่าไม่เคารพเทิดทูนบ้างล่ะ เสื้อแดงบ้างล่ะ เดี๋ยวนี้ไม่ได้ทำเว็บบอร์ดแล้วไม่รู้ยังมีอยู่หรือเปล่า
ดาวเทียมแล้วมุด VPN โลด
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P