Samsung ยื่นขอจดสิทธิบัตรใหม่ว่าด้วยการพัฒนาสมาร์ทโฟนให้สามารถใช้งานเพื่อวัดปริมาณไขมันในร่างกายของผู้ใช้ได้
เทคนิคที่ Samsung จะใช้เพื่อการวัดหาปริมาณไขมันในร่างกายคือวัดค่า impedance หรือความต้านไฟฟ้าของร่างกายผู้ใช้ โดยอาศัยชิ้นส่วนขั้วไฟฟ้า 4 จุด ซึ่งอาจถูกติดตั้งไว้ด้านหลังของตัวสมาร์ทโฟน หรือติดตั้งไว้ที่บริเวณฝาปิดด้านหน้าเคสของสมาร์ทโฟน เมื่อผู้ใช้จับสมาร์ทโฟนโดยให้ร่างกายสัมผัสขั้วไฟฟ้าทั้ง 4 จุดครบถ้วน (ตัวอย่างภาพประกอบในคำขอจดสิทธิบัตรใช้การจับสมาร์ทโฟน 2 มือโดยให้มือทั้ง 2 สัมผัสขั้วไฟฟ้าข้างละ 2 ขั้ว) สมาร์ทโฟนจะสามารถวัดค่าความต้านไฟฟ้าของร่างกายผู้ใช้ และใช้ค่านั้นหาปริมาณไขมันในร่างกายได้ (เพราะปริมาณไขมันในร่างกายมนุษย์ที่แตกต่างกันจะส่งผลให้ค่าความต้านทานไฟฟ้าของร่างกายมนุษย์แตกต่างกันไปด้วย)
ดูไปแล้ว การทำฮาร์ดแวร์เพื่อให้อ่านค่าความต้านทานไฟฟ้าของร่างกายผู้ใช้นั้นคงไม่ใช่เรื่องยากนักสำหรับ Samsung หากแต่โจทย์ที่ท้าทายกว่าคือการแปลค่าความต้านไฟฟ้าของร่างกายมนุษย์ให้ออกมาเป็นตัวเลขแสดงปริมาณไขมันในร่างกายให้ถูกต้องแม่นยำได้อย่างไร
ที่มา - VentureBeat, ข้อมูลสิทธิบัตรจาก FPO
Comments
อ้วน ไม่อ้วน เดินไปส่องกระจกก็ได้มั้ง ถถถถถ+
ปล.มันวัดได้จริงๆเหรอเครื่องพวกเนี้ย คือตอนไปสมัครฟิตเนสก็มีเครื่องประมานเนี้ย ยืนบนเหมือนที่ชั่ง เอามือจับแท่งที่เหมือนมีตัวเซ็นเซอร์แบบนี้แหละไว้ข้างตัว แล้วจะบอก % ไขมันได้ , แต่สุดท้ายก็ต้องใส่ส่วนสูงน้ำหนักลงไปอยู่ดี ซึ่งผมว่ามันคงเอาไปคำนวน bmi เอาแหละ
เคยถามพนักงานว่ามันวัดยังไง พนักงานบอกแผ่นสัมผัสที่ไต้เท้า มันยิงคลื่นผ่านลำตัวมาเผื่อวัด - -'
นี่มันเครื่องชั่งแบบวัดไขมันหนิ..
อีกหน่อยซัมซุงคงทำมือถือชั่งน้ำหนักได้ด้วยเลย เอาเครื่องวาง แล้วขึ้นไปเหยียบ 555
iPAtS
จอแตก - -
เห็นด้วยเลย 555
อยากให้มือถือชั่งน้ำหนักได้
มีใครตลกหน้าตานายแบบในสิทธิบัตรมั่งครับ เหมือนเค้าไม่เต็มใจนะครับ ฮะๆๆ
+55555
[S]
กำลังจะมา comment เหมือนกัน คนวาดนี่ อารมณ์ประมาณถ้าไอ้เครื่องนี้บอกว่าฉันอ้วน ฉันคงทำหน้าแบบนี้แน่ๆ meh
แบบว่า บางอย่างไม่ต้องเอามารวมกับมือถือก็ได้นะ ถึงมันจะสะดวก แต่บางทีก็ไม่อยากจ่ายอะไรที่มันไม่คิดว่าจะได้ใช้นะ
ใครมีแฟนที่ "เยอะ" แนะนำให้ใช้
chip หาย
ขอให้มันใช้ได้ผลจริงๆ แล้วกันนะครับ เคยมีเครื่องชั่งแบบมีขั้วไฟฟ้าให้จับมาตั้งที่มหาลัย เค้าให้ผมชั่งไปสามรอบแล้วผลยังมั่วอยู่จนต้องยอมเลิก -*-
+1 น่าจะหลักการเดียวกัน ซึ่งมันไม่ค่อยจะตรงเลย ชัดสุดต้องตรวจเลือด ซึ่งต้องอดข้าวอดน้ำมาก่อน
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!