เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา Justin Bellanco ชายหนุ่มอเมริกัน ถูกจับกุมและตั้งข้อหาละเมิดคำสั่งศาลเรื่องการคุ้มครองโจทก์ หลังจากที่เขาได้กด "Like" รูปภาพของ April Holland แฟนเก่าของเขาผู้เคยเป็นโจทก์ยื่นขอคำสั่งคุ้มครองจากศาล เนื่องจาก Bellanco เคยข่มขู่จะทำร้ายร่างกายเธอ
คดีเก่าเมื่อเดือนก่อนระหว่าง 2 อดีตคนเคยรักกันนี้ เป็นเรื่องการข่มขู่ทำร้ายร่างกาย โดย Holland ระบุว่า Bellanco แฟนของเธอในขณะนั้นขู่ "จะใช้ปืนยิงที่หัวเข่า เพื่อดูเธอทุรนทุราย" จนในท้ายที่สุดเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนศาล Pennsylvania จึงได้อนุมัติออกคำสั่งคุ้มครอง Holland ตามที่เธอร้องขอ โดยสั่งห้ามมิให้ Bellanco เข้าใกล้หรือกระทำการคุกคามใดๆ ต่อ Holland อีกเป็นเวลา 1 ปี
แต่ไม่กี่วันที่ผ่านมา Bellanco ได้กด "Like" รูปภาพและวิดีโอของ Holland บน Facebook จำนวน 22 ครั้ง และถูกทางการควบคุมตัวเมื่อวันจันทร์ที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมานี้ ก่อนที่เขาจะใช้เงิน 5,000 ดอลลาร์ ประกันตัวออกมา
ทาง Ars Technica ได้ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้จาก Holland และ Bellanco แต่ถึงตอนนี้มีเพียงฝ่ายชายที่ตอบคำถามของ Ars Technica ผ่านทาง Facebook เริ่มจากการชี้แจงว่าเขาไม่เคยข่มขู่ Holland แต่กลับกันเป็นฝ่ายหญิงที่มาอาละวาดที่บ้านเขาบ่อยครั้งในช่วง 4 เดือนหลังมานี้ ซึ่งทุกครั้งเขาต้องเรียกตำรวจมาเชิญตัวเธอออกจากบ้าน (แต่เขาขอร้องเจ้าหน้าที่ว่าไม่ต้องตั้งข้อหากับ Holland) เขายังบอกอีกว่าครั้งหนึ่ง Holland ยังเคยรื้อเอาปืนจากในบ้านของเขา และชี้มันใส่เขาพร้อมเหนี่ยวไกด้วย
ส่วนเรื่องการกด "Like" บน Facebook ที่เกิดขึ้นหลังมีคำสั่งศาลให้คุ้มครอง Holland นั้น Bellanco โดยทั่วไปเขาเพียงแต่กด "Like" ให้กับสิ่งที่เขาสนใจในชีวิตประจำวันเท่านั้น แต่บางครั้งรูปหรือคลิปเหล่านั้นกลับมีการแท็กชื่อ Holland ไว้ด้วย นั่นจึงทำให้มีการแจ้งเตือนเด้งไปที่ Holland ทว่าตัว Bellanco เองไม่สามารถรู้ได้ว่าจะมีการแจ้งเตือนไปถึงฝ่ายหญิง เพราะหลังจากมีปัญหากัน พวกเขาก็ไม่ได้เป็นเพื่อนกันบน Facebook แล้ว
เรื่องนี้ถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจว่าการกด "Like" บน Facebook ถือเป็นพฤติกรรมก่อกวน หรือเข้าข่ายว่าทำการติดต่อ "คนที่คุณไม่ควรติดต่อ" หรือไม่? สิ่งที่น่าสังเกตอีกประการคือ ถ้าคนเราต้องการหนีจากใครสักคนในชีวิตจริงแล้ว จะสามารถบล็อกใครคนนั้นออกจากโลกสังคมออนไลน์ของเราได้อย่างสมบูรณ์หรือไม่?
ที่มา - Ars Technica
Comments
5,000 บาท?
ทำไมฝ่ายหญิงไม่ Block ฝ่ายชายล่ะ =_="
"เพราะหลังจากมีปัญหากัน พวกเขาก็ไม่ได้เป็นเพื่อนกันบน Facebook แล้ว" แต่เค้าก็ unfreind กันแล้วนะครับ
อยากถามหน่อยว่าในเมืองไทยมีการให้ศาลสั่งคุ้มครองแบบนี้ด้วยหรือเปล่า เพราะเห็นในหนังฝรั่งเยอะมากตั้งแต่สั่งไม่ให้ผัวเก่าพบหน้าเมียกับลูก หรือสั่งไม่ให้มาทำร้ายร่างกายอย่างนี้
ถ้าหมายถึงภายในครอบครัว ไทยมี พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550 อยู่ครับ
ในมาตรา 10 (ย่อ) กำหนดให้ผู้กระทำความรุนแรงในครอบครัวเข้ารับการรักษา ชดเชยเงินช่วยเหลือ ห้ามเข้าไปในที่พำนัก/เข้าใกล้โจทก์ รวมทั้งกำหนดวิธีการเลี้ยงบุตร แล้วแต่ศาลจะสั่ง หรือโจทก์จะร้องขอครับ
ส่วนถ้าไม่เคยรู้จักกันเนี่ย ผมไม่แน่ใจนะ อาจจะมีในประมวลกฎหมายอาญามั้งครับ
Jusci - Google Plus - Twitter
ก็สมเหตุสมผลดีนะ
ก็สมควรล่ะครับ ศาลสั่งแล้วว่าห้ามยุ่ง
กด "Like" มีผลทางด้านจิตใจ ทั้ง + และ -
กด Like 22 ครั้งนี่เข้าขั้นน่ากลัวนะครับ
มันคือการคุกคามครับ ผมมีคนที่ไม่ชอบอยู่ แล้วเค้ามากดไลค์เพื่อเรียกความสนใจหรือแสดงให้เห็นว่าเค้าชอบเรา ทั้งที่เราไม่ต้องการ ทำให้รู้สึกถูกคุกคามได้เหมือนกัน
สั้นๆ คือ คนไม่ใช่ทำอะไรก็ผิด #หล่อเลือกได้
เมืองไทย ถ้าตามกฎหมายก็มีคล้ายๆกัน
แต่ความเป็นจริงก็นั่นล่ะครับ...
ไม่มีใครในที่นี้เคยเจอปัญหา tag ชื่อไม่ตรงกับความเป็นจริงเลยเหรอครับ ผมว่าเป็นไปได้นะ แต่22ครั้งมันก็มากเกินไปที่จะบอกว่าบังเอิญแหล่ะ
ฝรั่ง เวลาเกลียดกันเข้าใส้ นี่ งัดกฏหมายมาฟาดใส่กันดูไม่ปราณีเลย
แรงเกลียดของมนุษย์นี่ มโนไปได้แรงจริง แค่เห็นรูปหรือtagมาโผล่ให้เห็นก็มโนวิ่งแล้ว ระบบfbคงไม่ล้ำลึกที่จะสกรีนไม่ให้เจอเลยคงยาก คนที่ผมเกลียดทะเลาะด้วย บางทีก็ยังโผล่มาในรูปกลุ่มเพื่อนๆ ก็ต้องทำใจช่างหัวมัน
คนไทยเวลาเกลียดก็คงไม่ต่างจากฝรั่ง เพียงแต่กฎหมายเรามันหน่อมแน้ม คนเลยพึ่งพากฎหมายไม่ค่อยได้
ประเด็นของข่าวนี้คือ โจทก์โดน tag เข้าไปในโพสของคนอื่น (ซึ่งน่าจะเป็น page) ที่มีคนดูกันเยอะ (ส่วนมากก็จะโดนเพื่อนตัวเองนี่แหละ tag เรียกมาดู) ทีนี้จำเลยไปกดไลค์โพสนั้นโดยไม่รู้ว่าโจทก์โดน tag อยู่ เลยเป็นเรื่อง
ตัวอย่าง