หลังจากที่แอปเปิลปล่อยแอพ Move to iOS ลงบนแอนดรอยด์ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ใช้แอนดรอยด์ย้ายไปใช้ iPhone แต่ก็ถูกแฟนๆ ผู้ใช้แอนดรอยด์รุมให้ 1 ดาวกันไปตามระเบียบ เท่านั้นยังไม่พอ มีนักพัฒนารายหนึ่งปล่อยแอพ Stick with Android ตามมาเสมือนล้อเลียนแอปเปิลกลายๆ
ตัวแอพเรียกได้ว่าแทบไม่มีอะไรเลยก็ว่าได้ เพราะจะขึ้นเพียงว่า 'Click here to stick with Android' ให้เรากดแสดงความภักดีต่อหุ่นเขียวเท่านั้น แต่ตัวแอพก็ถูกดาวน์โหลดไปแล้วมากกว่า 5 พันครั้ง แถมได้รับคะแนนรีวิวสูงถึง 4.9 พร้อมรีวิวของแฟนๆ ว่าจะแอพนี้เป็นการตบหน้าแอปเปิลอย่างจัง และจะไม่มีวันย้ายไป iOS แน่นอน
สนใจจะเข้าไปร่วมแสดงความภักดีได้ที่นี่ครับ
ที่มา - PhoneArena
Comments
จะจับลงใน W10M ก็กระไรอยู่...
แฟนบอย นี้น่ากลัวจริงๆ
แอพใหญ่ตั้ง 1.1MB ยัดใส้อะไรมาป่าวหว่า หรือนี้คือขนาดขั้นต่ำอยู่แล้ว - -a
ผมก็สงสัยอยู่ครับ แต่มันก็ไม่ได้ขอสิทธิ์อะไรเลย
คงไม่มีอะไรมั้ง (ของผมลงเสร็จให้ดาวเสร็จก็ลบเลย)
ตบหน้าแอปเปิ้ลยังไง
move to iOS ไม่ได้มีให้แฟนบอยใช้ แต่มีเพื่ออำนวยความสะดวกคนที่จะย้ายให้ง่ายขึ้น (แถมมีช่องทางรีไซเคิลโทรศัพท์ Android ให้ด้วยนะ) ซึ่งมันก็มีจำนวนไม่น้อยแหละ งาน Keynote หน้าเราอาจจะได้เห็นตัวเลขคนย้ายมา iOS ที่ตบหน้าแฟนบอย Android จริงๆ ก็ได้
แฟนบอย นี้น่ากลัวจริงๆ
ตบหน้าหรือเปล่าไม่รู้ พึ่งกลับไปดูแอพ move to iOS แฟนบอยให้ดาวเดียว 32,000 คน แหละ ในขณะที่คนให้ 5 ดาว 6500 คน ซึ่งไม่รู้ย้ายจริง ๆ รึเปล่า เพราะไม่ได้แถมเครื่องให้ :p
เพื่อ?
คุณเคยพัฒนาอะไรใหมครับ ได้ดาวน์โหลดไปตั้งเยอะ ผมเคยได้ดาวน์โหลดสูงสุดไปแค่ 500 กว่านี่ก็ดีใจแทบจะไปปิดผับฉลองอยู่แล้ว ยังมาถามว่าเพื่ออะไร
คืออะไร -_- ทำไมผมคิดว่ามันเหมือนเด็กน้อยล้อกัน
ສະບາຍດີ :)
คอมเม้นแต่ละอันขำดี กรณีนี้พวกแฟนบอยไม่พอใจกันใหญ่ จริงจังเกินมั้งฮะ
ผมคงไม่ย้ายไปไหนแล้วแหละครับ พึงพอใจเจ้าหุ่นเขียวมากๆ แล้ว :)
เคยลองใช้ iPhone 5S มาหนึ่งสัปดาห์ แทบอยากจะปาพื้นแต่ไม่ใช่ของตัวเองเลยทำไม่ได้ 55 คืออึดอัดกับความจำกัด และไม่สมเหตุผลในหลายๆ เรื่อง อึดอัดกับการ customize หลายๆ อย่างไม่ได้ และก็อึดอัดกับปุ่ม home มาก นี่ยังไม่นับประเด็นเล็กๆ น้อยๆ อีกหลายเรื่อง ส่วนแอพที่ว่าต่างและดีกว่า พอใช้เองก็ไม่รู้ว่าต่างยังไง แอพบางตัวนี่ยุ่งยากและจำกัดกว่า Android ด้วยซ้ำ เพราะเข้าใจว่าน่าจะติดเรื่อง API ด้วย ตรงนี้ไม่เห็นจะมีใครพูดถึงเลย มีแต่บอกว่าแอพ iOS สวยกว่า เริ่ดกว่าทั้งนั้น ส่วนแอพที่จำเป็นก็มีเหมือนกันทั้ง iOS และ android ส่วนเรื่องเกมที่ว่า iOS มีเยอะกว่า แต่ผมไม่เล่นเกมอยู่แล้ว ประเด็นนี้เลยตกไป
จนตอนนี้ ก็ยังอยากจะเปิดใจอย่างใจจะขาด อยากเห็นความเจ๋งของ iOS อยากรู้ว่าอะไรที่ทำให้คนใช้ Android ที่ย้ายไป iOS แล้วรู้สึกดีกันมากมาย เพราะพอได้ใช้เองแล้วความรู้สึกกลับตรงข้ามลิบลับ สงสัยว่ามีตรงไหนรึเปล่าที่ผมยังสัมผัสไม่ถึง เป็นเรื่องนึงที่ผมข้องใจมากจนถึงทุกวันนี้
มีใครพอจะอธิบายให้ผมได้ตาสว่างบ้างมั้ยครับ
ปล. จนทุกวันนี้ก็ผมก็ยังงงที่หลายคนบอกว่าเบื่อความยุ่งยากของ android ตรงที่ต้องมาปรับแต่งโมรอมนั่นนี่ เคลียร์แรมอย่างนั้นอย่างนี้ เลยหันไปใช้ iOS .... เพราะส่วนตัวผมเองก็ใช้ ROM เดิมๆ ของเครื่อง ไม่ได้ root ด้วยซ้ำ ผมก็ยังใช้งานได้มีความสุขดี เครื่องเร็ว เสถียร ไม่ได้หน่วงกระตุกอะไรขนาดนั้น (iOS ก็กระตุกเถอะ) ไม่ได้มีอารมณ์อยากไปใช้ ROM โมอะไรเลย แถมวิธีปิดแอพหรือเคลียร์แรมก็ทำง่ายมากแค่กดสองจึ๊ก (เอาจริงๆ ก็แรมเยอะด้วย ไม่ต้องไปซีเรียสกับมันขนาดนั้น) ก็ยังงงๆ ว่า ที่เจอประสบการณ์แย่ๆ มาเนี่ย เจอมากับสมัยรุ่น 2.x กันรึเปล่าครับ
ปล.2 ผมจะไม่รู้สึกอะไรเลยถ้าต่างคนต่างใช้ เพราะแต่ละ OS มันมีจุดเด่นไม่เหมือนกันอยู่แล้ว ใครจะชอบใช้อะไรไม่เหมือนกันก็คงไม่แปลก เลือกใช้ระบบที่ตัวเองพอใจ แต่ทุกวันนี้ผมกลับโดนวาทะเดิมๆ ของคนใช้ iPhone กรอกหู เช่น ทำไมไม่ใช้ iPhone ล่ะ, iPhone เร็วกว่า UI สวยกว่า, ไม่หน่วง ไม่กระตุก, ใช้ง่ายจะตาย ไม่ยุ่งยากซับซ้อน, มันดีนะแกต้องลองมาใช้เอง ฯลฯ คือถูกตั้งธงไปเรียบร้อยแล้วว่าแพลตฟอร์มคู่แข่งมันห่วยกว่า iOS เต็มประตู ต้องมาใช้อันนี้สิคือดีที่สุด อารมณ์เหมือนฟังคนโดนสะกดจิตมา แต่ผมใช้หุ่นเขียวเองทุกวัน มันใช้งานได้สมบูรณ์แบบและไม่แย่เหมือนที่มีคนตั้งธงมา แถมพอใช้ iOS เองกับมือ มันก็ไม่ได้วิเศษอะไรขนาดนั้นแถมเจออะไรหงุดหงิดกวนใจตรึมโดยเฉพาะข้อจำกัดของมัน เลยเป็นอาการแอบเคืองเล็กๆ และไม่เข้าใจจริงๆ ครับ
ถ้าเป็นเมื่อก่อนสัก 2-3 ปี ที่แล้ว เวลาผมใช้ android (Nexus) มันมักจะมีความรู้สึกว่า rom, kernal เดิมๆที่มันมาเครื่อง หรือ official rom มันไม่ค่อยจะถูกใจผมซักเท่าไหร่ ก็ต้องคอยหา custom rom, kernal มาโมเอง เอาของคนอื่นมาใช้บ้าง ลงทีนึงก็ restore backup, restore launcher เอา custom icon อะไรทั้งหลายแหล่กลับมา โดยทำทีก็หมดเวลาไป ชั่วโมงสองชั่วโมง แต่มันดีอย่างที่ว่าทำแล้วมันเป้นสิ่งๆที่เราชอบที่สุด
จนอยู่มาวันนึงมันเริ่มรู้สึกขี้เกรียจทำอะไรแบบนี้ เหลือบไปเห็น iPad2 นอนอยู่ แล้วคิดว่าไม่ต้องทำอะไรกับเลย sync เพลงทีนึง ก็เปิด iTunes แล้ว sync all, backup ก็เสียบ iTunes เดี๋ยวมันทำให้เอง ประมาณว่าไม่ต้องยุ่งอะไรกับกูเลย เดี๋ยวทำให้เอง อารมณ์มันประมาณไม่มีอะไรหวือหวา แต่มันไปได้ของมันเนิบๆ เรื่อยเปื่อย
จนวันนึง Nexus พัง(น้ำเข้าเครื่อง) ก็หนีไปใช้ iPhone ทีนี้บันเทิงเลย iTunes เครื่องเดียว มันจัดการ iDevice 3 เครื่องนิ่มๆ ไม่มีงอแง sync เองเออเองหมด มี CD แผ่นใหม่มาก็ rip แล้วเดียวมันก็เก็บลง NAS แล้วเดี๋ยวมัน sync ของมันเอง (เพลงมีเป็นหมื่นแต่จัดการโคตรง่าย)
แต่พักหลังๆมานี้ได้จับ android บ้าง ครั้งล่ะเดือนสองเดือน พอเล่นมันก็รู้สึกว่า เออ.. มันตอบโจทย์นะ ไม่ต้องขวยขวายหานู้น หานี้มาลงให้มัน เหมือนตอนนั้นแล้วนะ แต่ถามว่าเครื่องจะย้ายไป android ไหม ก็คงไม่ ไม่ใช่เพราะมันไม่ดี แต่เสียดาย ecosystem ของ apple ไหนจะ content ที่เช่า(หนัง)ที่ซื้ออีก ไหนจะ airplay ไหนจะ handoff, continuity ฯลฯ อีก
โม้น้ำลายเหม็นมาก็นาน ผมสรุปเองว่า มายุคหลังๆนี้ เรื่องความเร็ว ความ smooth เรื่อง apps iOS, กับ Android มันแทบจะไม่ต่างกันแล้วล่ะครับ ไล่หลัง นำหน้าสลับกันไป แต่ผม(เดา)ว่า คนเค้าไม่อยากย้ายค่ายไปไหนมาไหนหรอกครับ เสียดาย apps, เสียดายอะไรต่อมิอะไรที่เคยๆมีตะหาก
COBOL !!
ตามนี้ครับ ไม่มีอะไรมากเลย เหมือนโตขึ้น เหมือนอิ่มตัว ฯลฯ
เคยใช้ ios แล้วอึดอัด เปลี่ยนไป droid ที่ทำนู่นนี้ได้เยอะ คัสตอมได้เยอะตรงใจ แต่ทำไปสักพักมันจะเบื่อครับ อย่างกรณีผม แต่ก่อน droid รุ่นที่ใช้
กล้องไม่โอเค จิ้มวัดแสงไม่ได้
อิสระก็จริง แต่เปลี่ยนไป เปลี่ยนมาสักพักมันก็เบื่อเหมือนเดิม. ยิ่งถ้าเปลี่ยนรอม นู่นนี่แล้ว บางทีข้อมูลต่างๆไม่นิ่ง หายบ้าง ลืมแบคอัพบ้าง
พออายุมากขึ้น เลยวัย มีอะไรต้องทำเยอะ มันไม่ได้มานั่งปรับนู่นนี่แล้ว เหมือนคอมแต่ก่อนเปลี่ยนการ์ดจอ อัพซีพียู แต่งเคส เทสด้วย3dmark ดูแต้มฟินๆ เดี่ยวนี้แทบไม่ได้เปิด
แล้วตอนกลับมา ios คือมันนิ่ง software game อะไรต่างๆมันโอเค หมดไปกะเพลงเยอะมาก เพลงไทยเยอะ ซึ่งถ้าไป. Droid มันก็โหลดเพลงพวกนี้ไปได้แหละ แต่ตอนนี้มันสะดวก restore จึกเดียวมาหมด ฟ้งเพลงไหนชอบ กด shazam ดูใน store ก็มักจะมี กดซื้อปั้ป 10-20 บาท โหลด ฟังได้เลย ไม่ต้องกลับบ้าน เปิดเนท หาโหลด ลงsd card อีกรอบ
สุดท้ายเหมือนท่านด้านบนนี่เลย เดี๋ยวนี้มันไม่ต่างกันแล้วล่ะ แต่ถ้าไม่ระบบมันไม่ตาย หรือเบื่อกันจริงๆ ก็ไม่รู้จะย้ายทำไม
ปล.ตอนนี้ผมก็ว่า กล้อง ,app Ios ก็ยังโอเคอยู่นะ คือมาตรฐานน่ะคับ แม้ดรอยบางรุ่น เค้าว่ากันว่าดีกว่าก็เถอะ
ปล.2 droid ผมก็มี xperia z3 tablet นะครับ ก่อนหน้าลอง nexus 9 มา คือโคตรจะไม่โอเคเลย ใหญ่ หนัก ใส่ sd ไม่ได้ เครื่องร้อน chrome หน่วง สุดท้ายขายขาดทุนไป แทบยกภูเขาออกจากอก คือรู้สึกว่าเดี่ยวนี้ nexus ก็ไม่ได้น่าสนใจอะไรแล้ว จัด sony มา บาง เบา กันน้ำ เอาไปนั่งเล่น ออกไปลุยได้ จบ.
สั้นๆ ง่ายๆ แบรนด์
สาวๆ ส่วนใหญ่เข้าไม่สนใจหรอกครับ เขาสนใจว่ามันคือ แอปเปิล ภาพลักษณ์ ยังต่างกันเยอะ
มันน่าจะเป็นความชอบส่วนตัวจริงๆละครับ......
เอาจริงๆผมก็ไม่เคยลงรอมโมเลยนะ(ใช้ตั้งแต่2.2)แม้จะหัวเสียกับบางเครื่องมาก
ปัจจุบันผมก็ยังใช้แอนดรอยอยู่ ยอมรับครับว่าไอโฟนใช้ง่ายจริง แต่ด้วยข้อจำกัดมันทำให้ไม่ตอบโจทย์เลยสำหรับผม
ในขณะที่หลายๆคนเขาก็ไม่มีปัญหากับข้อจำกัดพวกนี้เหมือนกันครับ และเป็นไปได้ครับว่าเขาอาจจะเคยใช้androidที่สเป็คหน้ากระดาษเหมือนiphoneมาก่อน(ในยุคandroid 2.x)แล้วเขาเจอปัญหาเยอะ เขาเลยไม่สนใจandroidอีกเลย
//การจะทำให้คนกลุ่มนี้เปลี่ยนใจอีกครั้งได้ก็ไม่ง่ายเสียด้วยเนื่องจากบางคนอาจจะ"ขี้เกียจเรียนรู้" บางคนอาจจะซื้อแอพในนั้นไปเยอะแล้ว บางคนอาจเป็นภาพฝังหัวไปแล้วว่าห่วย บางคนติดใจกับอุปกรณ์เสริมที่มากมายแต่ไม่ชอบandroidค่ายตลาดที่อุปกรณ์เสริมเยอะ(จามจรรกะที่บางคนเข้าใจผิดว่าandroid=samsungอะไรประมาณนี้)
ผมใช้ 4.1.2 อยู่
อยากจะบอกว่าที่ผมรำคาญที่สุดคือ
1.เครื่องผมมันไม่มีศูนย์รวมการตั้งค่าNotificationในขณะที่iOSมี
แต่เอาตรงๆคือจะว่ามีมันก็มีแหละ แต่ของAndroidมันเล่นรวมรวบยอดทุกแอพทุกServiceมาหมด ไม่ว่าแอพหรือserviceนั้นจะมีNotificationหรือไม่ แต่ในiOSมันจะแสดงแต่แอพที่มีNotificationจริงๆขึ้นมา ซึ่งตรงนี้ผมยอมรับเลยว่าiOSเค้าเอาใจใส่จริงๆ
2.iOS ทำFull Backupได้โดยที่ไม่ต้องJailbreak แต่Androidต้องRoot(หรือเดี๋ยวนี้ไม่ต้องแล้ว)
3.iOSเมื่อเสียบต่อคอมเพื่อเอารูปออก มันจะขึ้นโฟล์เดอร์รูปโฟล์เดอร์เดียว มีรูปและโฟล์เดอร์ย่อยแต่ละแอพภายในอีกที แต่Androidขึ้นมาหมดไม่ว่าจะโฟล์เดอร์ระบบ โฟล์เดอร์ขยะ และแต่ละแอพก็แยกที่เก็บกันทั่วไปหมด ไม่มีโฟล์เดอร์แยกเป็นหมวดรวมไว้ให้ กว่าจะหารูปเจอทั้งหมดiOSก๊อปรูปเสร็จไปแล้ว บอกตรงๆว่าสมัยฟีเจอร์โฟนยังจะใช้สะดวกกว่าAndroidอีก เพราะอย่างน้อยมันก็ไม่แสดงไฟล์หรือโฟล์เดอร์ที่End Userเค้าไม่ได้ต้องการใช้งานขึ้นมาเป็นสิบเป็นร้อยไฟล์แบบนี้ อยากลงเพลงก็โยนเข้าMy Music อยากลงรูปก็โยนไปMy Picture รูปที่ถ่ายจากกล้องก็My Photo ฯลฯ
ซึ่งหากจะว่าไปทั้งAndroidและiOSเดี๋ยวนี้ความสามารถมันไม่หนีกันแล้วล่ะครับ แต่ผมยังชอบiOSมากกว่าก็เพราะเค้าเก็บรายละเอียดเล็กๆน้อยๆได้เนี๊ยบกว่าAndroid มาก
แต่สุดท้ายแล้วมันขึ้นอยู่กับคนใช้ว่าถนัดแบบไหนมากกว่าล่ะครับ
ปล.ผมก็บ่นไปเรื่อยครับเพราะสุดท้ายมือถือก็ใช้Androidเหมือนเดิม เพราะiPhoneมันOverprizeเกินไปiPadทำอะไรได้มากกว่า(แค่โทรศัพท์ไม่ได้) ต้นทุนวัสดุก็สูงกว่า แต่ราคาดันถูกกว่าเยอะมากกก
และถ้าจะซื้อTabletผมจะเอาiPadแน่ๆ เพราะในฝั่งAndroidไม่พัฒนาเอา Muti-Touch Gesture มาใช้จริงๆจังๆกับTabletซ่ะที พอดีชอบขยุมนิ้วปิดหน้าต่างบนiPad เจ๋งดี
Ios backup setting และ data ราย app ได้ครับ
ผมเล่น ff dimension ค้างไว้พอ restore ไปเครื่องใหม่ save ก็ยังอยู่
อย่างเดียวที่หายคือ user/pass
ข้อ 3
ถ้าเป็นรูปถ่ายจากตัวเครื่อง ที่ผมใช้กับ Nexus 4 คือตั้งโหมด usb เป็นแบบ camera (PTP) ครับ เพราะมันจะขึ้นมาเฉพาะโฟลเดอร์ DCIM เท่านั้น ซึ่งผมว่าก็เหมือนพวก idevice
เรื่องปุ่ม Home นี่เข้าใจเลย ใน pantip คนมาบ่นกันมากเลยว่าไอ้ปุ่ม Home ที่ลอยไปมาบนหน้าจอมันช่างน่ารำคาญจริงๆ และนี่เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ทนใช้ iPhone ต่อไปไม่ได้ เลยต้องย้ายไปใช้ Android แทน
// หลายคนยังไม่รู้ว่า Assistive Touch นั้นสามารถปิดได้ง่ายๆ ใน Setting
// อีกมากมายหลายคน ไม่รู้ว่า Assistive Touch มาอยู่บนหน้าจอได้ยังไง ทั้งๆ ที่มันไม่ใช่ค่า default จากโรงงาน คือหลังจากแกะกล่องต้องมีใครสักคนไปสั่งให้มันทำงานแน่ๆ
ผมว่า hard button ก็น่ารำคาญนะ คือมันเป็นปุ่มที่ใช้บ่อย แต่ต้องใช้แรงกด (ในขณะที่ soft button แค่แตะก็ติดแล้ว)
อ้อ พอเป็น hard button มันก็พังได้ง่ายกว่าด้วย ได้ยินว่า iPhone ตัวใหม่ปุ่มกับจอใช้สายไฟร่วมกัน ถ้าพังต้องเปลี่ยนคู่ เขาเลยไปใช้ assertive กัน
เมื่อก่อนผมเป็นแบบคุณเปี้ยบเลยครับ แทบจะทุกบรรทัดเลยนะ แต่เดี๋ยวนี้ผมใช้ไอโฟน
ทำไม? เอาคร่าวๆละกันนะครับ
สมัยก่อนไอโฟนมันไม่ดีเท่าปัจจุบันครับ ยุคหลังนี่มันดีกว่าตอน สตีฟ จ๊อบส์คุมอีกครับ
พอมาถึงจุดนึง ผมชอบอะไรที่มันง่ายๆครับ ซิมเปิ้ลๆครับ
ผมชอบสิ่งที่เรียกว่า "เอกลักษณ์" (แต่เฉพาะเรื่องนี้ผมชอบ วินโด้ว มากสุด)
โลกของแอนดรอยมันมีจุดให้เราค้นหาตัวเองเยอะเกินไป สมัยนั้นผมเปลี่ยนมือถือแทบจะทุกสัปดาห์ เปลี่ยนตีมเป็นว่าเล่น เพื่อหาว่าอันไหนที่ใช่กับตัวเอง สรุปผมก็หาไม่เจอครับ
นึกออกเท่านิก่อน
+6.0 ในช่วงที่ iPhone กำลังเป็นที่นิยมในไทยอย่างล้นหลาม ผมก็โดนสิ่งแวดล้อมกล่อมผมให้ไปใช้ iPhone เนื่องจากตอนนั้นทุกคนกำลังตื่นตาตื่นใจกับของเล่นใหม่ ประโยคแบบวาทะของท่านผมเจอบ่อยมากเลยครับ สุดท้ายก่อนที่ผมจะตัดสินใจหาโทรศัพท์ใหม่ ผมก็สังเกตเห็นมือถือที่มีความ "โดดเด่น" ในเรื่องของ "ดีไซน์" ที่มีความเป็น "เอกลักษณ์" เกลื่อนกลาดอยู่บนถนน
ปัญหาสาวกกับปัญหาเอกลักษณ์เกลื่อนถนน ทำให้สุดท้ายผมก็เลือกมาลงเอยกับ XT910 ซึ่งผมยังไม่รู้จักเลยด้วยซ้ำว่าระบบ Android คืออะไร (มารู้เอาตอนใช้ nexus 4 ไปประมาณครึ่งปี) ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันทำอะไรได้บ้าง แต่ตอนนี้มีการศึกษาแล้ว (ถถถถ+) ผมก็ทราบดี (แต่ปัจจุบันสาเหตุที่ไม่ใช้ Apple ก็มีอีกครับ แต่มันคือ preferences ส่วนตัวพูดไปเดี๋ยวก็มีดราม่าไร้สาระอีก)
ผมมีความเห็นตรงกันกับท่านทั้งหมดเลยครับ เพราะผมก็เคยตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องไปใช้ iPhone เหมือนกัน
จากตอนแรกที่ผมใช้ nexus 4 ไม่ปรุงอะไรเลยทั้งนั้น พอย้ายมา iPhone ก็ไม่เห็นจะรู้สึกว่ามันมีอะไรที่ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัดเลย อย่างน้อยการย้ายไปใช้ iPhone ครั้งนั้นก็ไม่ได้สร้างเหตุผลให้ผมเหลียวหลังไปทาง iOS อีกเลย
ผมว่าคุณมีข้อสรุปอยู่ในใจตั้งแต่ต้นและเจอสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุดแล้ว ปัญหาอย่างเดียวของคุณคือคุณฟังเสียงคนรอบข้างเกินไป
อยากให้ลองอ่านอันนี้ ไม่ได้จะชวนให้เปลี่ยนความคิด แค่อยากให้เห็นมุมมองคนที่ย้ายมา Apple
"จากใจนายแบคผู้เคยต่อต้าน Apple สุดหัวใจ สู่วันที่เชิดชู Apple"
http://www.bacidea.com/apple-hater-to-apple-lover.html
บทความนี้ตรงใจผม จากคนที่ชอบอิสระและปรับแต่งทุกสิ่งทุกอย่าง จนวันนึงอิ่มตัวและเปลี่ยนมาใช้ Apple ... รู้สึกว่าที่ Apple คิดมาให้ดีที่สุด (สำหรับตัวผม) และเสถียรที่สุด ตอบโจทย์การใช้งานดีที่สุด (สำหรับผม)
ตอนแรกที่มาใช้ Apple ก็มีแอบดื้อ Jailbreak แต่สุดท้ายเดี๋ยวนี้ไม่เอาเลย ออริจินอลแฮปปี้สุด
อ่านข่าวนี้แล้วรู้สึกดีที่เลือก iOS เลยครับ
รู้สึกดีมากเลยล่ะครับ อิอิ
...เห็นด้วยครับ เเม้ว่าส่วนตัวจะใช้ Android ก็ตาม
6500 คนที่ให้5 ดาว move to ios แค่นี้ก็ไม่ขาดทุนแล้ว
ใช้มือถือ android
ใช้แทบเล็ต ios
ใช้พีซี windows
จบนะ
รสนิยมมันสอนกันไม่ได้
ผมก็ stick กับ iOS ไม่ไปไหนเหมือนกัน
ที่ผมใช้ iOS ก็เพราะความได้เปรียบเรื่องแอพนี่แหละครับ มีแอพครบจากทุกค่าย ไม่ว่าจะแอปเปิ้ล กูเกิ้ล ไมโครซอฟต์
ทำงานหรือคุยงานได้กับทุกคนจริงๆ เพราะบางคนเวลาคุยก็จะใช้ iMessage เป็นหลักซึ่ง android ไม่มี (ก็แหงล่ะ แอปเปิ้ลไม่ยอมทำใน platform อื่นนิ)
ส่วนตัวรู้สึกว่า android ไม่สวยถึงเป็น material design ก็เหอะ
เคยลองเปลี่ยนธีมแต่ก็ไม่มีอันไหนสวยถูกใจเลย แถมเปลี่ยนแล้วรู้สึกขาดๆ เกินๆ อีกต่างหาก หน้า Launcher เปลี่ยนแต่หน้าตาแอพเปลี่ยนไม่ได้งี้ ดูไม่สอดคล้องกันเลย แต่ก็อย่างว่าคนเราชอบไม่เหมือนกัน ไม่ขอพูดมากไปกว่านี้ แล้วแต่คนชอบดีกว่าเนอะ
อีกอย่างที่ไม่ชอบใน android เลยคือ VPN จะหลุดบ่อยไปไหน ขึ้นว่าต่ออยู่แต่โหลดไม่ขึ้น ต้องต่อใหม่ตลอดเลย อันนี้ใครมีวิธีแก้บ้างรึเปล่า ขอคำแนะนำด้วย เซ็งมากเลย จะเทสงานทีต่อแล้วต่ออีก
ผมไม่่ค่อยฟังเพลงไม่เล่นเกมเลยไม่ติดอยู่ใน ecosystem ของ apple ยิ่ง "ดีไซน์" ของ iPhone ยิ่งแล้วใหญ่ มีแ่ค่ iPhone ตัวแรกและ iPhone 4 เท่านั้นที่ดูสวยและเตะตามาก นอกนั้นเหมือนย่ำอยู่กับที่และห่วยลงทุกวัน ความโดดเด่น(ที่หลายท่านว่า)ของ iPhone เลยไม่มีผลสำหรับผม
ปล.แอป Move to iOS และ Stick with Android ผมไม่โหลดไม่โหวตสักอันครับ
ราคา:คุณภาพครับ
zenfone 2 ตัว 64 Gb ราคาเท่าไหร่ราคาเท่าๆกันไอโฟนได้รุ่นไหนบ้างครับ
หรือถ้าจะเอาให้ดีเท่ากัน อย่างน้อยๆความจุเท่าๆกันต้องซื้อ iphone ราคาเท่าไหร่ครับ
ผมเชื่อว่าผมใช้ได้คุ้มกว่า iphone ครับ
ตัวนี้มี wireless ac ของไอโฟนก็ต้อง 6 ขึ้นไปถึงจะมี
สองซิมอันนี้ช่วยได้ม่กเลยกับผมที่ไปๆมาๆตปทบ่อยๆ ตอบโจทย์มาก
ส่วนเรื่องดีไซน์ สี อะไรพวกนี้ไม่เคยเป็นประเด็นสำหรับผมอยู่แล้ว ถ้าหน้าตามันน่าเกลียดสุดๆ แต่ความสามารถครบผมก็ซื้ออยู่ดี โทรศัพท์ส่วนใหญ่ก็ใช้คนเดียว ไม่รู้จะสนหน้าตาไปทำไม
ติดปัญหาอะไร แอพพื้นๆก็มีเหมือนกันหมด
ถ้าเป็นพวกแอนดรอยแพงๆ แบบนั้นผมก็ไม่เอาเหมือนกัน
แอนดรอยแฟนบอยส่วนใหญ่ก็คล้ายๆผมล่ะมั้งครับ
+100
จากที่คุณเล่ามาผมว่าสรุปแล้ว มันเป็นเรื่องของกลุ่มเป้าหมายที่ต่างกันมากกว่าครับ หลายอย่างเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหาได้ในไอโฟน แค่เรื่องความต้องการใช้สองซิมตรงนี้ไอโฟนก็ตกไปแล้ว การจะต้องถือไอโฟนสองเครื่องเพื่อใช้งานสองซิมมันดูสมเหตุสมผลน้อยเกินไป