Terry Myerson หัวหน้าทีม Windows ออกมาเขียนบล็อกอธิบายแนวทางการเก็บข้อมูลส่วนตัวของ Windows 10 ดังนี้
- ไมโครซอฟท์เก็บข้อมูลของระบบ (telemetry data) เช่น device ID, device type, ข้อมูลการแครช เพื่อนำไปพัฒนาเสถียรภาพของระบบปฏิบัติการ โดยไม่มีข้อมูลที่ระบุตัวตนของผู้ใช้ หรือข้อมูลไฟล์ในเครื่องติดไปด้วย ไมโครซอฟท์บอกว่าเพิ่งมีกรณีไดรเวอร์การ์ดจอแครช เมื่อไมโครซอฟท์มีข้อมูลการแครชลักษณะนี้ ก็สามารถร่วมมือกับเจ้าของไดรเวอร์เพื่อแก้ปัญหาภายใน 24 ชั่วโมง
- ข้อมูล telemetry จะสามารถปิดได้ใน Windows 10 Enterprise แต่เวอร์ชัน Home และ Pro ไม่สามารถปิดได้
- ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ที่ซิงก์ผ่าน Microsoft Account เช่น ภาพพื้นหลัง ทีมกีฬาที่ชอบ หรือ คำที่พิมพ์บ่อย ข้อมูลเหล่านี้เก็บเพื่อความสะดวกของผู้ใช้ในการปรับแต่งระบบให้เหมาะกับตัวเอง (personalized data) และผู้ใช้สามารถปิดการใช้งานได้เสมอในหน้าจอ 'Personalization' ตอนติดตั้ง หรือตัวเลือก 'Privacy' ใน Settings
- ไมโครซอฟท์จะไม่อ่านอีเมลหรือไฟล์ของผู้ใช้ เพื่อแสดงผลโฆษณาให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย แบบเดียวกับที่ "แพลตฟอร์มอื่น" ทำอยู่
ที่มา - Blogging Windows, Ars Technica, ZDNet
Comments
เราเชื่อคุณ แต่เราเสียใจเรื่องไป๋ตู้
ไป๋ตู้อยู่แค่จีนนิ
ไป่ตู้ เป็นอันดับ1ในจีน ไม่แปลกครับถ้า M$ จะผูกมิตรกับ BD ในเมื่อจีน ไม่สามารถใช้ Bing, Yahoo และ Google ได้
ข้าขอทรยศต่อคนทั้งโลก ดีกว่าให้ใครมาทรยศข้า
เคยโจมตี Google ไว้เยอะ กลับมาทำซะเอง
ไมโครซอฟท์ออกโฆษณาอัด google แอบดูอีเมล์
ทำเองยังไงหรอครับ ในเมื่อเนื้อข่าวเขียนบอกว่า ไมโครซอฟท์จะไม่ทำ - -a หรือผมเข้าใจอะไรผิดไป
+1
"ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ที่ซิงก์ผ่าน Microsoft Account เช่น ภาพพื้นหลัง ทีมกีฬาที่ชอบ หรือ คำที่พิมพ์บ่อย ข้อมูลเหล่านี้เก็บเพื่อความสะดวกของผู้ใช้ในการปรับแต่งระบบให้เหมาะกับตัวเอง (personalized data) และผู้ใช้สามารถปิดการใช้งานได้เสมอในหน้าจอ 'Personalization' ตอนติดตั้ง หรือตัวเลือก 'Privacy' ใน Settings"
ไม่ทราบว่าผมเข้าใจผิดหรือเปล่าที่ข่าวแปลว่าค่า default คือเก็บ
แต่ถ้าไม่อยากให้เก็บต้องปิดเอง
แล้วจะมีผู้ใช้กี่คนที่รู้ว่าโดนแอบเก็บแล้วต้องปิด ?
มันให้ตั่งค่าตอนเปิดเครื่อง ล็อกอินบัญชีครั้งแรกเลยนะครับ
มันมีให้เลือกต้องล็อกอินครั้งแรกครับว่าจะ Express Setting หรือ Custom ถ้าบอกว่าแล้วคนใช้กี่คนจะรู้อีกก็คงหาคำตอบให้ไม่ได้แล้ว =_=
ถ้างั้นก็เหมือนพวก baidu ที่มีให้เลือกตอน install ว่าจะ default หรือ custom ถ้าเลือก default ก็จัดการลง spyware ให้เสร็จสรรพ
แล้วแบบนี้ microsoft จะต่างยังไงกับบริษัทอื่นที่ทำอยู่ล่ะครับ
นี่ยังไม่นับรวมข่าว hotmail ล้วงข้อมูลผู้ใช้
http://www.theverge.com/2014/3/21/5533814/google-yahoo-apple-all-share-microsofts-troubling-email-privacy-policy
ยังไม่รวม microsoft แอบดาวโหลดไฟล์ windows 10 เองโดยไม่บอกผู้ใช้
https://www.blognone.com/node/72365
ยังไม่รวมโปรแกรมที่คอยสแกนหาเกมส์และโปรแกรมละเมิดลิขสิทธิ์ในเครื่องผู้ใช้เอง
http://www.businessinsider.com.au/why-windows-10-scans-for-pirated-games-2015-8
เรื่องอื่นไม่มีความเห็นนะครับ แต่เรื่ง baidu นี่ มี Power User หลายท่านยืนยันว่าลงแบบ custom แล้ว มันก็ยังลงมาหน้าตาเฉยครับ
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ตัวประเด็นในข่าวนี้นี่ยังตรงไปตรงมานะครับ ปุ่มอยู่ครบ มีบอกครบ มีให้ปรับครบ แต่เจ้าอื่นนี่มีทั้งใช้คำวกวน เปลี่ยนสีตัวอักษรให้อ่านไม่ออก กดไม่แล้วยังลง (อันนี้แค่เคยได้ยินแต่ไม่เจอ) หรือกระทั่งถ้ากดไม่ติดตั้งแล้วจะไม่ติดตั้งตัวโปรแกรมหลักที่ต้องการลงด้วย (ยกเลิกทีไปหมดเลย ผมโดนมาแล้วครับ เลยช่างมัน หาตัวอื่นก็ได้) และที่หนักสุดโหดสุดก็คงเป็นเจ้านี่
ยอมรับมาเถอะว่า Haters gonna hate :v
ສະບາຍດີ :)
ถ้าไม่อยากใช้ก็ไม่ต้องล็อคอินก็ได้ปะครับ ไม่มีซงมีซิงค์อะไรทั้งนั้น -__-"
แต่ก็ไม่ได้เก็บไว้หาโฆษณานิครับ
ສະບາຍດີ :)
กังวลกับ Windows ทั้งที่นั่งเปิด Google อยู่เนี่ยนะ:P
นั่นละฮะท่านผู้ชม...
ສະບາຍດີ :)
ไม่ได้กังวลกับ microsoft เลยครับ จะเก็บอะไรก็เก็บไปเลย เพียงแต่ก็อย่างที่โพสท์ทีแรก
โจมตีคนอื่นเค้าไว้เยอะแล้วมาทำเสียเอง
baidu ที่มีให้เลือกตอน install ว่าจะ default หรือ custom ถ้าเลือก default ก็จัดการลง spyware ให้เสร็จสรรพ
แล้วแบบนี้ microsoft จะต่างยังไงกับบริษัทอื่นที่ทำอยู่ล่ะครับ
นี่ยังไม่นับรวมข่าว hotmail ล้วงข้อมูลผู้ใช้
http://www.theverge.com/2014/3/21/5533814/google-yahoo-apple-all-share-microsofts-troubling-email-privacy-policy
ยังไม่รวม microsoft แอบดาวโหลดไฟล์ windows 10 เองโดยไม่บอกผู้ใช้
https://www.blognone.com/node/72365
ยังไม่รวมโปรแกรมที่คอยสแกนหาเกมส์และโปรแกรมละเมิดลิขสิทธิ์ในเครื่องผู้ใช้เอง
http://www.businessinsider.com.au/why-windows-10-scans-for-pirated-games-2015-8
ข้อสุดท้ายมันก็เฉพาะ apps ใน windows store ไม่ใช่หรอ คนก็ตื่นตูมกันไป
ประโยคสุดท้าย.... อูยยยย
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
อยากได้อะไรก็เอาไปเถอะครับ ถ้ามันจะทำให้วินโดวส์ที่ผมใช้อยู่มันดีขึ้น
รักนะคะคนดีของฉัน
ถ้ามันถูกใส่รหัสก่อนส่งเพื่อไม่ให้ดนแกะกลางทาง ผมก็ไม่ซีเรียสหรอก(ถ้าเอาพวก Error , Debug บลาๆ และอื่นๆที่ไม่ใช่ Profile ของเราน่ะ)
Mekokung's Story บล็อกส่วนตัวที่ย้ายไป Blogger แล้วนะ
log Skype เวลาสลับภาษาแล้ว crash น่าจะเยอะนะครับซ่อมซะที ...... แหม่
+10 แต่ถ้าเปลี่ยนภาษาโดยใช้ปุ่มอื่น ที่ไม่ใช่ปุ่มตัวหนอนจะไม่เป็นนะครับ
Outlook ก็เช่นกัน
^
^
that's just my two cents.
เหรอครับ เดี๋ยวลองดู ตอนนี้เจอปัญหานี้มากมาย
+1 เลิกใช้ตัวหนอนหายแน่ครับ
เป็นตั้งแค่ Skype ยัน Skype for business
อิอิ ชอบจัง ระบบปฎิบัติการของคอมพิงเตอร์