หลายคนอาจจะสงสัยมาตั้งแต่สมัย Windows 8 แล้วว่าทำไมต้องมี Control Panel สองอัน คือแบบที่เป็นแอพ modern ที่ใช้ชื่อว่า Settings และแบบดั้งเดิม ตอนนี้ไมโครซอฟท์ได้บอกใบ้แล้วว่าอาจตัด Control Panel แบบดั้งเดิมทิ้งในอนาคต
เรื่องนี้เริ่มต้นจากการที่มีผู้ใช้คนหนึ่งทวีตไปหา Gabriel Aul ผู้บริหารไมโครซอฟท์เพื่อถามว่าทำไมถึงต้องมีทั้งสองอย่าง และ Brandon LeBlanc หนึ่งในพนักงานอาวุโสในทีม Windows Insider ก็ทวีตตอบไปว่า "ในที่สุดแล้ว Settings จะเข้ามาแทนที่ Control Panel แต่จะมีบางอย่างที่ไม่ถูกย้ายตามไปด้วย [ผม]ไม่ได้ใช้ Control Panel มาหลายเดือนแล้ว"
จากนั้นผู้ใช้คนเดิมก็ถามต่อว่า "เหตุผลในการตัดทิ้งคืออะไร มันจะทำให้ผู้ใช้และคนที่คุ้นเคยกับมันสับสนนะ" LeBlanc ก็ตอบกลับว่า "เราจะสร้างประสบการณ์ที่เหมือนกันในทุกอุปกรณ์ที่รัน Windows"
พอถึงตรงนี้ Gabriel Aul ก็เข้ามาเสริมว่า "การที่มีทั้งสองอย่างนั้นทำให้โค้ดซับซ้อนและกินพื้นที่เก็บข้อมูลรวมถึงกินแรมด้วย การที่มีเพียงอันเดียวนั้น "สะอาด" กว่า" (ต้นฉบับบอกว่า Getting to one is leaner)
อย่างไรก็ตาม แอพ Settings ในปัจจุบันยังมีฟีเจอร์จำกัดมาก และปรับอะไรต่างๆ ได้ไม่ละเอียดเท่า Control Panel ผมว่าคงอีกสักพักใหญ่ๆ กว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงครับ
ที่มา - Windows Central
@billybobjoe2211 @GabeAul Settings will eventually supersede Control Panel. Some stuff not moved over. But haven't had to use CP in months.
— Brandon LeBlanc (@brandonleblanc) October 4, 2015
@billybobjoe2211 @GabeAul we're creating a universal/common experience across all Windows devices for Settings.
— Brandon LeBlanc (@brandonleblanc) October 4, 2015
@billybobjoe2211 @brandonleblanc Having two separate implementations means more code complexity and disk/mem usage. Getting to one is leaner
— Gabriel Aul (@GabeAul) October 4, 2015
Comments
ที่ว่า "บางอย่างที่ไม่ถูกย้ายตามไปด้วย" ผมล่ะกลัวจริงๆ ว่าจะเป็นสิ่งที่ผมต้องใช้
แล้วถ้ามันไม่มาด้วย ผมจะไปใช้อะไรล่ะเนี่ย?
I need healing.
ถ้าเรียกตรงๆผ่าน cmd ได้ ก็คงพอทนมั้งครับ
ถ้าตัดออกจะกระทบ GodMode ไหมนี่
"เราจะสร้างประสบการณ์ที่เหมือนกันในทุกอุปกรณ์ที่รัน Windows" หมายถึงสับสนกับทุกอุปกรณ์รึปล่าว
+1024 โครตลายตา
WP8.1 ทุกวันนี้ที่ผมใช้อยู่ หน้า Setting เป็นอะไรที่ผมเกลียดที่สุด เพราะไม่จัดหมวดหมู่ห่านอะไรให้เลย ยิ่งเป็นภาษาไทยด้วยก็ยิ่ง search ไม่เจอ ต้องมาไล่อ่านตัวอักษรใน Setting ทุกบรรทัด รูปก็ไม่มีประกอบ
ครั้งนึง Windows10 ตอนตั้งค่าภาษาใน Setting นี่อย่างมึน ว่าทำไมกดตัวหนอน(grave) แล้วไม่เปลี่ยนภาษา จนไปเจอใน Control Panel ถึงเห็นว่ามันมี EN layout แทรกอยู่ใน TH language
จากเดิมที่ใช้แค่ไม่กี่คลิกแต่เดี๋ยวนี้อย่างกับเขาวงกตเลย
อยากจะตะโกนดังๆว่า "กากจ้า"
ผม search เอา ฮา
God Mode แล้ว search เลยครับ คลิกเดียวรู้เรื่อง
Nooooooooo
อันนึงมีเยอะแต่รก
กับอีกอันนึงมีน้อยแต่เป็นระเบียบ
เอาจริงๆลองจัดระเบียบแบบ OS X ดูน่าจะดีน่ะ เห็นโล่งๆแต่ตั้งค่าได้เยอะกว่าที่คิดเยอะเลย
อันไหนใช้บ่อยๆ คนทั่วไปใช้แล้วไม่เกิดปัญหา ก็จัดไว้แบบตื้นๆ
อันไหนขั้นสูงหน่อยก็ซ่อนไว้ลึกๆ ไม่ก็ยุบรวมไว้ในปุ่มAdvance ประมาณนี้อ่ะ
ผมกลับคิดว่า "อุปกรณ์ที่ต่างกัน ควรมีวิธีการเข้าถึงที่ต่างกัน ถึงแม้จะเป็น os เดียวกันก็ตาม"
ยกตัวอย่าง Notification Bar ของ Android เหมือนกันบนมือถือกับ Tablet ยังต่างกันเลยทั้งๆ ที่เขาจะทำมาเหมือนกันก็ได้
จะเปลี่ยนเป็น Settings ทั้งหมด ก็ไม่มีปัญหาหรอกนะ แต่ใส่ความสามารถที่แทนที่ของเดิมมาให้ครบๆ เถอะ ทำเป็น Advanced Settings ก็ไม่เป็นไร
ตามวรรคสุดท้ายครับ อยากให้สามารถใช้ฟีเจอร์ได้ครบเหมือนเดิม
ไอ้ที่ดีๆ อยู่แล้ว ขยันเอาออกจริง แล้วยัดเยียดอะไรกากๆ มาให้แทน
Start screen ก็ทีละ
+1
"เราจะสร้างประสบการณ์ที่เหมือนกันในทุกอุปกรณ์ที่รัน Windows" >> ก็แล้วทำไมไม่ทำ Control Panel ให้กับทุกอุปกรณ์ไปเลยล่ะ = A=)?
+1
The Last Wizard Of Century.
ตัด start menu ทิ้งไปทีคนด่ากันทั้งเมือง
ดี เอาเลย ให้ชีวิตวุ่นวายกันม่ะเลิก
ตรูยังมีความสุขกะ 7 ( non SP ) อยู่โดยไม่ได้เสแสร้ง 5 5 5
ชอบไอเดีย เหมือนกันทุกอุปกรณ์นะ แต่ถ้ายังทำได้ไม่สมบูรณ์ดีพอ รีบเปลี่ยนผ่านมาแบบนี้ แทนที่จะตัดหน้าคู่แข่ง จะกลายเป็น ผู้ใช้หมดความอดทน นะเออ
ตอนนี้รู้สึกว่า Setting แทบจะตั้งค่าอะไรไม่ได้เลย ทำให้มันดีเหมือน Control Panel ได้ก่อนเถอะนะ ยังไม่ต้องรีบตัดของเดิมที่ดีอยู่แล้วออกหรอก
I'M... , NOT A CLONE.
ไม่เข้าใจว่าเห็น setting ของ ios android แล้วอยากทำแบบนั้นหรืออย่างไร
Settingของ ios เป็นระเบียบและลึกพอสมควร นับวันยิ่งตั้งค่าได้ละเอียดมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่พี่ท่าน ms ตัดออก.....
ใช้win 10 มาผมยังไม่เคยใช้setting เลยด้วยซ้ำ เข้า ctrlPN ตลอด
The Last Wizard Of Century.
ก็เพราะไอความยุ่งยากต่างๆ นานานี่แหละ ทำให้หลายคิดตัดสินใจที่จะใช้ Windows 7 อย่างมีความสุขต่อไป (รวมถึงผมด้วย เครื่องหลักผมก็ใช้ Win7 ส่วนเครื่องที่ไม่ใช่เครื่องผมเอง หรือเครื่องสำรอง ผมก็จะลง Windows 10 เพื่อดูว่ามีอะไรใหม่ๆ บ้าง และการใช้งานมีอะไรที่พอจะ Customize ได้บ้างไปพลางๆ เพื่อดูว่าพร้อมที่จะไป Windows หรือไม่)
บอกตามตรง ไอ้ Title Bar สีขาวสีเดียวนี่ มันช่างไม่มีชีวิตชีวาเอาซะเหลือเกิน หน้าต่างในภายก็เข้า หัวก็ขาว มันจะขาวไปไหน เทียบกับ Background และ Taskbar ที่มืดๆ มันคือทำให้แสบตายังไงไม่รู้ เปลี่ยนสีก็เปลี่ยนไม่ได้ แล้วยังมีไอ้ขอบ 1 pixel นี่อีก ซึ่งมันสร้างความลำบากต่อผมมาก ซึ่งปกติเวลาที่ผมใช้งานพวก Internal Browser ผมจะไม่กด Maximize แต่ผมจะใช้เป็น Full Size แทน เนื่องจากระบบจะจำขนาดหน้าต่างสุดท้ายก่อนที่เราจะปิดไว้ด้วย (โดยไม่นับจากการกดปุ่ม Maximize) ทำให้การเปิดครั้งถัดไปก็จะได้ขนาดเท่าเดิม (ในทีนี้ก็คือ Full Size) และจากการทำ Full Size นี้เอง การที่ทำให้ขอบหน้าต่างหายไป 7 pixel (เหตุผลที่หายไป 7 pixel อ่านต่อย่อหน้าถัดไป) นั้น เวลาทำ Full Size ก็จะไม่เต็มขอบ (ซาย-ขวา-ล่าง) ทำให้ดูแล้วไม่สวย หรือไม่สมบูรณ์
ส่วนการ Resize หน้าต่าง ผมต้องมาเล็งว่า ขอบเขตที่จะ Resize หน้าต่างอยู่ตรงไหน? เพราะมันไม่ได้อยู่ที่ 1 pixel ตามที่เราเห็นนั้นพอดี แต่มันมีขอบหน้าต่างซึ่งมีความหนาเท่ากับ Windows Vista,7,8 ที่มีขอบหนา 8 pixel นั้นอยู่ เพียงแต่มันทำให้ขอบ 7 pixel นั้น ให้มันเป็น Transparent 100% (หรือแทนที่ด้วยใส่เงาลงไปแทน) เหลือไว้เพียง 1 pixel ซึ่งนั่นเท่ากับว่าทำให้ขอบมันหายไปอย่างหลอกๆ ให้เหลือ 1 Pixel นี่แหละ
แถมการที่มีขอบที่มองไม่เห็นนี้เอง ทำให้การคลิกสลับหน้าต่างที่ซ้อนกันหลายๆ ชั้นนั้นยุ่งยากขึ้น เพราะการที่มองไม่เห็นขอบนั้นเอง ทำให้เราก็เข้าใจว่ามันน่าจะคลิกหน้าต่างด้านหลังได้เลย แต่กลายเป็นว่าเราคลิกไม่ได้ เพราะมันติดขอบที่มองไม่เห็นของหน้าต่างปัจจุบันอยู่ ถ้ามันจะเป็นแบบนี้ สู้ทำให้มันมีขอบหน้าต่างโชว์มาเต็มๆ เลยจะดีกว่า หรือถ้าจะทำให้ขอบหน้าต่างมันบางจริงๆ เอาขนาดของ Windows XP มาใช้ก็ได้ เพราะมันหนาแค่ 3-4 pixel เอง ไม่เหมือนกับ Windows Vista ขึ้นไปที่มีขอบหนาถึง 8 pixel ซึ่งใน Windows Vista, 7 ไม่แปลกใจที่ขอบหนา เพราะกรอบมันมีมิติ แต่ใน Windows 8/8.1 มันไม่มีมิติอะไร เป็นสีแบบ Solid ที่เป็นเสีเดียวตลอดทั้งหน้าต่าง ก็ควรจะทำให้มีขนาดแค่ 3-4 pixel แบบ Windows ก็ได้ แต่ไม่ทำ ไม่รู้ว่าทีมที่ทำ UI ของ Microsoft จะขี้เกียจไปไหนก็ไม่รู้ ยิ่งทำ Windows เวอร์ชั่นสูงขึ้น UI ก็ยิ่งแย่มากขึ้น Animation ก็ไม่ค่อยจะมี ซึ่งต่างจาก Google ที่ทำเป็น Material Design ถึงเขาจะทำแบบ Minimal แต่เขาก็ยังมีการใส่เอฟเฟ็กต์ มี Animation เพิ่มเข้ามาเสริมความ Minimal ให้มันดูมีชีวิตชีวาขึ้น
ถ้ามีคนทำ Theme Patcher แล้วมี Custom Theme ให้ใช้ ผมจะรีบหามาใช้เลย ไม่ปลื้ม Theme ที่มีไตเติ้ลบาร์สีขาวสีเดียวและขอบบางเอามากๆ มันขาดความมีชีวิตชีวาสุดๆ
เสริมเรื่อง title bar ด้วย ทำเป็นสีขาวสีเดียวเหมือนกับพื้นที่ด้านล่าง แล้วเวลาคลิกลากหน้าต่างนั้น ต้องคลิกที่ title bar
พอทำสีเดียวกัน กะบริเวณที่จะคลิก ยากมาก
ทำ UI ของ control Panel ให้สวยๆ ใหม่ๆ ก็พอแล้ว