เนื่องจากช่วงนี้ผมอยู่สหรัฐอเมริกาพอดี พอเห็นข่าวว่ามีคนไปทดสอบกล้องของ Lumia 950 XL ที่ร้าน Microsoft Store เลยคิดว่าไมโครซอฟท์น่าจะเอาสินค้าชุดใหม่ที่เปิดตัวมาโชว์ที่ร้านสาขาอื่นๆ ด้วย เลยแวะไปดูที่ร้านสาขาใกล้ๆ ว่ามีหรือไม่
ตอนแรกคาดว่าคงมีเฉพาะ Lumia 950 เท่านั้น แต่ผลออกมาดีกว่าที่คิดเพราะเจอสินค้าของใหม่ครบชุด รวมถึง Surface Book ที่หลายคนสนใจด้วย เลยลองจับและดูรายละเอียดมาฝากกันครับ
พระเอกของไมโครซอฟท์รอบล่าสุด มีตัวอย่าง engineering sample มาวางโชว์ครับ เห็นทีแรกก็ตกใจว่ามีให้ดูแล้วจริงๆ รึเนี่ย
ไมโครซอฟท์ย้ำหลายครั้งว่าต้องการสร้างโน้ตบุ๊กที่มี Surface DNA ซึ่งเจ้า Surface Book ก็รับยีนของ Surface มาเต็มๆ ตั้งแต่วัสดุภายนอกที่เป็นแมกนีเซียม ผิวสัมผัสแบบเดียวกับ Surface ทุกประการ
เนื่องจากหน่วยประมวลผลต่างๆ อยู่ในซีกเดียวกับจอภาพ (แถมยังสเปกแรงเป็น Intel Core i Skylake) เลยยังต้องมีแผงระบายอากาศ แบบเดียวกับ Surface Pro รุ่นก่อนๆ
คำถามแรกที่หลายคนสงสัย (ผมด้วย) คงเป็นเรื่องการพับหน้าจอที่เหลือช่องว่างไว้พอสมควร อันนี้พบว่าของจริงเวลาพับจอแล้วมันมั่นคงมากครับ พยายามลองกดๆ บีบๆ ตรงจอที่มีช่องว่างข้างใต้ พบว่าไม่มียวบสักนิดเลย แข็งมาก
แต่ประเด็นว่ามันพับแล้วมีช่องว่าง ส่งผลให้ดูแปลกๆ อันนี้ก็จริงครับ ผมลองกดแล้วก็ยังไม่ค่อยสนิทใจเท่าไรว่ามั่นคงจริงๆ (เป็นรูปลักษณ์ภายนอกที่มีผลต่อจิตใจ ฮา)
การถอดจอ ต้องกดปุ่มที่สองตรงมุมขวาบน (ข้างปุ่ม Del) ค้างไว้แป๊บหนึ่ง ประมาณ 1-2 วินาที พอไฟติดและมีเสียงคลิก ก็ถอดจอได้เลย ถ้าตอนนั้นเราเปิดจอทิ้งไว้ บนหน้าจอก็จะมีไอคอนให้ดึงจอภาพออกด้วย
ถอดจอมาถือเป็นแท็บเล็ตแล้วพบว่ามันใหญ่กว่าที่คิดไว้ ใหญ่กว่า Surface Pro อย่างรู้สึกได้ พอได้ลองจับของจริงเลยเข้าใจทันทีว่าทำไมไมโครซอฟท์เรียกมันว่า "คลิปบอร์ด"
ส่วนการเขียนปากกาก็ไม่ค่อยต่างจาก Surface Pro 3 มากนัก คือเรากดตรงท้ายปากกาเพื่อเรียก OneNote แล้วเขียนจอได้ทันที ถ้าอยากลบก็หมุนปากกาเอามาลบได้เลย การลบจะเป็นลบทั้งเส้น ไม่ใช่ลบเฉพาะตำแหน่งที่ท้ายปากกาไปโดนจอ
หน้าตาของ Surface Pen ตัวใหม่ล่าสุด
ตัวซีกจอด้านบนเบากว่าที่คิด ถือแล้วไม่รู้สึกลำบากในแง่น้ำหนัก (แต่ในแง่ขนาดรู้สึกว่ามันใหญ่เทอะทะกว่า Surface Pro) แต่พอประกอบร่างเต็มรูปแบบแล้วก็รู้สึกว่าไม่ได้เบามากแบบเบาหวิวครับ
หน้าตาของคีย์บอร์ดแบบเต็มๆ เผื่อคนอยากดู layout ครับ ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่าพอถอดจอออกแล้ว มันมีเงี่ยงที่ใช้ล็อคหน้าจอโผล่ออกมาแบบนี้ ถ้าพกคีย์บอร์ดแยกไว้ในกระเป๋า มันจะขูดขีดหรือหักงอง่ายหรือเปล่านะครับ (ส่วนใหญ่เราคงเก็บแบบเสียบจอแล้วพับ แต่ก็คงมีบางจังหวะที่แยกถือเฉพาะจอ เก็บคีย์บอร์ดลงกระเป๋า)
ตัวบานพับ (hinge) เวลาถอดจอแล้ว มันจะอยู่ในสภาพหดตัวแบบนี้เลย และแข็งมากคือเอามือไปขยับเองไม่ได้ จะสามารถขยับได้เมื่อเสียบจอแล้วพับเท่านั้น
เวลาเสียบจอเป็นโน้ตบุ๊ก พบว่ามั่นคงมาก สามารถเอามือจับจอแล้วยกขึ้นมาทั้งเครื่องได้สบายๆ แกว่งไปแกว่งมาเบาๆ จอไม่เคลื่อนเลย
ตัวปากกา Surface Pen จะแปะแม่เหล็กอยู่ฝั่งซ้ายมือของจอเท่านั้น แปะด้านขวาไม่ได้
อีกประเด็นที่ผมรู้สึกยังแปลกๆ คือสัดส่วนจอพอเป็น 3:2 (ความละเอียดใช้เลขสวยแบบ 3000:2000 เลย) แล้วรู้สึกว่าสัดส่วนตัวเครื่องค่อนข้างแปลกตาไปจากโน้ตบุ๊กในปัจจุบัน ที่ใช้จอ 16:9 อยู่พอสมควร คือเครื่องจะออกแนวสูงอย่างเห็นได้ชัด
ดูเผินๆ แล้วหน้าตาแทบไม่ต่างจาก Surface Pro 3 เลยครับ
เทียบขนาดระหว่าง Surface Pro 3 (ซ้าย) และ Surface Pro 4 (ขวา) ความแตกต่างที่สำคัญคือ Pro 4 ขอบจอบางกว่า (ตัดปุ่ม Windows ที่ขอบจอออกไป) พื้นที่จอของ Surface Pro 4 จะใหญ่กว่านิดหน่อย และสามารถแปะปากกากับแม่เหล็กขอบจอได้
จุดที่เปลี่ยนไปเยอะคือคีย์บอร์ด Type Cover รุ่นใหม่ เปลี่ยนมาใช้คีย์แบบ chiclet หน้าตาดูดีขึ้นกว่าเดิมมาก ทัชแพดก็ใหญ่ขึ้นกว่าของเดิม
ลองพับจอมาดูด้านหลัง จุดต่างที่สำคัญคือตัวอักษร Surface เปลี่ยนเป็นโลโก้ไมโครซอฟท์แทน และถ้าสังเกตดีๆ กล้องหลังจะใหญ่ขึ้นอีกนิด
เทียบปากกาของ Surface Pro 3 (ซ้าย) กับ Surface Pro 4 (ขวา)
พนักงานของ Microsoft Store บอกว่า Surface Pro 4 จะบางกว่านิดหน่อย ผมลองเอามาวางเทียบความหนากันดู ก็พบว่าบางกว่าจริงแต่ต้องสังเกตดีๆ (Pro 4 คือตัวบน)
เทียบขนาดกับ Surface 3 รุ่นปกติ (ไม่ Pro)
ที่ร้านมี Lumia 950 XL ให้ลองจับด้วย พบว่าขนาดตัวเครื่องไม่ต่างอะไรจาก phablet ในปัจจุบัน แต่เครื่องบางกว่าที่คิดไว้เยอะ
ผิวสัมผัสด้านหลังจะเป็นแบบด้าน จับแล้วหนึบไม่ลื่นมือ ทำวัสดุได้ดีตามมาตรฐาน Lumia
ขอบด้านข้าง มีปุ่มชัตเตอร์แยก ซึ่งหลายคนชอบเพราะทำให้ถ่ายภาพได้มั่นคงกว่าการแตะจอ (น่าเสียดายมือถือสมัยนี้ตัดออกเกือบหมด)
อีกข้างโล้นๆ ไม่มีปุ่มอะไรครับ
ผมลองถ่ายภาพจาก Lumia 950 XL แล้วพบว่าคุณภาพออกมาดีมาก น่าเสียดายว่าถ่ายเสร็จแล้วลองส่งภาพกลับมายังอีเมลตัวเองเพื่อเอาไฟล์ต้นฉบับมาให้ดูกัน แต่อีเมลมาไม่ถึง (สงสัยไมโครซอฟท์เซ็ตบัญชีอีเมลที่ร้านไว้ไม่ครบ) คงต้องมาทดสอบกล้องกันจริงจังตอนที่วางขายจริงในไทยต่อไป
ที่ร้านไม่มี Microsoft Display Dock ให้ลอง เลยทดสอบมาได้เพียงเท่านี้ครับ
Comments
ปากกา surface4 ใช้ร่วมกับ surface3 ได้ไหมครับ ต่างกันไหมครับ ?
ทดสอบแล้วปากกาของ SP3 ใช้กับ SP4 ได้ครับ (ในทางกลับกันคิดว่าได้เช่นกัน) สามารถ pair BT ได้ และปุ่มกดด้านบนเรียก OneNote ได้เหมือนกัน
แต่เอาปากตามาติดข้างจอ แบบ surface4 ไม่ได้ใช่ไหมครับ TT
เอ อันนั้นยังไม่ได้ลองครับ
ไป MS Store สาขาไหนมาเหรอครับ?
จริงๆ มีสิ่ง 2-3 อย่างหนึ่งที่ SP4 ต่างกับ SP3 คือตำแหน่ง port จะ shift ออกไปทางขวาพอสมควร, Type Cover ของ SP4 ช่วงขอบบนจะแคบกว่า ทำให้เอา Type Cover ของ SP3 ไปใช้กับ SP4 แล้ว มันเลยขอบและไม่ค่อยเกาะจอเท่าไร ส่วนน้ำหนักเบาขึ้นเล็กน้อยมาจนแทบแยกไม่ออกเลยถ้าไม่สังเกต
Fashion Show Las Vegas ครับ
ทำดีก็ต้องได้รับคำชมครับ
Surface Book น่าสนใจครับ
การมีแง่งลอยหลังจากถอดหน้าจอออกมาทำให้รู้สึกว่าการออกแบบ laptop ที่ถอดหน้าจอได้แบบนี้ยังไม่สุดเท่าไร อย่างที่ใน review บอกว่าน่ากลัวว่ามันจะหักบิ่นเมื่อเก็บใส่ไว้ในกระเป๋า
ครั้นจะบอกว่าเวลาเก็บใส่กระเป๋าเราก็เก็บแบบประกอบร่างกันอยู่แล้ว ผมก็อดนึกไม่ได้ว่าแล้วเวลาที่เราแยกร่างเอาเฉพาะ clipboard มาใช้ ณ ช่วงเวลานั้นตัว keyboard จะอยู่ตรงไหน วางอยู่บนโต๊ะตรงหน้าเรา หรือว่าวางอยู่บนโต๊ะแล้วเราเดินไปไหนมาไหนกับ clipboard ไม่ว่าจะเป็นลักษณะไหนผมก็ยังรู้สึกขัด ๆ พิกล ก็เลยเหลือรูปแบบสุดท้ายคือ keyboard อยู่ในกระเป๋าและเราถือ clipboard มาใช้งาน ซึ่งก็กลับไปยังความกังวลเรื่องเดิมดังที่ได้กล่าวไว้
อีกหนึ่งจุดที่ขัดใจคือเมื่อปิดหน้าจอลงบน keyboard แล้วยังเหลือช่องว่างมากขนาดนั้น มากพอที่จะปลายนิ้วก้อยแหย่เข้าไปได้ในระดับหนึ่ง ให้ความรู้สึกว่าสิ่งสกปรกอันไม่พึงประสงค์สามารถหลุดเข้าไปได้ แลดูไม่ค่อย professional เท่าไร
ที่สงสัยอีกอย่างคือการถอดหน้าจอ (clipboard) ได้การกดปุ่มส่งสัญญาณบน keyboard สามารถใช้กับ OS อื่นเช่น Linux ได้หรือไม่ หลายคนอาจจะคิดว่ามี Windows 10 แล้วจะใช้ Linux ทำไม แต่ผมว่าบางคนเขาก็อาจจะจำเป็นต้องใช้งาน Linux นะ และการลงได้หลาย OS เป็นจุดแข็งของ hardware ฝั่ง Windows เสมอมา ถ้ารอบนี้ลงไม่ได้ก็แปลว่าจุดแข็งหายไปหนึ่งอย่าง
That is the way things are.
จริงๆอยากตอบยาวๆ
แต่ตอบสั้นๆว่า มันไม่ได้เป็นสินค้าสำหรับทุกคน
สิ่งที่คุณกังวล มันมาจากที่คุณไม่ใช่ Target Customer ของสินค้าตัวนี้ครับ
คุณลองจินตาการก่อนนะครับว่า คนจ่ายเงินซื้อโน๊ตบุคราคาเกือบเจ็ดหมื่นคือใคร อายุประมาณไหน ทำอาชีพอะไร
แล้วมองจากหมวกของคนคนนั้น แล้วลองคิดดูว่า สิ่งที่คุณสงสัยหรือกังวลนั้น คนคนนั้นเค้าสนใจหรือไม่
ก็จะเข้าใจเรื่อง position ของสินค้าตัวนี้มากขึ้นครับ
+10 ชอบเรื่องการใช้หมวก
ສະບາຍດີ :)
ก็ผมนี่ไงครับคนที่กำลังเล็งจะซื้อ Macbook Pro Retina เครื่องละเกือบ 70,000 บาท
ไม่ว่าจะมีเงินมากน้อยแค่ไหน ความสนใจของคนเรามันก็ไม่เหมือนกันครับ ผมวิจารณ์ด้านคุณภาพและชี้ช่องโหว่ทางด้านการออกแบบให้ดู
อีกอย่างการที่มีช่องโหว่ด้านการออกแบบหรือไม่มี มันเป็นคนละเรื่องกันกับเรื่องที่ว่า target group จะรับได้หรือไม่ได้นะครับ แยกออกจากกันด้วย เหตุผลที่คุณยกมามันไม่ได้ค้านข้อสังเกตของผมเลยครับ มันข้ามไปอีกเรื่อง
That is the way things are.
ผมถอดแล้วเอาจอไปนอนดูหนังบนเตียงนอนครับ เดิมใช้กับ ipad อยู่เพราะ macbook มี keyboard มันเกะกะ
ผมซื้อ Macbook รวมนู่นนี่แล้วตกแสนนึงยังอยากซื้อตัวนี้เลยติดอย่างเดียวคือเสียดายของเดิมมันยังดีอยู่ คือตัวนี้มันตรงประเด็นมาก
- อยากได้โปรแกรมดูหนังและอื่นๆของ window ที่ ipad ให้ไม่ได้
- ไม่อยากได้ keyboard ตอนนอนดูหนังแต่ตอนออกไปเที่ยวกับแฟนก็อยากพกไปเผื่อทำงานบ้างเล็กน้อยเผื่อมีงานเร่งด่วน(แต่เวลาเดินปกติผมไม่หยิบออกมาแน่นอนครับ iphone ยังแทบไม่หยิบ)
- และถ้าผมทำอะไรเต็มจริงจังมี desktop แรงๆหรือถ้าพกไปทำงานข้างนอกหนักๆผมพก macbook เดิมได้ครับ(แต่เหมือน spec ตัวนี้มันจะแทนได้เลยนะยกเว้นต้องใช้ xcode)
ถ้าเอามุมมองผมคนที่คิดว่าน่าจะเป็นกลุ่มเป้าหมาย เค้าก็ค่อนข้างหยิบเป็นเวลาครับไม่ใช่แบกเป้ไปเดินเล่น ipad ไป กระเป๋าส่วนมากก็ไม่ค่อยเห็นแบกเป้บุคคลิกมันไม่ดี เค้ามักจะถือกระเป๋าหิ้วสี่เหลี่ยมครับ ถ้าเค้าจะเอามาถือก็คือเอาออกมาเลยแบบ keyboard คงเก็บมิดชิดในกระเป๋านั่นแหละ ถ้าเอามา dev งานผมใช้ desktop เป็นหลักครับ 5 หมื่นจอใหญ่กว่าแรงกว่าโขเลย compile บ่อยๆทั้งวันเวลาทำงานต่างกันเป็นชั่วโมง ส่วนถ้าไม่ใช่คนกลุ่มนี้น่าเล่น surface pro ครับเพราะตัวนี้มันหนักเอาจริงๆไม่มีรถก็ไม่น่าพก อายุ 26 แบกโนตบุคตลอดตั้งแต่เรียนตอนนี้เริ่มรู้สึกปัญหาร่างกายบ้างแล้วครับ
มันอาจมีข้อจำกัด ทำไม่ทัน อาจทำให้ราคาโดดไปมากจากช่วงที่เหมาะสมกับเป้าหมาย เค้าอาจวิจัยตลาดมาว่าต้อง design แบบนี้สำหรับคนกลุ่มนี้จะเหมาะ หรืออะไรก็แล้วแต่
เร่องตัวยึดจอ ก็คงเป็นแค่ส่วนหยิบย่อยที่ไม่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อหรือไม่ซื้อหรอกครับ
The Dream hacker..
หมุนมันกลับ เสียบมันกับฐาน แล้วจับแบบหนังสือสิครับ
+1 ผมลืมไปเลยว่ามันทำแบบนี้ได้ ขอบคุณครับ
That is the way things are.
ผมมองมันเป็น Notebook ที่ถอดจอได้ หลักๆใช้งานยังไงก็ต่อ keyboard ดังนั้นการใช้งานในส่วนนี้จะค้องดีที่สุด แข็งแรง แน่นหนา
ส่วนการถอดมาเป็น clipboard มันคือส่วนเสริทที่ทำให้มันใช้ได้ แต่ไม่ได้เจาะจงให้ใช้ประจำ
ซื้อมาผมก็คงใช้ในงาานเป็นโน็ตบุ๊คมากกว่า วางนั้งกับโต๊ะก่อนเป็นหลัก แล้พจะเอางานไปให้ใครดู ไปพรีเซนต์ค่อยถอดจอ ส่วน keyboard ก็วางบนโต๊ะ
แต่เรื่องช่องวางระหว่างจอกับ keyboard นี้เห็นด้วยเลยครับ ดูแล้วแปลกๆ keyboard จะสกปรกแค่ไหน ทุกวันนี้ทำความสะอาด Notebook ยังอยากแกะแผงคีย์บอร์ดเปลี่ยนไปเลยด้วย - -
เรื่องจุดแข็งของ Hardware ฝั่ง Windows นี่ ยังเป็นแบบเดิมไม่เคยเปลี่ยนครับซึ่งมันไม่เคยเกิดจาก Hardware ของ Microsoft เลยตั้งแต่ไหนแต่ไรครับ (เพราะ Microsoft เพิ่งจะมาทำอุปกรณ์ที่ลง OS ได้ไม่กี่ปีเอง)
Lumia Surface 1 2 ก็ไม่สามารถจะลง OS อื่นได้
แต่ Partner ของ Microsoft ยังคงเหมือนเดิมครับ เค้าทำอุปกรณ์มากลาง ๆ ไม่ได้พึ่ง OS มากเกินไป
ส่วน ปุ่มกดผมเข้าใจว่า ไม่ต้องมี OS ครับเพราะไม่ต้องเปิดเครื่องมันก็ควรจะคลายปุ่มได้ เพียงแต่ OS มันสามารถอ่านค่าจาก Sensor ได้ก็แค่นั้นครับทำให้การแสดงผลช่วยได้
ต่อมาเรื่องการรองรับผมมองว่า ที่มันออกมากลางให้ใช้ได้แค่ Windows อย่างเดียวคือจุดแข็งครับ ถ้าออกแบบมากลาง ๆ มันจะทำให้ Hardware นั้นไปไม่สุด ในเมื่อ OS อื่นมันพัฒนาช้ากว่า มันก็จะทำให้เป็นตัวฉุดความสามารถของ Hardware ไป
สำหรับช่องว่าง โน้ตบุ๊คทุกวันนี้ ก็ไม่มีเครื่องไหนปิดสนิทครับ มีช่องว่างให้ฝุ่นเข้าได้เสมอ สิ่งสำคัญคือการทำความสะอาดครับ
และจะว่าไปแล้วด้วยความที่มันสามารถถอดจอแยกออกมาได้ จนทำให้ต้องเก็บคีย์บอร์ดไว้ในกระเป่าหรือที่อื่นนาน ๆ ผมว่าช่องว่างระหว่างปิดจอ ไม่ใช่ปัญหาของการมีฝุ่นเกาะอีกต่อไปล่ะครับ
ผมล่ะนึกว่าการลงได้หลายOSมันเป็นจุดเด่นของMacซ่ะอีก
เพราะHardwareเจ้าอื่นมันลงOS X ไม่ได้(ถึงได้ก็ยาก) ในขณะที่MacลงOSอื่นนอกจากOS X ได้อย่างชิลๆ
เห็น Surface Book ทีแรก บานพับไม่สวยเลยครับ แต่ยังคิดว่ารอดูว่าทำไมมันถึงต้องเป็นแบบนั้น อาจจะมีดี
ไปๆ มาๆ พอมาดูชัดๆ ในข่าวนี้ ทำไมมันสวยแบบนี้น้อออออ สงสัยเริ่มชินตา 555 สวยจริงๆ ครับ วัสดุดี ความหนาเท่าๆ กันตลอดทาง ค่อยๆ โค้งวกกลับมาพับ โอว
ผมว่าคนไม่ชินกับมันเฉยๆ
The Dream hacker..
โทรศัพท์รูปทรงสวยดี น่าสน
ส่ง bluetooth ครับตอนไปงานมือถือผมทำบ่อยถ่ายเทียบกับ1020 pair แล้วส่งเอา
แต่พนักงานชอบบอกว่าเอาไปเทียบกับโนเกียไม่ได้หรอก ผมก็งงทำไมจะเทียบไม่ได้ก็ตูจะใช้เทียบเพื่ออ้างอิงอ๊ะ-*-
The Last Wizard Of Century.
ส่วนตัวไม่ค่อยห่วงว่าช่องว่างตอนพับจอของ Surface Book จะไม่มั่นคง (คิดว่าคน design ต้องคิดเผื่อเรื่องนี้แล้วแน่นอน) แต่ที่ห่วง คือ ช่องว่างตรงนี้จะทำให้ฝุ่นละอองเข้าไปติดหน้าจอกะแท่น keyboard ได้ง่าย (ถ้าเทียบกะ laptop ทั่วไปที่ค่อนข้างปิดสนิทจะสามารถกันฝุ่นละอองได้ในระดับนึง)
ถ้าซื้อคงต้องหาผ้ามาปิดทับหรือไม่ใช้เสร็จก็ต้องเก็บไว้ในกระเป๋าเพื่อกันฝุ่นอีกที
ขอบคุณสำหรับ hands on review ครับ
ผมห่วงฝุ่นที่จะเข้าไปในครีบระบายความร้อนส่วน tablet ตอนไม่ใช้มากกว่า keyboard มันยังพอปัด ๆ ได้
ผมกลับชอบแบบนี้นะ nb ผมเก็บเข้ากระเป๋าแล้วมันชอบมีลอย kb ติดมา
ลอย > รอย
The Last Wizard Of Century.
สนิทไปนี่ ไม่มีฝุ่นครับ แต่คราบคีย์บอร์ดเลย บางทีไม่ใช่แค่คราบ เป็นรอยประทับตลอดไปเลย
อันนี้ก็จริงครับ .. ถ้าดีไซน์มาไม่ดี แล้วเกิดตอนปิดแล้วจอกับ keyboard สนิทมากเกินไปแล้วมีของหนักไปกดทับจอ รอยบน keyboard ติดหน้าจอได้ง่ายๆ จำได้ว่าเคยเจอสมัยใช้ laptop รุ่นเก่าๆ แต่ปัจจุบันปัญหานี้เท่าที่ทราบไม่ค่อยเจอแล้วครับ (แต่คงแล้วแต่ design ของโมเดลนั้นกะคุณภาพการประกอบด้วย)
ตกลง GPU Surface Book คือรุ่นอะไรครับ?
“The new GPU is a Maxwell based GPU with GDDR5 memory,” an Nvidia spokesperson said. “It was designed to deliver the best performance in ultra-thin form factors such as the Surface Book keyboard dock. Given its unique implementation and design in the keyboard module, it cannot be compared to a traditional 900M series GPU.”
The company directed me to Nvidia’s blog, which confirms that it’s an “8M” and has a 1GB GDDR5 frame buffer. So for that one chip, you’ll have to wait a bit more to find out just what kind of performance the Nvidia GPU nets you.
ที่มา : PC World
เรื่องบานพับผมไม่รู้สึกมีปัญหาเลย
ตั้งแต่วันแรกที่เห็น รู้สึกว่ามันมั่นคงดี ส่วนช่องว่างก็ช่างมัน (แต่ไม่มีจะดีกว่า)
คิดว่าที่ต้องทำแบบนี้
เพราะจอมันหนัก ต่างจากพวก CoreM เบาๆ ค่ายอื่น แล้วเป็น 3:2 ด้วย
ก็ยังชอบมากอยู่ดี
แต่ตอนนี้ชอบ XPS 15 ตัวใหม่มากกว่า (เริ่มไม่อยากถอดจอ) XD
+1 คิดเหมือนกันครับ
ช่องว่างแบบนี้หล่ะครับที่ผมใฝ่ฝันเลย หน้าจอจะได้ไม่มีรอยคีย์บอร์ดสักที เชื่อไหมว่า เวลานำน้ำยาทำความสะอาดหน้าจอ ฉีดลงไปแล้วเช็ดจอส่วนมากจะปรากฏคราบเป็นรอยสี่เหลี่ยมเต็มจอเลยครับ พอเช็ดแห้งแล้วจะมองไม่เห็น แต่พอฉีดน้ำก็มาอีก เข้าใจว่าคราบมันจากรอยนิ้วมือมันติดฝังในผิวกระจกของจอได้ในระดับที่ตาเรามองไม่เห็น
อันนี้ปัจจุบันเครื่องที่ผมใช้อยู่ก็เป็นนะ
แต่ผมติดฟิล์มเอาอะครับ ถ้าลายมากๆ ก็เปลี่ยนฟิล์มได้
Macbook Pro Retina Display ผมกลางหน้าจอเป็นรอยมุมของปุ่มคีบอร์ดเช็คไม่ออก เข้าใจว่าโค้ทมันลอกเรียบร้อยแล้ว
https://www.blognone.com/node/66906
ตัว Air ผมก็เป็นด้วยครับ เช็ดเท่าไรก็เช็ดไม่ออกสักที พอเห็นข่าวรุ่นใหญ่จอลอกๆ สรุปจอลอกแน่ๆ ไม่ใช่คาบคีย์บอร์ดธรรมดาๆ ละฮ่าๆ
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าทำมันหล่น และแยกออกจากัน
แหม๋...ต้องมีคนทดสอบ
เท่าที่เคยอ่านว่าตัวล๊อกจะไม่คลายตัวถ้าไม่กดปุ่ม เพราะใช้โลหะที่จะคือรูปถ้าได้รับพลังงาน ถ้าไม่กดปุ่มคงหลุดยากมาก
The Dream hacker..
Will it blend?
สปริงเป็น Nitinol (Nickel Titanium) ครับ จะไม่คืนรูปหากไม่ได้รับกระแสไฟ
อ่านพรีวิว Surface Book แล้วทำไมมันรู้สึกไม่พอก็ไม่รู้อารมณ์ประมาณ "พูดอีกๆ" ฮาๆ ทั้งทีนั้นก็ครบทุกสิ่งที่ควรพูดแล้วนะนั้น
อยากเห็นฟีเจอร์ Continuum for phones
เรื่องแง่ง ที่คีย์บอร์ดนี่ ผมเชื่อว่าถ้ามันเป็นปัญหาแล้วคนส่วนใหญ่ใช้งานในลักษณะ คีย์บอร์ดถอดแยกมมากกว่าจะติดกับเครื่องจริง ๆ นี่อาจจะหันไปซื้อ Surface Pro 4 มากกว่านะครับ เพราะแสดงว่าไม่ค่อยได้ใช้คีย์บอร์ดกับการ์ดจอแยกเท่าไหร่
แต่นั่นแหละยังไม่รู้ว่าผลออกมาคนจะใช้แบบไหนกันแน่ ขนาด Surface 1 ยังออกแบบมาผิดที่ผิดทางเลยกว่าจะเข้าเป้าก็ Surface 3 เข้าไปแล้ว
และถ้ามันเป็นปัญหามาก ๆ จริง ๆ และคนใช้เยอะจริง ๆ ผมเชื่อว่ามันจะมีอุปกรณ์เสริมเพื่อมาเสียบคีย์บอร์ดปิดเจ้าแง่งตัวนี้กันไม่ให้มันหักได้แน่นอนครับ
ส่วนตัวคิดว่ามันไม่หักง่าย ๆ หรอกครับ เพราะมันต้องรองรับแรงงัดจากจอและคีย์บอร์ดอยู่แล้ว (เป็นจุดรับน้ำหนักเดียวที่ทำให้ข้อต่อเปลี่ยนรูปได้)
ส่วนตัวสนใจ type cover รุ่นใหม่ที่สุด จะเอามาใช้กับ surface pro 3 เอาสีอะไรดีนะ >.<
ผมมี Vaio Z Canvas ไว้ในใจแล้วครับ 1 แสน มีทอน
Surface pro 4 นี่ติดปากกาได้ทุกด้านหรือเปล่าครับ
"ตัวปากกา Surface Pen จะแปะแม่เหล็กอยู่ฝั่งซ้ายมือของจอเท่านั้น แปะด้านขวาไม่ได้"
Surface Pro ได้ครับ ที่ได้แค่ด้านซ้ายเป็น Surface book
ສະບາຍດີ :)
Surface Pro 4 ติดได้ทั้งซ้ายและขวาครับ แต่ด้านบนไม่แน่ใจ
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
โต๊ะสวยดี
ผมขอแจมบ้างแล้วกัน ผมเห็นส่วนใหญ่ในนี้ทำงานสาย Tech เป็นส่วนใหญ่ ลองมาฟัง คนทำงานสายอื่นกันบ้างไหมครับ เพราะคนสายอื่นก็ใช้ PC เหมือนกัน
ผมเองทำงานสายการเงินการธนาคารครับ Finance ล้วนๆไม่ได้เกี่ยวกับ Tech เลยตอนผมจะเลือก Laptop สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ มันต้อง เล็ก บาง เบา ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ครับ เพราะพวกผมบางทีต้องใช้มันกางนอกสถานที่ ต้องหิ้วไปหิ้วมา ไหนจะสมุดจดงาน ไหนจะ laptop อีก การสะพายเป้แบก PC ไปหาลูกค้า มันดูไม่โปร ครับ เพราะสายอาชีพผม ความดูโปร เป็นสิ่งสำคัญมาก
Surface pro ตอนมันออกมา มันตอบโจทย์พวกผมทุกอย่างมันเล็กมาก บางมาก บางกว่าสมุดจดที่พวกเราถือ มันมีปากกา กดปุ๊ป เขียนได้ปัป มันรัน Office แบบตัวเต็มๆ กับแบตอีก 10 ชั่วโมง ซึ่งทั้งหมดมันดีงามมาก
สายผมเน้น performance ไหมขอบอกว่า เน้นครับ เพราะบางทีการคำนวน cash flow การเขียนงาน ทุกอย่างต้องนิ่งจริงๆ ความเชื่อถือได้ต้องสูง เครื่องนี้จึงตอบโจทย์ทุกอย่าง
เอาความเป็นจริงนะครับ เครื่องตระกูลนี้ ทำมาเพื่อคนทำงานที่ ต้องการความคล่องตัวสูง และแอบแนบประสิทธิภาพแรงเบาๆ แรงสำหรับงานส่วนใหญ่สำหรับสาย Business ครับ
+1 ครับ สาระดี
+1