บริษัทซอฟต์แวร์ในสหรัฐอเมริกาชื่อ Flexera Software ได้สำรวจเวอร์ชันของซอฟต์แวร์ต่างๆ ที่ติดตั้งอยู่ในคอมพิวเตอร์ที่รันวินโดวส์ของผู้ใช้ชาวอเมริกันราว 8 ล้านเครื่องตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว และพบว่าซอฟต์แวร์ของแอปเปิลยังไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุดเป็นจำนวนมาก
มีซอฟต์แวร์ของแอปเปิลอยู่สองตัวที่เป็นที่นิยมคือ QuickTime และ iTunes โดยผลการสำรวจเปิดเผยว่า 61% ของคอมพิวเตอร์ที่มี QuickTime ยังติดตั้งซอฟต์แวร์เวอร์ชันเก่าอยู่ และ 47% ของคอมพิวเตอร์ที่มี iTunes ก็เป็นเวอร์ชันเก่าเช่นกัน
ซอฟต์แวร์อื่นๆ อีกสามอันดับต่อมาที่สำรวจพบว่ายังเป็นเวอร์ชันเก่าอยู่คือ Adobe Reader X 10.x, Oracle Java JRE 1.8.x/8.x และ Adobe Reader XI 11.x
การใช้ซอฟต์แวร์ที่ไม่ได้อัพเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยหลายอย่าง เช่นอาจมีแฮกเกอร์พบช่องโหว่แล้วใช้มันมาแฮกขโมยข้อมูลส่วนตัวในเครื่องเราไปได้ ผู้ใช้ควรอัพเดตซอฟต์แวร์ต่างๆ ในเครื่องอย่างสม่ำเสมอครับ
ที่มา - Computerworld
Comments
ไม่แปลกใจเท่าไหร่ จริง ๆ ไม่เฉพาะ software ของ apple ด้วยซ้ำ โปรแกรมไหนที่ไม่ได้มีอัพเดทผ่าน windows update ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยตามอัพอยู่แล้ว จะอัพเดททีต้องดาวโหลดมาลงใหม่ ลำบากมาก บางคน windows update ตั้งแต่ลง windows มายังไม่เคยอัพเดทซักครั้งเลย
ไม่แปลกใจเท่าไรครับ ของ Apple บน Windows นี่ update ทีนานเหลือเกิน ไม่รู้ทำไม Download ช้ามาก ตัว QT นี่ผมไม่ลงเลย ส่วน iTunes ต้อง update เพราะไว้ใช้เสีย iPhone (แต่เอาเข้าจริง เปิด Sync กับเครื่อง Mac ที่บ้าน)
สมัยผมใช้ Windows ก็แบบนี้เลย Safari ลงไว้งั้นเองเอาเข้าจริงใช้ Chrome ครับ ส่วน iTunes นี่มาลงตอนจะใช้ iPod ก็ไว้จัดการเพลงเฉยๆ ไม่ต้องอัพมันก็ใช้ได้ของมัน เป็นเหตุผลว่าไม่จำเป็นต้องอัพเลย
พอข้ามฟากมาใช้ Mac นี่แหละ โปรแกรมต่างๆ มันจะเตือนให้อัพเดตตลอด ยิ่งถ้าใช้ iPhone อยู่ด้วย เวลาเขาออกอัพเดต iOS ใหม่ๆ เหมือนโดนบังคับให้อัพ iTunes ไปกลายๆ
หลายๆ โปรแกรมมันอัพเดต ก็แค่โหลดไฟลืแพทช์มาเพิ่ม ไม่หนักมาก แต่บางโปรแกรมอย่าง itune นี่ยังกับโหลดมาลงใหม่ เด้งให้อัพทีไรปิดทิ้งตลอด
The Dream hacker..
เป็นผมก็ไม่อัพนะ เพราะไม่ได้ใช้เลย ที่ติดไว้เพื่อให้เข้าใช้บางเว็บได้ตามที่ร้องขอเท่านั้น
1 โปรแกรม 1 ออโต้อัพเดทเช็คเกอร์
ฮาาา
itunes background task หนักเครื่องมาก ลงเสร็จใช้เสร็จลบเลย ที่เหลือผ่าน one drive เอา
อย่าว่าแต่อัพเดทเลยครับ เปิดใช้บ้างรึเปล่าก็ไม่รู้
อยากให้ auto อัพเดทเป็น default ไปเลยทุกโปรแกรม
อัพเดทเบื้องหลังไปซะ โหลดเองอัพเองไปเลย
ขี้เกียจโหลดเองทุกโปรแกรมอ่ะ
จริงๆจัดรวบรวมให้เป็น store แล้วอัพเดทที่เดียวจะดีมากเลยนะ คนจะได้อัพเดทกันหมด - -"
แต่ละเจ้ารัน update ของใครของมันหมด กินทรัพยากรเอาเรื่องอยู่นะผมว่า
Windows Store มันเสียเงินน่ะสิครับ
นั่นสิครับ หลายๆ platform ฟรี
แต่พอมาอยู่ใน Windows Store เสียตังค์ซะงั้น....
platform ไหนๆ ก็เสียเงินนะเท่าที่ทราบ
Apple Store 99$ จ่ายรายปี
Google Play Store 25$ ตลอดชีพ
Windows Store 19$ ตลอดชีพ
ສະບາຍດີ :)
iTunes นี่ใช้เวลาอัพเดทนานไปจริง ๆ ครับ เหมือนมันจะต้อง uninstall เวอร์ชั่นเดิมไปก่อน แล้วค่อยติดตั้งเวอร์ชั่นใหม่ลงไป ถ้าเครื่องเร็ว ๆ ก็ไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าเครื่องช้านี่รอพักใหญ่เลยกว่าจะเสร็จ
ผมว่าผู้ใช้ Windows ส่วนใหญ่ ไม่อัพเดท Software อะไรเลยมากกว่า ไม่ใช่เฉพาะของ Apple แต่ทั้งเครื่องเลย
อันนี้จริง ครั้งเดียวที่คนใช้ Windows ใกล้ตัวผมจะอัพเดตคือ เมื่อเปลี่ยนเครื่องใหม่ ใช้ Windows รุ่นใหม่ ก็เลยต้องใช้ S/W รุ่นใหม่ๆ ตามไปด้วย
notepad++ filezilla นี่อัพประจำ
iTunes
อัพไม่ได้ครับ ยังเวอร์ชัน 11 อยู่
สาเหตุ คุณก็รู้ว่าทำไม 555
อันนี้เรียกไม่อัพนะ 555
^
^
that's just my two cents.
ผมก็ขี้เกียจอัพเดท CCleaner เคยขยันอัพเดทมาเป็นปีๆ สุดท้ายคือก็รู้ว่าจริงๆมันเหมือนๆเดิม เลยขี้เกียจ
ขี้เกียจอัพเดทวินโดว์ 7 แล้วด้วย ช่วงหลังๆมาพอจะเริ่มทำงาน/เล่นเกม/ดูหนัง แล้วเจอบังคับรีสตาร์ทเครื่องนี่มีเซ็งครับ
และที่ได้เรียนรู้มาอีกข้อก็คือ อัพเดทไม่ได้แปลว่าได้ของดีเสมอไป ตัวอย่างเช่น uTorrent หรือ Daemon tool ฯลฯ ที่อัพเดทปุ๊ปเจอ bloat หรือโฆษณาปั๊บ
itune บนวินโดวส์ ฟอนท์ก็ดูเบลอๆ นะ ไม่คมชัด (ใช้ windows 10 จอความละเอียด 2160*1440 ปรับ 150%)
เอาไว้ใช้ซื้อเพลง กับต่อไอแพดมินิอย่างเดียว
พอเปิดขึ้นมาก็บอกว่ามีอัพเดต มีทางเลือกคือ อัพเดต|ยกเลิก ก็กดยกเลิกทุกครั้งเพราะกำลังจะใช้อยู่เดี๋ยวนั้นขี้เกียจรอ