ในขณะที่คอนเทนต์ประเภทวิดีโอเป็นคอนเทนต์ที่ Facebook ค่อนข้างให้ความสนใจจนแบรนด์ใหญ่ๆ ก็หันมาทำโฆษณาประเภทวิดีโอกันมากขึ้นนั้น ก็ยังมีข้อจำกัดในกรณีที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วต่ำอาจจะไม่สนใจกดดูวิดีโอเพราะเสียเวลามากเกินไป Facebook จึงได้ทำโฆษณาประเภท Slideshow ขึ้น โดยจะสามารถใส่รูปได้ 3-7 รูป และแปลงเป็นความยาวของสไลด์โชว์ได้ 5-15 วินาที
Facebook กล่าวว่าไฟล์สไลด์โชว์ที่แปลงออกมานั้นจะมีขนาดเล็กกว่าวิดีโอที่มีความยาวเท่ากันถึง 5 เท่า ดังนั้นโฆษณาประเภทนี้อาจจะเข้าถึงกลุ่มคนที่ใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วต่ำได้ดีกว่าเดิม
ตอนนี้มีแบรนด์ที่นำร่องโฆษณาประเภทนี้ไปแล้วได้แก่ Coca-Cola ในแอฟริกา
ที่มา - Facebook Business
Comments
อืมอ่านข่าวแล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่า พวก โฆษณา ต่างๆบนอินเตอร์เน็ตมือถือ
แล้วถ้ามันเป็นสิ่งที่เราไม่ต้องการ ดูแต่ ทางเว๊ปไซต์บังคับให้เราดูเนี่ย
ถามว่าค่าใช้จ่ายที่ เราต้องจ่ายเพื่อดูสิ่งที่เราไม่อยากดู จะเป็นไปได้ไหมถ้า เจ้าของเวปไซต์หรือ เจ้าของโฆษณา จะเป็นผู้รับผิดชอบค่า Data ที่เรา ดู
ผมหมายถึง มัน แฟร์ ไหมนะ
งั้นคงต้องเสียเงินค่าเข้าชมเว็บเพื่อไม่ให้มีโฆษณาขึ้น
คืออย่างคลิป วิดีโอ ถ้าในเน็ตบ้านมันก็ไม่เป็นไรนะ เสียเวลานิดหน่อย 5วิ 30 วิ ก็ได้นะ แต่ถ้าเน็ตมือถือ บางทีเราก็ไม่เสีย data ที่เราไม่อยากได้เหมือนกันครับ
ส่วนตัวรอ youtube red เหมือนกันครับ
คืออยากดูเว็บเขาแบบไม่เสียอะไรเลย ไม่ให้เขาได้อะไรเลย อย่างนั้นเหรอครับ?
คือเรื่องดูโฆษณาไม่ได้ห้ามอะไรนะครับดูได้แต่สงสัยว่าทำไม ภาระของค่าใช้จ่าย Data เพื่อดูโฆษณา ถึงต้องเป็น คนดูอะครับ
เหมือนกับ ดู คลิปหนึ่ง ใช้ ไป 100 mb แต่ว่าคลิปนั้น เป็น ads 5mb เหมือนจะน้อย แต่ว่าความจริงเราควรจะเสียค่าดาต้า 5 mb จริงเหรอครับ
เพราะคนดูเป็นฝ่ายเข้าไปใช้บริการของของเขาจึงต้องเสียอะไรบางอย่างแลกเปลี่ยนมาครับ เพียงแต่สิ่งที่เราจ่ายไม่ใช่เงินโดยตรงเท่านั้นเอง
ค่าดาต้า 5 mb เป็นส่วนนึงของค่าเข้าชมครับ ถ้าไม่เสีย 5 mb นั้นก็คงต้องจ่ายเป็นเงินแทน ซึ่งถ้าคิดค่าเข้าชมเป็นรายครั้งทุกหน้า ทุกหน้าแทน จะยอมจ่ายและเข้าดูเยอะเหมือนเดิมหรือเปล่าครับ?
แบบนั้นผมคงไม่ยอมหรอกครับ
แต่ผมคงพอใจกับค่าบริการรายเดือนมากกว่า
คือการที่เอาโฆษณามาบังคับให้เราดูนั้นเหมือนว่าเป็นการลงทุนโดยไม่เสียอะไรเลย
แถมผลักภาระให้เราจ่ายค่าเน็ตมือถืออีกอีก ถ้าเป็นเน็ตบ้านที่เป็นบริการเหมารายเดือนไปแล้วว่าไปอีกอย่าง
พอลองนึกถึงคนที่มีdata จำกัดแล้วต้องมาเสีย data กับค่าโฆษณาที่เราไม่ต้องการคง อึดอัดใจแน่ๆ
ก็จริงว่าคุณว่านะ โฆษณาทีวีเราเสียแค่เวลา แต่โฆษณาในเน็ตนี่นอกจากเสียเวลาแล้วยังเสียค่าดาต้าด้วย ถึงแม้จะเล็กน้อยแต่เราสามารถสร้างโมเดลจัดการเรื่องนี้ให้ลงตัวสวยๆ กว่านี้มั้ยนะ?